All Chapters of ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Chapter 1351 - Chapter 1360

1460 Chapters

บทที่ 1351

ได้ยินประโยคนี้จากเส้นเสียงที่คุ้นเคยลอยแว่วเข้ามาในใจจั๋วซือหรานสั่นกึก"เอ่อ..."นางยื่นมือไปเลิกม่านรถม้า ก็เห็นปันอวิ๋นยืนอยู่ด้านนอกและยังมีสีหน้า...เศร้าหมองบนใบหน้าหล่อเหลาที่ปกติจะดูชั่วร้ายนั่นพูดได้ว่าขุ่นเคืองเอามากๆ เลยทีเดียว"อะแฮ่ม" จั๋วซือหรานกระแอมขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าควรพูดอะไรดีจะยังไงก็ยังรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง ถึงยังไงไเจ้าหุบเขาปันก็คอยดูแลนางมาตลอดนางกลับแค่ผลไม้สักลูกก็ให้เขาชิมไม่ได้นี่มันไม่ต่างอะไรกับ 'แค่ร้อยหยวนก็ยังไม่ให้' เลย"ข้าแค่...เอ่อ" จั๋วซือหรานติดอ่างขึ้นมาอย่างหาได้ยากและเพราะนางแทบจะไม่มีช่วงที่ดูติดอ่างตะกุกตะกักแบบนี้เลย ส่วนใหญ่แล้วนางมักจะพูดจาอย่างมีเหตุผลอยุ่ตลอดส่วนสภาพนางตอนนี้ ในสายตาของเฟิงเหยียนมันช่างดู...น่ารักเสียจริงเฟิงเหยียนกินผลไม้ต่อในรถม้าหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเสียง ไหล่สั่นสะท้านและถูกจั๋วซือหรานกดบ่าเอาไว้ "อย่าหัวเราะนะ!" นางกดเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่งจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋นปันอวิ๋นเดิมทีก็ไม่ได้โกรธอะไร จงใจแหย่นาง และพอได้ยินนางพูดตะกุกตะกักก็รู้สึกขำดีหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "เจ้า
Read more

บทที่ 1352

"อืม?" จั๋วซือหรานรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ชั่วขณะหนึ่งยังตั้งตัวไม่ทันว่าทำไมจู่ๆ เขาก็เอ่ยถึงเรื่องนี้"เพราะล้วนเป็นสัตว์วิเศษสัตว์เทพกันหมด ดังนั้นความรู้สึกต่อพลังวิญญาณจึงค่อนข้างเฉียบคม" เฟิงเหยียนตอบจั๋วซือหรานจึงมีปฏิกิริยาขึ้นมา เขากำลังบอกว่าทำไมพวกเขาถึงรู้ว่าผลไม้นั่นกินแล้วดีต่อสุขภาพคำพูดนี้ น่าจะเพื่อทำให้นางสบายใจจั๋วซือหรานครุ่นคิด อันที่จริงกำลังคิดอยู่ว่า จะบอกเรื่องมิติน้ำพุวิเศษนี่กับเขาไปเลยดีไหมแต่ยังไม่ทันที่นางจะคิดได้ว่าควรจะเปิดประเด็นอย่างไรเฟิงเหยียนก็บีบนิ้วมือนางเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "ดังนั้น จึงไม่มีความคิดที่จะไปสืบค้นความลับอะไรของตัวเจ้า"ถ้าหากบอกว่า ก่อนหน้านี้นางยังลังเลอยู่บ้าง เช่นนั้นตอนที่ได้ยินคำนี้ นางก็ไม่เหลือความลังเลใดอีกแล้วนางคิดๆ แล้วจึงยื่นมือออกไปเบาๆเฟิงเหยียนสัมผัสได้ถึงมือเล็ก อ่อนนุถ่มขดเข้ามาอยุ่ในฝ่ามือตนเอง สายตาของเขาก็งงงันไปหน่อยๆและมือเล็กนี้ ไม่ใช่แค่ขดเงียบๆ อยู่ในฝ่ามือเขาเท่านั้นแต่ยังค่อยๆ กางนิ้วทั้งห้าออกช้าในฝ่ามือเขาจากนั้นจึงประสานคล้องกับนิ้วเขาองเขาเฟิงเหยียนก้มหน้าลงมองนิ้วที่คล้องเข้าม
Read more

