Share

บทที่ 3

Penulis: เซี่ยวชิงขวาง
หัวใจของฉู่เยว่หลีเหมือนถูกแทงจนไม่มีชิ้นดีเพราะแววตานั้น

ทั้งสองรู้จักกันมานานหลายปี แถมเดือนหน้าก็จะแต่งงานกัน แต่ยามนี้เขากลับคิดจะฆ่าจะแกงนางเพียงเพราะเด็กสาวคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงครึ่งเดือน

ยามแรงอาฆาตแวบผ่านในแววตาของเขา ความรู้สึกอันลึกซึ้งที่สั่งสมมานานหลายปีก็พลันเปลี่ยนเป็นเรื่องน่าขำ

นางหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “องค์ชายจะแก้แค้นแทนนางหรือ?”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ?” ลู่เฟิงจิ่นกัดฟันกรอด น้ำเสียงรอดออกมาจากไรฟันทั้งเย็นชาทั้งโหดร้าย

จื่อซูได้ยินแล้วก็พันตื่นตระหนก รีบพุ่งตัวเข้ามา “องค์ชายเพคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณหนู ทั่วป๋า เฟเยวียน ทำร้าย...ก่อน”

“ไปให้พ้น!” ลู่เฟิงจิ่นยกเท้าขึ้น ถีบจื่อซูอย่างแรง

จื่อซูล้มกระแทกลงกับพื้น กรีดร้องก่อนจะกระอักเลือดออกมา

“จื่อซู” ฉู่เยว่หลีพลันได้สติ ก่อนจะรีบเข้ามาพยุง จื่อซูขึ้น

จื่อซูอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่พออ้าปากก็กระอักเลือดออกมา นางหายใจแทบไม่ทัน ท้ายที่สุดดวงตาทั้งสองกลอกขึ้น ก่อนจะหมดสติไป

“จื่อซู!” ฉู่เยว่หลีร้องตะโกนอย่างร้อนรน “ฟื้นสิ!”

จื่อซูอยู่ข้างกายนางมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่านางจะเป็นเพียงสาวใช้ แต่ทั้งสองสนิทกันราวกับพี่น้อง ฉู่เยว่หลีเห็นนางเหมือนคนในครอบครัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของฉู่เยว่หลี ความเดือดดาลของลู่เฟิงจิ่นจึงได้จางหายไปบ้าง

น้อยครั้งนักที่เขาจะเห็น ฉู่เยว่หลีท่าทีกระวนกระวายเช่นนี้ เมื่อเห็นดังนั้นจึงอยากเข้าไปปลอบประโลมโดยสัญชาตญาณ

ทว่าทั่วป๋าเฟยเยวียนในอ้อมอกกลับร้องเสียงแหบพร่าออกมา “ไอ้ชาติหมา ข้า... เจ็บเหลือเกิน”

พูดจบก็คอพับหมดสติไป

ลู่เฟิงจิ่นจ้องใบหน้าขาวซีดของนาง และหน้าอกที่เลือดไหลซึมไม่หยุด ความสงสารที่มีต่อฉู่เยว่หลีพลันจืดจางหายไปไม่น้อย

“ในเมื่อเจ้าแทงนางคืนแล้ว จากนี้ไปห้ามเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเป็นอันขาด! หากผู้ใดกล้าเอ่ยถึงอีก ข้าจะไม่ไว้ชีวิตทั้งนั้น! เจ้า... พาจื่อซูไปรักษาแผลเถอะ”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็อุ้มทั่วป๋าเฟยเยวียนที่หมดสติเดินจากไป

ยามเห็นฝีเท้าร้อนรนและแผ่นหลังกระวนกระวายของเขา ฉู่เยว่หลีรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเด็กสาวในอ้อมแขนมากเพียงใด

ทว่ายามนี้นางไม่มีกะจิตกะใจจะคิดถึงมันแล้ว

ในวันนั้น หลังจากฉู่เยว่หลีพาจื่อซูไปรักษาตัวและสั่งการให้คนคอยดูแลแล้ว นางก็เฝ้าฉู่เซียวเหออยู่ข้างกายตลอด

