All Chapters of ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Chapter 1401 - Chapter 1410

1433 Chapters

บทที่ 1401

ชิ่งหมิงได้ยินคำนี้ สายตาก็ชะงักไปตอนที่เงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋น ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงอะไร ดูสงบนิ่งมาก "ฝีมือก็ดีขึ้นมากจริงๆ เพียงแต่ว่า...ข้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมายนัก"ปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาโบกไม้โบกมือ "ไม่เป็นไร ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้มีพ่อที่ดีกันนักหรอก"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองเขา "เจ้ามองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เหล่าจวงเองก็แอบมองจวงชิ่งหมิงอยู่ตลอด ทั้งสองคนสกุลจวงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในแววตาของเหล่าจวงกับจวงชิ่งหมิงก็คล้ายคลึงกันด้วย แค่มองเฉยๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าสองคนอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะสัมผัสได้เลย"ปันอวิ๋นบางครั้งดูแล้วก้เหมือนเป็นคนขี้เกียจที่เหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรเลยแต่อันที่จริง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนและเฉียบแหลมมากมีหลายเรื่อง ที่แม้เขาจะไม่พูด แต่อันที่จริงในใจก็รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่างปันอวิ๋นเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไร ถ้าไม่ชอบฟังคราวหลังจะไม่พูดอีก"แต่เขาคิดๆ จากนั้นก็เสริมมาอีกคำหนึ่ง "น่าจะเพราะว่า ข้ากับเฟิงเหยียนแต่ก่อนรู้ว่าตนเองต้องแบกภาระโชคชะตาแบบไหนไว้ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปรับความเข้าใจกับตนเอง จะพูดถึงยังไงก็ได้
Read more

บทที่ 1402

แต่ว่า สำหรับความกังวลเหล่านี้ของพวกเขา จั๋วซือหรานไม่ได้แยแสเลยนางเป็นที่รู้จักกันดีว่าสมองไวกระทั่งว่าพอนางไม่เร่งรีบ พวกขเาก็จะผ่อนคลายตามไปด้วย เหมือนว่า...ตราบใดที่นางยังไม่เร่งร้อน ปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ยังไม่ต้องรีบกังวลไป ข้ารู้สึกว่าเนี่ยคุนอาจจะไม่สามารถดึงตัวคนที่มาประโยชน์มาได้ ถ้าเขามีฝีมือในการดึงคนที่มีประโยชน์ทั้งหมดได้จริง คงไม่ถูกข้าทำให้โมโหขนาดนั้น"จั๋วซือหรานพูดพลางหัวเราะ "นี่ยังไม่ถึงไหนเลยนะ เขากลับเลือดลมพร่องเสียขนาดนี้ ถ้าคนไม่รู้คงนึกว่าเพิ่งคลอดลูกมา"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ของนางก็เกือบจะหัวเราะออกมาจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้ารู้สึกว่าคนพวกนี้ ไม่ได้ภักดีกับเนี่ยคุนหรอก พวกเขาแค่ต้องการสถานที่อย่างซื่อหนานนี่เท่านั้น ส่วนว่าจะเป็นซื่อหนานของเนี่ยคุน หรือว่าซือหนานของจั๋วซือหราน พวกเขาคงไม่ใส่ใจเท่าไร""ความหมายก็คือ ตราบใดที่เจ้าอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสงบสุขในภายภาคหน้า พวเขาก็จะไม่มาหาเรื่องเจ้าอย่างนั้นสินะ?" ปันอวิ๋นถามจั๋วซือหรานพยักหน้า "บนความรู้สึกคืออย่างนั้น แต่ข้าก็คงไม่ปล่อยพวกเขาไว้ตลอด ทว่าตอนแรกนี้จะยังไม
Read more