บทที่ 1353

นี่แตกต่างไปจากที่จั๋วซือหรานคิดไว้ก่อนหน้านางจินตนาการไว้หลายแบบถึงสีหน้าของเฟิงเหยียน แต่ไม่มีสีหน้าแบบนี้จนทำให้ จั๋วซือหรานไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรดีความรู้สึกโล่งใจแต่เดิมนั่น ตอนนี้ตึงขึ้นมาอีกแล้วจั๋วซือหรานเวลาพูดหรือทำอะไรมักไม่ค่อยมานั่งนึกเสียใจ ตอนนี้ก็เช่นกัน...แม้จะไม่มีมีสีหน้าเสียใจภายหลัง แต่ในใจก็ยังคิดอยูว่าตนเองประมาทไปหรือเปล่า...เพียงแต่ว่า ความคิดนี้ยังไม่ทันได้ก่อตัวสมบูรณ์มือของนางที่เดิมทีคิดจะดึงกลับมา กลับถูกเขากุมนิ้วเอาไว้แน่นไม่ยอมให้นางดึงออกจากฝ่ามือเขาจั๋วซือหรานงงงัน เงยหน้าขึ้นมองเขาและสบกับสายตาที่ยิ่งหม่นหมองลงมากกว่าเดิมของเฟิงเหยียน"เสียวจิ่ว" เสียงของเขาดูตั้งใจมากกว่าปกติ แต่ก็เพราะใช้สรรพนามนี้ฟังแล้วจึงแฝงไปด้วยความรักความเอ็นดู"อืม" จั๋ววือหรานพยักหน้าเบาๆเสียงของชายหนุ่มยิ่งดูตั้งใจขึ้นกว่าเก่า "เรื่องนี้ เจ้าได้บอกคนอื่นไปอีกหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานมองเขา "ไม่มี"หลังจากนั้น ก็เห็นถึงความโล่งใจในสีหน้าชายหนุ่มอย่างชัดเจนสายตาหม่นหมองของเขาดูอ่อนโยนลงมาแทบจะในพริบตาจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว จากนั้นก็คลายออกอย่างร
Read more

บทที่ 1354

เฟิงเหยียนได้ยินคำนี้ ริมฝีปากก็ยกขึ้น "ข้านี่แหละคือความอันตราย ข้าไม่กลัวอันตรายอะไรหรอก..."จั๋วซือหรานสัมผัสได้ว่าเขาเขยิบเข้ามา ลมหายใจเย็นรดลงข้างหูนาง ทำเอาจักจี้ขึ้นมาเลยเสียงทุ้มต่ำน่าดึงดูดแต่เดิม เวลานี้กลับยิ่งเสนาะหูขึ้นไปอีก ลอดเข้ามาในใบหูนาง "เจ้ายอมบอกความลับข้าแบบนี้ ข้าดีใจเอามากๆ"เขาเคยคิดไว้ บางทีตนเองที่ไม่มีความทรงจำนั่น ก็น่าจะไม่รู้ความลับนี้หรอกกระมัง?จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าในใจเขามีเสียวจิ่วอยู่อีกมากหลังจากที่นางแค่บอกความลับนี้ของตนเองออกมา ก็รู้สึกว่าผ่อนคลายขึ้นไม่น้อยยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่นางบอกความลับนี้ เรื่องราวบางส่วนอื่นๆ ก็สามารถพูดตามกันออกมาได้แล้วนางคิดๆ เอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "ดังนั้นข้าจึงคิดว่า ไม่แน่ข้าอาจจะไหว ดังนั้นจึงอยากจะลองดู"เฟิงเหยียนได้ยินคำนี้ก็ชะงัก เข้าใจขึ้นทันที นางหมายถึงเรื่องที่นางตั้งท้องนางชี้ถึง นางรู้สึกว่าในเรื่องนี้ นางอาจจะไม่มีผลลัพธ์เดียวกันกับเยี่ยนเสวี่ยเจินแม่ของนางเพราะว่า นางมีความมั่นใจของนางอยู่เฟิงเหยียนพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่งเขาสูดลมหายใจลึก หลับตาลง ราวกับถ้าไม่หลับตาลงทันที ความรู้
Read more

