Home / โรแมนติก / ไฟแค้นเมียบำเรอ / ตอนที่10. หนีไม่พ้น/2

Share

ตอนที่10. หนีไม่พ้น/2

last update Last Updated: 2025-07-04 20:12:42

หลังจากออกมาจากธนาคาร เชิญขวัญก็พาดาริกามาไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

“ทำบุญไหว้พระแล้ว ต่อไปชีวิตของเธอก็จะเจริญรุ่งเรือง พ้นทุกข์ พ้นเคราะห์เสียทีนะยายดาว”

“ฉันก็หวังว่าต่อไป ชีวิตของฉันจะได้พบสิ่งดีๆ บ้าง อย่างน้อยก็ขอให้ได้พบหนทางแก้ปัญหา”

ดาริกาพนมมือกราบพระประทานในโบสถ์ ใบหน้ามีร่องรอยแจ่มใสไม่อมทุกข์เหมือนที่ผ่านมา ภาวนาให้ชีวิตข้างหน้าได้พบเจอสิ่งดีๆ หลุดพ้นจากคนชั่วร้ายอย่างแขไข

“อีกชั่วโมงกว่าเรือเที่ยวต่อไปจะออก ฉันว่าเราไปเดินเล่นแถวๆ นี้กันดีไหม”

เชิญขวัญเห็นว่ามีเวลาเหลือ จึงชวนเพื่อนเดินเล่น ก่อนที่จะพาไปกันไปยังท่าเรือ สองสาวเดินชมเมืองเก่าและแวะเดินดูของที่ระลึก ดาริกาไปติดใจกระเป๋าถัก

“ป้าคะ ใบนี้ราคาเท่าไหร่คะ” ดาริกาถามแม่ค้า

“ใบละสองร้อยค่ะ เอ... เหมือนเมื่อกี้คุณเพิ่งซื้อไปไม่ใช่หรือคะ”

แม่ค้าบอก ก่อนจะทักขึ้นอย่างกังขา ว่าลูกค้าคนนี้เพิ่งซื้อกระเป๋าถักไปเมื่อครู่นี้เอง

“เราเพิ่งมาค่ะป้า ป้าจำคนผิดแล้วค่ะ”

เชิญขวัญท้วงขึ้น ยิ้มขำเมื่อนึกว่า ป้าแม่ค้าคงจำคนผิด

“อ้อ สงสัยป้าจำคนผิดจริงๆ เอาใบนี้นะคะเดี๋ยวป้าใส่ถุงให้นะคะ”

แม่ค้ายิ้มเก้อๆ เสไปหยิบถุงมาใส่กระเป๋าให้ ดาริกาหยิบเงินจ่ายให้แล้วพากันเดินออกมาจากร้าน

“สงสัยฉันจะหน้าโหล มีคนจำผิดด้วย”

ดาริกาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก หยิบกระเป๋าใบเดิมมาแล้วเอาข้าวของย้ายมาใส่ใบใหม่

“ขี้เห่อจริง ซื้อปุ๊บเปลี่ยนปั๊บ”

เชิญขวัญมองเพื่อนสะพายกระเป๋าใบใหม่ แล้วอดยิ้มไม่ได้ ดาริกาเป็นคนประหยัดของใช้จนพังถึงจะยอมเปลี่ยนใหม่ กระเป๋าใบเดิมก็สภาพเก่าแก่เกินทน ดีแล้วที่ซื้อใบใหม่

“ก็ใบเดิมมันเก่ามากแล้วนี้ ใบนี้น่ารักดี ใส่ของกำลังพอดี”

ดาริกาลูบกระเป๋าใบใหม่ด้วยรอยยิ้ม นานๆ ทีถึงจะมีของใหม่สักชิ้น ปกติเธอแทบไม่มีเงินใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จึงต้องประหยัดจนเป็นนิสัย

“หิวน้ำจัง ไปหากาแฟเย็นกินกันเถอะ ตรงนู้นเหมือนมีร้านกาแฟน่านั่ง”