บทที่ 1403

จั๋วซือหรานพูดคำนี้จบ คนหาข่าวคนนั้นก็อดมองไปทางจั๋วซือหรานไม่ได้ในสายตามีอาการตกใจอย่างปิดไม่มิด น่าจะเพราะคิดไม่ถึงว่า นางที่เป็นคนต่างบ้านต่างเมือง แล้วยังเป็นหญิงสาวด้วยกลับมองสถานการณ์ของซื่อหนานได้อย่างทะลุปรุโปร่งและตอนที่สายตาของเขามองไป ดาบยาวในมือจั๋วซือหรานก็พามาที่ข้างคอเขาเขาตะลึงงัน ดวงตาถลึงโต ไม่กล้าขยับตัวไปทันทีกระทั่งหนังหัวยังเกรงแน่นเขาได้ยินเสียงของหญิงสาวคนนี้ที่ยังคงเรียบเฉย เย็นชา และเปิดโปงความคิดนั่นของเขาจั๋วซือหรานเอ่ยว่า "ข้าจ่ายเงินจ้างเจ้า ไม่ใช่ให้มาแค่ไกล่เกลี่ยเรื่องให้จบ ถ้าเจ้ากลัวว่าจะผิดใจกับเนี่ยคุน แล้วมาหลอกข้าแบบส่งเดชล่ะก็..."จั๋วซือหรานเหลือบมองไปยังผู้ดูแลแผงตลาดค้าทาสพวกนั้นผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองมาทางคนหาข่าว เอ่ยต่อว่า "ข้าจะจ่ายให้เจ้าพวกนั้นมากหน่อย ให้พวกเขาจับเจ้ามัดแล้วขายส่งออกไปซะ ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน สีหน้าของคนผู้นี้ก็ซีดไปทันที!ทั้งเนื้อตัวเริ่มสั่นระริกขึ้นเบาๆ "ใต้...ใต้เท้า ข้า...ข้ารู้ผิดแล้ว ข้ารู้ผิดแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว ข้าจะพูดทุกอย่างที่รู้เลย"จั๋วซือหรานเหลือบมองเ
Read more

บทที่ 1404

พอได้ยินคำนี้ คิ้วของชิ่งหมิงก็ย่นขึ้นมา เขาเอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหราน "ข้าไม่ชอบที่นี่เลย"ก็จริง สถานที่แบบนี้ รู้สึกมันดำมืดไปหมด ไม่มีแสงสว่างเอาเสียเลยแล้วชิ่งหมิงเดิมทีก็ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนกระดาษขาว สำหรับเรื่องดำมืดแบบนี้ จะไม่ใชอบก็เป็นเรื่องปกติจั๋วซือหรานกดบ่าเขาเบาๆ ยัดลูกกวาดหนึบหนับใส่มือเขาหลายเม็ดชิ่งหมิงมองลูกกวาดหนึบหนับใสมือ "..."เขารู้สึกจนใจหน่อยๆ ซือหรานมักปลอบเขาเหมือนกับเด็กแบบนี้เสมอ แต่เขาโตแล้วนะแต่ว่าก็อดพูดไม่ได้เลย ความรู้สึกแบบนี้บางครั้งก็ไม่เลวนักจั๋วซือหรานมองไปทางคนหาข่าวคนนั้น เอ่ยขึ้นว่า "พูดต่อสิ""คนหาข่าวคนนี้พอได้ยินก็ตาเป็นประกาย สีหน้าขาวซีดแต่เดิมที่ถูกจั๋วซือหรานเปิดโปงจนปั้นยาก เวลานี้ก็เหมือนจะตื่นเต้นแดงรื้นขึ้นมาจากคำพูดของจั๋วซือหรานแล้วนางเอ่ยต่อว่า "ใต้เท้า คนเหล่านี้ถึงแม้จะไม่มีแรงมากมายนัก แต่ก็มีอยู่หลายคนที่อ่านออกเขียนได้ ถ้าท่านต้องการหาคนที่รู้หนังสือ ที่นี่ก็จะถูกกว่ากันเยอะมาก แต่ว่า..."จั๋วซือหรานมองนาง "มีอะไรก็พูดตรงๆ เถอะ"คนหาข่าวคนนี้จึงกดเสียงลงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหม
Read more

