“ค่ะ” แก้วกานดารับคำสั้นๆ มือบางเผลอยกขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง
“นี่คือสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆสำหรับเธอ ขอบใจมากที่เธอเข้าใจ อ้อ...ไม่ต้องห่วงเรื่องยายลินนะ ฉันจะอธิบายให้ลินเข้าใจเองว่าเธอกับตารบเลิกกันด้วยดี”
แก้วกานดาจิกฝ่ามือตัวเองไว้จนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวไม่ได้มองเช็คที่ถูกยื่นมาตรงหน้าด้วยซ้ำ
“ขอบพระคุณที่คุณแม่ให้ความกรุณากับฝ้ายนะคะ แต่ฝ้ายคงไม่ขอรับไว้ สวัสดีค่ะ” แก้วกานดายกมือไหว้ลาแล้วลุกจากโซฟานุ่ม
“อ้อ...ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่บอกเรื่องนี้กับตารบนะ ถ้าเธอรักเขาจริง เธอคงอยากให้เขาได้อยู่กับคนที่ดีที่เหมาะสมกับเขา ไม่ใช่คนที่ธุรกิจเล็กๆของครอบครัวกำลังจะล้มเหลวนะ”
แก้วกานดาขบริมฝีปากแน่น หญิงสาวไม่ได้หันกลับไปมองหน้าคุณนัยนา เธอเลือกที่ก้าวออกจากบ้านหลังใหญ่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา
“ปวดหัวจัง” นลินบ่นเบาๆ เสียงของเธอทำให้แก้วกานดาตื่นจากภวังค์รีบปรี่เข้าไปนั่งบนเตียงข้างเพื่อน
“เป็นอะไรมากไหมลิน”
“อืม...ลินขอพารากับน้ำหน่อยสิฝ้าย อยู่ในตู้ยาข้างล่างนะ ลุกไม่ไหวจริงๆ” นลินงัวเงียพูด
“ได้ๆ ลินรอแป๊บนึงนะ” แก้วกานดารีบเปิดประตูออกจากห้อง เดินลงบันไดไปยังชั้นล่างทันที
“มืดจัง” แก้วกานดาพึมพำเบาๆ ชั้นล่างของบ้านปิดไฟหมดแล้ว มีเพียงแสงจากดวงไฟหน้าบ้านเล็ดลอดเข้ามาเล็กน้อย
“อยู่ตรงไหนนะ” เมื่อสายตาปรับสภาพชินกับความมืด แก้วกานดาจึงมองหาตู้ยาบนผนังโดยไม่เปิดไฟ หญิงสาวคลี่ยิ้มเมื่อมองเห็นตู้ยา และเดินอย่างระมัดระวังไปเอื้อมมือเปิดตู้ยาแล้วหยิบกระปุกยาออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำหนึ่งขวด
แสงไฟจากตู้เย็นที่ถูกเปิดอยู่ในครัว ทำให้นักรบขมวดคิ้ว ชายหนุ่มเดินช้าๆตรงเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงนั้น
“อุ๊ย!” แก้วกานดาอุทานเบาๆ เมื่อปิดตู้เย็นแล้วหันหลังกลับมาชนกับร่างของคนตัวโต
“ขวัญอ่อนจริงนะ” นักรบพูดพร้อมกับใช้ตัวเองดันร่างบางจนแผ่นหลังเนียนแนบไปกับตู้เย็นเครื่องใหญ่ มือหนาแย่งขวดน้ำกับกระปุกยาจากมือแก้วกานดาไปวางไว้บนหลังตู้เย็น
“คุณรบจะทำอะไร ฝ้ายจะเอายาไปให้ลินนะ” ใบหน้าหล่อคมเข้มเหยียดยิ้มเล็กน้อยในความมืด
“นึกว่าลงมาอ่อยผมเสียอีก”
“ในสมองคุณคงจะคิดแต่เรื่องพรรค์นี้ ไม่มีเรื่องดีๆให้คิดแล้วหรือไง”แก้วกานดาเริ่มดิ้นรน นักรบจึงใช้ลำแขนแกร่งรวบเอวคอด ดึงรั้งให้แนบชิดไปกับร่างกายของตนเอง
“รู้สึกบ้างไหมฝ้าย ว่าเธอเองก็ชอบเรื่องพรรค์นี้เหมือนกัน”
