จั๋วซือหรานอันที่จริงไม่รู้นางก็แค่อนุมานตามทิศทางมาเท่านั้นจากนั้นก็แค่พูดออกมาส่งๆ กระทั่งพูดได้ว่าแค่พูดลองเชิงเท่านั้นด้วยซ้ำใครจะรู้ว่าคนพวกนี้จะจับไต๋ได้ง่ายขนาดนี้ สีหน้าท่าทางแจ่มแจ้งอย่างกับเขียนด้วยหมึกดำบนกระดาษขาวเลยจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ดูท่าข้าจะพูดถูกสินะ?"สีหน้าพวกโจร ถึงกับดูละอายใจและคับแค้นขึ้นมาจั๋วซือหรานก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ราวกับว่า...ไม่ต้องการให้พวกเขาตอบคำถามนี้ แต่ก็ได้คำตอบมาแล้วจากนั้น กลุ่มโจรก็ได้ยินเสียงของนางดังขึ้นอีก ยังคงเฉยเมยสงบราบเรียบถามขึ้นว่า "ใบรับรองความภักดีให้กับใครล่ะ?"น่าจะเพราะความคับแค้นใจของเหล่าโจรก่อนหน้านี้...รวมถึงสีหน้าที่ถูกทำให้ตกใจเหล่านั้น ความอ่อนปวกเปียกพวกนั้นตอนนี้กลับมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง!ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไร ไม่ตอบคำถามนี้ของจั๋วซือหรานพวกเขาคิดในใจ ในเมื่อเจ้าเก่งขนาดนี้ เจ้าก็เดาเอาเองสิ เมื่อกี้ไม่ใช่เดาเก่งนักรึไง? ตอนนี้ก็เดาต่อไปสิ จะมาถามพวกข้าทำไมกัน?พวกเขาไม่พูดอะไรเลยเหลียนเจินที่อยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้ว ไม่พอใจอย่างมากต่อท่าทีของพวกเขาที่มีให้คุณหนูมือของเขาทาบอยู่บนด้ามดาบแล้ว
นางกระทั่งยกมุมปากขึ้นบางๆ "ข้าเชื่อว่า พวกเจ้าคงจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แล้วกระมัง?"จั๋วซือหรานเข้าใจเช่นนี้มาตลอด สิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวได้มากที่สุด 'เสียงโหยหวนของเพื่อน' นี่ล่ะที่ติดอันดับต้นๆและก็เป็นไปตามคาด ภายใต้สถาพที่มีเสียงโหยหวนของโจรคนนั้นโจรคนอื่นก็ดูว่าง่ายลงมาพอสมควรพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็รีบร้อนพยักหน้าหงึกหงักเหมือนคอแทบจะหลุดลงมาเลยทีเดียวดังนั้นจั๋วซือหรานจึงถามคำถามเมื่อครู่นี้ขึ้นอีกครั้ง "พวกเจ้ามาจากไหนกัน...""ซื่อหนาน! พวกเรามาจากเมืองซื่อหนาน!" โจรคนหนึ่งกระทั่งไม่รอให้จั๋วซือหรานพูดจบ ก็รีบร้อนพูดออกมาทันทีจั๋วซือหรานพยักหน้า "คนของเมืองซื่อหนานนั้นวุ่นวายมาก ข้าเองก็เคยได้ยินมา เพียงแต่ว่า..."นางหรี่ตาลง "คนของซื่อหนาน ต้องมาปล้นกันถึงแถวเมืองลั่วหม่าเลยหรือ? ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย เมืองลั่วหม่าเป็นเมืองสำคัญนะ..."ควาหมายคือ การรักษาความปลอดภัยกับการป้องกันน่าจะค่อยข้างดีกว่ามาออกปล้นแถวนี้ ไม่กลัวจะถูกกองทหารของเมืองลั่วหม่าจัดการเอาหรือ?แต่โจรเหล่านี้ถูกนางทำเอากลัวไปหมดแล้ว ชั่วขณะหนึ่งยังฟังความหมายของนางไม่ออก รู้สึกแค่ว่านางไม่ค่อ