ฉู่เซียวเหอฟื้นขึ้นมาตอนหัวค่ำ หลังจากได้สติก็ไม่พูดไม่จา สติเลื่อนลอย

ฉู่เยว่หลีไม่เอ่ยคำใด ประคองเขาขึ้นมาให้ดื่มน้ำ ก่อนจะให้เขานอนลงเพื่อพักผ่อนอีกครั้ง

เขาหลับตาลง ไม่เอ่ยแม้แต่ประโยคเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ

จวบจนราวเที่ยงคืน ฉู่เซียวเหอถึงได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาสงบสติอารมณ์ลงแล้ว

“อาหลี ยามนี้นางคือคนข้างกายคนโปรดขององค์ชาย องค์ชายกับนาง...” เขาทอดถอนใจก่อนจะเอ่ยต่อ “อาหลี องค์ชายเห็นนางเป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ไม่ได้คิดเป็นอื่นใด เจ้าอย่าได้คิดมาก พี่ใหญ่มองออก ในใจองค์ชายมีเพียงเจ้า”

หัวใจของนางเองพลันเจ็บแปลบขึ้นมา

พี่ใหญ่เป็นถึงขนาดนี้แล้วมีกะใจมาปลอบนางอีก

นางไม่เอ่ยคำใด ฉู่เซียวเหอเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าอีกครั้ง “ต้นเดือนหน้าก็จะถึงวันแต่งงานของเจ้ากับองค์ชายแล้ว เจ้ากับเขารู้จักกันมาหลายปี ไม่ควรจะยอมแพ้เพราะเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยเช่นนี้”

“พี่ใหญ่ ข้าสบายมาก ไม่ต้องปลอบใจข้าหรอก” ฉู่เยว่หลีกุมมือเขาไว้ ก่อนจะพบว่าฝ่ามือของเขานั้นเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง

เหมือนดั่งหัวใจของฉู่เยว่หลีที่หนาวเหน็บ

“ท่านพี่ ท่านรีบหายไว ๆ วันหน้าต้องมีวิธีรักษาแน่นอน” นางเอ่ยเสียงอ่อนโยน

“ได้” ฉู่เซียวเหอหลับตาลง เพียงแต่ครั้งนี้เขาตะแคงศีรษะเล็กน้อย น้ำตาที่หางตาไม่อาจเก็บซ่อนได้อีกต่อไป ไหลลงบนอีกฝั่งของหมอนหนุน

ไม่อยากให้น้องสาวสุดที่รักได้เห็น

ฉู่เยว่หลีมองเห็นอย่างชัดเจน แต่เพื่อศักดิ์ศรีของพี่ใหญ่ นางจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่เห็น

สามวันหลังจากนั้น ฉู่เยว่หลีไม่ได้เจอกับลู่เฟิงจิ่นเลย

จนกระทั่งคืนของวันที่สาม ลู่เฟิงจิ่นถึงได้เดินกระแทกฝีเท้าจากนอกเรือนเข้ามา

“อาหลี ข้าไม่รู้ว่าช่วงนี้ข้าเป็นอะไรไป! อาหลี เจ้าช่วยข้าที ข้าเหมือนจะ...ต้องมนต์ดำเข้าแล้ว”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 100

