ชั่วลัดนิ้วมือเดียวกระบี่ของชายชุดแพรแทงใส่หน้าอกชายเสื้อดำ พลันหนังสือเล่มหนึ่งหลุดจากอก ชายชุดแพรควงกระบี่เป็นวง ชายเสื้อดำตื่นตระหนก ด้วยสภาวะอันเร่าร้อนรุนแรงเช่นนี้ มือกระบี่ชุดแพรซัดกระบี่ใส่ข้อมือชายเสื้อดำ พลันที่กระบี่หลุดจากมือชายเสื้อดำเตรียมล่าถอย แต่ไม่ทันที่บุรุษชุดแพรรุกไล่ใส่จุดหัวใจ
บุรุษชุดดำทั้งแตกตื่นลนลาน ทั้งเคลือบแคลงสงสัย ครุ่นคิดขึ้น
“ไฉนเลยมันไวปานนี้”
เมื่อมันรู้สึกตัว พลันเห็นเพียงจุดเลือดปรากฏรอยวงบนหน้าอก ชายเสื้อดำก้มมองดูตัวเอง พลันทรุดลงกับพื้น “มันต้องเป็นของข้า” เขากล่าววาจาสุดท้ายพลันขาดใจพร้อมลมหายใจห้วงสุดท้าย
รวดเร็วปานสายฟ้า
บุรุษชุดแพรตวัดกระบี่ลงฝัก แล้วก้มลงเก็บหนังสือเล่มนั้น โดยไม่ใส่ใจชายเสื้อดำที่กรุดกองอยู่กับพื้น
เสี้ยวอึดใจนั้นสตรีนางหนึ่งออกจากที่ซ่อน พลางกล่าวเสียงดัง “ฮุ้นกอ ข้ากลัวยิ่ง” นางกล่าวเสียงอ่อนหวาน ส่งสายตาหยดย้อย “นี่หนังสือใดหรือ”
“หนังสือที่สตรีไม่ควรเห็น มันอันตรายยิ่งนัก หากตกไปในมือสตรี โดยเฉพาะสตรีอ่อนหวานอย่างเจ้า”
“ขอข้าดูหน่อยสิ ฮุ้นกอ”
บุรุษชุดแพรที่แท้แล้วคือ เล็กเซี่ยวฮุ้น รีบชิงกล่าว “มิได้ น่ำเจ็ง อ้อ”
“ข้าบอกฮุ้นกอแล้ว น่ำเจ็งได้ลับหายจากโลกไปแล้ว บัดนี้มีแต่อี้อึ้ง” นางกล่าวแล้วสะบัดหน้าอย่างงามงอน
“ข้า... ข้อขอโทษที่ล่วงเกินเจ้า”
“ท่านก็ล่วงเกินข้าทั้งหน้าและหลังมาแล้วนี่ ใยจึงกล่าวเช่นนี้”
“ข้าล่วงเกิน มันคนละอย่างกัน รึว่าเจ้าต้องการให้ข้าล่วงเกินอีก ภายหลังจากวันนั้นแล้ว ข้า ข้า...มิได้” บุรุษชุดแพรหรือเล็กเซี่ยวฮุ้นรู้สึกถึงแก่นกายตัวเองพองใหญ่ ยิ่งเมื่อนึกถึงบทบาทร่วมกันเมื่อครั้งนางเจอพิษ เพียงภาพในอดีตว้าบขึ้นมาในห้วงนึกคิด เขาถึงกับครางออกมา”
“ท่านครางอันใด ฮุ้นกอ”
“ข้าแค่คิด คิดถึง อดีตที่ผ่านมา ข้า ข้าก็เสียวไปหมดทุกสัดส่วน ข้าว่าเจ้าก็คงไม่ต่างจากข้า”
“ให้ข้าดูหนังสือก่อน แล้วข้า ข้าจะให้ฮุ้นกอทำตามที่ต้องการ” อี้อึ้งหรือน่ำเจ็งในอดีตเอียงอาย ใบหน้าแดงซ่านเป็นลูกพลับ
เล็กเซี่ยวฮุ้นรีบส่งหนังสือให้นาง พลางสูดปากอย่างพึงใจ
อี้เอ็งรับหนังสือมาพลิกดู ทันทีที่นางเปิดดู เพียงลำดับแรกของหน้า ใบหน้านางก็แดงซ่าน มันเป็นภาพบุรุษหนุ่มกับสตรีซึ่งมังกรขนาดใหญ่ กำลังดันเข้าหว่างกลางร่องเนื้อฉ่ำเยิ้มของสตรีนางหนึ่ง ภาพต่อๆ มาเป็นภาพของสตรีกับบุรุษอื่นอีกมากมาย ในลีลาทาทางต่างๆ
“นี่คือหนังสืออันใด” อี้อึ้งหลบตากล่าว นางเคอะเขินเสียจนมิกล้ามองหน้าบุรุษแซ่เล็ก
“มันคือตำราโบราณที่สูญหายไปหลายชั่วคน หากสตรีใดร่ำเรียนเคล็ดวิชาจากตำรานี้ จะปรากฏวิทยายุทธสูงส่ง จะสำเร็จเคล็ดวิชาสุดยอด ลมปราณมีกำลังเหนืออาชาร้อยตัว จะถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศและมีพลังที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยผู้คนได้ รวมถึงจะมีอายุยืนยาว”
“มันดีเช่นนี้หรือ มีตำราเช่นนี้ด้วย”
“เพียงแต่....”
