บททั้งหมดของ สัญญารักผูกหัวใจท่านประธานปากแข็ง: บทที่ 21 - บทที่ 30
210
บทที่ 21
คนขับรถชำเลืองมองฟู่เจิงผ่านกระจกหลังสองที ก่อนจะมองตามสายตาของฟู่เจิงออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นตาทั้งสองพลันเบิกโพลง นั่นมันคุณผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?แล้วผู้ชายที่อยู่ข้างคุณผู้หญิงเป็นใครกัน?สวมหมวกแก๊ปและหน้ากากอนามัย ปิดบังมิดชิดขนาดนั้น แถมยังปรากฏตัวในสตูดิโอ คงจะเป็นดาราคนหนึ่งใช่ไหม?ดูท่าทางแล้วผู้ชายคนนั้นสนิทสนมกับคุณผู้หญิงอยู่ไม่น้อยคนขับรถพูดกระซิบเตือน “คุณผู้ชายครับ คุณฉู่ออกมาแล้วครับ”ฟู่เจิงตอบกลับว่า “อืม” ด้วยน้ำเสียงที่ไม่หนักและไม่เบาทีหนึ่งคนขับรถชักไม่แน่ใจอยู่นิดหน่อยว่าเขาหมายความว่ายังไง“ขับรถไปหน้าประตูสตูดิโอ” ฟู่เจิงเอ่ยขับรถไปหน้าประตูสตูดิโองั้นเหรอ แบบนั้นจะไม่ถูกคุณผู้หญิงเห็นเข้าหรือยังไง?ในใจของคนขับรถกำลังไตร่ตรอง ทว่ายังคงเชื่อฟังคำสั่งของฟู่เจิง ขับรถไปที่หน้าประตูสตูดิโอระหว่างพูดคุยกัน โจวอวี่เชิดคางขึ้น “นั่นประธานฟู่ไม่ใช่เหรอ?”เวินเหลียงมองตามสายตาไป เห็นเพียงหน้าสตูดิโอมีรถยี่ห้อปอร์เช่รุ่นคาเยนน์สีดำคันหนึ่ง แล่นมาจอดอยู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ป้ายทะเบียนรถคันนั้นเป็นรถที่ฟู่เจิงใช้อยู่เป็นประจำ ฉู่ซืออี๋ยืนอยู่หน้ารถฟู่
Read More
บทที่ 22
ฟู่เจิงเงยหน้าขึ้น มองไปปราดเดียวก็เห็นเงาร่างของเวินเหลียงยืนอยู่หน้าประตูเธอยืนในทิศทางย้อนแสง สีหน้าคลุมเครือมองเห็นไม่ชัด ทว่าเขากลับมีลางสังหรณ์อย่างหนึ่ง เธอกำลังมองเขาอยู่“บังเอิญเจอฉางคงตรงทางเดิน ก็เลยมาทักทายกับทุกคนสักหน่อย” ใบหน้าของเวินเหลียงแฝงรอยยิ้มเล็กน้อย พลางกวาดสายตาไปที่ทุกคนอย่างรวดเร็ว“มากินข้าวกับเพื่อนที่นี่เหรอ?” ฟู่เจิงถาม“อืม”เจียงมู่ยิ้มพร้อมถามขึ้นว่า “เวินเหลียง ช่วงนี้กำลังยุ่งอะไรอยู่เหรอ?”“แอมบาสเดอร์ของเอ็มคิวค่ะ”เจียงมู่อึ้งไป ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าตัวเองหยิบระเบิดขึ้นมาแล้วแต่เห็นได้ชัดว่าคนอื่นไม่รู้ ระเบิดลูกนี้นั้นหมายถึงฉู่ซืออี๋ เขาหัวเราะแล้วพูดขึ้น “แอมบาสเดอร์ก็อยู่นี่ไม่ใช่เหรอ?”เวินเหลียงยิ้มชืด ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปที่โต๊ะ แล้วหยิบแก้วเปล่าขึ้นมารินชาให้ตัวเอง “วันนี้ไหน ๆ ก็บังเอิญได้เจอกัน ฉันขอใช้ชาแทนเหล้าดื่มให้คุณทั้งสองคนนะคะ รบกวนแล้วนะคะ วันหน้าค่อยเลี้ยงข้าวทุกคนอีกครั้งก็แล้วกันนะคะ พี่รอง ฉันขอดื่มให้คุณด้วย”“พี่รอง” สองคำนี้ เธอเรียกอย่างชัดเจนเป็นพิเศษนับตั้งแต่ทั้งสองคนแต่งงานกัน ราวกับเวินเหลียงเธอไม่เ
Read More
บทที่ 23