เชิญขวัญลากแขนเพื่อนพาไปยังร้านกาแฟ สองสาวพากันหาที่นั่ง ได้ที่นั่งมุมระเบียงติดกับบึงบัว สั่งกาแฟเย็นคนละแก้วกับขนมเค้กมานั่งกินเล่น

“ที่นี่บรรยากาศดีจัง มีบึงบัวด้วย”

ดาริกามองไปรอบๆ อย่างชอบใจ เธอไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอก ยิ่งนั่งกินกาแฟในร้านแบบนี้ ยิ่งแทบไม่เคยได้มา การออกจากบ้านครั้งนี้เหมือนเปิดโลกใบใหม่ให้ตัวเอง

“ต่อไปถ้าเธอทำงานในเรือ จะเห็นแต่ฟ้ากับทะเล ถ้าขึ้นฝั่งเมื่อไหร่ ถึงจะเห็นอะไรแปลกตาบ้าง แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ได้ท่องเที่ยวไปหลายประเทศน่าสนุกดี”

เชิญขวัญเปิดมือถือให้เพื่อนดูภาพจากเวปท่องเที่ยว ให้ดูเรือสำราญและอ่านประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ

“เธอมั่นใจใช่ไหมว่าเขาจะรับฉันทำงาน”

ดาริกายังนึกหวั่น เกรงว่าจะไม่มีได้รับการคัดเลือก

“ฉันมีเส้นก๋วยจั๊บย่ะ  ฉันส่งใบสมัครให้เธอแล้ว แค่ไปสัมภาษณ์พอเป็นพิธีก็เริ่มงานได้เลย ไม่ต้องห่วงเธอได้งานแน่”

เชิญขวัญรับประกัน เธอติดต่อเรื่องสมัครงานให้เพื่อนเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่พาตัวดาริกาไปส่งที่เรือเท่านั้นเอง

“ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”

ดาริกาบอกเพื่อน ขณะลุกไปเข้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินหายไปยังทางไปห้องน้ำ

ในขณะเดียวกันโต๊ะที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของร้าน นทีกับบรรเจิดนั่งดื่มกาแฟอยู่ ดารินทร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ดาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”

ดารินทร์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ นทีจึงเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ระหว่างรอคู่หมั้นสาว

“คุณหนูดาวน่ารักดีนะครับ ตอนแรกผมคิดว่าเธอค่อยข้างถือตัว วันนี้ได้เห็นว่าเธอน่ารักมาก ไม่ได้วางท่าเชิดหยิ่งเหมือนคุณหนูคนอื่นๆ”

บรรเจิดเอ่ยชมคู่หมั้นของเจ้านาย ดารินทร์มีมุมน่ารักให้น่าชื่นชม เมื่อไม่ได้ตั้งท่าทำตัวห่างเหินกับนทีเหมือนตอนแรกๆ ก็ทำให้คนที่เห็นเริ่มมองเธอเปลี่ยนไป

“ใช่ น้องดาวน่ารักมาก”

นทียิ้มรับ ดวงตามีรอยวิบไหว เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เขาและดารินทร์ได้ใกล้ชิดกัน ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างขึ้น หัวใจเริ่มเปิดกว้างให้ความรู้สึกดีๆ หลั่งรินเข้ามาทีละน้อย

บริเวณลานจอดรถหน้าร้านกาแฟ นายเพิกยืนรอแขไขอยู่ เมื่อรถของเจ้านายแล่นมาจอดเขาก็รีบเข้าไปหาทันที

“คุณดาวเพิ่งเข้าไปในร้านเมื่อครู่นี้ครับ ผมเฝ้าไว้ตลอดยังไม่เห็นออกมา” นายเพิกรายงาน

“นังดาว แกนึกหรือว่าจะหนีฉันพ้น นายเพิกแกเอายาสลบมาหรือเปล่า” 