“เพียงแต่อันใด”
บุรุษแซ่เล็กก้มหน้า มันลังเลยากจะกล่าว
“เพียงแต่อันใด ฮุ้นกอ บอกข้าเถิด แล้วข้าจะสมนาคุณท่าน”
บุรุษแซ่เล็กได้ยินดังนั้น มังกรของเขาก็ผงาดง้ำ เขาเผลอหลับตานึกถึงเรือนร่างของโฉมสะคราญเบื้องหน้า เผลอครางเสียงหลง “นี่เราไม่ได้พบกันนานเพียงใด น่ำเจ็ง”
“อี้เอ็ง”
“อี้เอ็ง ข้าปรารถนาในตัวเจ้ายิ่งนัก”
“ถ้าเช่นนั้นก็รีบบอกข้าเร็วเถิด”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มันลังเลอีก รีบกล่าว “ก็ได้ ข้าจะบอก คืออันว่า หากสตรีนางใดต้องการสำเร็จวิทยายุทธชั้นสูงนี้ ต้องเดินทางเสาะหาบุรุษตามคำแนะนำในตำราและให้เขาถ่ายทอดพลังหยางอย่างน้อยหนึ่งคราว”
“มิยากนี่ ฮุ้นกอ
“มันมิใช่เพียงคนเดียว ผู้ปรารถนาสำเร็จวิชา ต้องให้บุรุษถ่ายทอดพลังหยางถึงหมายคาดว่า คือบุรุษที่เกิดแตกต่างกันถึงทุกนักษัตร ในอดีตยังมิมีสตรีนางใดสำเร็จวิชานี้ มักจะขาดใจ พลังลมปราณสิ้นสุดเสียก่อนจะครบ”
“มันยากขนาดนั้นเลยหรือ ฮุ้นกอ”
“ยากขนาดนั้นสิ ข้าถึงได้ต้องการมาทำลาย มิให้สตรีนางใดได้อ่าน โดยเฉพาะเจ้า”
“ฮุ้นกอก็รู้ ข้าเคยพบพานกับท่านห้าครั้งภายในไม่กี่ชั่วยาม มังกรของท่านก็ตัวน้อยเสียเมื่อไหร่ แค่ข้านึกภาพบทรักครานั้น ข้าก็ ก็” นางรู้สึกถ้ำน้อยของตัวเองชุ่มฉ่ำเสียแล้ว
“เช่นนั้นเรามารำลึกถึงความหลังกันเถอะ”
กล่าวจบบุรุษแซ่เล็กรีบถลาไปหานาง รีบแกะสายรัดออก
“เราจะ.. จะ... ตรงกลางแจ้งนี้เลยหรือ”
“ดีสิ กลางแจ้ง ตื่นเต้นดี ข้าชอบ เจ้าจะลองดูดีหรือไม่”
อี้เอ็งเกิดความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา นางจึงตอบรับคำเชื้อชวน “ดีสิ ฮุ้นกอ
“เช่นนั้นแล้ว เรามิควรชักช้า ข้าปรารถนาในตัวเจ้ามิใช่น้อย”
เล็กเซี่ยวฮุ้นเอื้อมมือปลดสายรัดนางออก พลางลูบไล้ปทุมถันของนางอย่างเบามือ เม็ดบัวน้อยสู้มือ
ขณะที่มือของนางก็คว้าจับมังกรร้ายของบุรุษ มันผงกศีรษะสู้พลางขยายใหญ่จนนางกำไม่รอบ แม้นางจะเคยเห็นมาแล้ว ทว่าเมื่อเห็นอีกครา ใจก็เต้นแรง
นางรูดขึ้นรูดลง พลางมองศีรษะมังกรที่บานใหญ่และกลมมน ลำตัวของมันเล่าก็แน่นตึง มีเส้นเลือดปูนโปนราวกับเถาวัลย์พันรอบ ดูแล้วนางหายใจหนัก เมื่อนึกว่ามันต้องเข้าไปในตัวนาง นางตื่นกระสัน ใจเต้นแรง นางเผลอกำและรูดเข้ารูดลงแรงขึ้น
