พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี のすべてのチャプター: チャプター 1381 - チャプター 1390

1432 チャプター

บทที่ 1381

เมื่อได้ฟังถ้อยคำที่แฝงแววตัดพ้อของมู่เมิ่งเสวี่ย เฉียวเนี่ยนและฉู่จืออี้ก็ลอบสบตากันโดยสัญชาตญาณ ต่างฝ่ายต่างอ่านความนัยในแววตาของอีกคนออก มันคือความอับจนหนทางและความรู้สึกผิดลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่ดูเหมือนมู่เมิ่งเสวี่ยเองก็ไร้เจตนาจะยื้อยุดฉุดความในยามนี้ นางสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับสติอารมณ์ สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง: “แต่อย่างไรเสีย ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นตระกูลมู่ของข้าที่ผิดก่อน คุมขังผู้ภักดี เรื่องที่ท่านวางแผนหลอกใช้ข้า ข้าจะขอละเว้นไม่เอาความชั่วคราว ทว่าข้ามีคำเตือนประโยคหนึ่ง จำต้องมอบให้ท่านทั้งสอง”สายตาของนางกวาดมองเฉียวเนี่ยนและฉู่จืออี้ พลางกดเสียงต่ำ ทว่าชัดเจนทุกถ้อยคำ: “คุกน้ำเน่าของตระกูลมู่ ก่อตั้งโดยบรรพชนมากว่าร้อยปีแล้ว ตลอดร้อยปีมานี้ ไม่เคยมีใครรอดชีวิตออกมาได้แม้แต่คนเดียว... ท่านอ๋อง ระวังตัวด้วย”วาจาของมู่เมิ่งเสวี่ยเพียงสะกิดเตือน มิได้ลงรายละเอียด ทว่านัยแห่งคำเตือนนั้นกลับเปรียบประดุจน้ำเย็นจัดสาดรดลงกลางใจของคนทั้งคู่คุกน้ำเน่านั้นรายล้อมด้วยการคุ้มกันแน่นหนา ไม่ขาดแคลนยอดฝีมือแห่งยุทธภพ ภายในยังเต็มไปด้วยค่ายกลกับดักที่สังหารคนได้ไร้ร่องรอย
続きを読む

บทที่ 1382

ฉู่จืออี้ขมวดคิ้วมุ่น เข้าใจความกังวลของนางเป็นอย่างดีตระกูลมู่ให้ความสำคัญกับแดนต้องห้ามแห่งนี้มากจนเกินกว่าวิสัยปกติ“เจ้ากล่าวถูกต้อง เรื่องนี้มีความสำคัญยิ่งนัก หากพลาดเพียงนิดอาจกระทบกระเทือนไปทั้งกระดาน จำเป็นต้องวางแผนอย่างรอบคอบ...”“ไม่มีเวลาแล้ว!” เฉียวเนี่ยนเอ่ยแทรกขึ้นทันควัน แม้น้ำเสียงจะแผ่วเบาทว่ากลับตึงเครียดประหนึ่งสายพิณที่ถูกขึงจนแทบขาดเผยให้เห็นถึงความร้อนรนที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด “เซียวเหิง... เขาประคองอาการต่อไปไม่ไหวแล้ว! ข้าจำต้องรีบนำ “หญ้าผลึกหยกม่วง” มาให้เร็วที่สุด! หากชักช้า... เกรงว่าจะสายเกินแก้!”ฉู่จืออี้ขมวดคิ้วแน่น สุ้มเสียงทุ้มต่ำดังชัดเจนท่ามกลางบรรยากาศอันน่าอึดอัด: “เช่นนั้นเจ้ากลับไปพักผ่อนที่เรือนข้างก่อนเถิด ข้าจะไปสั่งการองครักษ์พยัคฆ์ ให้เตรียมเลือดหมูเลือดวัวเอาไว้จำนวนมาก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน ส่วนมู่ซ่างเสวี่ย…”เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางทอดสายตามองไปยังทิศทางของห้องหนังสือ “ค่ำคืนนี้แสงจันทร์ยังคงส่องสว่างเจิดจ้า ดวงจันทร์คืนสิบหกมิได้ด้อยไปกว่าคืนสิบห้าเลยแม้แต่น้อย บางที... อาจจะพอเกลี้ยกล่อมเขาให้ยอมอนุญาตพวกเราเข้าไปในแดน
続きを読む

