/ โรแมนติก / ไฟแค้นเมียบำเรอ / ตอนที่ 12.แผนการร้าย/1

공유

ตอนที่ 12.แผนการร้าย/1

last update 최신 업데이트: 2025-07-04 20:14:23

 ที่โรงพยาบาล ห้องผู้ป่วย

นทีสั่งให้บรรเจิดไปจัดการเคลียร์ปัญหากับรถที่ชนคู่หมั้นของเขา จากนั้นก็มาเฝ้าไข้คนเจ็บรอเวลาให้หญิงสาวฟื้นขึ้นมา แพทย์ผู้รักษาบอกว่าอาการของเธอไม่ร้ายแรงมาก แต่ต้องรอดูตอนฟื้นว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง

 “ปวด... ปวดหัว”

เสียงครางแผ่วดังขึ้น ปลุกให้คนที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นมา นทีขยับลุกจากโซฟายาวมายังเตียงคนเจ็บ

“เป็นอะไรหรือเปล่าน้องดาว” เขาเอ่ยถาม ขณะกดกริ่งเรียกพยาบาล

“ปวด... ฉันปวดหัว เจ็บไปหมด”

หญิงสาวเอ่ยออกมาทั้งที่ตายังไม่ปิดอยู่ มือยกขึ้นแตะบนแผลที่ศีรษะ ใบหน้างามมีรอยเหยเกเมื่อมือสัมผัสโดนแผลที่เจ็บ ค่อยลืมตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง เมื่อแสงสว่างจ้าเกินไป

“ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับน้องดาว พี่จะดูแลน้องดาวเอง”

                นทีปลอบโยน เขาจับมือของเธอเอาไว้ มองอาการของคนเจ็บด้วยสายตาห่วงใย คู่หมั้นของเขามีอาการหลับๆ ตื่นๆ ไม่ได้สติมาตลอดสามวัน

“คุณเป็นใคร ฉันไม่รู้จักคุณ”

ดาริกาดึงมือออก มองชายหนุ่มที่กุมมือเธอด้วยสายตาของคนไม่รู้จักกัน ทำเอานทีใจหายวาบ

“พี่เป็นคู่หมั้นของน้องดาว พี่ชื่อนทีหรือพี่น้ำ น้องดาวค่อยๆ นึกนะครับ”

“ไม่ ฉันจำอะไรไม่ได้ แล้วที่นี่ที่ไหน ฉัน... ฉันชื่ออะไร”

ดาริกามองไปรอบกายด้วยความสับสน ในหัวปวดตุบๆ ไปหมด ที่สำคัญเธอจำอะไรไม่ได้ว่าตัวเองคือใคร แล้วชายหนุ่มที่บอกว่าเป็นคู่หมั้นของเธอ ก็ไม่อยู่ในความทรงจำเลย หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง

“พี่เรียกหมอแล้ว น้องดาวนอนนิ่งๆ นะครับ”

นทีขยับถอยออกมาห่างจากเตียง เขามองคู่หมั้นสาวด้วยความห่วงใย ท่าทางของเธอเหมือนจำอะไรไม่ได้ แถมยังทำท่าเหมือนกลัวเขาด้วย

ครู่หนึ่งเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แพทย์และพยาบาลเข้ามาในห้อง

“หมอขออนุญาตตรวจอาการคนไข้ก่อนนะครับ”

นทีขยับถอยออกมา พยาบาลเข้ามาตรวจวัดความดัน แพทย์ตรวจดูอาการของคนเจ็บ ก่อนจะบอกญาติของคนเจ็บว่า

“คนไข้มีอาการจำอะไรไม่ได้ชั่วคราว เกิดจากการกระแทกที่ศีรษะ อาการจะดีขึ้นตามลำดับ ต้องใช้เวลาสักพักนะครับ ระหว่างนี้ญาติคนไข้ควรพูดคุย และบอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ให้คนไข้ฟัง เพื่อฟื้นความทรงจำ”

แพทย์แนะนำก่อนจะขอตัวออกไป ปล่อยให้คนไข้กับญาติอยู่กันตามลำพัง นทีเข้ามานั่งข้างๆ เตียง เขาจับมือของคู่หมั้นสาวมากุมไว้