หนุ่มลูกน้องกระแทกอย่างบ้าคลั่งและเมามันอยู่พักใหญ่มันพานางไปที่เตียง ตัวมันนั่งลง ปล่อยคามังกรไว้ นางหมุนตัวไปทางเท้าของมันมังกรของมันจึงอยู่ในท่าที่นางจะควบขี่ได้โดยง่าย นางจึงโยกขึ้นโยกลงโยกไปทางซ้าย หมุนไปทางขวา“โอ้ว เสียวยิ่งนัก แม่นาง” มันตะโกนร้อง “มันดีอย่างนี้ได้เช่นกัน”นางผลักตัวเองออก ก่อนหันหน้ามาหามัน “ข้าชอบให้เจ้าถึงร่วมกันกับข้าทางด้านหน้า”“มิอาจมีปัญหา” มันกล่าวนางแอ่นกาย หยัดเกร็ง พลางเสียวซ่านตัวเกร็งไปทั่งสรรค์พางกาย ขยี้ปทุมถันของตนไปตามอารมณ์มุ่งหมายขณะที่มันดันมังกรเข้าถ้ำเป็นจังหวะครั้งแล้วครั้งเล่า กระแทกกระทั้นอย่างแรงไม่หยุด แล้วมันก็ดันมังกรเข้าครั้งสุดท้ายสุดแรงเกิด ร่างมันก็กระตุกเฮือกครั้งใหญ่ ก่อนจะปล่อยน้ำพลังหยางเข้าสู่ร่างกายนางนางกลับกอดร่างบุรุษแน่น ยกขาก่ายกอดรวบรัดสะโพกมันไว้ มันกระตุกอีกสองสามครา ก่อนจะฟุบร่างลงซบอกนางมันถอนกายออกเพื่อนมันอีกคนเข้าหานาง จับสะโพกนางให้โด่งเด่น แล้วดันมังกรของตนเข้าบ้างเป็นท่าสุนัขที่มันชื่นชอบนางสูดลมหายใจเข้าออก “เอาสิ อย่าช้า ข้ายังต้องการของพวกเจ้า”มันคนนี้จับสะโพกนาง โยกคลึงมังกรของตนบดเข้ากับส
ย่งฟางครางเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วที่สุดนางก็ร้องลั่นห้อง“ข้า ไม่ เคย เสียว อย่าง นี้ มา ก่อน เล ย ย ย ย ย ย ย ดี ที่สุด เลยย ย โอ้ว ย๊ากกกกกก”นางปล่อยน้ำรักผสมกับน้ำของบุรุษไหลมาตามง่ามขาหมิงป้าก้มลงซุกไซร้ไปตามใบหน้านาง ซอกคอนาง แล้วขบกัดเบา นางถึงร้องอีกคราฝ่ายหมิงจางเห็นดังนั้นจึงเล้าโลมนางอีก เขาเลียข้อเท้านาง มือก็วนคลึงสะโพกแล้วแอบสอดลิ้นตวัดเลียไปรอบถ้ำนางด้านหลัง ย่งฟางถึงกับเสียวสะดุ้งเป็นอีกความรู้สึกที่นางเพิ่งเคยได้รับหมิงจางอุ้มนางวางลงกับเก้าอี้ที่มีผ้าไหมรองตรงกลางห้อง เขาก้มลงกวาดลิ้นไล้ไปรอบปากถ้ำและรอบประตูหลัง นางแอ่นกายขึ้น แหงนหน้าสูดปากร้องอีกครา หมิงป้ายทำวนสลับไปมาเช่นนี้ อย่างมิหยุดหย่อนหมิงจางดูดเลียถันนางจากซ้ายย้ายไปขวา มันใช้มืออีกข้างคลึงเม็ดบัวนาง ขณะที่ปากก็ดูด ดุน วนเลียเม็ดบัวอีกข้าง สลับไปมาเช่นนี้อู่อีกพักหนึ่งลูกน้องคนสนิทยืนรูดมังกรขึ้นลง นางแหงนหน้ามองมันแล้วร้องวู้ มังกรมันกำยำเต็มไปด้วยหนามรัด มันจับมังกรมันถูไถไปตามขานางได้สักพัก ลูกน้องคนสนิทก็ถอยห่าง เพราะนางจ้างมันมา“เจ้าต้องรอ” หมิงปู้กล่าวหมิงปู้ว่าแล้วก็เดินไปถอดสายรัดนางอ
