บทที่ 32
ในทุก ๆ ปี ท่านอ๋องหยางซวี่เหวินและพระชายาร่วมถึงบรรดาพระโอรสและพระธิดาจะเสด็จมาเมืองหลวงเป็นประจำทุกปีนั่นก็เพราะพระชายาจะพาหลาน ๆ มาเคารพสุสานบรรพชน
และก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนฮ่องเต้และฮองเฮา รวมถึงองค์รัชทายาทที่ยามนี้โตเป็นชายหนุ่มแล้ว
“ทำไมที่นี่ถึงไม่มีคนอยู่หรือเสด็จแม่” พระโอรสคนที่สี่ซึ่งเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาได้มาที่นี่เป็นปีที่สองแล้ว ตอนนี้เจ้าตัวอายุได้ สี่ชันษาจึงกำลังพูดมากพอสมควร
“เสด็จแม่ลูกอธิบายน้องเองพ่ะย่ะค่ะ”
ทั้ง ๆ ที่หมิ่งหุ้ยอยากจะเลี้ยงพระโอรสและพระธิดาทุกคนอย่างคนธรรมดาสามัญแต่เพราะศักดินาที่มี อย่างไรหนึ่งในทั้งหมดนี่ก็ต้องดูแลที่ดินและชาวบ้านแถว ๆ นั้น จึงทำให้สุดท้ายทุกคนจึงเป็นท่านหญิงและท่านชายที่น่าเคาร
บทที่ 33ตำหนักบูรพาในวันนี้ไม่เหมือนวันเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของตำหนักก็ยิ่งไม่เหมือนเดิม“ไท่จื่อ ฮองเฮาส่งเทียบของคุณหนูตระกูลต่าง ๆ มาให้อีกแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ” ไท่จื่อที่เคยถูกหลอกเมื่อก่อน ตอนนี้โตเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ เขาฝึกยุทธ์เหมือนเสด็จอาของเขา และยังคิดทำอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนเสด็จอาของตนด้วยที่เห็นกันชัด ๆ ก็คงเป็นเรื่องพระชายา เพราะครั้งหนึ่งเคยได้แต่งไปกับคนที่มีนิสัยเช่นซ่งอี้หลิน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องความไว้ใจสตรีหากพูดคุยแล้วพึงใจแต่ดันไปทำอะไรให้พระองค์ตะขิดตะขวงใจแม้เพียงนิด ความพึงพอใจที่ผ่านมาอาจจะกลายเป็นศูนย์ไปเลยก็เป็นได้“แต่ว่า...”“เจ้าไม่ต้องมาพูดม
บทที่ 32ในทุก ๆ ปี ท่านอ๋องหยางซวี่เหวินและพระชายาร่วมถึงบรรดาพระโอรสและพระธิดาจะเสด็จมาเมืองหลวงเป็นประจำทุกปีนั่นก็เพราะพระชายาจะพาหลาน ๆ มาเคารพสุสานบรรพชนและก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนฮ่องเต้และฮองเฮา รวมถึงองค์รัชทายาทที่ยามนี้โตเป็นชายหนุ่มแล้ว“ทำไมที่นี่ถึงไม่มีคนอยู่หรือเสด็จแม่” พระโอรสคนที่สี่ซึ่งเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาได้มาที่นี่เป็นปีที่สองแล้ว ตอนนี้เจ้าตัวอายุได้ สี่ชันษาจึงกำลังพูดมากพอสมควร“เสด็จแม่ลูกอธิบายน้องเองพ่ะย่ะค่ะ” ทั้ง ๆ ที่หมิ่งหุ้ยอยากจะเลี้ยงพระโอรสและพระธิดาทุกคนอย่างคนธรรมดาสามัญแต่เพราะศักดินาที่มี อย่างไรหนึ่งในทั้งหมดนี่ก็ต้องดูแลที่ดินและชาวบ้านแถว ๆ นั้น จึงทำให้สุดท้ายทุกคนจึงเป็นท่านหญิงและท่านชายที่น่าเคาร