“น้องดาวใจเย็นๆ นะครับ อย่ากลัวพี่”

เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ปลอบโยนให้หญิงสาวคลายความหวาดหวั่น

“คุณเป็นคู่หมั้นของฉันจริงๆ หรือคะ”

จากคำพูดของแพทย์ทำให้ดาริกาสงบมากขึ้น หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาผ่อนคลายลง เขามีใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาอ่อนโยน ดูไม่ใช่คนร้ายหรือคนเลว ที่สำคัญเขาบอกว่าเป็นคู่หมั้นของเธอ

“ใช่ครับ นี่ดูรูปพวกนี้สิ เราไปเที่ยวด้วยกัน แล้วก็ถ่ายรูปด้วยกัน ก่อนที่น้องดาวจะถูกรถชน”

นทีหยิบมือถือของเขามากดเปิดรูปถ่ายให้หญิงสาวดู เพื่อยืนยันฐานะของเขากับเธอ

“ฉันจำไม่ได้ จำไม่ได้เลยสักอย่าง รู้แต่ว่าตัวฉันน่าจะชื่อดาว ฉันคุ้นกับชื่อนี้มาก”

ดาริกานิ่วหน้ามองดูรูปถ่าย พยายามคิดและค้นหาความทรงจำที่หายไป แต่ศีรษะก็ปวดขึ้นมาอีก

“หมอบอกว่าสักพักอาการจะดีขึ้น พี่ว่าน้องดาวค่อยๆ รื้อฟื้นความทรงจำก็ได้ อีกสามวันเรือจะออกจากท่าแล้ว อาการของน้องดาวน่าจะดีขึ้น พอที่จะกลับบ้านได้”

นทีบีบมือนุ่ม พูดจาปลอบโยนให้หญิงสาวคลายความกังวล อาการของเธออาจจะต้องกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ตอนนี้เขาคงต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้พ่อแม่ของเธอทราบ ท่านทั้งสองจะได้หายห่วงลูกสาว

///

ดารินทร์ถูกนำตัวมาขังไว้สามวันแล้ว คนเฝ้าเอาอาหารมาส่งให้สามมื้อ และไม่เคยพูดจาอะไรกับหญิงสาวเลย ดารินทร์พยายามค้นหาทางออกจากห้องแห่งนี้ ห้องน้ำก็มีหน้าต่างระบายอากาศแคบมากไม่สามารถมุดออกไปได้ จะตะโกนให้คนช่วยเหลือก็ไร้ประโยชน์  เมื่อลองส่องดูผ่านช่องระบายอากาศแล้วพบว่าไม่มีบ้านหลังอื่นใกล้เคียง ที่นี่ถูกปลูกสร้างไว้ห่างไกลจากผู้คนยากจะหาใครมาช่วย การหาทางรอดช่างมืดมนเหลือเกิน

แกร๊ก...

เสียงประตูทำให้คนที่กำลังอยู่ในภวังค์รีบหันไปมอง ขยับเตรียมตัวให้พร้อมรับมือ คนที่เข้ามาคือสามแม่ลูกที่เคยเจอเมื่อวันแรก ดารินทร์ผ่อนท่าทีลงเมื่อเห็นว่าคนเฝ้าไม่ได้ตามเข้ามาด้วย

“เป็นไงบ้าง เห็นเจ้าเพิกบอกว่าแกทำตัวดีขึ้นแล้วนี่ สำนึกได้รึยังว่าทำยังไงแกก็หนีไม่พ้น”

แขไขเดินมาหยุดตรงหน้าดารินทร์ กวาดสายตามองสภาพของคนที่ตัวเองเข้าใจว่าเป็นลูกเลี้ยงอย่างสมเพช สามวันมานี้เธอไปเจรจากับฝ่ายเจ้าหนี้เรื่องงานแต่งงาน อีกฝ่ายเร่งรัดมาว่าอยากจะจัดงานแต่งให้เร็วที่สุด แขไขจึงขอเวลาเตรียมตัว เพื่อหาวิธีทำให้ลูกเลี้ยงยอมทำตามโดยที่ไม่เอะอะให้เจ้าหนี้เคืองใจ ในที่สุดก็พบวิธีดีๆ