บทที่ 1405

คนหาข่าวพอได้ยินก็ถลึงตากลมโต เหมือถูกคำพูดนี้ทำให้ตกตะลึงไป พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้าคิดๆ ดู ในเมื่อเจ้าเดินไปมาอิสระที่นี่ได้ คิดว่าคงจะไม่ใช่พวกขุนนางทาสแน่ แต่ก่อนหน้าพอข้าใช้เรื่องจะขายเจ้าก็ขู่เจ้าจนตกใจ เห็นได้ชัดว่าบนตัวเจ้าน่าจะมีที่มาที่ไปอยู่"จั๋วซือหรานชะงักไป ยื่นมือชี้ไปทิศที่นางชี้มาก่อนหน้านี้ "ดังนั้นข้ารู้สึกว่า บางทีเจ้าน่าจะใกล้เคียงกับคนพวกนั้น อาจจะมีเหตุผลของตัวเอง จึงต้องมาอยู่ในเมืองซื่อหนาน""แล้วเหตุผลที่มาที่ไปของเจ้าคืออะไร?" จั๋วซือหรานถามสีหน้าคนหาข่าวเดิมทีที่แดงระเรื่ออยู่ ตอนนี้กลับซีดเผือดไปอีกครั้ง"ข้า..." มุมปากนางขยับ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างลำบากใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้เร่งรัด เอ่ยแค่ว่า "ไปดูทางนั้นก่อนแล้วกัน เจ้าเองก็ค่อยๆ คิด ถ้าไม่เล่าก็ไม่บังคับนะ ข้าแค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆ ก็เท่านั้น"พูดจบ พวกของจั๋วซือหรานก็เดินตรงไปทางนั้นทางนั้นกับการค้าทาสทางนี้ก็มีบรรยากาศแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจริงๆชิ่งหมิงอยู่ที่นี่ไม่รุ้สึกรังเกียจอะไรนัก เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศทางนี้ไม่ได้ดำมืดเหมือนทางนั้นจั๋วซือหรานดึงนิ้
Read more

บทที่ 1406

จั๋วซือหรานยื่นมือไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนก็วางกระบี่ประจำตระกูลเข้ามาในมือนางอย่างรู้กันกระบี่รูปร่างโบราณถูกนางกุมไว้ในมือ นางหันด้ามกระบี่ไปยังคนผู้นี้คนผู้นี้ขมวดคิ้ว ไม่ขยับตัวไปพักหนึ่งครู่หนึ่งจึงยื่นมือออกมา วางลงไปบนด้ามกระบี่เล่มนี้ชักไม่ออกเลย เขาออกแรงจริงเล็กน้อย!ซี๊ด...ฝ่ามือมีความเจ็บปวดจากการแผดเผาอย่างรุนแรงเขาค่อยๆ ลดมือลงเงียบๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ดึงไม่ออก ข้ายอมแพ้ ขอตัวก่อน"เขาหมุนตัวจะเดินไปพวกจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดจะไล่ตามจวงชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นคำหนึ่ง "กระบี่เล่มนั้นของเขา น่าสนใจอยู่นะ"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "กระบี่ประจำตระกูลเล่มหนึ่งน่ะ ต้องน่าสนใจอยู่แล้ว" มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอันที่จริงก่อนหน้านี้นางมองไกลๆ ก็รู้สึกว่ากระบี่เล่มนั้นไม่ธรรมดาเลยแต่เฟิงเหยียนปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเหมือนไม่สังเกตเห็นอะไรเลย นางจึงรู้สึกแค่ว่าตนเองเข้าใจผิดไปจึงอยากจะเข้ามาดูเสียหน่อยจากนั้นตอนที่ชักกระบี่ นางดึงมันออกมา กลิ่นอายที่ทะลักออกมาจากในฝักกระบี่นั่น พวกเขาต้องสังเกตเห็นแล้วแน่ๆกระบี่เล่มนั้นกับกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียนน่าจะเ
Read more

บทที่ 1407

จั๋วซือหรานเห็นท่าทางนางเป็นแบบนี้ กลับหัวเราะขึ้นมาไม่มีความคิดจะทำอะไรนางทั้งนั้นพอหันหน้าไปก็บอกกับเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นว่า "ดังนั้นที่เขาอยู่ในซื่อหนาน คงไม่ใช่เพราะพวกเขามีสถานการณ์เดียวกับพวกเจ้าหรอกนะ?"เพราะถูกสภาผู้อาวุโสตามล่าหรือ?จั๋วซือหรานคาดเดาแบบนี้แต่ปันอวิ๋นกับเฟิงเหยียนกลับเผย...สีหน้าหนึ่งออกมาจั๋วซือหรานเองก็บอกไม่ถูกว่าสีหน้าแบบนี้ควรพรรณาว่าอะไรดี ถ้าพูดขึ้นมาก็น่าจะเป็นค่อนข้างดูถูกคนคนนั้นกระมังไม่สิ บางทีถ้าเทียบกับบอกว่าดูถูกคนนั้น สู้บอกว่าดูถูกตัวตนเต่าหลังวารี...ที่คนคนนั้นแบกรับอยู่ดีกว่า?จั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายแฝงที่อยู่ด้านใน เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "เจ้าสองคนคิดว่าหงส์แดงกับกู่วิญญาณเป็นของดีนักหรือไรกัน!"ถ้าเป็นของที่ดีจริง พวกเขาสองคนคงไม่ถูกจำกัดแบบตอนนี้หรอกในสภาพที่ไม่ค่อยต่างกัน ยังจะดูถูกว่ากุญแจของคนอื่นระดับสูงไม่พออีกรึ?จั๋วซือหรานเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะโมโหสองคนนี้แล้วปันอวิ๋นหันสายตาไปทางอื่นเฟิงเหยียนกระแอมออกมาเบาๆ พูดเลี่ยงไปเรื่องอื่นว่า "เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ถ้าไม่หนี ก็คงจะมาหาพวกเราเอง บางทีอาจจะแอบสังเกตอยู
Read more

