All Chapters of แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: Chapter 1311 - Chapter 1320

1346 Chapters

บทที่ 1311

“องค์หญิง ตอนนี้ควรทำเยี่ยงไรดีเพคะ?” สาวใช้เอ่ยถามอย่างร้อนใจคราวนี้องค์หญิงใหญ่ก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมานางขมวดคิ้วแน่น พลางรู้สึกเสียใจที่ตอนนั้นตนเองพูดโกหกหากรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่ควรพูดหลอกลวงเสด็จแม่ทว่าตอนนั้นนางก็ไม่คาดคิดว่า เสด็จแม่จะยืนกรานถึงเพียงนี้ ไม่สนใจความต้องการของจั่วเฟิง ดึงดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้นให้ได้องค์หญิงใหญ่ตัดสินใจฉับไว ลุกขึ้นมาออกคำสั่ง“ไปค่ายทหารตะวันออก!”นางต้องไปหาจั่วเฟิงก่อน จะยอมให้ใครชักจูงไม่ได้เด็ดขาดเรื่องการแต่งงานนี้ ขอเพียงจั่วเฟิงไม่ยินยอม ต่อให้เสด็จแม่ออกหน้า ก็ไม่มีทางสำเร็จหนึ่งชั่วยามผ่านไปรถม้าหยุดตรงหน้าค่ายทหารตะวันออกการเสด็จมาขององค์หญิงใหญ่ ทำให้เหล่าทหารในค่ายต่างตื่นตระหนกตกใจหลายคนเริ่มซุบซิบคาดเดา“หลายวันก่อน องค์หญิงใหญ่เพิ่งเลือกสิบกว่าคนกลับจวน ยังไม่พอใจอีกหรือ?”“องค์หญิงใหญ่ช่างมีความต้องการสูง สมคำร่ำลือจริง ๆ”“ไม่รู้คราวนี้หมายตาใครไว้อีก”คนมากมายรีบถอยห่างอย่างหวาดกลัวแต่ก็มีบางคนอยากปืนขึ้นที่สูง เดินมาข้างหน้าอย่างหวาดหวั่น กลัวองค์หญิงใหญ่จักมองไม่เห็นตนเองตอนนี้องค์หญิงใหญ่ไ
Read more

บทที่ 1312

“ไทเฮา บ่าวเห็นว่า การแต่งงานครั้งนี้น่าจะสำเร็จนะเพคะ” กุ้ยหมัวมัวถือน้ำชาอุ่น ๆ ถวายให้ไทเฮาไทเฮาเปิดฝาถ้วยน้ำชา กลับไม่ได้ยกดื่มนางมองไปไกล พร้อมพูดอย่างเนิบช้า“ตระกูลจั่วเป็นตระกูลที่เคร่งครัดในระเบียบธรรมเนียม วันนี้ข้าดูทั้งสองสามีภรรยา ก็เห็นว่าดีงามจริง ๆ ลูกชายที่ทั้งสองคนเลี้ยงดูมา ย่อมไม่เลวแน่“น่าเสียดาย ชื่อเสียงอย่างฉีเอ๋อร์ หากแต่แรกนางไม่ต้องแต่งงานไปเป็นพันธมิตรทางการเมือง ป่านนี้ก็คงไม่…”คำพูดของไทเฮาขาดหายไปกลางคัน ยกน้ำชาขึ้นมาจิบกลบเกลื่อนความหม่นหมองในใจลูกสาวแสนดี ต้องกลายมาเป็นเช่นนี้ จะไม่เจ็บปวดได้อย่างไร?เกิดมาในวังหลวง ไม่ได้หมายความว่าจะดีพร้อมไปเสียทุกอย่างตั้งแต่ฉีเอ๋อร์กลับมาจากแคว้นต้าเซี่ย ไทเฮาก็เริ่มจัดการเรื่องการแต่งงานของฉีเอ๋อร์แต่เหล่าทายาทจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ ล้วนแล้วแต่ดูแคลนฉีเอ๋อร์ที่เคยแต่งงานมาก่อน แม้นนางจะเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ก็ตามความบริสุทธิ์ของหญิงสาว เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในแคว้นหนานฉีเรื่องเช่นนี้ พวกนางไม่อาจฝืนเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไม่ง่ายที่ฉีเอ๋อร์จะมีชายที่ชอบ ในฐานะที่นางเป็นแม่ เพียงปรารถนาจะช่วยให้ลูก
Read more