บทที่ 1383

“คุณชายอวี่เหวินประเมินข้าสูงส่งเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของเฉียวเนี่ยนแหบพร่าเจือแววเย้ยหยันตนเอง นางวางถ้วยชาลงก่อนจะยกมือขึ้นลูบรอยแผลบนข้อมือแผ่วเบา กิริยานั้นเผยให้เห็นความเปราะบางจากความหวาดกลัวที่ยังหลงเหลืออยู่ “เมื่อคืนข้าได้ล่วงล้ำเข้าไปในแดนต้องห้ามจริง แต่ที่นั่นเต็มไปด้วยอาวุธลับ ทุกย่างก้าวคือค่ายกลสังหาร ยากจะระวังป้องกันได้หมด”นางจงใจหยุดชะงักครู่หนึ่ง สายตาทอดมองข้อมือตนเองพร้อมกับยิ้มขื่น “แม้ข้าจะเข้าไปในแดนต้องห้ามได้ แต่ก็ไม่อาจล่วงล้ำเข้าไปลึก... มู่คังเซิ่งเอง ก็จบชีวิตลงภายในนั้นเช่นกัน”นางจงใจกล่าววาจาเช่นนี้ เพื่อชักนำให้อวี่เหวินฮ่าวเข้าใจผิดว่ามู่คังเซิ่งต้องตายเพราะกลไกภายในแดนต้องห้ามสายตาของอวี่เหวินฮ่าวหยุดอยู่ที่รอยแผลบนข้อมือนางชั่วครู่ ความแหลมคมในการจับผิดดูเหมือนจะอ่อนลงส่วนหนึ่ง ทว่าถูกแทนที่ด้วยความกระจ่างแจ้งที่เจือแววดูแคลนเขาเอนกายพิงพนัก ยกถ้วยชาขึ้นเป่าฟองชาเบา ๆ น้ำเสียงกลับมาเกียจคร้านดังเดิม หากแต่แฝงความผิดหวังที่ยากจะสังเกตเห็น: “ที่แท้เป็นเช่นนี้ ดูท่าแดนต้องห้ามตระกูลมู่จะสมคำร่ำลือจริง ๆ แม่นางเฉียวสามารถเอาตัวรอดกลับมาได้ ก
続きを読む

บทที่ 1384

โหยวต๋าค้อมกายเดินเข้ามา คารวะอวี่เหวินฮ่าวอย่างนอบน้อม ทว่าสีหน้ากลับทมึนทึบดุจห้วงน้ำลึก “องค์ชาย... เฉียวเนี่ยนผู้นี้ช่างกำเริบเสิบสานยิ่งนัก! ถึงกับกล้าลบหลู่เบื้องสูงเช่นนี้ ให้ข้าน้อยส่งคนไป “สั่งสอนนาง” ให้รู้สำนึกสักหน่อยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ นางจะได้รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง”น้ำเสียงของเขากดข่มโทสะไว้อย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าไม่เคยพบเจอผู้ใดกล้าสามหาวกับองค์ชายรองผู้สูงศักดิ์เช่นนี้มาก่อนแม้แต่มู่คังเซิ่งผู้ล่วงลับ ยามมีชีวิตอยู่ก็ยังต้องไว้หน้าองค์ชายรองถึงสามส่วน!อวี่เหวินฮ่าวตวัดสายตาเย็นเยียบดุจคมมีดบาดลึกไปที่โหยวต๋า น้ำเสียงเย็นยะเยือกประหนึ่งเกล็ดน้ำแข็ง: “สั่งสอน? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าผู้ที่หนุนหลังนางอยู่ คือสำนักราชาโอสถ”โหยวต๋าขมวดคิ้วมุ่น แสดงท่าทีไม่ยี่หระออกมาหลายส่วน: “ก็แค่สำนักราชาโอสถเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง…”วาจายังมิทันขาดคำ ถ้วยชาเคลือบสีครามก็พุ่งแหวกอากาศมาด้วยแรงลมกรรโชก กระแทกพื้นหินสีเขียวข้างเท้าโหยวต๋าแตกกระจาย! เสียง “เพล้ง” ดังสนั่น เศษกระเบื้องอันแหลมคมกระเด็นว่อน ชิ้นหนึ่งปักลึกเข้าที่เนื้อข้อเท้าของโหยวต๋า โลหิตสดไหลซึมชุ่มรองเท้าและถุงเท้าในพริ
続きを読む