แขไขถามลูกสมุน การจะลากตัวดาริกาออกมาท่ามกลางคนมากมายเป็นเรื่องยาก จำเป็นต้องทำให้หมดฤทธิ์เสียก่อน

“คนในร้านเยอะ ผมว่าถ้าเราไปเอาตัวออกมา คงจะมีคนขัดขวาง”

นายเพิกไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เขาเคยติดคุกมีคดีมาก่อน ไม่อยากกลับไปกินข้าวแดงอีก

“ใครว่าฉันจะไปลากคอมันในร้านล่ะ รอมันออกมาออกมาก่อนสิ”

แขไขส่ายหน้ากับความโง่ของลูกน้อง เธอไม่ได้มีอิทธิพลคับฟ้า จนทำอะไรตามใจตัวเองได้ การลากคอลูกเลี้ยงกลับไปยังต้องรอโอกาสเหมาะๆ

ดาริกาเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินกลับมาที่โต๊ะ พบว่าเชิญขวัญจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว

“ฉันเลี้ยงเอง ไว้คราวหน้าเธอค่อยจ่าย ไปกันเถอะใกล้เวลาเรือจะออกแล้ว”

เชิญขวัญบอกเพื่อนสาว ก่อนจะชวนดาริกาออกจากร้าน สองสาวเดินมาถึงลานจอดรถ ไม่ทันจะเดินไปยังรถ เชิญขวัญก็เห็นแขไขเสียก่อน รีบฉุดแขนเพื่อนลากพาเข้าร้าน

“ยายแม่เลี้ยง มาดักจับเธอหน้าร้าน มันรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่”

“แล้วเราจะทำยังไงดี”

ดาริกาจับแขนเพื่อนไว้แน่น เธอไม่ยอมถูกแขไขลากตัวกลับบ้านแน่

“ฉันจะออกไปก่อน จะขับรถไปรออยู่ข้างๆ ซอย เธอแอบหลบไปหลังร้านนะ ยายแม่เลี้ยงจะได้ไม่เห็น”

“ถ้าอย่างนั้นเธอออกไปก่อนนะ ฉันจะตามไป”

ดาริกาพยักหน้ารับรู้แผนการของเชิญขวัญ ก่อนจะแยกย้ายกันไป

ดารินทร์กลับมาที่โต๊ะแล้ว บรรเจิดก็ชวนกลับ

“ใกล้เวลาเรือจะออกแล้วครับ เรารีบไปที่ท่าเรือกันเถอะครับ เดี๋ยวจะพลาดเที่ยวเรือ” บรรเจิดบอกทุกคน

“น้องดาวอยากได้อะไรอีกหรือเปล่าครับ” นทีถามคู่หมั้นสาว

“ไม่ค่ะ อยากกลับไปพักแล้วค่ะ วันนี้เดินเที่ยวจนเมื่อยขาไปหมด” ดารินทร์ส่ายหน้า

“ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเลย”

นทีผายมือให้ดารินทร์เดินนำ เขากับบรรเจิดเดินตามหญิงสาวออกไป ไม่ทันจะถึงหน้าร้าน ดารินก็นึกได้ว่าลืมถุงใส่กระเป๋าไว้ที่โต๊ะ

“ดาวลืมถุงกระเป๋าค่ะ วางไว้ที่เก้าอี้ ลืมหยิบมาด้วย”

“เดี่ยวพี่ไปเอามาให้เอง รอที่นี่นะ” นทีอาสาไปเอามาให้

“ผมว่าเจ้านายพาคุณหนูดาวไปรอที่รถดีกว่า เดี๋ยวผมไปเอาให้เอง”

บรรเจิดท้วงขึ้น ก่อนจะรีบหมุนกายเดินกลับไป ทันใดนั้นก็มีคนเดินสวนมา คนคนนั้นอุ้มเด็กน้อยมาด้วย และเหมือนฟ้าแกล้งเด็กทำแก้วน้ำหวานหลุดมือตกใส่แขนของนที ทำให้แขนเสื้อเลอะไปด้วยคราบน้ำหวานเหนียวๆ