บทที่ 1313

ภายในตำหนักฉือหนิง คนที่ควรมาล้วนมาถึงแล้วใบหน้าไทเฮามีแต่รอยยิ้ม หันมององค์หญิงใหญ่“ฉีเอ๋อร์ รีบนั่งลง”เด็กคนนี้ ดีใจจนอึ้งไปแล้วหรือช่างไม่รู้เลย องค์หญิงใหญ่ตกใจจนอึ้งต่างหากนี่เสด็จแม่บังคับให้แต่งงานหรือ?นางหันมองจั่วเฟิง จั่วเฟิงสวมชุดลำลอง สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใด สายตามองอิฐเบื้องหน้า ไม่มองนางสักนิดทำราวกับนางไม่มีตัวตนองค์หญิงใหญ่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นอย่าเห็นว่าอยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางดูสูงส่ง แต่อยู่ต่อหน้าเสด็จแม่ นางคือเด็กคนหนึ่งตลอดไปเป็นเด็กที่ทำความผิดแล้วร้อนตัวปฏิกิริยาตอบโต้ของนาง คือการหนี!“เสด็จแม่ หม่อมฉันไปตำหนักหย่งเหอก่อนเพคะ!”พูดจบ ไม่รอให้ไทเฮาคัดค้าน รีบก้าวจากไปทันที……เดิมองค์หญิงใหญ่คิดจะไปหลบที่ตำหนักหย่งเหอเมื่อไปถึงกลับถูกแจ้งว่าฮองเฮาไม่อยู่ตำหนักหย่งเหอ วันนี้พาองค์ชายทั้งสองออกจากวังไปตั้งแต่เช้านางกำนัลคนนั้นสนิทกับองค์หญิงใหญ่ จึงพูดให้ฟังอีก“ฮ่องเต้อยู่ด้านใน องค์หญิงใหญ่จะพบฮ่องเต้หรือไม่เพคะ?”ในหัวองค์หญิงใหญ่มีคำพูดหลายคำผุดขึ้น รักษาม้าตายเหมือนม้าเป็นไม่ต้องสงสัย เซียวอวี้คือม้าตายตัวนั้นนางไม่หวังให้
Read more

บทที่ 1314

“เจ้ามีหญิงที่พึงใจอยู่หรือไม่ ไม่มีความจำเป็นต้องบอกข้า” องค์หญิงใหญ่หันหลังเดินไปอุทยานหลวงต่อจั่วเฟิงตามอยู่ด้านหลังนาง เหยียบเงาของนางเป็นบางครั้งเขาพูดโกหกไปเพราะเขาได้ยินว่าองค์หญิงใหญ่มักมากในกาม เขากลัวถูกนางหมายตาเมื่อถึงอุทยานหลวง องค์หญิงใหญ่นั่งลงภายในศาลา“ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดอกไม้ร่วงไปนานแล้ว ช่างน่าเบื่อสิ้นดี”ในสายตาของนาง จั่วเฟิงผู้นี้ก็เหมือนดอกไม้ที่โรยราส่วนพวกที่อยู่ในจวนของนาง บางคนเป็นดอกตูมยังไม่บาน บางคนงดงามเย้ายวน มีผู้ใดที่สู้เขาไม่ได้?เสด็จแม่เองก็เหลือเกิน คำโกหกที่ชัดเจนเช่นนี้ก็แยกแยะไม่ออกขอเพียงเสด็จแม่ใส่ใจสายตาในการเลือกชายหนุ่มของนาง คงไม่คิดว่านางจะชอบจั่วเฟิงจริงๆจั่วเฟิงยืนอยู่นอกศาลา ไม่คิดจะลามปามเขายืนอยู่ข้างนอก ดูเหมือนองครักษ์ขององค์หญิงขณะนี้ ภายในตำหนักฉือหนิงวันนี้เชิญคนตระกูลจั่วเข้าวัง เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงใหญ่และจั่วเฟิงตั้งแต่เข้าวังมาเมื่อวาน คนของตระกูลจั่วก็คิดตกแล้วพวกเขามีจั่วเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียว เมื่อก่อนไม่อยากให้เขาเป็นทหาร แต่เขาก็เป็นแล้วต่อมา ฮูหยินจั่วข่มขู่ด้วยชีวิต
Read more