นักรบจงใจกดย้ำให้จุดกึ่งกลางที่แข็งกร้าวแนบไปกับหน้าท้องหญิงสาว แก้วกานดาใช้มือยันแผงอกกว้างของชายหนุ่มไว้
“ปล่อยฝ้ายนะ ไม่อย่างนั้นฝ้ายจะตะโกนเรียกลิน”
“หึๆ เก็บเสียงไว้ครางตอนที่ผมขยับเข้าออกในตัวฝ้ายดีกว่าไหม”
ริมฝีปากบางถูกบดขยี้ทันทีที่นักรบพูดจบ มือใหญ่อีกข้างช้อนศีรษะทุยด้านหลังแทรกเข้าไปในกลุ่มผมนุ่ม เพื่อให้ตัวเองได้รุกรานได้ถนัด แก้วกานดาเม้มริมฝีปากแน่นไม่ยอมให้ลิ้นสากล่วงเกินเข้ามาในปากของตน นักรบหัวเราะในลำคอ แล้วเริ่มขบเม้มริมฝีปากบางรุนแรงจนหญิงสาวต้องเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“อ๊ะ!” คนที่คอยท่าอยู่แล้วกดริมฝีปากตัวเองแนบแน่นกับกลีบปากบาง เพื่อไม่ให้แก้วกานดามีโอกาสปิดริมฝีปากลงได้ ลิ้นสากไล่ต้อนลิ้นนุ่มดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ จนร่างเล็กอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดเขา มือเรียวที่ยันแผงอกกว้างเปลี่ยนเป็นโอบกอดรอบคอหนาแน่น ซับในตัวบางถูกกระชากแรงจนขาดติดมือใหญ่ นักรบทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี แล้วเกี่ยวกางเกงนอนของตนเองลง เพื่อปลดปล่อยความใหญ่โตเคร่งครัด มือหนายกต้นขาขาวขึ้น ใช้แขนรองใต้ขาพับแล้วกระชับ ให้กลางกายสาวแนบแน่นไปกับตัวตนแข็งแกร่งของตน เอวสอบบดเบียดกลีบดอกไม้บานฉ่ำอย่างรุนแรง แรงเสียดสีทำให้แก้วกานดาครางในลำคอด้วยความเสียวซ่าน ริมฝีปากหนาผละจากกลีบปากบางไล่เรื่อยเลียไล้ตามซอกคอหอมกรุ่น
“อ๊า...” แก้วกานดาครางแว่วหวานทันทีเมื่อปากนุ่มเป็นอิสระ
“ครางดังๆเลยสิฝ้าย อืม...ไหนลองตอบมาซิว่าฝ้ายชอบเรื่องพรรค์นี้ไหม”
“มะ...ไม่” เสียงปฏิเสธดังแผ่วเบา แต่สะโพกงอนกลับบดเบียดเข้าหาอย่างเว้าวอน
“ไม่เหรอ จริงๆเหรอ”
นักรบขยับสะโพกออก แล้วสอดใส่ความรุ่มร้อนแข็งแกร่งเข้าไปในช่องทางรักที่อุ่นลื่นรุนแรง แก้วกานดาจิกบ่ากว้างแน่น ขาเรียวอีกข้างตวัดรัดท่อนขาแข็งแรงแน่น นักรบขยับขาแยกออกแล้วดันแผ่นหลังของหญิงสาวแนบไปกับประตูตู้เย็น สะโพกสอบขยับรัวรุนแรง มืออีกด้านล้วงผ่านชายกระโปรงชุดนอน ไปบีบเคล้นอกอวบอย่างไม่เบามือนัก แก้วกานดาพยายามกัดริมฝีปากไว้ เพื่อเก็บงำเสียงครางที่น่าอาย
“ทนไหวหรือฝ้าย ร้องออกมาดังๆเลยสิ อา...” นักรบกระซิบริมหูเล็กจบก็ขบเม้มไล้เลียไปตามใบหูของแก้วกานดา
“อ๊ะ...อ๊า...” นักรบยิ้มอย่างสะใจที่ได้ยินเสียงครางหวาน
“อา...เสียงเซ็กซี่จังฝ้าย ร้องออกมาดังๆเลย ร้องออกมาอีก” ปากกระซิบเสียงกระเส่าพร่ำบอก สะโพกสอบก็เร่งแรงเน้นหนัก จนขวดน้ำและกระปุกยาตกลงมาที่พื้น เสียงหล่นดังตุ้บ! ไม่สามารถดึงความสนใจของคนทั้งสองจากความเสียวกระสัน ที่กำลังเดินทางมาใกล้ปลายทางแล้วได้
