All Chapters of แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: Chapter 1321 - Chapter 1330

1338 Chapters

บทที่ 1321

เซียวอวี้รู้มาโดยตลอด เฟิ่งจิ่วเหยียนทำอะไรอย่างเคร่งครัดเสมอ โดยเฉพาะเรื่องในกองทัพ ไม่มีการลำเอียงเด็ดขาดเรื่องของจั่วเฟิง ไม่มีโอกาสย้อนคืนแล้วใครจะไปคาดคิด เพียงเพราะคำโกหกของเซียวฉี จะสร้างเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ทว่าจะโทษนางทั้งหมดก็ไม่ได้คนตระกูลจั่ว ตั้งใจแน่วแน่ไม่ยอมให้จั่วเฟิงมีโอกาสลงสนามรบชีวิตของจั่วเฟิงจึงถูกกำหนดให้มีชะตากรรมเช่นนี้เซียวอวี้ดูออกว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนอารมณ์ไม่ดี จึงป้อนผลไม้แช่อิ่มเข้าปากของนางรสชาติหวานปานน้ำผึ้งของมัน ช่วยปลอบประโลมรอยขมวดระหว่างคิ้วของนางปมคิ้วของนางคลายออกหลายส่วน หันไปมองทางถุงผลไม้แช่อิ่มบนโต๊ะ“ซื้อมาตั้งแต่เมื่อไร?”“ให้เฉินจี๋ไปซื้อมาโดยเฉพาะ ประเดี๋ยวจะมีของโปรดของเจ้าอีกด้วย”เขาจงใจเก็บไว้ไม่ยอมพูดทว่า ปิดบังเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อยู่ดี“ขนมเกาลัดสินะ” นางมีสีหน้าราบเรียบเซียวอวี้ไม่รู้ว่าต้องต่อบทสนทนาอย่างไรขึ้นมาชั่วขณะ“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนแตะที่จมูก“ได้กลิ่น”ริมฝีปากของเซียวอวี้ยกโค้งเป็นรอยยิ้ม“เดิมคิดว่าจะทำให้เจ้าแปลกใจ ใครเล่าจะรู้ว่าเจ้าเก่งถึงเพียงนี้”พูดจบพลางล้วงขนมเกาล
Read more

บทที่ 1322

นายหญิงเฟิ่งพาเฟิ่งเหยียนเฉินมาที่แคว้นซีหนี่ว์ เพื่อทำให้เขาร่าเริงขึ้นนี่เป็นการมาเยือนแคว้นซีหนี่ว์ครั้งแรกของเฟิ่งเหยียนเฉินทุกสิ่งที่ได้เห็นระหว่างทาง ล้วนทำให้เขาประหลาดใจ และยากที่จะเข้าใจได้ยินมาว่า แคว้นซีหนี่ว์เคารพนับถือสตรี ส่วนบุรุษเป็นบริวารของสตรีทว่าต้องประสบกับตัวเองเท่านั้น ถึงจะสามารถสัมผัสความแปลกใหม่นี้ได้ครั้นมาถึงเขตแดนของแคว้นซีหนี่ว์ ก็เห็นผู้หญิงรูปร่างบึกบึนกำยำทั่วทุกที่พวกนางไม่ได้บอบบางเหมือนผู้หญิงที่แคว้นหนานฉี เฝ้าเมืองได้ ทั้งยังลากของหนักได้ถึงขนาดที่ว่า เขาเห็นสตรีคนหนึ่งแบกหาม อยู่บนท่าเรือ ทั้งยังเย้ยหยันผู้ชายร่างกายบอบบางว่าไม่มีประโยชน์ละแวกพระราชวัง มีสตรีใส่เครื่องแบบของพระราชวังพวกนางพูดคุยกันอย่างสบายใจ หัวเราะเสียงดังกังวาน ไม่สนใจว่าการกระทำจะดูไม่สง่า และไม่เรียบร้อยความมั่นใจแบบนั้น ไม่ค่อยเห็นในตัวสตรีแคว้นหนานฉีนายหญิงเฟิ่งเคยมาอยู่แคว้นซีหนี่ว์ระยะหนึ่ง จึงถือว่าคุ้นเคยกับที่นี่นางยังเกิดความรู้สึกเป็นมิตร จึงกำชับเฟิ่งเหยียนเฉิน“พวกเราเข้าวังไปคารวะน้องสาวเจ้าก่อน จากนั้นค่อยไปเซ่นไหว้ป้าของเจ้าที่สุสาน”เฟ
Read more