“พวกท่านเป็นแต่บุรุษ” “ใช่สิ พวกข้าบุรุษทั้งแท่ง” “ข้า รำไม่ได้หรอก” “หาไม่รำ ข้าจะฟ้องมารดาท่านเรื่องแอบมองมังกรของเขามังกรที่ถูกรูดขึ้นรูดลงด้วย ลองคิดดูสิ มารดาเจ้าจะเป็นเช่นไร” ย่งฟางนึกถึงมังกรกำยำใหญ่ยาวในมือนั้นแล้วร้อนวุบวาบ แอบหน้าแดง หมิงป้ายจึงพูด “ถึงกับหน้าแดงเชียว ฮ่าๆ” ย่งฟางยิ่งมีใบหน้าที่แดงมากขึ้น หมิงจางจึงถาม “ไหนลองบอกข้าหน่อยสิ เมื่อเจ้าเห็นมังกรเขาแล้ว เจ้าทำสิ่งใดต่อจากนั้น” นางก้มหน้าหลบ “ข้า ข้า มิได้ทำสิ่งใด” “เจ้ามิได้มีอารมณ์ร้อนหรือ” “มี” “แล้วเจ้าไม่ขจัดมันให้หมดหรือ” “ขจัด? ข้าทำไม่เป็น” “นี่เจ้า อย่าบอกนะว่าทำไม่เป็น” “ข้าไม่รู้จักว่ามันคืออะไร” ทั้งสี่คนหัวร่อขึ้น หมิงป้ายถึงกับพูด “โถ เจ้านี่ไร้เดียงสานัก” กล่าวจบเขาก็กระซิบที่หูนาง เคราที่เพิ่งโกนออกไปมันแหลมทิ่ม ทำเอานางจักกะจี้และรู้สึกแปลกๆ “ข้าจะสอนให้” “อย่างไร” “อย่างนี้ไง” หมิงป้ายเอื้อมไปลูบที่ต้นขานาง เขาลูบแผ่วๆจ
มังกรที่บุรุษกำอยู่นั้นขยายใหญ่ ขณะที่บุรุษหลับตาพริ้ม เขาสาวมันขึ้นลง มังกรที่ขยายใหญ่ก็เผยให้เห็นศีรษะที่แดงก่ำ เขาสูดปาก โก่งเอว หน้าท้องเขาแบนราบและเต็มไปด้วยกล้ามมัดเล็กๆ มังกรนั้นก็ยาวใหญ่พ้นมือที่กำไว้ล้นเหลือ จนนางลอบมองมือตนเองที่อาจจะเล็กกว่ามังกรของเขาก็เป็นได้ เขาสาวๆ มังกรขึ้นลงอยู่นั้นพักหนึ่งก็ต้องหยุดลง เมื่อบุรุษนายหนึ่งเดินผิวปากส่งเสียงมา มันคือหมิงป้าย คุณชายใหญ่ของพวกมันนั่นเอง บุรุษคนนั้นรีบชำระกาย เลิกสนใจมังกรตัวเองและมันก็ค่อยๆ เล็กลง บุรุษชำระกายอย่างรวดเร็วและออกจากห้องนั้น ขณะที่คุณชายใหญ่ผิวกายมาถึงห้องชำระกาย “ใครอยู่” “ข้าผู้น้อย หลินอันขอรับนายท่าน” “อืม มิมีอันใด ข้าแค่เดินเล่นผ่านมา เจ้าชำระกายอยู่หรือ ตามสบายเถิด” “ผู้น้อยธุระเสร็จแล้วนายท่าน” กล่าวจบเขาก็เปิดประตูออกมาและคำนับนายน้อย ก่อนจะเร่งเดินรุดๆ จากไป นายน้อยของพวกมันเดินไปอีกทาง พวกมันหายไปแล้ว ย่งฟางถอนหายใจอย่างเสียดาย นางกลับไปที่เตียง นั่งลงแล้วหลับตานึกถึงมังกรนำมือชายผู้นั้น ท้องน้อยนางถึงกับร้อนวูบวาบ นางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่