“พวกแกจับตัวฉันมาแบบนี้ ไม่กลัวตำรวจบ้างหรือไง ข้อหาลักพาตัวมันติดคุกนะ เรามาคุยกันดีๆ ได้ไหม”

ดารินทร์พยายามพูดจาให้อีกฝ่ายได้คิด หากเจรจาต่อรองได้อาจจะได้รับการปล่อยตัว

“คุณแม่ขา นังดาวมันขู่คุณแม่ค่ะ”

                เจนจรัสส่งเสียงแทรกขึ้นมา ก่อนที่ดารินทร์ได้พูดอะไรต่อ

                “นังดาว แกคิดเหรอว่าตำรวจจะช่วยแกได้ เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ”

                นลินรัตน์เบ้ปากใส่ ดูแคลนอีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบัง คนเป็นแม่โบกมือให้ลูกสาวหยุดพูด ขณะหันมาจ้องหน้าดารินทร์แล้วเอ่ยว่า

                “ถ้าแกอยากเจรจา ฉันก็จะคุยกับแกดีๆ รู้ไหมตอนนี้พ่อของแกอยู่ในห้องไอซียู อาการร่อแร่ ถ้าแกไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน แกจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าพ่อของแกอีก”

                แขไขรู้ดีว่าดาริการักพ่อของมาก ด้วยเติบโตมากับคนเป็นพ่อมารดาเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด ดังนั้นจึงใช้จุดอ่อนนี้มาบังคับอีกฝ่าย

                “พูดบ้าอะไร ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้จักพวกเธอ ฉันไม่ได้ชื่อดาริกา ฉันชื่อดารินทร์ พัชรวงศา พ่อของฉันคือท่านทูต อรรถ พัชรวงศา แม่ของฉันคือ คุณหญิงแม้นเดือน ถ้าไม่เชื่อก็ไปเสิร์ชชื่อพ่อฉันดูสิ”

                ดารินทร์แจกแจงถึงประวัติตัวเอง พร้อมบอกชื่อของบิดามารดาให้อีกฝ่ายรู้ หวังว่าเมื่อได้รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร จะเกรงกลัวยอมปล่อยตัวเธอไป

                “แกนะสิบ้า มาอ้างอะไรแบบนี้ ไม่เนียนเลยนะยะ” เจนจรัสเบะปาก ไม่ยอมเชื่อ

                “ให้ฉันยืมมือถือหน่อยสิ ฉันจะเสิร์ชข้อมูลให้พวกเธอดู”

                ดารินทร์แบมือขอ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีมือถือ

                “จะมาเล่นลูกไม้อะไร อยากจะเอามือถือไปโทรหาคนช่วยรึไง ฉันไม่หลงกลหรอกย่ะ”

                นลินรัตน์พูดดักคอไว้ก่อน คิดว่าดารินทร์หาเรื่องหลอกเอาโทรศัพท์ไปโทรหาคนอื่น แต่แขไขกลับเปิดกระเป๋าหยิบมือถือออกมากดค้นข้อมูลตามที่อีกฝ่ายบอก พอทุกอย่างปรากฏขึ้นบนจอก็กวาดสายตามอง แล้วรีบเลื่อนดูรูปและอ่านประวัติของครอบครัวพัชรวงศาอย่างละเอียด มือเริ่มสั่นระริกใบหน้าซีดเผือดลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นรูปของลูกสาวท่านทูตอรรถ พัชรวงศา มีใบหน้าเหมือนกับดาริกาลูกเลี้ยงของเธอแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน

                “เจน ลูกบัว ตามแม่มานี่”

                แขไขบอกลูกสาวเสียงสั่นรีบเดินออกไปจากห้องนั้น ลูกสาวสองคนเดินตามมารดาไปอย่างแปลกใจ

                “เป็นอะไรคะคุณแม่ ทำไมหน้าซีดๆ”