บทที่ 1323

จั่วเฟิงคาดไม่ถึงว่าองค์หญิงใหญ่จะมาที่นี่ เขาควบคุมสีหน้าไว้ทันที กลายเป็นคนที่เย็นชาดังเดิม และโค้งคารวะนาง “ถวายบังคมองค์หญิงใหญ่” องค์หญิงใหญ่มองไปที่มือของเขา สายตาเคร่งขรึม นางรู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเขายากลำบากนัก ทว่าไม่จำเป็นจะต้องทรมานตนเองเช่นนี้ “อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ขณะนางกล่าว พลางนั่งลงคนเดียว สายตาของจั่วเฟิงหนักหน่วง ตอบด้วยเสียงทุ้ม “ไม่เลวพ่ะย่ะค่ะ” ขอเพียงแขนยังไม่พิการ เขายังมีโอกาสจะกลับเข้าสู่กองทัพชั้นยอดได้ องค์หญิงใหญ่เงยหน้าขึ้น มองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นางได้ส่งคนมาคอยอารักขาเขาตลอด เพราะเกิดจากความรู้สึกผิดนั้น ถึงแม้นางจะไม่มีเรื่องการเลือกราชบุตรเขย ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลจั่วก็จะขัดขวางจั่วเฟิง เพื่อปิดกั้นเส้นทางของเขาในการเข้าร่วมกองทัพชั้นยอดอยู่ดี แต่ถึงอย่างไร นางเป็นผู้ที่เร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น “ทหาร ไปเชิญหมอ มาพันแผลให้คุณชายจั่ว” องค์หญิงใหญ่กล่าว จั่วเฟิงรีบปฏิเสธทันที “ขอบพระทัยองค์หญิง ทว่าอาการบาดเจ็บของข้าไม่ใช่เรื่องใหญ่...” องค์หญิงใหญ่ยืน
Read more

บทที่ 1324

“หยุดนะ!” จั่วเฟิงเพิ่งเดินไปแล้วครึ่งทาง ก็ถูกชายหนุ่มรูปงามคนนั้นตามมาทัน ฝ่ายหลังมีท่าทางดุร้าย ดูเหมือนจะฉีกกระชากเขาออกเป็นชิ้น ๆ “เหอะ! มองอย่างไรเจ้าก็ดูไม่ดีเลย ทั้งผิวคล้ำกว่าข้า แก่กว่าข้าด้วย องค์หญิงใหญ่จะโปรดปรานเจ้าได้อย่างไร?” จั่วเฟิงกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ครั้นมองบุรุษที่ใช้แป้งผัดหน้าคนนี้ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ “หลีกไป” ชายหนุ่มรูปงามหาได้เกรงกลัวเขาไม่ กลับยืดอกหลังตรง “อะไรกัน เจ้าอยากจะลงมือกับข้ารึ? “คนที่คิดจะแอบอ้างบารมีองค์หญิงเช่นเจ้า ข้าเห็นมานักต่อนักแล้ว! “จะบอกเจ้าไว้นะ องค์หญิงโปรดปรานข้ามากที่สุด! นางเพียงถูกเจ้าล่อลวงชั่วขณะ จึงขับไล่เหล่าคุณชายออกจากจวนไป ทว่าวันใดวันหนึ่ง องค์หญิงจะคิดถึงความดีของพวกข้า!” ปรากฏรอยยิ้มเยาะที่มุมปากของจั่วเฟิง “เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าจะร้อนใจไปไย?” อีกฝ่ายพลันตกตะลึงไปชั่วครู่ “ใคร ใครร้อนใจ! ข้าขอเตือนเจ้าเลยนะ อย่าได้คิดจะครอบครององค์หญิงไว้ผู้เดียว!” เขาเอ่ยพลางเลื่อนสายตาไปหยุดอยู่ที่แขนของจั่วเฟิง เอ่ยเหน็บแนม “ถึงแม้เจ้าจะเล่นลูกไม้มากม
Read more