บทที่ 1355

จั๋วซือหรานยังมีความงงๆ ตอนเพิ่งตื่นนอนอยู่ ดังนั้นจึงยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พอสติค่อยๆ ตื่นตัว และหลังจากฟังคำพูดของเฟิงเหยียนแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาว่าหมายถึงอะไรและเป็นสถานการณ์แบบไหนพวกเขาหยุดอยู่ตรงนี้ ตั้งค่ายพักแรมขบวนรถม้าขนาดนี้ ก็น่าจะถูกจับตาไว้แล้วกระมังถึงอย่างไรเรื่องอย่างการขวางทางบุกปล้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดตรงไหน ไม่เช่นนั้นขบวนพ่อค้าคงไม่จ้างคนคุ้มกันหรอกพี่น้องตระกูลจางที่ดูแลหอเฟิ่งเสวี่ย ก็ทำธุรกิจเรื่องคุ้มกันขบวนพ่อค้าแบบนี้อยู่ธุรกิจทำเอาใหญ่โตเหมือนกัน จึงเห็นได้ว่าไอ้เรื่องการขวางทางปล้นชิงแบบนี้เกิดขึ้นไม่น้อยเลยแต่จั๋วซือหรานก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับขบวนของตนเองไอ้โจรที่มาขวางทางปล้นชิงนี่บ้ากันหรือเปล่า?ก่อนลงมือไม่มีตรวจสอบอะไรบ้างเลยเรอะ?ถ้างั้นก็คงเป็นเหมือนที่เฟิงเหยียนบอกนั่นล่ะ ไม่ได้มีตาเอาเสียเลยไม่ได้ดูสถานการณ์ก็บุกเข้ามาปล้นชิงแบบนี้ทั้งที่ตอนนางตั้งค่าย ก็ปล่อยพวกสัตว์อสูรออกมามากขนาดนั้นเจ้าพวกนั้นอยู่ต่อหน้านางก็จะออดอ้อน ให้กลิ้งก็กลิ้ง ให้นอนก็นอนแต่นั่นก็แค่ต่อหน้านางเท่านั้น!ถ้าปล่อยออ
Read more

บทที่ 1356

เฟิงเหยียนเตรียมจะตามลงมา พอได้ยินคำนี้ของนาง เท้าที่ยื่นออกมาแล้วก็อดกลับไปอีกครั้งเชื่อฟังสุดๆเซี่ยอวิ๋นซีกำลังใช้น้ำจากถุงหนังล้างหน้าล้างตาง่ายๆ อยู่ไม่ห่างออกไปนัก ดังนั้นจึงเห็นฉากนี้อย่างชัดเจนแม้จะบอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ของลูกสาว อยู่ห่างจากเฟิงเหยียนไม่ได้เลย ดังนั้นทั้งสองคนจึงทำได้แค่ต้องนอนด้วยกันแต่พอเห็นลูกสาวที่ยังไม่แต่งงานของตนเอง นอนด้วยกันกับชายหนุ่มคนหนึ่ง แล้วชายหนุ่มคนนี้...ก็ยังหมั้นแล้วด้วยนั้นถ้าจะบอกว่าเซี่ยอวิ๋นซีพออกพอใจมากล่ะก็ มันไม่ใช่อย่างแน่นอนกระทั่งว่า พอพูดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกยากจะระงับความไม่พอใจได้อีกด้วยแต่พอเห็นลูกสาวจัดการผู้ชายคนนี้ให้เชื่อฟังได้เรียบร้อยแบบนี้อย่างน้อยก็พอจะลบความหงุดหงิดไม่พอใจในใจนางออกไปได้บ้างจั๋วซือหรานพอลงจากรถม้า ก็เห็นท่านแม่กำลังล้างหน้าอยู่ไม่ห่างออกไปนัก จึงเดินเข้ามาหา"ท่านแม่" จั๋วซือหรานทักขึ้น "นอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง?""ยังพอไหว กลางดึกตื่นขึ้นมาครั้งนึง" เซี่ยอวิ๋นซีเอ่ยขึ้น "เหมือนจะมีเรื่องอะไรวุ่นวาย แต่หัวหน้าองครักษ์เหลียนเจินก็จัดการได้รวดเร็วมาก ข้าเองเดิมทีก็กลัวอยู่ แต่จากนั้น..."เซ
Read more