                เจนจรัสรีบมาประคองมารดาให้นั่งลงบนเก้าอี้ หลังจากออกมาจากห้องนั้นแล้ว แขไขควักยาดมมายัดจมูกสูดดมไล่ความวิงเวียน ในใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีคนสองคนที่หน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด เธอรู้ว่านายพิพัฒน์เป็นพ่อม่ายเมียตาย มีลูกสาวคนเดียวคือดาริกา และอีกฝ่ายก็ไม่เคยบอกว่ามีลูกฝาแฝด เมื่อเห็นดารินทร์จึงมั่นใจว่าเป็นลูกเลี้ยงของตน แต่เมื่อเห็นรูปภาพของครอบครัวพัชรวงศา ก็ต้องตกตะลึง

                “นายเพิก เฝ้าไว้ให้ดีๆ เจนขับรถแทนแม่ที แม่ปวดหัว”

                แขไขสั่งนายเพิกแล้วลุกขึ้นให้ลูกสาวช่วยประคองพาขึ้นรถ ยามนี้ในสมองของแขไขกำลังทำงานอย่างหนักว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร เมื่อเธอจับตัวมาผิดคนและยังรับปากกับเจ้าหนี้เรื่องงานแต่งไปแล้ว

///

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 98 ตอนพิเศษ: เมื่อความรักมาทักทายหัวใจ/2 (จบ)

    หลายเดือนผ่านไปนับจากงานแต่งงานที่เกาะร้อยดาว ชีวิตของบรรเจิดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ช่อดอกไม้ในมือวันนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ดอกไม้ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่จุดประกายความคิดบางอย่างในใจเขา ตั้งแต่วันนั้นภาพของเจนจรัส หญิงสาวผู้แข็งกร้าวแต่ก็เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ก็วนเวียนอยู่ในความคิดเขาตลอดเวลา เขาตามสืบจนรู้ว่าเธอกับนลินรัตน์ น้องสาว มาเปิดร้านขายข้าวแกงเล็กๆ อยู่ในตลาดแห่งหนึ่งในตัวเมืองวันนั้นบรรเจิดเดินทางมาถึงหน้าร้านข้าวแกงของเจนจรัสในช่วงบ่าย ลูกค้าเริ่มซาลงแล้ว เขากวาดสายตามองไปรอบๆ และแล้วสายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับร่างของเจนจรัสที่กำลังยืนหันหลังจัดร้านอยู่ ร่างของเธอไม่เหมือนเดิม... เธอสวมชุดคลุมท้องที่เห็นได้ชัดว่าท้องของเธอนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีชีวิตน้อยๆ กำลังเติบโตอยู่ภายในบรรเจิดถึงกับตะลึง ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ อึ้งไปชั่วขณะ หัวใจของเขากระตุกวูบ ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งความประหลาดใจ ความสับสน และความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ถูก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเธอช้าๆ"คุณเจนจรัส!" เขาเรียกชื่อเธอเสียงพร่าเจนจรัสสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันมามองต้นเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นบรรเจิด สีหน้าข

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 97. ตอนพิเศษ: เมื่อความรักมาทักทายหัวใจ/1

    หน้าห้องรอคลอดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง อัคคี และ นที สองหนุ่มที่ปกติสุขุม เยือกเย็น ตอนนี้กลับนั่งไม่ติดที่พากันเดินสวนกันไปมาหน้าห้องคลอด ด้วยสีหน้ากังวลสุดขีด มือทั้งสองข้างประสานกันแน่น ราวกับภาวนาขอพรให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนายอนันต์ และ คุณมาเรีย พ่อแม่ของอัคคี รวมถึง ท่านทูตอรรถ และ คุณหญิงแม้นเดือน รวมถึงคุณภัทรกับคุณนุชนารถพ่อแม่ของนที ต่างก็มารวมตัวกันให้กำลังใจ น้องพียืนอยู่ข้างๆ ผู้เป็นปู่กับย่า แววตาใสซื่อจ้องมองประตูห้องคลอดอย่างสนใจ ไม่เข้าใจความตึงเครียดของผู้ใหญ่ แต่ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่สำคัญสีหน้าของแต่ละคน เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกไม่แพ้กัน ส่วนนายพิพัฒน์ ที่นั่งอยู่บนรถเข็น มีนางแก้วคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ได่แต่มองไปยังประตูห้องคลอดด้วยแววตาเป็นห่วงไม่ต่างกันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนทุกคนแทบจะหยุดหายใจ ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก พยาบาลสาวเดินออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าเปื้อนเหงื่อแต่แววตาเต็มไปด้วยความยินดี สองหนุ่มถึงกับสะดุ้งเฮือก หันขวับไปที่ประตูพร้อมกันด้วยความตื่นเต้นสุดขีด"ยินดีด้วยค่ะคุณอัคคี คุณดารินทร์คลอดแล้วนะคะ" พยาบาลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่อบอุ่นอัคคีรีบเ