บทที่ 1325

บนเตียง ที่แท้มีเด็กจำลองวางอยู่! มันถูกทำให้สมจริงอย่างมาก มีขนาดตัวเท่าพวกอาหลิ่นอาลี่ทั้งสอง สีผิวก็ใกล้เคียงกับความเป็นจริง เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มมันขึ้นมา “ลองดูสิเพคะ แม้กระทั่งน้ำหนักก็ยังเท่ากัน” เซียวอวี้อุ้มเด็กจำลองไว้ด้วยความงวยงง สีหน้าของเขาดูอึมครึมไม่ชัดเจน เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างจริงจัง “สิ่งนี้หม่อมฉันสั่งให้คนทำมาโดยเฉพาะ จากนี้ไปเมื่อท่านอ่านฎีกา ก็อุ้มมันไว้เพคะ” เซียวอวี้ : … เฟิ่งจิ่วเหยียนยังสอนให้เขาอุ้มอย่างไรให้ผ่อนคลายขึ้นด้วย จะว่าไปแล้ว สัมผัสจากมือก็เหมือนอุ้มเด็กจริงมาก ๆ ทว่า...นี่มันเป็นของปลอม! เซียวอวี้รู้สึกเพียงว่า ตนเองอุ้มมันไว้เช่นนี้ เหมือนคนบ้าที่สูญเสียลูกไป และกำลังหลอกตัวเองอยู่ เขาวางมันลงทันที “ไยเราต้องอุ้มมันด้วย นี่มันเหลวไหลสิ้นดี!” เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องเขา “ท่านไม่ชอบหรือ?” เซียวอวี้รีบจับมือของนางไว้แล้วอธิบาย “ไม่ใช่ไม่ชอบ ทว่าไม่เหมาะสม “ความคิดนี้ออกจะแปลกประหลาดไปหน่อย “หากเราอยากให้เจ้ามาอยู่ข้างกาย คงไม่ต้องใช้เจ้าตัวปลอมด้วยกระมัง?” เ
Read more

บทที่ 1326

รุ่ยอ๋องรู้สึกตกใจไม่น้อย รีบนั่งลงที่โต๊ะเพื่อดื่มน้ำ และต้องดื่มติดต่อกันหลายถ้วย กว่าที่จะสงบอารมณ์ลงได้ หร่วนฝูอวี้ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นอยู่ข้าง ๆ “ท่านคิดว่าข้าเอ่ยถึงอะไรกัน? “รุ่ยหลิน เด็กน้อยเอ๋ย ในสมองของท่านมีแต่เรื่องสกปรกเต็มไปหมด “สมน้ำหน้าท่านนัก!” ใบหน้าของรุ่ยอ๋องเหมือนมะเขือยาวที่ต้องน้ำค้างแข็ง เขามองหร่วนฝูอวี้ด้วยความเคียดแค้น “เจ้าตั้งใจจะยั่วข้าเล่น” หร่วนฝูอวี้กล่าวอย่างไม่พอใจ “ยังจะโทษข้าอีก? ชัดเจนว่าเป็นท่านเข้าใจผิดเองแท้ ๆ ปกติข้ามักจะเรียกพวกงูหนอนหนูแมงป่องเหล่านั้นว่าลูกรัก ท่านควรถามให้ชัดเจนก่อนลงมือสิ” รุ่ยอ๋องเบือนหน้าหนี ไม่มองนางอีก นางไม่คิดบ้างเลย เรื่องบางเรื่อง สามารถถามให้ชัดเจนได้หรือ? ผู้ใดจะถามตรง ๆ ——ให้สัมผัสหน้าอกของเจ้าหรือ? หร่วนฝูอวี้นั่งลงข้างเขา นำหนอนกู่ตัวนั้นออกมาอีกครั้ง แล้วแนะนำเขาให้รู้จัก “สิ่งที่ข้าจะให้ท่านสัมผัส คือลูกรักสุดโปรดตัวนี้! “อย่าได้มองข้ามมันเชียว มันมีประโยชน์มาก! “หากมีมันแล้ว ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด ข้าก็สามารถหาเจอ” รุ่ยอ๋องตอบอย่า
Read more