พี่เขยบอกให้นางแนบสะโพกลงกับเตียงแล้วเขาก็ออกแรงโยกต่อ พี่เขยเอ่ยปากพูดแต่คำว่ารัก รัก รัก ขณะที่บั้นท้ายก็ยังไม่หยุดสอย เขายกสะโพกตัวเองขึ้นสูง แล้วกระแทกลงอย่าป่าเถื่อนบ้าคลั่ง“ชอบไหม ชอบไหม”“ข้าชอบท่านพี่ แรงอีก แรงอีก อย่าหยุด ขอร้อง อย่าหยุด”นางถูกพี่เขยกระแทกใส่อีกนับไม่ถ้วน แล้วอึดใจต่อมานางก็ทนไม่ไหว นางตัวเกร็งกระตุกเฮือกๆๆ แรงมาก จากนั้นความสุขสุดยอดที่นางปรารถนามาแสนนานก็แล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ และห้วงเวลาเดียวกันนี้พี่เขยก็ตัวกระตุกปล่อยน้ำพลังหยางอันร้อนผ่าวเข้ามาในตัวนางด้วยพร้อมกัน ในที่สุดนางก็เป็นของพี่เขยจริงๆ แล้ว นางร้องยินดีในใจพอเสร็จสมกันไป ทั้งสองคนก็นอนหอบกอดกันบนเตียง นางมีความสุขที่สุดโลก แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกแย่ที่ตัวเองเพิ่งทำเรื่องเลวทรามแย่งแฟนของพี่สาวมา แล้วตอนนี้คงกลับตัวไม่ได้แล้วเพราะโดนเปิดบริสุทธิ์ไปแล้ว จินเหนียงเผลอร้องไห้ออกมาพี่เขยตกใจใหญ่ เขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น นางบอกไปตรง ๆ ว่าเสียใจที่ทำเรื่องไม่ดีแย่งแฟนพี่สาว พี่เขยนิ่งไปพักหนึ่งแล้วก็กอดจินเหนียงแน่น นาทีนั้นเองที่พี่สาวเป
นางลองทำตามแบบมึนงง เพราะกำลังเสียว พอผ่านไปสักพักจินเหนียงก็เริ่มตัวเกร็งทนไม่ไหว พี่เขยเร่งมือเร็วจี๋จนนางตัวกระตุกเฮือก แต่ต้องยกมือขึ้นปิดปากเพราะกลัวเสียงครางหลุดออกไป แล้วนางก็นั่งหอบเพราะถึงสวรรค์คานิ้วของพี่เขยไปหนึ่งรอบพี่เขยบอกว่าให้ช่วยทำให้เขาบ้าง นางจึงช่วยรูดมือเร็วถี่กว่าเดิม พี่เขยมีสีหน้าพอใจ แต่น่าเสียดายที่ครู่เดียวพี่สาวก็ปักผ้าเสร็จเสียก่อน นางจึงต้องรีบถอนมือ รีบดึงชายกระโปรงตัวเองลง แต่พอหันไปมองพี่เขยก็ต้องใจหายวาบ เพราะดูแล้วไม่น่าจะจับมังกรยาวใหญ่กลับเข้าไปในกางเกงได้ เคราะห์ดีที่พี่เขยหัวไวรีบคว้าเอาหมอนมาวางทับปิดเอาไว้ได้ทัน พี่สาวที่เดินผ่านไปจึงไม่เห็นสิ่งผิดปกติ หลังจากวันนั้นทั้งสองก็พยายามหาโอกาสใกล้ชิดกันอยู่เสมอ แต่พี่สาวกลับยิ่งประกบพี่เขย เรียกว่าประกบติดแจ เหมือนราวกับเอะใจ แต่ยังจับคาหนังคาเขาไม่ได้ ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสจริงจัง มีแค่โอกาสเล็กๆ น้อยๆ อย่างเวลาเดินสวนกันพี่เขยก็จะรวบนางไปกอดแล้วจูบปาก บางครั้งก็ตีก้น หรือขยำถันนางเล่น นางเองก็ทำทีเป็นเอียงอาย เก้อเขิน ปัดป้องไปบ้าง บางครั้งเมื่อแอบนึกถึงใต้ชายผ้าของพี่เขย หน้ามันก็แดงขึ้นมาเองจริ