บทที่ 1357

โจรเหล่านี้ ยิ่งบ่นในใจกันหนักขึ้นหัวหน้าองครักษ์คนนี้คิดจะเอาใจนายของเขาอีก เกินไปแล้วคำพูดไร้สาระนี่ก็ยังเห็นด้วยได้ยังไงเหลียนเจินไม่มีทางู้ว่าเหล่าโจรพวกนี้กำลังบ่นในใจเขาแค่พูดความจริงเท่านั้นนางเอ่ยเสียงต่อต่อว่า "ถ้าไม่ใช่เมื่อคืนนี้สัตว์ประหลาดเหล่านี้คุณหนูป้อนพวกมันจนอิ่มแล้วล่ะก็ เมื่อคืนคนพวกนี้พอเข้ามาปล้นแล้วเจอกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้น คงไม่ใช่แค่ถูกจับมาง่ายๆ แค่นี้แน่"จั๋วซือหรานร้องอืม "คงถูกฉีกกินทั้งเป็นแน่นอน""ดังนั้นพวกเขาถึงได้โชคดี" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น ยื่นมือชี้ไปที่เหล่าโจรซึ่งถูกมัดเอาไว้แน่นหนาเอ่ยต่อว่า "แมงมุมของท่านแค่ไม่อยากให้พวกเขาเอะอะจนท่านตื่น ก็เลยมัดพวกเขาไว้แบบนี้"จั๋วซือหรานมองพวกเขาที่ถูกใยแมงมุมพันไว้หนาแน่นเหมือนดักแด้ ในใจยังคิดว่าแมงมุมน้อยพ่นใยออกมาได้ถึงที่ดีจริงๆสมสง่าราศีในฐานะแมงมุมหน้าผีเลยทีเดียว...ตอนที่แมงมุมหน้าผีออกล่า ก็จะพ่นใยพันเหยื่อไว้แบบนี้ห่อจนเหมือนกับดักแด้ เว้นที่ไว้ตรงจมูก จากนั้นก็จะนำกลับไปค่อยๆ กินในถ้ำของตัวเองและโจรตรงหน้าพวกนี้ก็ถูกแมงมุมน้อยพ่นใยมาพันไว้หนาแน่นเช่นกันแต่นี่ไม่ใช่แค่พันใ
Read more

บทที่ 1358

เหล่าโจร: "..." หน้าตาดีแล้วมีประโยชน์อะไร แม่มดร้ายเขาสนรูปลักษณ์ที่ไหน!จั๋วซือหรานหันไปถามเหลียนเจิน "ไต่สวนหรือยัง? ได้อะไรบ้าง?"เหลียนเจินส่ายหัว "ยังขอรับ ปากแข็งกระดูกแข็งเหลือเกิน ไม่พูดอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังกลัวพวกเขาเอะอะจนนายท่านตื่นอีกด้วย"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เลิกคิ้ว มองไปทางเจ้าพวกไม่รู้จักตายพวกนี้"โอ๋? ปากแข็งกระดูกแข็งรึ?"เหล่าโจรทั้งหมดเห็นว่าสีหน้าของนางแสดงท่าทีสนใจอย่างชัดเจนแต่สีหน้านี้ ทำเอาพวกเขาขนลุกซู่พวกเขามองกันออกว่า คนตรงหน้านี้ แม้จะร่างกายเป็นหญิง แต่ในเมื่อทำให้องครักษ์ศิโรราบได้ขนาดนี้ กระทั่งทำให้เหล่าสัตว์ประหลาดศิโรราบให้นี่ต้องเป็นตัวตนระดับจอมโฉดแน่นอนยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นนักควบคุมสัตว์ด้วย เพราะไม่ว่าจะรับมือกับกู่พิษเหล่านั้น หรือรรับมือกับหุ่นเชิด ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับสัตว์ประหลาด...ก็ล้วนเป็นสิ่งที่จัดการได้ยากทั้งสิ้น เพราะความสนใจต่อกู่พิษ หุ่นเชิดและสัตว์ประหลาดของพวกเขา มีมากกว่าสนใจในตัวคนเสียอีกหรืออธิบายได้ว่า ในสายตาพวกเขา ชีวิตคนนั้น...แทบไม่มีค่าอะไรพอได้ยินนางหางเสียงยกขึ้นเล็กน้อยของนาง พกวเขาก็เริ่มรู้แ
Read more