พวกโจรแทบจะฉี่ราดกันหมดแล้วแต่ยังดีที่ไม่ใช่พวกที่ไม่เคยเจอเรื่องอะไรมา ดังนั้นจึงยังพอได้ยินอย่างชัดเจนว่าประโยคที่จั๋วซือหรานพูดเมื่อครู่คือ 'แกะปากของพวกเขาออกเถอะ'ไม่ใช่คำว่า 'ส่งพวกเขาไปสบายเถอะ'ดังนั้นเชื่อได้กว่าครึ่งว่าไม่ได้จะเอาชีวิตพวกเขาแต่ก็น่ากลัวอยู่ดีและรู้สึกว่าคมแหลมเย็นเยือกนั้น กรีดผ่านปากไป!วิญญาณราวกับกำลังสั่นเทา ว่ายังไงดีล่ะ...แมงมุมตัวใหญ่ยักษ์ขนาดนั้น ใช้แขนเคียวกรีดใยแมงมุมที่ปากพวกเขาการเคลื่อนไหวที่ละเอียดแบบนี้ มันเหมือนกับช้างกำลังแกะสลักดอกไม้บนเต้าหู้เลย!ต่อให้เจ้ารู้ว่าช้างอยากจะแกะสลักดอกไม้บนเต้าหู้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะทำสำเร็จหรือไม่นี่นา!พวกเขาตอนนี้รู้สึกแบบนี้แต่ใยแมงมุมบนปากพวกเขาก็แยกออกจากกันแล้วพริบตานั้น เหมือนวิญญาณหลุดออกไปจากร่างจริงๆ...อย่าว่าแต่ลุกขึ้นยืนเลย แค่คุกเข่าก็ยังไม่มั่นคงด้วยซ้ำกองเผละเหมือนโคลนกันอยู่บนพื้นหน้าผากเหงื่อแตกซีดไปหมด เสื้อผ้ายิ่งถูกเหงื่ออาบจนชุ่มทำได้แค่อ่อนพับอยู่บนพื้น และเห็นหญิงสาวหน้าตางามล่มเมืองคนนี้ ใช้สีหน้าเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มจ้องมองพวกเขานางใช้ปลายเท้าสะกิดพวกเขา "
เหล่าโจร: "..." หน้าตาดีแล้วมีประโยชน์อะไร แม่มดร้ายเขาสนรูปลักษณ์ที่ไหน!จั๋วซือหรานหันไปถามเหลียนเจิน "ไต่สวนหรือยัง? ได้อะไรบ้าง?"เหลียนเจินส่ายหัว "ยังขอรับ ปากแข็งกระดูกแข็งเหลือเกิน ไม่พูดอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังกลัวพวกเขาเอะอะจนนายท่านตื่นอีกด้วย"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เลิกคิ้ว มองไปทางเจ้าพวกไม่รู้จักตายพวกนี้"โอ๋? ปากแข็งกระดูกแข็งรึ?"เหล่าโจรทั้งหมดเห็นว่าสีหน้าของนางแสดงท่าทีสนใจอย่างชัดเจนแต่สีหน้านี้ ทำเอาพวกเขาขนลุกซู่พวกเขามองกันออกว่า คนตรงหน้านี้ แม้จะร่างกายเป็นหญิง แต่ในเมื่อทำให้องครักษ์ศิโรราบได้ขนาดนี้ กระทั่งทำให้เหล่าสัตว์ประหลาดศิโรราบให้นี่ต้องเป็นตัวตนระดับจอมโฉดแน่นอนยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นนักควบคุมสัตว์ด้วย เพราะไม่ว่าจะรับมือกับกู่พิษเหล่านั้น หรือรรับมือกับหุ่นเชิด ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับสัตว์ประหลาด...ก็ล้วนเป็นสิ่งที่จัดการได้ยากทั้งสิ้น เพราะความสนใจต่อกู่พิษ หุ่นเชิดและสัตว์ประหลาดของพวกเขา มีมากกว่าสนใจในตัวคนเสียอีกหรืออธิบายได้ว่า ในสายตาพวกเขา ชีวิตคนนั้น...แทบไม่มีค่าอะไรพอได้ยินนางหางเสียงยกขึ้นเล็กน้อยของนาง พกวเขาก็เริ่มรู้แ