“ขอโทษนะคะ ทำคุณเลอะหมดเลย”

แม่ของเด็กรีบขอโทษ พยายามจะช่วยเช็ดให้ นทีส่ายหน้าไม่ถือสา

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปล้างเอง พาน้องขึ้นรถเถอะครับอากาศร้อนเดี๋ยวจะไม่สบาย”

“ขอโทษด้วยนะคะ”

แม่ของเด็กเอ่ยขอโทษอีกครั้ง ก่อนจะพาลูกไปขึ้นรถ

“พี่น้ำเข้าไปล้างที่ห้องน้ำเถอะค่ะ ดาวจะรอที่รถนะคะ”

ดารินทร์เห็นว่านทีเปื้อนคราบน้ำหวาน จึงให้เขาไปทำความสะอาดก่อน

“รอพี่แป้บนึงนะ เดี๋ยวพี่กลับมา”

นทีรีบเดินกลับเข้าไปข้างในทันที ปล่อยให้คู่หมั้นสาวเดินออกไปเพียงลำพัง

“ร้อนจัง ไปรอในรถดีกว่า”

ดารินทร์เดินไปยังรถที่จอดอยู่ ไม่ทันจะได้เปิดประตูรถ ก็มีใครบางคนมาจากด้านหลัง รัดคอเธอไว้แน่น หญิงสาวดิ้นหนีอย่างตกใจ

“ว้าย ช่วยด้วย ช่วย... อุ๊บ!”

ยังไม่ทันจะร้องขอความช่วยเหลือ ก็ถูกผ้าที่มีกลิ่นเหม็นเอียนโปะลงบนจมูก ดารินทร์พยายามดิ้นรนขัดขืน ก่อนจะหมดแรงพร้อมกับอนุสติสุดท้ายได้หลุดลอยไป

“นังตัวดี คิดหรือว่าจะหนีพ้น”

แขไขมองร่างอ่อนปวกเปียกของหญิงสาว ที่ถูกนายเพิกพยุงไว้อย่างสะใจ ลูกเลี้ยงของเธอกลายเป็นลูกไก่ในกำมืออีกครั้ง และครั้งนี้เธอจะไม่มีวันยอมปล่อยให้หลุดมือไปเด็ดขาด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 13.แผนการร้าย/2

    สามแม่ลูกกลับมาถึงบ้านได้ ก็พากันมานั่งปรึกษาหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น แขไขใบหน้าเคร่งเครียดจนเห็นรอยย่นเล็กๆ บริเวณหน้าผาก ยามนี้ครีมบำรุงราคาแพงยังช่วยรั้งรอยย่นนั้นแทบไม่ไหว “ใครจะคิดว่า จะมีคนหน้าตาเหมือนนังดาวอยู่ด้วย บ้าบอที่สุด” เจนจรัสเปรยออกมาทำลายความเงียบ หลังจากพากันนั่งคิดจนหัวแทบแตกก็ยังหาทางออกไม่เจอ ระหว่างขับรถกลับบ้านผู้เป็นมารดาได้เล่าเรื่องจับผิดตัวให้เธอกับน้องสาวฟัง “ที่บ้ายิ่งกว่า เราดันจับมันมาผิดตัว เฮ้อ...” นลินรัตน์ถอนหายใจออกมา “นี่แกจะโทษว่าคุณแม่ตาถั่วเหรอ นังลูกวัว” คนเป็นพี่แหวใส่น้องสาว ยามอารมณ์ไม่ดีมักจะเรียกน้องสาวว่าลูกวัวตามมันสมองของอีกฝ่าย คนเป็นน้องโดนเรียกแบบนั้นก็ทนไม่ไหว “ฉันชื่อลูกบัวไม่ใช่ลูกวัวค่ะ คุณพี่เจนจัด” ด่ามาด่ากลับไม่ยอมแพ้ ถึงจะถูกมองว่าสมองน้อยแต่นลินรัตน์ก็ปากดีได้เชื้อมารดามาเต็มๆ ยามร่วมมือกันก็ด่าชาวบ้านได้แสบสันต์ แต่ยามปะทะกันเองก็ไม่เคยราฝีปากให้กันและกัน ดังคำเปรียบเปรยว