บทที่ 1359

พวกโจรแทบจะฉี่ราดกันหมดแล้วแต่ยังดีที่ไม่ใช่พวกที่ไม่เคยเจอเรื่องอะไรมา ดังนั้นจึงยังพอได้ยินอย่างชัดเจนว่าประโยคที่จั๋วซือหรานพูดเมื่อครู่คือ 'แกะปากของพวกเขาออกเถอะ'ไม่ใช่คำว่า 'ส่งพวกเขาไปสบายเถอะ'ดังนั้นเชื่อได้กว่าครึ่งว่าไม่ได้จะเอาชีวิตพวกเขาแต่ก็น่ากลัวอยู่ดีและรู้สึกว่าคมแหลมเย็นเยือกนั้น กรีดผ่านปากไป!วิญญาณราวกับกำลังสั่นเทา ว่ายังไงดีล่ะ...แมงมุมตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนั้น ใช้แขนเคียวกรีดใยแมงมุมที่ปากพวกเขาการเคลื่อนไหวที่ละเอียดแบบนี้ มันเหมือนกับช้างกำลังแกะสลักดอกไม้บนเต้าหู้เลย!ต่อให้เจ้ารู้ว่าช้างอยากจะแกะสลักดอกไม้บนเต้าหู้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะทำสำเร็จหรือไม่นี่นา!พวกเขาตอนนี้รู้สึกแบบนี้แต่ใยแมงมุมบนปากพวกเขาก็แยกออกจากกันแล้วพริบตานั้น เหมือนวิญญาณหลุดออกไปจากร่างจริงๆ...อย่าว่าแต่ลุกขึ้นยืนเลย แค่คุกเข่าก็ยังไม่มั่นคงด้วยซ้ำกองเผละเหมือนโคลนกันอยู่บนพื้นหน้าผากเหงื่อแตกซีดไปหมด เสื้อผ้ายิ่งถูกเหงื่ออาบจนชุ่มทำได้แค่อ่อนพับอยู่บนพื้น และเห็นหญิงสาวหน้าตางามล่มเมืองคนนี้ ใช้สีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มจ้องมองพวกเขานางใช้ปลายเท้าสะกิดพวกเขา "
Read more

บทที่ 1360

นางกระทั่งยกมุมปากขึ้นบางๆ "ข้าเชื่อว่า พวกเจ้าคงจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แล้วกระมัง?"จั๋วซือหรานเข้าใจเช่นนี้มาตลอด สิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวได้มากที่สุด 'เสียงโหยหวนของเพื่อน' นี่ล่ะที่ติดอันดับต้นๆและก็เป็นไปตามคาด ภายใต้สถาพที่มีเสียงโหยหวนของโจรคนนั้นโจรคนอื่นก็ดูว่าง่ายลงมาพอสมควรพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็รีบร้อนพยักหน้าหงึกหงักเหมือนคอแทบจะหลุดลงมาเลยทีเดียวดังนั้นจั๋วซือหรานจึงถามคำถามเมื่อครู่นี้ขึ้นอีกครั้ง "พวกเจ้ามาจากไหนกัน...""ซื่อหนาน! พวกเรามาจากเมืองซื่อหนาน!" โจรคนหนึ่งกระทั่งไม่รอให้จั๋วซือหรานพูดจบ ก็รีบร้อนพูดออกมาทันทีจั๋วซือหรานพยักหน้า "คนของเมืองซื่อหนานนั้นวุ่นวายมาก ข้าเองก็เคยได้ยินมา เพียงแต่ว่า..."นางหรี่ตาลง "คนของซื่อหนาน ต้องมาปล้นกันถึงแถวเมืองลั่วหม่าเลยหรือ? ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย เมืองลั่วหม่าเป็นเมืองสำคัญนะ..."ควาหมายคือ การรักษาความปลอดภัยกับการป้องกันน่าจะค่อยข้างดีกว่ามาออกปล้นแถวนี้ ไม่กลัวจะถูกกองทหารของเมืองลั่วหม่าจัดการเอาหรือ?แต่โจรเหล่านี้ถูกนางทำเอากลัวไปหมดแล้ว ชั่วขณะหนึ่งยังฟังความหมายของนางไม่ออก รู้สึกแค่ว่านางไม่ค่อ
Read more
PREV
1
...
134135136137138
...
146
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status