    ฉู่เยว่หลีปรากฏตัวต่อหน้าลู่เป่ยโม่หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูปแล้วมองเห็นคราบเลือดข้างเท้าของลู่เป่ยโม่ ขมับของนางก็เริ่มปวดตุบๆ ขึ้นมา"ท่านอ๋อง ท่านบาดเจ็บมิใช่หรือ ควรจะรีบกลับจวนโม่อ๋องไปหาหมอรักษาอาการบาดเจ็บโดยเร็ว?"เขาเอาแต่นั่งอยู่ในสวนของนาง ปล่อยให้เลือดจากบาดแผลไหลพรากไม่หยุด นานถึงหนึ่งก้านธูป นางรอให้เขาหมดความอดทนแล้วจากไปเองแต่เขาก็ยังคงไม่ยอมจากไป หากเขาเลือดไหลไม่หยุดและเสียชีวิตที่นี่ ความผิดก็ต้องตกอยู่กับจวนกั๋วกงของพวกนางอีกแล้ว?ช่วงนี้จวนกั๋วกงเผชิญภัยพิบัติครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องยุ่งยากทยอยกันเข้ามา ไม่ช้าก็เร็วคงรับมือไม่ไหว!"ท่านอ๋องทรงมีพระวรกายสูงค่า จะรีบกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บได้หรือไม่?" เลือดนองเต็มพื้น ไม่กลัวหรือว่าตนจะเสียเลือดมากไปจนเสียชีวิตลู่เป่ยโม่เงยหน้าขึ้น มองนางแวบหนึ่งใบหน้าใต้หน้ากากนั้น ฉู่เยว่หลีมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าซีดขาวราวกับกระดาษ ไร้สีเลือดจริงๆ"ท่านอ๋อง จะให้ข้าเรียกคนไปส่งท่านกลับดีหรือไม่?"แต่หลังจากพูดจบ ฉู่เยว่หลีก็เสียใจทันทีนี่มิใช่เท่ากับเป็นการประกาศให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าโม่อ๋องบาดเจ็บที่นี่รึ?ถึงเวลา

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 99

    "คุณหนู คืนนี้ในวังเกิดเรื่องแล้ว" ฉู่อียืนอยู่นอกหน้าต่าง รายงานเสียงเบาว่า "ได้ยินมาว่าองค์ชายสามบาดเจ็บ ถูกหามกลับไปแล้ว""มีคนลอบปลงพระชนม์องค์ชายสามหรือ?" ฉู่เยว่หลีหัวใจกระตุกองค์ชายสามประทับอยู่ที่ตำหนักถงชิ่ง แม้จะอยู่มุมที่ค่อนข้างห่างไกลในวัง แต่ก็ยังอยู่ภายในวังการที่พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ในวังเช่นนี้ ตงหลิงก็ยากที่จะปัดความรับผิดชอบไปได้"รายละเอียดของเรื่องยังไม่ชัดเจน ได้ยินมาว่าถูกหามมาจากนอกวัง ก่อนหน้านี้อูตานกับคนอื่นๆ ก็ไล่ตามออกไปนอกวัง หลังจากออกไปครึ่งชั่วยามกว่าๆ ก็หามองค์ชายสามกลับมา""ฝ่าบาทมีรับสั่งให้คนไปตรวจสอบหรือไม่?""ไม่มี" ฉู่อีส่ายศีรษะฉู่เยว่หลีขมวดคิ้วนิดๆ "ไม่มีหรือ?"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะไม่ส่งคนไปตรวจสอบได้อย่างไร?"ทางองค์ชายสาม ไม่มีใครเอาเรื่อง องค์ชายสามบอกว่า... บอกว่าตนพลัดตกบาดเจ็บเอง และยังทูลขอฝ่าบาทไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ จึงมีคนรู้ไม่กี่คน องครักษ์ที่ข้าสนิทบังเอิญไปเจอขณะที่องค์ชายสามถูกหามกลับไป มิเช่นนั้นข้าก็คงไม่รู้"องครักษ์ในวังก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคนของผู้ใด แต่ทุกคนก็มักจะมีคน "สนิท" อยู่ในนั้นเพื่อคอยแจ้งข่าวสารในวั