บทที่ 31“เป็นข่าวดีพ่ะย่ะค่ะ พระชายาของท่านอ๋องทรงพระครรภ์แล้ว” หลังจากเงียบเชียบนานนับปี ในที่สุดก็มีข่าวดีจากทั้งสอง“ท่านอ๋องเป็นอะไรเพคะ” หยางซวี่เหวินได้ฟังก็ตื้นตันจนร้องไห้ เรื่องนี้ทำให้มู่เฉิงที่เป็นราชองครักษ์ข้างกายตกใจมากจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเย้า “กระหม่อมคงต้องนำเรื่องนี้ไปบอกกับทุกคนแล้ว”หยางซวี่เหวินคิดว่ามู่เฉิงหมายถึงเรื่องข่าวการตั้งครรภ์ แต่เปล่า เจ้าตัวกลับส่งข่าวให้ทุกคนว่าเขาร้องไห้เพราะรู้ว่าพระชายาของตนตั้งครรภ์ “มู่เฉิงหากไม่ใช่เจ้าข้าจะสั่งโบยให้ดู” แม้จะโดนขู่เช่นนั้นแต่มู่เฉิงก็มิได้สะทกสะท้าน นั่นก็เพราะยามนี้ท่านอ๋องทรงประชวร“ทรงรักษาพระวรกายเถอะพ่ะย่ะค่ะ หายแล้วค่อยม
บทที่ 30หลังจากงานมงคลหมิ่งหุ้ยก็ได้เข้าไปยกน้ำชาให้กับฮ่องเต้ ในวังเพราะเสด็จพ่อและเสด็จแม่ของทั้งสองจากไปแล้ว พี่ชายอย่างฮ่องเต้จึงถือเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหมิ่งหุ้ยแต่งเข้าตระกูลหยางก็ต้องเคารพบรรพบุรุษ“อภัยให้กับอี้หลินด้วยนะหุ้ยเอ๋อร์” เสียงของฮองเฮาเอ่ยกับน้องสะใภ้ของตน“ข้าเองก็อโหสิกรรมให้นางแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวถึงได้” ฮ่องเต้หันไปประคองฮองเฮาเอาไว้“เรื่องมันแล้วไปแล้ว จะรื้อฟื้นก็คงจะทำไม่ได้ เจ้าอย่าได้เสียใจไปเลย แม้จะมีความสูญเสียแต่ก็มีเรื่องดี ๆ อย่างการที่เจ้าทั้งสองได้มาเจอกัน คนเป็นพี่อย่างข้าเห็นแล้วก็รู้สึกสบายใจที่ซวี่เหวินจะมีคนรักสักที เจ้ารู้ไหมหุ้ยเอ๋อร์ เขาไม่เคยมีคนรักมาก่อน&rd
บทที่ 29“ในเมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป” หยางซวี่เหวินเอ่ยเช่นนั้นออกไปเพราะเขารู้ว่านางไม่ได้มีใจให้เขาจึงอยากให้นางเป็นอิสระ แม้ภายในใจต้องเจ็บปวดที่วันข้างหน้าจะไร้หมิ่งหุ้ยเคียงข้าง แต่ก็อยากให้นางเป็นผู้เลือก“อย่างที่หม่อมฉันบอกคงกลับไปหาท่านพ่อและเมาเมา อยู่กับพวกเขาทำให้หม่อมฉันสงบใจไม่คิดเรื่องครอบครัวที่จากไปได้บ้าง” หยางซวี่เหวินอยากเอ่ยถามว่าเช่นนั้นไปอยู่กับข้าดีหรือไม่แต่ก็ไม่กล้า แม้จะอยากปล่อยนางไปแต่อีกใจก็อยากเก็บนางเอาไว้ข้างกายทางด้านหมิ่งหุ้ยที่เห็นบุรุษตรงหน้าไม่ได้พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ใด ๆ ก็คิดว่าเขาคงมองเรื่องระหว่างเขากับนางว่าเป็นไปไม่ได้ “บางทีนี่อาจจะเป็นบาปกรรมของหม่อมฉันด้วยที่ทำให้ต้องเดียวดายตลอดไป” นา
บทที่ 28กริ๊ก!เสียงตลับยาสีเงินใบเล็กเปิดออก นางพกมันซ่อนเอาไว้ในถุงหอม ตลับยาหล่นลงบนพื้นเมื่อนางเทของที่อยู่ในถุงหอมออกมา หมิ่งหุ้ยยกยิ้มเย็น นางบรรจงเปิดตลับยานั่น ภายในมีผงสีขาว นอกจากจะเก็บสมุนไพรมารักษาบาดแผลและหากเหลือจะให้ท่านพ่อจางหลงนำไปขายแล้ว สิ่งที่นางตามหาอีกอย่างคือ หญ้าเถา เดิมชาวบ้านจะนำมาบดหยาบแล้วจุ่มลงแม่น้ำเพื่อเบื่อปลา ทำให้ปลาในแม่น้ำหายใจไม่ออกและว่ายขึ้นเหนือน้ำ และแน่นอนว่าหากนำไปบดเป็นผงก็ยังสามารถใช้เบื่อหนูและสัตว์อื่น ๆ ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งมนุษย์ นางผสมตลับหนึ่งไว้ช่วยชีวิตคน อีกตลับเอาไว้… วันนี้นางค่อย ๆ บรรจงเทผงสีขาวลงในปากของซ่งอี้หลินอย่างใจเย็น ทำราวกับกำลังดื่มด่ำชาเลิศรส ชานั่นมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ มันมีชื่อเรียกว่า การแก้แค้นอันหอมหวาน“นี่ใ