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 12.แผนการร้าย/1

    ที่โรงพยาบาล ห้องผู้ป่วย นทีสั่งให้บรรเจิดไปจัดการเคลียร์ปัญหากับรถที่ชนคู่หมั้นของเขา จากนั้นก็มาเฝ้าไข้คนเจ็บรอเวลาให้หญิงสาวฟื้นขึ้นมา แพทย์ผู้รักษาบอกว่าอาการของเธอไม่ร้ายแรงมาก แต่ต้องรอดูตอนฟื้นว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง “ปวด... ปวดหัว”เสียงครางแผ่วดังขึ้น ปลุกให้คนที่นอนอยู่รีบลุกขึ้นมา นทีขยับลุกจากโซฟายาวมายังเตียงคนเจ็บ“เป็นอะไรหรือเปล่าน้องดาว” เขาเอ่ยถาม ขณะกดกริ่งเรียกพยาบาล“ปวด... ฉันปวดหัว เจ็บไปหมด”หญิงสาวเอ่ยออกมาทั้งที่ตายังไม่ปิดอยู่ มือยกขึ้นแตะบนแผลที่ศีรษะ ใบหน้างามมีรอยเหยเกเมื่อมือสัมผัสโดนแผลที่เจ็บ ค่อยลืมตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง เมื่อแสงสว่างจ้าเกินไป“ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับน้องดาว พี่จะดูแลน้องดาวเอง” นทีปลอบโยน เขาจับมือของเธอเอาไว้ มองอาการของคนเจ็บด้วยสายตาห่วงใย คู่หมั้นของเขามีอาการหลับๆ ตื่นๆ ไม่ได้สติมาตลอดสามวัน“คุณเป็นใคร ฉันไม่รู้จักคุณ”ดาริกาดึงมือออก มองชายหนุ่มที่กุมมือเธอด้วยสายตาของคนไม่รู้จักกัน ทำเอานทีใจหายวาบ“พี่เป็นคู่หมั้นของน้องดาว พี่ชื่อนทีหรือพี่น้ำ น้องดาวค่อยๆ นึกนะครับ”“ไม่ ฉันจำอะไรไม่ได้ แล้วที่นี

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่11. หนีไม่พ้น/3

    นทีเดินกลับเข้าไปในร้าน พบกับบรรเจิดที่เดินมาพอดี“อ้าวเจ้านาย มีอะไรหรือเปล่าครับ”“มีคนทำน้ำหวานหกใส่น่ะ ฉันต้องไปล้างก่อน น้องดาวรออยู่ที่รถบรรเจิดไปดูแลเธอด้วยนะ เดี๋ยวฉันตามไป”นทีบอก ก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำ เขาเข้าไปล้างคราบน้ำหวานออกจากแขนเสื้อ ใช้ทิชชูซับจนแขนเสื้อหมาด จึงกลับออกมา ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นร่างคุ้นตาของหญิงสาวคนหนึ่ง เดินย่องไปทางด้านหลังของห้องน้ำ เขานิ่วหน้าด้วยความสงสัยแล้วเดินตามเธอไปทันทีหญิงสาวเดินออกจากประตูหลังร้าน มองซ้ายมองขวาอย่างระแวง ก่อนจะรีบซอยเท้าจะเดินออกไปตามถนนในซอยข้างร้าน ไม่ทันจะเดินไปไกลก็ถูกจับแขนรั้งเอาไว้ก่อน“น้องดาว จะไปไหนหรือครับ”นทีจับข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ เอ่ยถามเสียงเข้ม“ปล่อยนะ แก... แกเป็นคนของน้าแขใช่ไหม ปล่อยนะ”ดาริกาสะบัดมือออกจากการจับของนที แล้วรีบวิ่งหนีทันที ชายหนุ่มรีบวิ่งตามไป เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคู่หมั้นสาวถึงทำท่าเหมือนกลัวเขาทำร้ายด้วย แถมยังวิ่งหนีเขาไปอีก“หยุดเดี๋ยวนี้นะน้องดาว!” นทีตะโกนเรียก“อย่านะ อย่าตามมานะ ว้าย!”เอี๊ยด... โครม!รถคันหนึ่งเบรกเสียงดัง ก่อนจะหักพวงมาลัยหลบร่างของคนที่วิ่งตัดหน้ารถ ไปชนเข