บทที่ 1385

เส้นผมที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อลู่แนบแก้มขาวซีด ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรงไร้สีเลือด นัยน์ตาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยน่าสะพรึงกลัว ทว่าสายตานั้นกลับตรึงแน่นอยู่ที่ร่างของเซียวเหิงราวกับตอกตะปู เห็นเพียงปลายนิ้วของเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด คีบเข็มเงินที่ละเอียดบางราวขนโค ปักลงบนจุดชีพจรเป็นตายสิบกว่าแห่งทั่วร่างของเซียวเหิงอย่างแม่นยำราวจับวางทุกชั่วขณะที่เข็มเงินจรดลง อาการชักกระตุกอย่างบ้าคลั่งของเซียวเหิงจะชะงักค้างไปชั่ววูบ ก้านเข็มพลันสั่นระริกอย่างรุนแรง ส่งเสียงหวีดหวิวกรีดร้อง แม้แผ่วเบาแต่บาดลึก ราวกับกำลังยื้อยุดฉุดกระชากอย่างดุเดือดกับขุมพลังไอหนาวที่แทรกซึมลึกถึงไขกระดูกและแช่แข็งโลหิต!ทันใดนั้น รูม่านตาของเสิ่นเยว่พลันหดเกร็ง!เขาเห็นได้ชัดเจนว่าภายใต้ผิวหนังรอบจุดฝังเข็ม เส้นสายลายอักขระพิษสีนิลอมเขียวอันน่าขนลุกนั้นกำลังเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต มันลุกลามย้อนศรไต่ขึ้นมาตามตัวเข็ม!ปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย สิ่นเยว่รวบนิ้วดุจกระบี่ ปาดผ่านปลายเข็มเหล่านั้นด้วยความเร็วแสง ถ่ายเทลมปราณอันบริสุทธิ์ร้อนแรงที่แผ่ไอขาวกรุ่นออกมาจนแทบมองเห็นด้วยตาเปล่า บีบอัดลงไปใ
続きを読む

บทที่ 1386

ทว่าเงาร่างนั้นกลับประหนึ่งบุปผาในคันฉ่องจันทร์ฉายบนผืนน้ำ ยิ่งเขาไล่กวดกระชั้นเท่าไร นางยิ่งเลือนหายเร็วเท่านั้น ท้ายที่สุดก็ละลายหายไปในหมอกควันแห่งความสิ้นหวังอันไร้ขอบเขต เหลือทิ้งไว้เพียงสุ้มเสียงตกค้างที่บาดลึกถึงขั้วหัวใจ“อย่าไป!!” ความตื่นตระหนกปานจะขาดใจและความรู้สึกสูญเสียอันมหาศาลเข้าเกาะกุมเซียวเหิงในชั่วพริบตา เขาคำรามก้องพร้อมกับยื่นมือไขว่คว้าไปเบื้องหน้า ร่างกายกระตุกเฮือกอย่างรุนแรง ในที่สุดก็ดิ้นรนหลุดพ้นจากฝันร้ายที่หนาวเหน็บจนแทบขาดใจนั้นมาได้ พลันลืมตาโพลงขึ้น!เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นและหนักหน่วงดังชัดเจนยิ่งนักในห้องที่เงียบสงัด เหงื่อกาฬชุ่มโชกเสื้อตัวในเนื้อบางจนเปียกชื้น แนบติดผิวกายอย่างหนาวเยือกม่านน้ำตาที่พร่าเลือนค่อย ๆ จางหายจนสายตากลับมาคมชัด สิ่งแรกที่ปะทะเข้าสู่สายตา คือร่างในอาภรณ์สีดำขลับที่นั่งสงบนิ่งอยู่ข้างเตียง... อวี่เหวินฮ่าวอีกฝ่ายกำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างเงียบงัน ด้วยแววตาพินิจพิเคราะห์ราวกับผู้ที่อยู่สูงกว่ามองลงมายังเบื้องล่าง แฝงนัยบางอย่างที่ยากจะคาดเดาเซียวเหิงจำคนตรงหน้าได้ จากถ้อยคำของบ่าวไพร่ในจวนช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บุรุษผู้
続きを読む