ราวกับเสียบมีดแทงเข้าไปในหัวใจเธอด้วยมือตัวเอง“เวินเหลียง ก็แค่ดื่มคารวะพี่สะใภ้รองของเธอเองไม่ใช่เหรอ?”“นี่จะเป็นไรไป?”“คุณฉู่เป็นคนดีเข้าใจหัวอกคนอื่น ดื่มคารวะพี่สะใภ้จะเป็นไรไป?”สีหน้าของเวินเหลียงตึงเครียด เธอเม้มมุมปาก ก่อนจะเดินหน้าไปหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา แล้วยกดื่มในรวดเดียวต่อหน้าฉู่ซืออี๋ เธอวางแก้วเหล้าลง จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จา“ไม่แม้แต่จะเรียกพี่สะใภ้รองเลย” ลู่ฉางคงหัวเราะพลางส่ายหน้า“สงสัยคงคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูตระกูลฟู่ไปแล้วจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าสะบัดหน้ากับอาเจิง”“ตอนนี้มีที่ให้เธอยืนในบริษัทฟู่ซื่อก็ดีมากแล้ว คุณฉู่เป็นถึงนายหญิงในอนาคตของฟู่ซื่อ ไม่นึกเลยว่าเธอจะไม่เห็นอยู่ในสายตา อาเจิงหรือว่านายอยากจะดูคุณฉู่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจไปทั้งอย่างนี้?”“อะแฮ่ม” เจียงมู่กระแอม มองสีหน้าของฟู่เจิงที่ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อย ๆ “พวกนายเลิกพูดกันได้แล้ว”เมื่อทุกคนเห็นว่าสีหน้าของฟู่เจิงไม่สบอารมณ์เอาซะเลย ก็คิดว่าฟู่เจิงไม่พอใจเวินเหลียง คนที่เหลือจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแต่มีอยู่คนหนึ่ง กำลังประมาณการคิดจะฉวยโอกาสเอาใจฟู่เจิงกับฉู่ซือ
Read More
บทที่ 24
“กลับมาแล้วเหรอ?” ฟู่เจิงถามขึ้นเวินเหลียงมองหน้าตรง ไม่สนใจใด ๆ เธอขึ้นไปชั้นบนเลยนัยน์ตาของฟู่เจิงเคร่งขรึม สายตามองตามเงาร่างของเธอไป จนกระทั่งเงาร่างของเธอหายไปตรงปลายบันไดฟู่เจิงนั่งอยู่ชั้นล่างครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นตรงดิ่งไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นบนเลย เขาเปิดประตู ไม่เห็นใครในห้องนอน ได้ยินเพียงเสียงน้ำไหลซู่ ๆ ในห้องน้ำ เวินเหลียงกำลังอาบน้ำอยู่ลูกกระเดือกของฟู่เจิงขยับขึ้นลง เขาคลายคอเสื้อ แล้วหยิบผ้าคลุมอาบน้ำออกมาจากตู้เสื้อผ้า ก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอกฟู่เจิงกลับมาจากด้านนอก เจอเข้ากับเวินเหลียงที่ออกมาจากในห้องน้ำพอดีเธอลืมหยิบชุดนอนไป เป่าผมจนแห้งกึ่งหนึ่งแล้ว บนตัวห่อหุ้มเอาไว้ด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว ห้อยลงมาจากหน้าอกปกปิดสะโพกเอาไว้พอดิบพอดี ลำคองดงาม ไหล่ทั้งสองข้างกลมมนเล็กเรียว ส่วนที่ถูกผ้าขนหนูปกปิดเอาไว้ ค่อนข้างกลมกลึงเย้ายวน ฟู่เจิงราวกับยังสามารถหวนนึกถึงการสัมผัสพวกมันด้วยมือออก ต้นขาเรียวยาวขาวผ่องเปลือยเปล่าอยู่ด้านนอก ผิวขาวราวกับนม เนียนอย่างกับแพรต่วนทั้งสองคนสบตากันทันใดนั้นเวินเหลียงก็เบนสายตาออก ก่อนจะเดินไปหยิบชุด
Read More
บทที่ 25