“อ๊า...คุณรบ...อ๊ะ!” เสียงครวญครางสุดท้ายก่อนที่แก้วกานดาจะกระตุกเกร็ง หญิงสาวเลือกที่จะกัดบ่ากว้างแน่น เพื่อระบายความเสียวซ่านสุดท้ายที่แผ่กระจายไปทั้งร่างได้
“พี่นวดให้ฝ้ายดีกว่า” แก้วกานดายิ้มอยู่กับอกกว้างอย่างรู้ทัน ร่างของคนตัวเล็กกว่าถูกพลิกให้นอนลงบนเตียงนุ่ม นักรบทาบทับตามติดมันที สองสายตาประสานกันนิ่ง แก้วกานดายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของสามีเบาๆ “พี่ชอบเวลาฝ้ายสัมผัสตัวพี่” สายตากรุ้มกริ่มของสามีทำให้เธอรู้ความหมายของเขา มือเล็กยันแผงออกกว้างให้เขาเป็นฝ่ายนอนหงายลง เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่และกางเกงนอนขายาวถูกถอดออกอย่างว่องไวโดยเจ้าของ แก้วกานดาขมวดคิ้วมุ่น หัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของสามี “พี่ไม่อยากให้ฝ้ายเหนื่อย” นักรบยิ้มกว้างนอนรออย่างมีความหวัง ใบหน้านวลแดงซ่านเมื่อกวาดตามองเรือนกายกำยำของสามี ถึงจะอยู่กินกันมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ไม่ชินกับการมองเห็นเขาในสภาพเปล่าเปลือยสักที มือเล็กลูบไล้ทั่วแผ่นอกกำยำ ขณะที่สายตาจับจ้องใบหน้าหล่อคมของสามี นักรบหลับตาพริ้ม พ่นลมออกจากปากเป็นการระบายอารมณ์ร้อนแรงภายใน ที่เริ่มจะเดือดปุดๆ เพราะเกรงว่าตัวเองจะทนไม่ไหว จะต้องเป็นฝ่ายรุกเสียก่อนที่ภรรยาสาวจะสำรวจร่างของตนจนถ้วนทั่ว “อา...เลื่อนลงไ
“เห็นไหมลิน...ลูกมีความสุขกับการมีเพื่อนเล่น เราต้องจริงจังกับการผลิตน้องให้น้องนีแล้วนะ” นลินเงยหน้าสบตาสามี มือเล็กบิดสีข้างของคนตัวใหญ่เบาๆ“โอ๊ย!”“ไม่ต้องเอาลูกมาอ้างเลยนะวิน เดี๋ยวเถอะ” นลินจิกสายตามองอย่างรู้ทัน หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละออกจากวงแขนแกร่ง รีบสาวเท้าเดินตามลูกน้อยไป นายแพทย์ชัยชนะมองตามร่างภรรยาด้วยสายตามุ่งมั่นหลังจากมื้อค่ำที่แสนสุขของครอบครัวใหญ่ นักรบ แก้วกานดา นายแพทย์ชัยชนะ นลินและเด็กๆมารวมตัวกันที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่บริเวณระเบียงหลังบ้าน ส่วนผู้สูงอายุเลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งของบ้าน เด็กๆส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันดังลั่น สลับกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ“ลินทำไมไม่มีน้องให้น้องนีสักทีล่ะ ลูกคนเดียวเหงานะ”“เอ่อ...” นลินเพียงแค่อ้าปากกำลังจะตอบ สามีเธอก็แย่งหน้าที่ตอบคำถามให้ก่อน“กำลังพยายามอยู่ฝ้าย ลินไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร ส่วนวินน่ะพร้อมทุกที่ทุกเวลา”คำพูดของนายแพทย์หนุ่มเรียกเสียงหัวเราะของทุกคน แต่คนที่ถูกพาดพิงกลับส่งสายตาเขียวปั้ดให้สามีตัวเอง“น้องนีครับ คืนนี้นอนกับคุณยายนะลูก” นา