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 96 ห้องหอรอรัก/2

    ในขณะเดียวกัน ที่ห้องพักหรูอีกห้องหนึ่งไม่ไกลกันนัก ห้องหอของนทีและดาริกา ก็ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่โรแมนติกไม่แพ้กัน แสงเทียนหอมอ่อนๆ ส่องสว่าง สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ต่างจากห้องหอของอัคคีและดารินทร์ที่เน้นความร้อนแรง ห้องนี้กลับเต็มไปด้วยความละมุนละไมนทีในชุดนอนผ้าไหมสีเข้ม ยืนอยู่ริมระเบียงห้องที่เปิดโล่งออกสู่ทะเล มองดูแสงจันทร์ที่ทอประกายบนผิวน้ำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุขสงบที่เพิ่งค้นพบในชีวิต ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ แขนแกร่งทั้งสองข้างวางพาดบนราวระเบียง เขาสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ยามค่ำคืนเข้าเต็มปอด กลิ่นไอทะเลบริสุทธิ์ช่วยให้จิตใจเขาผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนอันแสนพิเศษดาริกาเดินเข้ามาหาเขาจากด้านหลังอย่างเงียบเชียบ เธอสวมชุดนอนผ้าไหมเนื้ออ่อนสีชมพูอ่อนที่ขับให้ผิวขาวผ่องของเธอดูโดดเด่นและงดงาม เธอโอบแขนเรียวรอบเอวของนทีจากด้านหลังแล้วซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของเขาอย่างออดอ้อน สัมผัสอบอุ่นจากร่างกายของเธอทำให้หัวใจของนทีเต้นระรัวอย่างมีความสุข"พี่น้ำยืนมองอะไรคะ" ดาริกาเอ่ยถามเสียงหวานแผ่วเบานทีพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับดาร

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 95 ห้องหอรอรัก/1

    หลังจากงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะจบลง ดวงจันทร์ดวงกลมลอยเด่นอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามเข้ม แสงจันทร์นวลผ่องทอประกายลงมายังผืนน้ำทะเลที่ทอดยาวจรดขอบฟ้า สายลมยามค่ำคืนพัดเอื่อยพากลิ่นไอเค็มเคล้ากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่ประดับอยู่ในห้องพักสุดหรูบนเกาะร้อยดาวห้องหอของอัคคีและดารินทร์ถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เตียงกว้างใหญ่ปูด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีสีขาวสะอาดตา มีกลีบกุหลาบสีแดงสดโปรยปรายอยู่ทั่วราวกับพรมสีแดงแห่งความรัก ผ้าโปร่งบางเบาถูกคลุมอยู่เหนือเตียงพลิ้วไหวตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศ สร้างบรรยากาศที่อ่อนหวานและโรแมนติกเกินคำบรรยาย แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงส่องให้เห็นภาพของอัคคียืนรออยู่ข้างเตียงในชุดเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวที่ปลดกระดุมเม็ดบนออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นแผงอกแข็งแกร่งและรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ใบหน้าคมคายของเขาเต็มไปด้วยความเสน่หาและความรอคอย ดวงตาคมกริบเปล่งประกายร้อนแรงเมื่อประตูห้องเปิดออกดารินทร์ ก้าวเข้ามาในห้องช้าๆ ในชุดนอนผ้าไหมเนื้อบางเบาสีขาวราวกับปุยเมฆที่โอบรัดเรือนร่างอรชร ทรวงอกอวบอิ่มภายใต้ชุดนอนพลิ้วไหวตามจังหวะการเดิน ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อด้วยควา

