หลินซีเหยาไม่ขยับเลย และไม่ได้รับโทรศัพท์นั้นหลินเสวี่ยเอ๋อร์พูดว่า “พี่ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะ? ถ้าพ่อรู้เข้าต้องเสียใจแน่ ๆ”หลินซีเหยาหัวเราะเยาะเบา ๆ “ไม่เป็นไรหรอก พ่อมีลูกสาวที่ดีอย่างเธออยู่แล้ว เขาไม่มีทางเสียใจเพราะฉันหรอก! ถ้าเธอกังวลว่าพ่อจะเสียใจจริง ๆ งั้นเธอก็ตัดสายไปเลยสิ!”หลินเสวี่ยเอ๋อร์ “……”การจะวางสายน่ะเป็นไปไม่ได้ หลินเสวี่ยเอ๋อร์ทำได้แค่ถือโทรศัพท์ไว้เอง “พี่ งั้นหนูเปิดลำโพงนะ”หลินเสวี่ยเอ๋อร์เปิดลำโพงแล้วเสียงของพ่อหลินดังชัดเจนทันที “ฮัลโหล ซีเหยา”เมื่อครู่ตอนที่พ่อหลินเรียกหลินเสวี่ยเอ๋อร์ น้ำเสียงยังอ่อนโยนและเอ็นดูมาก แต่ตอนนี้พอเรียกว่า “ซีเหยา” น้ำเสียงกลับเย็นชาและห่างเหินหลินซีเหยาหัวเราะเยาะอยู่ในใจ พ่อคนนี้เลิกเสแสร้งมาตั้งหลายปีก่อนแล้ว ต่อให้จะแกล้งทำดีก็ยังขี้เกียจเกินกว่าจะทำอีกหลินซีเหยา “ฮัลโหล พ่อ มีอะไรจะสั่งก็บอกมาตรง ๆ เลยค่ะ ฉันฟังอยู่”“ซีเหยา น้องสาวของลูก เสวี่ยเอ๋อร์ถึงเมืองตี้ตูแล้ว ลูกเป็นพี่สาวของเสวี่ยเอ๋อร์ ต้องดูแลเสวี่ยเอ๋อร์ให้ดี ๆ ล่ะ!”หลินซีเหยา “พ่อ ให้ฉันดูแลหลินเสวี่ยเอ๋อร์ก็ได้ แต่พ่อมั่นใจเหรอ? ฉันไม่เคย
Read more