“คุณจะไปห้องรับแขกไม่ใช่เหรอ? รีบไปเร็วเข้าสิ!”เวินเหลียงรีบเก็บผ้าขนหนูขึ้นมา แล้วเอามือปิดหน้าอกเอาไว้เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็สบเข้ากับนัยน์ตาดำขลับลึกซึ้งทั้งสองของฟู่เจิง ล้ำลึกอย่างกับจะกลืนกินเธอเข้าไปอย่างนั้นเวินเหลียงอึ้งไปใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าค่อย ๆ เข้ามาใกล้ขึ้น ลมหายใจอุ่นรดอยู่บนดวงหน้าของเธอเธอหลับตาลงอย่างไม่อาจควบคุมได้ขณะหลับตาก็รับรู้ได้ว่าตรงหน้ามืดมน ถูกบดบังแสงเอาไว้ทว่ากลับไม่ประทับจูบลงมาสักทีเวินเหลียงจึงลืมตาขึ้นมาทว่าฟู่เจิงถอยหลังออกไปหลายก้าวตั้งนานแล้ว “ขอโทษนะ ฉันจะไปห้องรับแขกแล้ว เธอก็รีบพักผ่อนเร็ว ๆ ก็แล้วกัน”เขายืนอยู่นอกประตู หลับตาลง พยายามสลัดภาพเมื่อครู่ที่อยู่ในหัวออกไปเขาเกือบจะจูบเธอแล้วเชียวเขาบ้าไปแล้วจริง ๆเดี๋ยวเขาก็จะหย่ากับเวินเหลียงและจะได้ไปคบกับซืออี๋แล้ว แตะต้องตัวเวินเหลียงอีกได้ยังไงกัน...เขาปลอบตัวเอง เรือนร่างของเวินเหลียงยั่วยวน ยืนเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าเขา และเขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง มีการตอบสนองทางสรีระก็เป็นเรื่องปกติฟู่เจิงนวดระหว่างคิ้ว…ได้ยินเสียงปิดประตูหนัก เวินเหลียงยืนแข็งทื่ออยู่ท
Read More
บทที่ 26
เวินเหลียงรีบหลับตาลงโดยพลัน ทำทีแกล้งเป็นหลับจงมองไม่เห็นเธอ จงมองไม่เห็นเธอ จงมองไม่เห็นเธอ เธอแอบคิดอยู่ในใจทว่าร่างกายกลับสั่นหงึกเล็กน้อย เผยความรู้สึกของเธอออกไปอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องสงสัยเลยเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเขาเดินมาทางเตียงหัวใจของเวินเหลียงเต้นระรัวแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้วทันใดนั้นเธอก็เย็นวาบไปทั้งตัว ผ้าห่มถูกเลิกออกเวินเหลียงตกใจจนแข็งทื่อไปในฉับพลัน เธอหลับตาปี๋ สองขาเหยียดตรง คิดอยู่ในใจเงียบ ๆ ฉันหลับอยู่ ฉันหลับอยู่ขอแค่ฉันไม่เห็นหน้าเขา เขาก็จะไม่ฆ่าฉัน“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้หลับ ลืมตามามองฉันสิ ไม่งั้นข่มขืนเสร็จแล้วฆ่าทิ้งแน่” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเวินเหลียงในหัวของเวินเหลียงว่างเปล่า เธอลืมตาขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันลืมตาแล้ว คุณอย่าฆ่าฉันนะ คุณอย่าฆ่า...”พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง เธอเห็นใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างชัดเจนถ้าไม่ใช่ฟู่เจิงแล้วจะเป็นใครไปได้?สีหน้าของเวินเหลียงแข็งทื่อไปหมด บนดวงหน้ามีความกลัวอยู่เล็กน้อย ทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย และมีความอิหลักอิเหลื่อบางส่วนเธอลืมไปเสียสนิทว่าฟู่เ
Read More
บทที่ 27