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 94 พิธีวิวาห์บนเกาะร้อยดาว/2

    ต่อมา บาทหลวงก็ทำพิธีและเอ่ยถามคู่ของนทีและดาริกา“นที คุณยินดีที่จะรับดาริกาเป็นภรรยาของคุณ จะรักและดูแลเธอทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในยามร่ำรวยและยากจน ทั้งในยามเจ็บป่วยและสบาย ตราบชั่วชีวิตของคุณหรือไม่" บาทหลวงเอ่ยถาม"ผมยินดีครับท่าน" นทีตอบรับ พลางหันมาสบตากับดาริกาอย่างอบอุ่น"ดาริกา คุณยินดีที่จะรับนทีเป็นสามีของคุณ จะรักและดูแลเขาทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในยามร่ำรวยและยากจน ทั้งในยามเจ็บป่วยและสบาย ตราบชั่วชีวิตของคุณหรือไม่""ฉันยินดีค่ะท่าน"ดาริกาตอบรับด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นเล็กน้อย เมื่อรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลพิธีดำเนินต่อไปด้วยการแลกแหวน แหวนวงเล็กแต่เปี่ยมด้วยความหมายถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของทั้งคู่ เป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญาแห่งรักนิรันดร์ เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณเมื่อบาทหลวงประกาศให้ทั้งสองคู่เป็นสามีภรรยาอย่างสมบูรณ์ อัคคีและนทีต่างก้มลงจุมพิตเจ้าสาวของตนอย่างอ่อนโยนและลึกซึ้ง สร้างความประทับใจและความปลาบปลื้มใจให้กับแขกผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมากหลังจากพิธีอันศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นลง ก็ถึงเวลาสำหรับช่วงเวลาที่สนุกสนานและเป็นที่รอคอยของเหล่าสาวโสดแล

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 93 พิธีวิวาห์บนเกาะร้อยดาว/1

    แสงอาทิตย์ยามเย็นทอประกายสีทองอ่อนๆ แต้มฟ้าจรดน้ำทะเลสีครามที่เกาะร้อยดาว หาดทรายสีขาวนวลทอดยาวเป็นผืนผ้าต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ สายลมทะเลพัดเอื่อยพากลิ่นไอเค็มปะทะผิวกายเคล้ากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้สดที่ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณงานแต่งงานที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างงดงามตระการตา ซุ้มดอกไม้สีขาวสะอาดตาที่ทอดเป็นทางเดินยาวสู่แท่นประกอบพิธีซึ่งตั้งอยู่ริมผาหินที่ยื่นออกไปในทะเล ถูกตกแต่งด้วยผ้าโปร่งสีขาวพลิ้วไหวสะท้อนแสงอาทิตย์ยามอัสดง สร้างบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความโรแมนติกเกินคำบรรยาย สัมผัสได้ถึงความรื่นเริงและปีติยินดีที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งงานแขกเหรื่อทยอยเดินทางมาถึง บ้างก็เป็นคนใกล้ชิดที่คุ้นเคย บ้างก็เป็นบุคคลสำคัญจากวงสังคมชั้นสูง ทุกคนต่างแต่งกายด้วยชุดที่งดงามนทีสวมชุดสูทสีขาวบนหน้าอกติดดอกกุหลาบสีขาว ข้างๆ นั้นเอง อัคคีในชุดทักซิโด้สีขาวสง่างาม ทั้งสองยืนรอรับเจ้าสาวอยู่ที่ปลายทางเดินข้างแท่นพิธี ดวงตาคมกริบของเขาทอประกายแห่งความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนข้างกายเขามีน้องพี ลูกชายตัวน้อยสวมชุดทักซิโด้สีขาวขนาดจิ๋ว ยืนอยู่ด้วยท่าทางน่ารัก น่าเอ็นดู แววตาของเด็กน้อยเต็มไ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status