บทที่ 1387

เขาจงใจทิ้งห้วงจังหวะไปครู่หนึ่ง ปล่อยให้บรรยากาศอันหนักอึ้งบีบคั้นเสียจนเซียวเหิงแทบจะขาดอากาศหายใจ จากนั้นจึงค่อย ๆ เอื้อนเอ่ยออกมาทีละถ้อยทีละคำอย่างชัดเจนและเชื่องช้า ราวกับมีดสลักอันเย็นเยียบที่บรรจงตอกสลักคำลวงลงไปในความทรงจำอันว่างเปล่าของเซียวเหิงให้ลึกลงไป:“ข้าเดาว่า สตรีในความฝันของท่านแม่ทัพเซียว ผู้นั้นน่าจะเป็นเฉียวเนี่ยน นางคือเพื่อนรักวัยเยาว์ที่เติบโตเคียงข้างท่านมา…”“แต่ในขณะเดียวกัน...” น้ำเสียงของอวี่เหวินฮ่าวพลันเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ดั่งแท่งน้ำแข็งอาบยาพิษที่ทิ่มแทงลงมาอย่างโหดเหี้ยม: “นางก็คือศัตรูผู้ฆ่าล้างตระกูลเซียวของท่าน!”“ศัตรู... ฆ่าล้างตระกูล?!” เซียวเหิงเบิกตากว้างขึ้นฉับพลัน รูม่านตาหดเกร็งลง ราวกับเพิ่งได้สดับฟังเรื่องราวที่เหลวไหลและน่าสะพรึงกลัวที่สุดในใต้หล้า ใบหน้าที่เดิมทีซีดเผือดอยู่แล้ว บัดนี้กลับไร้ซึ่งสีเลือดโดยสิ้นเชิง“มิผิด!” น้ำเสียงของอวี่เหวินฮ่าวเด็ดขาดหนักแน่น แฝงไว้อำนาจที่ไม่อาจกังขา “ตระกูลเซียวซื่อสัตย์ภักดีมาทุกชั่วคน ล้วนเป็นวีรชนผู้กล้า! แต่กลับต้องมาถูกนังแพศยาจิตใจอสรพิษอย่างเฉียวเนี่ยนผู้นั้นวางแผนใส่ร้ายป้ายสี จนต้องแบก
続きを読む

บทที่ 1388

อวี่เหวินฮ่าวคล้ายคาดการณ์ไว้แต่ต้นแล้วว่าเซียวเหิงย่อมต้องเอ่ยถามเช่นนี้ สีหน้าของเขาจึงเรียบเฉยไร้ระลอกคลื่น ทว่ากลับแฝงแววเปิดเผยจริงใจของผู้ที่ถูกเข้าใจผิดออกมาได้อย่างพอดิบพอดีเขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยท่าทีผ่าเผย ก่อนจะก้มกายคารวะเซียวเหิงที่นอนอ่อนระโหยโรยแรงอยู่บนเตียงอย่างนอบน้อมเต็มพิธีการ “เรียนท่านแม่ทัพตามตรง ผู้น้อยเลื่อมใสเกียรติภูมิอันเกรียงไกรของท่านแม่ทัพเซียว ณ สมรภูมิจิ้งกั๋วมานานช้า ทั้งยังศรัทธาในความกล้าหาญและสติปัญญาของท่านยิ่งนัก! การลงมือช่วยเหลือท่านแม่ทัพในครานี้ ประการแรก ก็เพื่อสนองความศรัทธาส่วนตนของข้าเอง”เขาเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเป็นประกายกล้า แฝงความจริงใจที่เจตนาปั้นแต่งขึ้น “ประการที่สอง ข้าหวังเพียงว่ายามที่ท่านแม่ทัพหายดีแล้ว จะยอมรั้งอยู่แคว้นถัง เพื่อรับใช้แคว้นถังของข้า! อาศัยปรีชาสามารถของท่าน ย่อมต้องสร้างเกียรติประวัติเลื่องลือสะท้านภพได้อีกคราเป็นแน่!”ทว่าเมื่อได้สดับถ้อยคำเหล่านี้ เซียวเหิงทำได้เพียงฝืนรักษาความสงบนิ่งไว้เพียงเปลือกนอก เขาพยักหน้าช้า ๆ น้ำเสียงแห้งผากและอ่อนแรง “วาจาขององค์ชายรอง... เซียวโหม่ว... เข้าใจกระจ่างแล้วพะยะค่ะ”
続きを読む