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่10. หนีไม่พ้น/2

    หลังจากออกมาจากธนาคาร เชิญขวัญก็พาดาริกามาไหว้พระขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต“ทำบุญไหว้พระแล้ว ต่อไปชีวิตของเธอก็จะเจริญรุ่งเรือง พ้นทุกข์ พ้นเคราะห์เสียทีนะยายดาว”“ฉันก็หวังว่าต่อไป ชีวิตของฉันจะได้พบสิ่งดีๆ บ้าง อย่างน้อยก็ขอให้ได้พบหนทางแก้ปัญหา”ดาริกาพนมมือกราบพระประทานในโบสถ์ ใบหน้ามีร่องรอยแจ่มใสไม่อมทุกข์เหมือนที่ผ่านมา ภาวนาให้ชีวิตข้างหน้าได้พบเจอสิ่งดีๆ หลุดพ้นจากคนชั่วร้ายอย่างแขไข“อีกชั่วโมงกว่าเรือเที่ยวต่อไปจะออก ฉันว่าเราไปเดินเล่นแถวๆ นี้กันดีไหม”เชิญขวัญเห็นว่ามีเวลาเหลือ จึงชวนเพื่อนเดินเล่น ก่อนที่จะพาไปกันไปยังท่าเรือ สองสาวเดินชมเมืองเก่าและแวะเดินดูของที่ระลึก ดาริกาไปติดใจกระเป๋าถัก“ป้าคะ ใบนี้ราคาเท่าไหร่คะ” ดาริกาถามแม่ค้า“ใบละสองร้อยค่ะ เอ... เหมือนเมื่อกี้คุณเพิ่งซื้อไปไม่ใช่หรือคะ”แม่ค้าบอก ก่อนจะทักขึ้นอย่างกังขา ว่าลูกค้าคนนี้เพิ่งซื้อกระเป๋าถักไปเมื่อครู่นี้เอง“เราเพิ่งมาค่ะป้า ป้าจำคนผิดแล้วค่ะ”เชิญขวัญท้วงขึ้น ยิ้มขำเมื่อนึกว่า ป้าแม่ค้าคงจำคนผิด“อ้อ สงสัยป้าจำคนผิดจริงๆ เอาใบนี้นะคะเดี๋ยวป้าใส่ถุงให้นะคะ”แม่ค้ายิ้มเก้อๆ เสไปหยิบถุงมาใส่กร