บทที่ 1327

หนิงเฟยโค้งคำนับไทเฮาอย่างเคารพ ตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “ขอบคุณท่านป้า ข้ายอมอยู่เป็นหนิงเฟยในวัง ยังดีกว่าที่จะออกจากวังเพื่อเป็นภรรยาของผู้อื่น ใช้ชีวิตเพื่อช่วยเหลือสามีและดูแลบุตร” นางมีอุปนิสัยที่ทะนงตนในตัว ถึงแม้ในพระราชวังจะมีเรื่องแย่ ๆ มากมาย ทว่าเป็นเกียรติยศที่ใครหลายคนไม่อาจร้องขอได้ ไทเฮาเพียงรู้สึกติดค้างนางอยู่ในใจ ยามนั้นนางใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ซิ่วหว่านได้เข้าวัง เพื่อให้นางได้กำเนิดองค์ชาย และกลายเป็นสตรีที่มีเกียรติที่สุดในวังหลังด้วยการมีบุตรชาย คาดไม่ถึงว่า เรื่องนี้จะทำให้ชีวิตของซิ่วหว่านถูกจองจำไว้ “เจ้าลองไตร่ตรองให้ดี ๆ อีกครั้งเถิด “ถึงอย่างไร การเป็นสตรีคนหนึ่ง หากไม่มีบุตรของตนเองแล้วไซร้ ย่อมเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเสมอ” หนิงเฟยก้มศีรษะลง จากนั้นนางก็ถามไทเฮาทันที “ท่านป้า ท่านไม่รู้จริง ๆ หรือว่าองค์ชายทั้งสองอยู่ที่ใด?” ไทเฮา : เหตุใดซิ่วหว่านจึงต้องใส่ใจลูกของคนอื่นมากขนาดนั้น? ดูเหมือนจะเป็นการบ่มเพาะความรู้สึกกระมัง ถึงกระนั้น ไทเฮาก็ไม่ทราบว่าพวกเขาอยู่ที่ใด “ไยเจ้าไม่ไปทูลถามจากฝ่าบาท
Read more

บทที่ 1328

เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนชะงักงันอยู่ตรงนั้น ได้เห็นกับตาตัวเองว่า บุตรชายคนเล็กของนางถูกสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ซ้ำบนหน้าผากยังแต้มไฝงามไว้หนึ่งจุด“จิ่วเหยียน เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” เซียวอวี้หันกลับอย่างทันควัน ประสานกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของนางด้วยความรู้สึกผิดมุมปากของเฟิ่งจิ่วเหยียนยกขึ้นเล็กน้อย ชวนให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่นเซียวอวี้รีบเดินไปหาทันที “มิได้เป็นเช่นอย่างที่เจ้าคิด เป็นอาลี่เองที่เขาอยากใส่...”ไอ้บ้าเฉินจี๋ เฝ้าประตูประสาอะไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเซียวอวี้ออกไป แล้วอุ้มบุตรชายคนเล็กที่ถูก “ทรมาน” ขึ้นมาทว่า เด็กน้อยดูเหมือนจะสนุกกับมันจริง ๆ ยิ้มสดใสราวกับดอกไม้ผลิบาน“แม่ แม่!” เขาปรบมือเรียก ท่าทางน่ารักเป็นที่สุดเซียวอวี้ยืนอยู่ที่เดิม เหมือนมิรู้ว่าจะทำอย่างไรดีเขารู้ว่าตัวเองสติหลุดไปแล้วรอจนเขารู้ตัวว่าทำอะไรลงไปกับบุตรชายคนเล็ก ก็ “กลายเป็นความผิดพลาดใหญ่โต” ไปแล้วแต่เขามิได้โกหกเช่นกันอาลี่เด็กน้อยคนนี้ ก็ชอบชุดกระโปรงตัวเล็กนี้จริง ๆหากบุตรชายไม่ชอบ เสด็จพ่ออย่างเขาไม่มีทางบังคับเด็ดขาดเฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูสภาพของบุตรชายในตอนนี้ คิ้วขมวดแน่น
Read more