โจรเหล่านี้ ยิ่งบ่นในใจกันหนักขึ้นหัวหน้าองครักษ์คนนี้คิดจะเอาใจนายของเขาอีก เกินไปแล้วคำพูดไร้สาระนี่ก็ยังเห็นด้วยได้ยังไงเหลียนเจินไม่มีทางู้ว่าเหล่าโจรพวกนี้กำลังบ่นในใจเขาแค่พูดความจริงเท่านั้นนางเอ่ยเสียงต่อต่อว่า "ถ้าไม่ใช่เมื่อคืนนี้สัตว์ประหลาดเหล่านี้คุณหนูป้อนพวกมันจนอิ่มแล้วล่ะก็ เมื่อคืนคนพวกนี้พอเข้ามาปล้นแล้วเจอกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้น คงไม่ใช่แค่ถูกจับมาง่ายๆ แค่นี้แน่"จั๋วซือหรานร้องอืม "คงถูกฉีกกินทั้งเป็นแน่นอน""ดังนั้นพวกเขาถึงได้โชคดี" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น ยื่นมือชี้ไปที่เหล่าโจรซึ่งถูกมัดเอาไว้แน่นหนาเอ่ยต่อว่า "แมงมุมของท่านแค่ไม่อยากให้พวกเขาเอะอะจนท่านตื่น ก็เลยมัดพวกเขาไว้แบบนี้"จั๋วซือหรานมองพวกเขาที่ถูกใยแมงมุมพันไว้หนาแน่นเหมือนดักแด้ ในใจยังคิดว่าแมงมุมน้อยพ่นใยออกมาได้ถึงที่ดีจริงๆสมสง่าราศีในฐานะแมงมุมหน้าผีเลยทีเดียว...ตอนที่แมงมุมหน้าผีออกล่า ก็จะพ่นใยพันเหยื่อไว้แบบนี้ห่อจนเหมือนกับดักแด้ เว้นที่ไว้ตรงจมูก จากนั้นก็จะนำกลับไปค่อยๆ กินในถ้ำของตัวเองและโจรตรงหน้าพวกนี้ก็ถูกแมงมุมน้อยพ่นใยมาพันไว้หนาแน่นเช่นกันแต่นี่ไม่ใช่แค่พันใ
เฟิงเหยียนเตรียมจะตามลงมา พอได้ยินคำนี้ของนาง เท้าที่ยื่นออกมาแล้วก็อดกลับไปอีกครั้งเชื่อฟังสุดๆเซี่ยอวิ๋นซีกำลังใช้น้ำจากถุงหนังล้างหน้าล้างตาง่ายๆ อยู่ไม่ห่างออกไปนัก ดังนั้นจึงเห็นฉากนี้อย่างชัดเจนแม้จะบอกว่า สถานการณ์ตอนนี้ของลูกสาว อยู่ห่างจากเฟิงเหยียนไม่ได้เลย ดังนั้นทั้งสองคนจึงทำได้แค่ต้องนอนด้วยกันแต่พอเห็นลูกสาวที่ยังไม่แต่งงานของตนเอง นอนด้วยกันกับชายหนุ่มคนหนึ่ง แล้วชายหนุ่มคนนี้...ก็ยังหมั้นแล้วด้วยนั้นถ้าจะบอกว่าเซี่ยอวิ๋นซีพออกพอใจมากล่ะก็ มันไม่ใช่อย่างแน่นอนกระทั่งว่า พอพูดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกยากจะระงับความไม่พอใจได้อีกด้วยแต่พอเห็นลูกสาวจัดการผู้ชายคนนี้ให้เชื่อฟังได้เรียบร้อยแบบนี้อย่างน้อยก็พอจะลบความหงุดหงิดไม่พอใจในใจนางออกไปได้บ้างจั๋วซือหรานพอลงจากรถม้า ก็เห็นท่านแม่กำลังล้างหน้าอยู่ไม่ห่างออกไปนัก จึงเดินเข้ามาหา"ท่านแม่" จั๋วซือหรานทักขึ้น "นอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง?""ยังพอไหว กลางดึกตื่นขึ้นมาครั้งนึง" เซี่ยอวิ๋นซีเอ่ยขึ้น "เหมือนจะมีเรื่องอะไรวุ่นวาย แต่หัวหน้าองครักษ์เหลียนเจินก็จัดการได้รวดเร็วมาก ข้าเองเดิมทีก็กลัวอยู่ แต่จากนั้น..."เซ