บทที่ 1315

หลังเซียวอวี้เข้ามา ฮูหยินเมิ่งขอตัวออกไปเฟิ่งจิ่วเหยียนเหลือบมองเซียวอวี้แวบหนึ่ง“ข้ากับท่านแม่กำลังคุยกัน ทำไมฝ่าบาทจึงมากะทันหัน?”ต่อมานางถามสีหน้าจริงจัง “หรือเกิดเรื่องใดขึ้นหรือ?”เซียวอวี้กลับโอบนางเข้ามากอดอย่างทนไม่ไหว“ในวังว่างเปล่า ในใจข้าเองก็ว่างเปล่า จึงอยากมาเยี่ยมพวกเจ้า”บนเตียงเล็ก เด็กน้อยสองคนยื่นหัวออกมา จ้องมองเสด็จพ่อเซียวอวี้ใจอ่อนยวบ รีบไปอุ้มพวกเขาทันที“อาหลิ่น อาลี่ คิดถึงเสด็จพ่อหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูภาพนี้ ราวกับเด็กสองคนได้กลายเป็นยาวิเศษของเขาไปแล้ว“ฝ่าบาทควรรีบกลับวังก่อน” นางเอ่ยเตือนเซียวอวี้อุ้มเด็กน้อยสองคนเอาไว้ ทำเหมือนไม่ได้ยิน“ฎีกาจัดการเสร็จหมดแล้ว ในวังไม่มีธุระใด”เขากำลังโกหกเฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็รู้อยู่แก่ใจเมื่อเห็นเขาคิดถึงลูกมากขนาดนี้ จึงอนุญาตให้เขาอยู่ต่ออีกสักครู่เพียงไม่นาน นอกเรือนมีคนรายงาน“พระนาง ในวังมีคนมาแจ้งข่าว องค์หญิงใหญ่มีธุระกับท่านเพคะ”เซียวอวี้ที่กำลังกล่อมลูกชะงัก หันมองเฟิ่งจิ่วเหยียน“เซียวฉีหาเจ้า น่าจะเป็นเรื่องของจั่วเฟิง”หลังเฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากวัง โดยไม่รู้เรื่องราวหลังจ
Read more

บทที่ 1316

องค์หญิงใหญ่มีสนมชายมากมาย แต่กลับไม่มีสักคนที่นางรักอย่างแท้จริงแต่นางไม่สนใจสิ่งที่นางต้องการคือไม่รู้สึกผิดต่อตัวเอง“ข้าอยากดีกับตัวเอง” องค์หญิงใหญ่ดื่มน้ำชาหนึ่งคำ ในแววตาเผยความโศกเศร้าเล็กน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดแทรก ฟังอยู่เงียบ ๆ“ตอนนั้น ฮ่องเต้เพิ่งขึ้นครองราชย์ ศัตรูมารุกราน ข้าทำเพื่อแคว้นหนานฉี อภิเษกเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นต้าเซี่ย”“หลายปีที่อยู่ในแคว้นต้าเซี่ย ข้าราวกับศพเดินได้”“จนกระทั่งข้าได้พบท่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าหวั่นไหวเพราะชายหนุ่มคนหนึ่ง”องค์หญิงใหญ่จ้องมองฮองเฮาตรงหน้า สายตาราวกับทะลุผ่านมิติเวลา กลับไปตอนที่เพิ่งพบกันครั้งแรกสายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนซื่อตรง“เรื่องนี้เป็นความผิดของข้า”มุมปากองค์หญิงใหญ่ยกขึ้น“ท่านไม่ต้องรู้สึกผิด ข้าปล่อยวางนานแล้ว”“ตั้งแต่รู้ว่าท่านเป็นสตรี ข้าก็ไม่เคยคิดเกินเลย”“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกที่ได้พบกัน เกิดขึ้นภายใต้ความตื่นตระหนกของข้า แล้วท่านปรากฏตัวพอดี จึงทำให้เกิดความสับสน”“ตอนนี้เมื่อคิดดู ความจริงหากเปลี่ยนเป็นใครสักคน บางทีข้าก็อาจหวั่นไหวเหมือนกัน”เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นด้วยกับคำพูดนี้“เป็นเช่นน
Read more