บทที่ 1389

ทว่าแววตาของเฉียวเนี่ยนกลับแน่วแน่มั่นคงยิ่งนักนางทอดตามองบานประตูหินอันเย็นเยียบเบื้องหน้า สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะหันไปแย้มยิ้มให้แก่ทุกคน “หากไม่ลองดู แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามิได้เล่า?”ร่างกายของเซียวเหิง เกรงว่าคงไม่อาจรอได้ถึงจันทร์เพ็ญคราหน้าแล้วดังนั้น นางจำต้องไป!ฉับพลันนั้น สุ้มเสียงทุ้มต่ำของฉู่จืออี้ก็ดังแว่วขึ้นจากข้างกาย “พวกเจ้าวางใจเถิด มีข้าอยู่ มีองครักษ์พยัคฆ์อยู่ ย่อมไม่ปล่อยให้เนี่ยนเนี่ยนเป็นอะไรไปแน่”สิ้นเสียง พี่รององครักษ์พยัคฆ์ก็เอ่ยเสริมขึ้น “นั่นสิ พวกข้าบุกฝ่าค่ายข้าศึกทูเจว์มาแล้ว ข้าไม่เชื่อหรอกว่าแดนต้องห้ามบ้าบอนี่ จะโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งกว่าพวกทูเจว์ไปได้”เจ้าห้าเองก็หัวเราะร่า “คุกน้ำเน่าของตระกูลมู่พวกข้ายังหนีออกมาได้ แดนต้องห้ามเล็กจ้อยเพียงเท่านี้ หาได้น่าเกรงกลัวไม่”แม้น้ำเสียงจะฟังดูอวดดีจนเกินตัว แต่เฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าพี่ห้าจงใจทำเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศเท่านั้นพี่แปดที่ยืนอยู่ด้านข้างพลางยกถังไม้ใบใหญ่ในมือขึ้น “พวกเราคนเยอะเพียงนี้ วันนี้หาเลือดหมูเลือดวัวมาได้ตั้งมากมาย ย่อมไม่กลับไปมือเปล่าเป็นแน่”พี่สามเอ่ยแทรกขึ้นถูกจังหวะ “ตระ
続きを読む

บทที่ 1390

แสงไฟจากคบเพลิงในมือของฉู่จืออี้เต้นระริก ราวกับลำแสงที่สาดส่องทะลุทะลวงความมืดมิด พุ่งตรงเข้าไปยังห้องลับที่ถูกกั้นไว้นั้นอย่างแจ่มแจ้งไร้สิ่งปิดกั้น!แสงสีขาวซีดส่องกระทบให้เห็นภาพเบื้องหน้าอย่างชัดเจน...กองกระดูกขาวโพลน!ทับถมกันเป็นชั้น ๆ!ล้วนเป็นโครงกระดูกขนาดเล็ก บอบบาง ที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ทั้งสิ้น!ร่างเหล่านั้นบิดเบี้ยว คดงอ ทับถมกันอยู่อย่างระเกะระกะ บางร่างมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือเสียด้วยซ้ำ!เวลาคล้ายจะหยุดนิ่งไปในชั่วขณะนี้!เฉียวเนี่ยนราวกับถูกค้อนยักษ์ที่มองไม่เห็นทุบเข้าอย่างจัง นางยืนตัวแข็งทื่อ สมองขาวโพลนไปหมด“เดรัจฉาน!”“คนตระกูลมู่มันสารเลว! สมควรถูกแล่เนื้อเถือหนังพันมีดหมื่นแล่!”“ไอ้สารเลว! พวกมันยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?!”องครักษ์พยัคฆ์มิอาจข่มกลั้นโทสะได้อีกต่อไป ความโกรธแค้นที่อัดอั้นระเบิดออกมาดั่งภูเขาไฟปะทุ!แม้พวกเขาจะเจนจัดในสนามรบ ชินชากับซากศพและทะเลเลือดมามากเพียงใด ทว่ากลับไม่เคยพบเห็นซากศพทารกที่มากมายมหาศาลถึงเพียงนี้มาก่อน!นี่ล้วนเป็นทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน หรืออาจจะเพิ่งเคยเห็นโลกใบนี้เป็นครั้งแรก!พวกนางยังมิทันได้สัมผ
続きを読む
前へ
1
...
137138139140141
...
144
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status