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 98

    มีดพิฆาตจันทรา!มีดพิฆาตจันทราอยู่ในมือของโม่อ๋อง!มีดเล่มนี้เป็นเพียงตำนานในชายแดนเหนือ!ได้ยินมาว่ามีดเล่มนี้หนักกว่าร้อยชั่ง ตัวมีดเป็นสีดำสนิท เปล่งประกายเย็นเยือกไปทั่วเคยมีสายลับที่ไปสืบข่าวในสนามรบกลับมารายงานด้วยความหวาดกลัวว่า มีดพิฆาตจันทราในมือของโม่อ๋องฟันลงไปครั้งเดียว สามารถตัดหัวศัตรูได้นับสิบในพริบตา!ในสนามรบชายแดนเหนือ มีดเล่มนี้ทำให้ศัตรูทุกคนหวาดผวา!"เขาถือมีดพิฆาตจันทรา! เขาถือมีดพิฆาตจันทรา!"ดวงตาของทั่วป๋าอี้เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น "อูตาน เอาอาวุธมาให้ข้า!"ไอ้สารเลวนี่ถึงกับถือมีดพิฆาตจันทรามาที่นี่!รู้อยู่แล้วว่าเขาจะมา แต่ไม่คิดว่าจะมาอย่างดุดันเพียงนี้!ทั่วป๋าอี้ตื่นเต้นแทบบ้า! มีดพิฆาตจันทราเล่มนี้ เขาไม่เคยเห็นพลังที่แท้จริงของมันเลย!ดูเหมือนว่าฉู่เยว่หลีจะมีสถานะที่สำคัญอย่างยิ่งในใจของำไอ้สารเลวนี่!"อูตาน!" เขาเรียกอีกครั้งอูตานหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว "องค์ชายสาม ไม่... ไม่ได้นะ จะ... จะต้องมีคนตาย!""ไปให้พ้น! ไอ้สวะ!"ทั่วป๋าอี้วิ่งเข้าไปในห้องด้วยตัวเอง หยิบกระบี่เก็บดาราของตนแล้วพุ่งออกมาลู่เป่ยโม่ที่อยู่บนยอดไม้เหลือบมอง

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 97

    ทำไมทั่วป๋าอี้ถึงขอฉู่เยว่หลีแต่งงาน เรื่องนี้แม้แต่คนสนิทของเขาก็ยังไม่รู้“พี่สาม พี่เคยรู้จักอาหลีมาก่อนหรือไม่?” ทั่วป๋าหลิวหลีอดสงสัยไม่ได้ทั่วป๋าอี้ส่ายศีรษะทั่วป๋าหลิวหลีถามด้วยความร้อยใจ “แล้วพี่ขออาหลีแต่งงานทำไม? นางดูตกใจกลัวไปหมดแล้ว!”“แม่นางหลีงามสุดในแผ่นดิน เจ้าอยู่ในตงโจวมาหลายปี เคยเจอหญิงที่สวยกว่านางหรือไม่?”ทั่วป๋าอี้ยิ้มอย่างใจเย็น “สาวงามย่อมเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม การที่ข้าอยากแต่งงานกับนางแปลกตรงไหนหรือ?”“พี่สามไม่ใช่คนมักมากในกามเช่นนั้น! หากพี่ชอบหญิงงาม ยามนั้นสาวๆ ที่ถูกส่งมาให้ก็คงไม่ถูกส่งกลับไปทั้งหมดโดยไม่แตะต้องเลยสักคนหรอก”ในบรรดาสาวๆ เหล่านั้น ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหญิงงาม มีทุกรูปแบบ ทั้งอวบอิ่มและบอบบาง แต่พี่สามกลับไม่เคยมองด้วยซ้ำทั่วป๋าหลิวหลีรู้สึกว่าการที่พี่สามจู่ๆ ก็บอกว่าจะแต่งงานกับอาหลีดูแปลกๆ“หรือว่าอาหลีชนะพี่ แล้วพี่ยอมรับไม่ได้ เลยอยากแก้แค้นนาง?”ทั่วป๋าหลิวหลียิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้นางโกรธทันที "พี่สาม! อาหลีเป็นคนดี พี่จะรังแกนางเช่นนี้ได้อย่างไร? อีกอย่าง ถึงแม้นางจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาชนะพี่ แต่นั่นก็ไม