บทที่ 1408

เหล่าทาสอาชญากรที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและขังอยู่ในกรงเหล็กเหล่านั้นเดิมทีก็รู้สึกสิ้นหวังมากแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกด้านชากระทั่งยังคิดว่าคงต้องตายแน่แล้วตอนที่ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน พวกเขาก็อดมองขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายไม่ได้ แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะสั้นนิดเดียวเท่านั้น และจางหายไปอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานกำชับเหล่านี้เสร็จ ก็จ่ายเงินแล้วออกไปคนหาข่าวคนนั้นตามอยู่ด้านหลังนาง แต่ก็เงียบมาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางก็คอยสังเกตพฤติกรรมของจั๋วซือหรานอยู่ตลอดเดินห่างออกมาระยะหนึ่ง คนหาข่าวจึงถามจั๋วซือหรานขึ้นเสียงต่ำคำหนึ่ง "ทำไมท่านต้องเอาคนแก่อ่อนแอพวกนั้นไปด้วยหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองนาง "เจ้าถามข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเทำไปเพราะอะไรล่ะ?"คนหาข่าวคนนี้อันที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ นางแค่รู้สึกว่า...ใต้เท้าคนนี้ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่คนเลวดังนั้นนางจึงตอบว่า "ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าสงสารพวกเขา ดังนั้นจึงจะพาไปด้วยกัน"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "คิดไม่ถึงเลย ว่าภาพลักษณ์ของข้าในใจเจ้าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้?"คนหาข่าวรู้สึกเขินหน่อยๆ ไม่พูดอะไรจั๋วซ
Read more

บทที่ 1409

พอได้ยินคำนี้ เฟิงเหยียนก็หันมามองนาง สายตายากจะอธิบายปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเองก็มองนาง เหมือนเดาได้ถึงคำตอบแล้ว"คงไม่ใช่คำตอบที่ข้าคิดหรอกกระมัง?" ปันอวิ๋นถามขึ้นมาคำหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า "ทำอะไรน่ะพวกเจ้า พวกชายหนุ่มไม่ใช่ว่าชอบไปกันหรือ? พวกเจ้านี่แปลกจริง! แล้วก็นะ กับข้าวที่นั่นมันไม่อร่อยรึไงกัน?"เฟิ่งหลานเดิมทียังไม่รู้ว่าใต้เท้าจะพานางไปที่ไหนจนกระทั่ง มองเห็นทางเข้าถนนบุปผา ได้กลิ่นหอมประทินลอยเข้ามาในอากาศนางจึงเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรสีหน้าของสามคนนี้ก่อนหน้าถึงยากจะอธิบายนักถึงยังไง...มีหญิงสาวพาชายหนุ่มมาเที่ยวในถนนบุปผาโรงคณิกาเสียที่ไหนกัน...จั๋วซือหรานเดินพาพวกเขาเข้าไปอย่างคุ้นที่คุ้นทางแม่เล้าพอเห็นนางเข้ามา ก็เหมือนเห็นตัวกาลกีณีขึ้นมาให้ตายเถอะ! ทำไมถึงได้มาอีกแล้วล่ะ!พอออกไปก็ถูกตั๋วทองโบกเข้าใส่หน้าสีหน้าที่ดูทุกข์ระทมแต่เดิมบนหน้าแม่เล้า ก็เปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้นยินดีขึ้นมาทันที"ใต้เท้ามาอีกแล้วหรือ! ยินดีต้อนรับจริงๆ!"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ห้องหรูที่เงียบๆ สุราอาหารเลิศรส ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลของเจ้า"แม่เล้าพอ
Read more

บทที่ 1410

ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status