บทที่ 1317

จื้อจ้ายจวีเซียวอวี้อยู่ที่นี่ไม่ยอมไป เฟิ่งจิ่วเหยียนจะไล่อย่างไรก็ไร้ประโยชน์เขายังใช้ลูกมาเป็นไม้กันหมา“อาหลิ่นกับอาลี่ไม่อยากให้เสด็จพ่อไป”ใช่ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนใจไม้ไส้ระกำ นางเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องบ้านเมืองยามค่ำ เซียวอวี้ค้างแรมที่จื้อจ้ายจวีเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นเขาแล้วรำคาญ“ในฐานะฮ่องเต้ผู้นำแคว้น จะเอาแต่ใจเช่นนี้ได้อย่างไร?”เซียวอวี้โน้มเข้ามาใกล้ อุ้มนางเอาไว้บนตัก“ข้าเองก็เป็นเพียงชายทั่วไป ต้องการภรรยาและลูกอยู่เคียงข้าง เล่าเรื่องเมื่อกลางวันมาสิ เซียวฉีพูดอะไรกับเจ้า? สีหน้าเจ้าตอนกลับมาไม่สู้ดีนัก?”เฟิ่งจิ่วเหยียนครุ่นคิดแล้วกล่าว“เรื่องของจั่วเฟิงไม่แน่นอนสักที หม่อมฉันกลัวจะมีการเปลี่ยนแปลง”เซียวอวี้ทำหน้าไม่ใส่ใจ“แต่งตั้งรองหัวหน้าไว้ล่วงหน้า เมื่อใดที่จั่วเฟิงไม่อาจไปหนานเจียง ก็เลื่อนตำแหน่งรองหัวหน้า”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“นี่เป็นวิธีที่ดี”“แต่น่าเสียดายจั่วเฟิง”สุดท้ายแล้ว นางก็ยังทำใจไม่ได้ใช่ว่าใครก็เป็นนักรบอัจฉริยะเซียวอวี้เห็นนางขมวดคิ้ว จึงถามอย่างห่วงใย“หากเจ้าอยากเก็บจั่วเฟิงไว้จริง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปตำหนักฉื
Read more

บทที่ 1318

“ทางตำหนักฉือหนิงเกิดอะไรขึ้น?” เฟิ่งจิ่วเหยียนนึกถึงองค์หญิงใหญ่สีหน้าของเซียวอวี้เคร่งขรึม“วันนี้เซียวฉีไปอธิบายกับไทเฮา ไทเฮาทนแรงกระทบเทือนมิได้ โมโหจนเกือบหมดสติไป”“เราจึง รีบออกจากวังมาบอกเรื่องนี้กับเจ้า”เฟิ่งจิ่วเหยียน: ...หากไทเฮามีเรื่องอะไรจริง ๆ ส่งคนมาแจ้งก็พอแล้ว ไฉนจำเป็นต้องให้เขามาเองเช่นนี้ดูเหมือนว่าน่าจะไม่มีอะไรมากแล้วเซียวอวี้เห็นนางไม่ตอบ ทั้งยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ จึงทำเป็นถามอย่างกังวล“พวกเราควรจะไปเยี่ยมไทเฮาหรือไม่? แม้นคนจะไม่ได้ไป ก็ควรจะส่งของไปหน่อยก็ยังดี เพื่อปลอบใจคนแก่ชราอย่างนาง เจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนปรายตามองเขา“ท่านยังคิดว่าวุ่นวายไม่พออีกหรือ?”เซียวอวี้โอบเอวของนาง วางคางลงบนไหล่ของนางอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างอะไรกับหมาป่ากำลังส่ายหางออดอ้อน“นั่นสินะ ทำไมเราคิดไม่ได้ เรื่องของสองแม่ลูกอย่างไทเฮากับเซียวฉี ให้พวกนางจัดการเองก็พอ”เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออกด้วยสีหน้าจริงจัง“เมื่อวานก็ได้มีฏีกาค้างเป็นกองแล้วกระมัง“แล้ว วันนี้ยังคิดจะเกียจคร้านต่อหรือ?”แม้นสามีภรรยาจะรักกันมากเพียงใด ก็ไม่ควรปล่อยให้งานสำคัญ
Read more