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่9. หนีไม่พ้น/1

    ในตอนเช้า อัคคีสั่งให้ขจรเช็ครายชื่อแขกที่เข้าพักในรีสอร์ต เพื่อค้นหาตัวว่าที่เจ้าสาวของเขาแต่ก็ไม่มีรายชื่อของดาริกา พัทธนันท์กุล ปรากฏในรายชื่อของคนเข้าพัก สร้างความหงุดหงิดใจให้เจ้าพ่อเกาะร้อยดาวมาก เมื่อคืนเขาปล้ำจูบเธอแต่ถูกอีกฝ่ายสวนกลับจนแทบสูญพันธุ์ ยังเจ็บจุกจนบัดนี้ หากไม่ได้ตัวเธอมาแก้แค้นให้สาสม เขาไม่มีวันหายเจ็บใจ “ดาริกา... หนูดาว ฉันจะให้เธอชดใช้สิ่งที่เธอทำกับฉันให้ได้ ฉันจะทำให้เธอร้องขอความเมตตาจากฉันคนนี้”อัคคีคำรามในคอ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดโทรหามารดา เขาต้องการให้ท่านจัดการกับลูกหนี้ขัดดอกคนนี้ให้เขา“คุณแม่ครับ ผมจะจัดงานแต่งที่เกาะร้อยดาว หาฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่สุดให้ผมด้วย”“มาใจร้อนอะไรตอนนี้ เมื่อก่อนบอกให้หาเมียก็ทำยักท่า ตอนนี้ทำใจร้อนอยากแต่งเมีย”คนเป็นแม่เหน็บแนมลูกชายด้วยความหมั่นไส้“ก็ผู้หญิงที่คุณแม่หาให้ ถูกใจผมนี่ครับ ผมเลยอยากแต่งงานไวๆ ว่าแต่ทางนั้นเขาตอบตกลงแล้วใช่ไหมครับ”“คุณแขไขเขาตอบตกลงแล้ว เหลือแค่ทางเราหาวันแต่งเท่านั้นแหละ”อัคคีกระตุกยิ้ม นึกถึงท่าทางพยศของหญิงสาวเมื่อคืนแล้ว ก็แอบคิดว่าอีกฝ่ายคงแกล้งหยั่งเชิง หวังทำให้เขาสนใจ แต่วิ

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่8. จอมโจรคนเถื่อน/4

    “ใช่ หนูดาวหนีไปแล้ว ฉันเป็นคนบอกให้ลูกของฉันหนีไปเอง อย่าหวังว่าฉันจะบอกเธอว่าหนูดาวหนีไปไหน เพราะฉันเองไม่มีทางบอกเธอ”นายพิพัฒน์ปัดมือของแขไขออก เขาใช้แรงที่มีทั้งหมด ผลักร่างของผู้หญิงใจร้ายคนนี้จนเซล้ม นั่นทำให้แขไขโกรธยิ่งกว่าเดิม ลุกขึ้นได้ก็เข้ามาทุบตีนายพิพัฒน์ คนป่วยได้แต่ปัดป้องตัวเอง แต่ก็หนีไม่พ้นถูกตีไปหลายตุบ นางแก้วกับนายชมที่ได้ยินเสียงรีบเข้ามาห้าม แต่แขไขกลับเรียกลูกสาวให้มาช่วยกันคนแก่ทั้งสองออกไป“ยายเจน ลูกบัว มาช่วยแม่ด้วย มันรุมแม่!”เจนจรัสกับนลินรัตน์รีบเข้ามายื้อยุดฉุดนายชมกับนายแก้วเอาไว้ แขไขได้โอกาสเข้าไปทุบตีนายพิพัฒน์อีก“โอ๊ย! นังสารเลว นังยักษ์ใจมาร”นายพิพัฒน์ด่าทอภรรยาด้วยความเจ็บแค้น เขาปกป้องตัวเองไม่ได้ แต่ก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำร้ายข้างเดียว ด่าทอกลับบ้าง มือทั้งสองปัดป้องการตบตีของแขไขอย่างอ่อนแรง ร่างกายถูกทุบตีจนแดงช้ำหลายแห่ง“ฉันจะไม่ให้คุณกินข้าว จนกว่าคุณจะยอมบอกว่า ยายดาวอยู่ที่ไหน ยายแก้วกับนายชม พวกแกสองคนห้ามเอาข้าวให้คุณพิพัฒน์กิน ถ้าฉันรู้ว่าใครขัดคำสั่ง ฉันจะไล่พวกแกออกจากบ้าน ลูกบัวไปเอากุญแจมาล็อกห้องไว้ ไม่มีคำสั่งจากแม่ อย่าให้ใคร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status