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 96

    “ความจริงใจของเจ้า ยามนี้เขายังคงชื่นชอบมาก อย่าให้เขาเห็นว่าเจ้ามีเจตนาแอบแฝงเด็ดขาด ยามนี้สิ่งที่เขารักที่สุดคือ ‘ความบริสุทธิ์’ และ ‘ความตรงไปตรงมา’ ของเจ้า อย่าให้ความบริสุทธิ์ในสายตาเขาต้องแปดเปื้อน”ทั่วป๋าหมิงเยว่หรี่ตาลงและเอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ฉู่เซียวเหอและฉู่เยว่หลีสองพี่น้อง ทำให้ตระกูลเราต้องแตกสลาย ความแค้นนี้ เราต้องเอาคืน!”แต่บัดนี้พวกนางยังไม่มีความสามารถ การแก้แค้นจึงทำได้เพียงอาศัยอิทธิพลของลู่เฟิงจิ่นเท่านั้น“แต่ว่า ท่านพี่ ข้า... หลังจากแก้แค้นแล้ว ข้าจะยังอยู่กับอาจิ่นได้อีกหรือไม่?” ทั่วป๋าเฟยเยวียนถามเสียงเบา“เจ้าชอบลู่เฟิงจิ่นจริงๆ หรือ?” ทั่วป๋าหมิงเยว่ขมวดคิ้วทั่วป๋าเฟยเยวียนก้มหน้า ไม่พูดสิ่งใด“หากเขายังชอบเจ้า การที่เจ้าได้เป็นจิ่นอ๋องเฟย ก็ยังพอมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูตระกูลทั่วป๋าของเราอยู่บ้าง แต่หากเป็นเพียงคนไร้ชื่อไร้สถานะข้างกายเขา จะมีประโยชน์อะไร?”“เช่นนั้น ข้าจะให้อาจิ่นแต่งข้าเป็นพระสนม!” ลู่เฟิงจิ่นชอบนางมาก แค่นางเอ่ยปาก ลู่เฟิงจิ่นจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน“โง่เขลาสิ้นดี!” ทั่วป๋าหมิงเยว่แค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจว่า “เขาสนใจอะไรในตั

  • ท้าอำนาจวังหลัง   บทที่ 95

    ในที่สุดทั่วป๋าเฟยเยวียนก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้กลับไปได้แต่ค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปนางให้ลู่เฟิงจิ่นอยู่ในห้องนอนของตน"อาจิ่น คืนนี้ข้าไม่อยากจากเจ้าไป"หลังจากที่นางปิดประตูห้องนอนแล้ว นางก็หันหน้าไปทางลู่เฟิงจิ่นและถอดเสื้อผ้าของนางออกทีละชิ้นลู่เฟิงจิ่นตกใจ หน้าแดงก่ำทันที "เยวียนเอ๋อร์ เรา... เราไม่ได้ตกลงกันไว้หรือว่าจะรอจนกว่าจะแต่งงานกันก่อนค่อย..."อันที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เขาเป็นท่านอ๋อง ชายในราชวงศ์และชนชั้นสูงจำนวนมากก็มีผู้หญิงตั้งแต่อายุยังน้อยมิใช่หรือ?แต่เขาและฉู่เยว่หลีรู้จักกันมาหลายปี และได้ปลูกฝังนิสัยรักนวลสงวนตัวบนร่างกายของฉู่เยว่หลีไปแล้วอาหลี... อาจนิสัยไม่ค่อยดี มีเล่ห์เหลี่ยมเต็มไปหมด แต่ในด้านนี้ คุณธรรมของอาหลีสูงส่งมากนางไม่เคยปล่อยให้ลู่เฟิงจิ่นแตะต้องนาง และได้ตกลงกับลู่เฟิงจิ่นไว้แล้วว่าจะต้องรอจนถึงวันแต่งงานนิสัยรักนวลสงวนตัวของลู่เฟิงจิ่นถูกปลูกฝังโดยฉู่เยว่หลีแม้ว่าบางครั้งเขาจะโกรธจนฉีกเสื้อผ้าของทั่วป๋าเฟยเยวียนเพื่อข่มขู่นาง แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่เคยแตะต้องนางจริงๆลู่เฟิงจิ่นถึงกับสงสัยว่าในบรรดาชายวัยผู้ให

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status