“ฝ้ายติดลูกค้า ช่วงนี้ที่รีสอร์ตยุ่งๆ...สวัสดีครับปกป้องสุดหล่อ” เด็กชายปกป้องยิ้มแหยๆ ก้าวมายืนข้างหน้าบิดาแล้วยกมือไหว้ผู้มาเยือนอย่างนอบน้อม“สวัสดีครับพ่อรบ” นักรบยื่นมือใหญ่ไปยีศีรษะเล็กของเด็กชายเบาๆ เด็กหญิงคนเดียวท่ามกลางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ก้าวมายืนเคียงข้างบิดา จ้องมองลูกชายของเพื่อนพ่ออย่างข่มเต็มที่“เข้าไปในบ้านกันเถอะน้องปองเพิ่งกินนมเสร็จพอดี” ประณตเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในบ้าน เด็กชายธงรบจับมือบิดาเดินเข้าไปบ้านไปแล้ว“เดี๋ยวสิน้องป้อง” เด็กชายปกป้องหยุดการก้าวเดิน แล้วหันกลับไปมองคนที่เรียกตนเองด้วยสายตาไม่พอใจ“ป้องไม่ใช่น้องใคร ป้องเป็นพี่” คนถูกเรียกน้องแสดงความไม่พอใจออกมาทั้งหน้าตาและน้ำเสียง โดยไม่ปิดบัง เด็กหญิงแก้วกัลยายิ้มเยาะ“คุณพ่อบอกว่าป้องเกิดทีหลังนับหนึ่งตั้งสองวัน ป้องต้องเรียกนับหนึ่งว่า...พี่นับหนึ่ง” เด็กหญิงผมเปียยิ้มอย่างผู้ชนะ“คุณพ่อบอกว่านับหนึ่งเป็นคู่หมั้นของป้อง โตขึ้นนับหนึ่งต้องมาเป็นแฟนของป้อง นับหนึ่งนั่นแหละต้องเรียกป้องว่าคุณแฟน” เด็กชายตัวน้อยตอบโต้กลับ สบตาดวงตากลมโตอย่างเหนือกว่า“ไม่
“นับหนึ่งไม่ได้เล่นนะ นับหนึ่งกำลังช่วยคุณตาปลูกดอกกุหลาบแปลงใหม่อยู่” เสียงเจื้อยแจ้วบ่งบอกว่างอน ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวเราะในลำคอ“ตัวเล็กแค่นี้ขยันจังเลย สงสัยพ่อต้องมีรางวัลให้ซะแล้ว” เด็กหญิงตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารางวัล“รางวัลอะไรคะ” นักรบยิ้มส่ายศีรษะ“ยังไม่บอก จนกว่านับหนึ่งจะไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สวยๆ” หรี่ตามองบิดาอย่างชั่งใจ“ก็ได้ค่ะ” ร่างเล็กดิ้นลงจากอกบิดา แล้ววิ่งเข้าบ้านไปทันที แก้วกานดาอุ้มลูกชายตัวเล็กอายุสามขวบเดินออกมาจากในบ้าน สวนทางกับเด็กหญิงแก้วกัลยาที่วิ่งปรู๊ดเข้าไปบ้านพอดี“โกหกอะไรนับหนึ่งอีกล่ะคะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานขนาดนั้น” นักรบรับเด็กชายธงรบมาอุ้มไว้ แล้วโอบร่างภรรยาไว้หลวมๆ ริมฝีปากหยักได้รูปจุมพิตที่ขมับของคนร่างเล็กหนักๆ“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พี่ว่าจะพานับหนึ่งไปเยี่ยมน้องปองที่ไร่ปรานี ฝ้ายไปด้วยกันนะ” ปิ่นหล้าภรรยาของประณตเจ้าของไร่องุ่นใกล้เคียงกันเพิ่งคลอดบุตรสาวคนเล็ก นักรบจึงอยากไปเยี่ยมตามประสาเพื่อนกัน“วันนี้มีกรุ๊ปทัวร์คุณหมอเพื่อนของวินมาค่ะ พี่รบจำไม่ได้เหรอ ถ้าฝ้ายไปด้วยใครจะดูแลลูกค้าล่ะคะ” หลังจาก