บทที่ 1319

องค์หญิงใหญ่ไปหาสองผู้เฒ่าแห่งตระกูลจั่ว บอกให้พวกเขาปล่อยตัวจั่วเฟิง ไฉนเลยจะรู้ว่าพวกเขาดื้อด้าน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมส่งบุตรชายไปตายครั้นได้รู้ว่าพวกเขาลงมือทำร้ายจั่วเฟิงเองกับมือ องค์หญิงใหญ่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“ใต้หล้านี้ไยจึงมีพ่อแม่จิตใจอำมหิตเช่นพวกเจ้าอยู่ด้วย!”นายหญิงจั่วน้ำตาไหลพร้อมอธิบาย “องค์หญิง พวกข้าเองก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ แต่พวกข้าทนเห็นลูกชายเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้”องค์หญิงใหญ่นั่งลงบนที่นั่ง สีหน้าเครียดเกร็ง“ข้าได้บอกแล้ว ว่าจะไม่ให้เขาเป็นราชบุตรเขย พวกเจ้า…พวกเจ้ากลับไม่สนใจความเป็นความตายของลูก เพื่อบังคับเขาแต่งงาน คิดจะขายลูกแลกเกียรติยศหรืออย่างไร!”นายหญิงจั่วรีบปฏิเสธ“ไม่ใช่ องค์หญิง ไม่ใช่เพื่อบีบบังคับให้แต่งงาน พวกเรา พวกเราไม่อยากให้เขาลงสนามรบต่างหาก”องค์หญิงใหญ่ระเบิดอารมณ์ทันที“อะไรนะ? เหตุผลนี้เองหรือ?“หากทุกคนต่างรักตัวกลัวตายเหมือนพวกเจ้ากันหมด แล้วผู้ใดจะไปสู้รบ?”นายท่านจั่วยังคงดื้อดึงยิ่งนัก“แคว้นหนานฉีมีกำลังพลทหารมากมายถึงเพียงนั้น ขาดลูกข้าไปเพียงคนเดียวย่อมไม่ใช่ปัญหา“แต่ตระกูลจั่วของพวกเรามีทายาทเพียงคนเดี
Read more

บทที่ 1320

หลังจากที่หมอหลวงตรวจบาดแผลของจั่วเฟิงเสร็จ ก็ขมวดคิ้ว“แผลสาหัสมาก ชักช้าไม่ได้”องค์หญิงใหญ่เองก็มา นางได้ยินคำพูดนี้ ในใจเกิดวุ่นวาย“รีบรักษาให้เขา!”“รับทราบ องค์หญิง”หมอหลวงรักษาแผลให้จั่วเฟิงในห้อง ส่วนสองผู้เฒ่าตระกูลจั่วเดินวนไปวนมาอยู่นอกห้ององค์หญิงใหญ่เห็นพวกเขา ก็รู้สึกเจ็บใจนางเจ็บใจแทนจั่วเฟิงเป็นผู้มีความสามารถทางการทหารอยู่ดี ๆ ต้องมาถูกทำลายด้วยน้ำมือของพ่อแม่แท้ ๆ บาปกรรมยิ่งนัก!นางหวังเพียงว่า อาการบาดเจ็บของจั่วเฟิงจะหายดีผ่านไปครึ่งชั่วยาม หมอหลวงก็ออกมาองค์หญิงใหญ่กับสองผู้เฒ่าตระกูลจั่วต่างจ้องมาที่เขา ต่างคนต่างคิดไปมากมายหลายอย่างหมอหลวงโค้งคารวะองค์หญิงใหญ่“องค์หญิง กระดูกของคุณชายจั่วเชื่อมต่อกันแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมาก”องค์หญิงใหญ่ถอนหายใจอย่างโล่งอกได้ไม่ทันไร ก็ได้ยินหมอหลวงกล่าวอีกว่า“ทว่า กล้ามเนื้อของเขาถูกทำลาย ต่อไปจะไม่สามารถยกของหนักได้อีกแล้ว”นายท่านจั่วรีบสอบถาม“ส่งผลต่อการฝึกในค่ายทหารของเขาหรือไม่?”หมอหลวงส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมา“ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้ว”ได้ยินเช่นนั้น นายท่านเฟิ่งพลันรู้สึกโล่งอก
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status