บทที่ 1329

จากการหารือกันอยู่หลายวัน เซียวอวี้ได้มอบหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนให้กับเหล่าเสนาบดีที่ไว้วางใจได้ จากนั้นจึงเตรียมการเรื่องการออกตรวจตราเมืองชายแดนเมื่อทราบว่าจิ่วเหยียนต้องการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย เซียวอวี้รู้สึกประหลาดใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจด้วยเขาไม่อยากอยู่ห่างจากบุตรชายการพาพวกเขาไปเมืองชายแดนด้วยกัน นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้วทว่าจะต้องเพิ่มกำลังคนในการคุ้มกันพวกเขามากขึ้นเฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องของค่ายแม่ทัพทางนี้เรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางพร้อมกับเซียวอวี้พวกเขาตัดสินใจขึ้นเหนือก่อน เพื่อจัดการกับเมืองที่เดิมเคยเป็นของเป่ยเยี่ยน และภายหลังถูกยกให้กับหนานฉีทำเช่นนี้ จะได้ถือโอกาสคุ้มกันอาจารย์หญิงกลับไปส่งทางเหนือด้วยเรื่องของกองทัพชั้นยอด นางมอบหมายให้กับแม่ทัพอาวุโสหลี่เมื่อจั่วเฟิงรู้เรื่องนี้จากปากสหายคนสนิท ก็รู้ได้ว่าฮองเฮาจะต้องเสด็จออกจากวังหลวงอย่างแน่นอนและเนื่องจากการบาดเจ็บที่แขนของเขา จึงยังไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับเข้ากองทัพชั้นยอดได้เช่นนี้จะไม่ให้เขาร้อนใจได้อย่างไร?วันนั้น ที่นอกประตูวังจั่วเฟิงคุกเข่าอยู่นานไม่ยอมลุก
Read more

บทที่ 1330

องค์หญิงใหญ่มองดูจั่วเฟิงด้วยความไม่อยากเชื่อ“ข้ายุ่งวุ่นวายรึ?”นางกำลังช่วยเขา เขากลับไม่สำนึกบุญคุณเช่นนี้ได้อย่างไร?หากมิใช่เพราะเขา ไยนางถึงกับต้องเดินทางมาที่ค่ายตะวันออกด้วยตัวเองเล่า?จั่วเฟิงเอ่ยอย่างจริงจัง“ข้าต้องการขอเข้าเฝ้าฮองเฮา หาใช่ว่าเพื่อกลับเข้าไปยังกองทัพชั้นยอด”เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่า กฎระเบียบของกองทัพไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้?แล้วเขาจะทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ให้ฮองเฮาทำลายกฎเพื่อเขาได้อย่างไร?จั่วเฟิงทบทวนตัวเองดูแล้วว่ามิได้หน้าหนาถึงเพียงนั้น“แล้วเจ้าทำเพื่อสิ่งใด?” องค์หญิงใหญ่ถามด้วยความไม่เข้าใจนางนึกไม่ออกว่าเบื้องหลังยังมีเหตุผลอย่างอื่นอีกจั่วเฟิงตอบนางด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ข้าต้องการขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเห็นคุณค่า ต่อจากนี้ไป ข้าจะไม่กลับมาที่ค่ายตะวันออกอีกแล้ว”“อะไรนะ?!”องค์หญิงใหญ่ทรงนึกไม่ถึงว่า จั่วเฟิงจะยอมแพ้แล้วนางคิดไม่ออก“เป็นเพราะอาการบาดเจ็บของเจ้าหรือ?“หมอมิใช่บอกหรือว่า ยังมีหวังที่จะหายเป็นปกติอยู่?”ปากของนางพูดเช่นนั้น แต่ก็รู้ดีว่า หมอบอกอย่างชัดเจนว่า แม้อาการบาดเจ็บจะหายดี ก็ไม่อาจทนต่อการฝึกในกองทัพได้ ย
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status