“จ้า...ฝ้ายก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ อาไปก่อนนะนับหนึ่ง” นลินก้มลงคุยกับหลานที่ยังอยู่ในท้องของแก้วกานดา“ฝากดูแลลินด้วยนะหมอวิน” นักรบหันไปฝากฝังน้องสาวกับว่าที่น้องเขย นายแพทย์ชัยชนะยิ้มพยักหน้ารับ“เป็นหน้าที่ของผมออยู่แล้วครับพี่รบ” นลินตวัดสายตามองคนพูดอย่างหมั่นไส้ ช่างสรรหาคำพูดมาทำคะแนนเหลือเกิน คนที่ถูกหมั่นไส้ตีคิ้วยิ้มด้วยแววตาเป็นประกาย จนนลินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเอง“ขับรถดีๆนะวิน” แก้วกานดาโบกมือลาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม“เราต้องแต่งงานกันเดือนหน้านะลิน” หลังจากรถแล่นออกจากประตูรั้ว นายแพทย์ชัยชนะก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ลินรู้แล้ว วินจะย้ำอะไรนักหนา”“ก็ย้ำเพื่อให้ลินรู้ว่าห้ามบ่ายเบี่ยงอีกเด็ดขาด”นลินเบี่ยงตัวหันมามองหน้าคนขับรถ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น นายแพทย์ชัยชนะยิ้มกว้าง หันหน้ามาสบตาคนนั่งข้างแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ“คืนที่ผ่านมา มันเป็นช่วงที่ร่างกายของลินพร้อมตั้งครรภ์ที่สุด และวินก็ตั้งใจทำเต็มที่ ไม่แน่นะว่าลูกของวินอาจจะอยู่ในท้องของลินแล้วก็ได้”นลินอ้าปากค
“อื๊อ...พี่รบ” แก้วกานดาประท้วงเสียงพร่า“รู้ไหม...นอกจากพี่จะเป็นตาแก่ขี้หวงแล้ว พี่ยังเป็นตาแก่หื่นกามจอมอึดด้วยนะ” เสียงทุ้มกระซิบริมหูเล็ก แก้วกานดายิ้มหวานพลิกร่างนอนหงาย“จะอึดแค่ไหนกันเชียว...ขี้โม้” คนตัวเล็กไม่ยอมลดราวาศอก บังอาจท้าทายคนตัวโต“พี่ถือว่าเป็นสาส์นท้ารบ นักรบอย่างพี่ไม่มีวันถอยทัพแน่ ถ้าศัตรูไม่พ่ายทัพแตกหนีไปเสียก่อน และถึงจะพ่ายทัพแตกกระเจิง พี่สาบานว่าจะรุกไม่ให้ได้หายใจหายคอกันทีเดียว หึๆ” คำพูดของสามีทำให้แก้วกานดาใจสั่น รู้แน่ว่าเขาคิดเป็นจริงเป็นจัง หญิงสาวจึงหวีดร้องเบาๆ เมื่อร่างเล็กของตัวเองถูกจับลอกคราบอย่างรวดเร็ว“พี่รบขา ใช้แผนการรบแบบละมุนละม่อมนะ ห้ามใช้แผนการรบขั้นรุนแรง ลูกอยู่ในนี้นะคะ” แก้วกานดาเตือนสติสามี“ครับผม” รับคำเรียบร้อย นักรบก็ไม่ปล่อยให้ภรรยาได้ทันตั้งตัว เขาจู่โจมรุกหนักด้วยการมอบจุมพิตที่เร่าร้อน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างนุ่มนิ่มอวบอิ่ม หยุดทักทายบีบเคล้นอกอวบสลับกับการคีบเม็ดสีหวานเบาๆ ริมฝีปากร้อนเคลื่อนที่ช้าๆดื่มด่ำกับผิวเนียนหอมกรุ่นทั่วร่างอย่างหลงใหล“เมียพี่หวานที่สุด น่ากินไปทั้ง