เมื่อฉู่ซืออี๋เงยหน้าขึ้นมา เธอก็ตะโกนเรียกอย่างดีอกดีใจ “อาเจิง!”ฟู่เจิงสาวเท้ายาวก้าวเข้ามา ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ระวัง!”เวินเหลียงได้ยินเสียง เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็รู้สึกได้ว่ามีแรงมหาศาลมาผลักตัวเองออกไปเสียง “ตึง” ดังขึ้นเสียงหนึ่งชั้นวางของที่อยู่อีกด้านหล่นลงมาบนพื้น ส่งเสียงตึงออกมาเวินเหลียงล้มลงไปกองกับพื้น รู้สึกเพียงว่าข้อเท้าของตัวเองมีความเจ็บแปลบเสียดกระดูกแผ่ซ่านออกมา “ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า” ฟู่เจิงกอดฉู่ซื่ออี๋เอาไว้ พร้อมทั้งพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง“อาเจิง ฉันกลัวจะแย่อยู่แล้ว โชคดีที่คุณมาได้ทันเวลา โชคดีที่คุณมารับฉันเอาไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี้คุณดึงฉันไว้ ฉันคงถูกหล่นทับไปแล้ว” ฉู่ซื่ออี๋พิงอยู่ในอ้อมอกของฟู่เจิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว“อันตรายมาก เมื่อกี้ชั้นวางของนี่อยู่ห่างเธอไม่กี่เซนติเมตร โชคดีที่ประธานฟู่มือไว”หวังเหยียนเดินเข้ามาพูด “ขอบคุณประธานฟู่มากจริง ๆ นะคะ ถ้าไม่ได้ประธานฟู่ ซืออี๋คงได้รับบาดเจ็บไปแล้ว”ภาพตรงหน้าบาดตาเวินเหลียงเป็นอย่างยิ่งเธอเย็นยะเยือกไปทั้งตัว กระทั่งไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ข้อเท้าเลย
Read More
บทที่ 28
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร เวินเหลียงตื่นมาท่ามกลางความมืด อย่างแรกที่สัมผัสได้คือได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเวินเหลียงลืมตาขึ้นมา มองไปรอบ ๆ เธอจึงรู้แล้วว่าตัวเองอยู่ในห้องพักผู้ป่วยที่โรงพยาบาล“เวินเหลียง เธอตื่นแล้วเหรอ? รู้สึกยังไงบ้าง?”เมื่อเห็นเวินเหลียงลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เข้ามาในตาคือใบหน้าอันหล่อเหลาของฟู่เจิงมือของเวินเหลียงวางบนบริเวณท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว“ค่อยยังชั่ว” เธอมองไปนอกหน้าต่าง ฟ้ามืดลงแล้วในจังหวะนี้เอง ก็มีเสียงจ๊อก ๆ ดังขึ้นมาจากท้องของเธอสองที“หิวแล้วใช่ไหม ฉันให้คนเอาของกินมาให้สักหน่อยดีไหม?”“กลัวว่าจะช้าเกินไป ตอนนี้ฉันหิวมาก ๆ คุณลงไปซื้อให้ฉันหน่อยได้ไหม?” เวินเหลียงเบือนหน้ามองเขาฟู่เจิงเพิ่งเคยเห็นเวินเหลียงทำสีหน้าเชื่อฟังและอ่อนโยนแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาพยักหน้าตามสัญชาตญาณ “ได้ ฉันจะไปซื้อให้ เธออยู่ในห้องพักผู้ป่วยเพียงลำพังก็ระวังด้วยนะ มีเรื่องอะไรก็เรียกพยาบาล ห้ามลุกจากเตียงตามอำเภอใจเป็นอันขาด”เวินเหลียงพยักหน้าหลังฟู่เจิงออกไป เวินเหลียงรีบกดกริ่ง ไม่นานก็มีพยาบาลเดินเข้ามา “คนไข้อยากได้อะไรเหรอคะ? หรือว่าไม่สบายตัวตรงไหนหรือเปล่า
Read More
บทที่ 29
เพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากในการขึ้นลงบันได เธอจึงอยู่ในห้องนอนบนชั้นสองตลอดโดยไม่ออกมาจากห้องเลยหากจะกินข้าวก็ให้แม่บ้านเอาขึ้นไปให้เธอในขณะนี้เวินเหลียงกำลังง่วนอยู่กับการจัดการงาน เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็นึกว่าเป็นแม่บ้านที่เอาข้าวมาให้ จึงพูดโพล่งออกไปว่า “วางไว้บนโต๊ะก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันค่อยกิน”“กินข้าวก่อนแล้วค่อยทำงานเถอะ ไม่เสียเวลาเท่าไรหรอก” น้ำเสียงของฟู่เจิงแว่วดังมาเมื่อเวินเหลียงเงยหน้าขึ้น ถึงได้เห็นว่าฟู่เจิงเป็นคนเอาอาหารมาให้เธอ “คุณเลิกงานแล้วเหรอ”“อืม”เวินเหลียงปิดโน้ตบุ๊กลง ฟู่เจิงเอาอาหารไปวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเวินเหลียง จากนั้นก็ลงไปกินข้าวรอเมื่อเธอกินข้าวเสร็จแล้ว เขาถึงขึ้นมาเก็บถ้วยชามและตะเกียบให้เวินเหลียงอีกครั้งขณะที่ขึ้นมาอีกครั้ง ในมือของฟู่เจิงมีกระเป๋าอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาหนึ่งใบ ข้างในใส่ยาบางส่วนของเวินเหลียงเอาไว้ในนั้นไม่ได้มีเพียงยาที่ทางโรงพยาบาลสั่งมาให้เท่านั้น ยังมียาบรรเทาอาการ “กระเพาะอาหารแปรปรวน” ด้วยเห็นฟู่เจิงหยิบยาเหล่านั้นออกมาทีละซอง ๆ ในใจของเวินเหลียงก็เต้นตึกตัก ๆ นิ้วมือจับชายเสื้อเอาไว้แน่นฟู่เจิงหยิบขวด
Read More
บทที่ 30
“ผมจะพยายามกลับมา” ฟู่เจิงเอ่ย“คุณฉู่เป็นอะไรเหรอ?” เวินเหลียงรวบรวมพลังใจถามขึ้นมาในใจของเธอมีการคาดเดาเอาไว้ตั้งนานแล้ว ฟู่เจิงไปคราวนี้ไม่กลับมาอย่างแน่นอน เหมือนอย่างเมื่อวานไม่รู้ว่าฉู่ซืออี๋เรียกเขาไปด้วยเหตุผลอะไร? ตั้งสองวันติดต่อกันแล้วฟู่เจิงหันหลังกลับไปมองเธอ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “เวินเหลียง ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยถามมากมายขนาดนี้เลยนี่”เวินเหลียงสีหน้าซีดขาว “ฉันเจ็บเท้ามาก ๆ คุณช่วย...”“อาการบาดเจ็บที่เท้าคุณก็ไม่ได้รุนแรงอะไร มีเรื่องอะไรก็เรียกแม่บ้าน”น้ำเสียงของฟู่เจิงเย็นชา เขาเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาเวินเหลียงมองเงาเบื้องหลังของเขา ในใจขมขื่นสุดขีดเธอสลัดศักดิ์ศรีอันแข็งแกร่งของเธอออกมาอย่างยากลำบาก เผยให้เห็นความอ่อนโยนเล็กน้อย ทว่าเขากลับบอกว่าเธอเรื่องมากในตอนที่คนคนหนึ่งไม่สนใจใยดีคุณ ต่อให้คุณจะเผยความอ่อนแอออกไปมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์เดิมทีเขาอยากจะหย่าอยู่แล้ว เธอมีสิทธิ์อะไรไปถาม?เธอเลอะเลือนไปเอง แค่ฟู่เจิงเอายาให้เธอกิน เธอก็ลุ่มหลงจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครไปแล้วหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วแต่สิ่งที่ทำให้เวินเหลียงนึกไม่ถึงเลยก็คือ ก
Read More
ก่อนหน้า
123456
...
21
DMCA.com Protection Status