Semua Bab คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว: Bab 381 - Bab 390

ทันทีที่พูดจบ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าห้องส่วนตัวผู้ที่มาคือฉีอวี้หมิงกับเฮ่อฉางปั่วตอนฉีอวี้หมิงผลักประตูเข้ามา เห็นคนมากมายอยู่ในห้องส่วนตัว ก็เอ่ยอย่างแปลกใจว่า “คนเยอะขนาดนี้เลย?”ร้านอาหารร้านนี้เป็นของครอบครัวเขาเขากับเฮ่อฉางปั่วมากินข้าวที่นี่ ได้ยินผู้จัดการร้านอาหารบอกว่าเฟิงถิงเซินก็มาที่นี่เช่นกัน เลยอยากจะเข้ามาทักทาย คิดไม่ถึงว่าคนจะเยอะขนาดนี้อีกอย่าง ยังมีแต่คนรู้จักทั้งนั้นด้วยเห็นคนมากมายอยู่ที่นี่ ฉีอวี้หมิงทันใดนั้นก็รู้สึกว่าการกินข้าวสองคนมันน่าเบื่อ จึงเอ่ยปากพูดว่า “ถิงเซิน คนเยอะขนาดนี้ ไม่รู้จะรังเกียจไหมถ้าจะเพิ่มฉันกับฉางปั่วเข้าไปอีกสองคน?”เฟิงถิงเซินเอ่ย “ศาสตราจารย์หม่า ประธานอวี้ ไม่ทราบว่า…”เมื่อครู่ศาสตราจารย์หม่าเพิ่งจะให้ตระกูลหลินกับตระกูลซุนเข้าร่วม ตอนนี้เฟิงถิงเซินมีเพื่อนมา เขาย่อมปฏิเสธได้ยาก จึงพูดว่า “ไม่รังเกียจอยู่แล้ว แค่ไม่ทราบว่าประธานอวี้...”อวี้มั่วซวินยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ผมกับประธานเฮ่อและประธานฉีก็ถือว่ารู้จักกัน ไม่รังเกียจแน่นอนครับ”เดิมทีเขาก็ไม่พอใจที่คนตระกูลหลินกับตระกูลซุนเข้าร่วมด้วยตอนนี้น่ะเหรอ เขาแ

เป็นหรงฉือจริง ๆ ด้วย!เหรินจี่เฟิง ซุนเยว่ชิง ซุนลี่เหยา แม้พวกเขาจะไม่ได้เรียนด้านเอไอ เดิมทีพวกเขาก็ไม่รู้หรอกว่า งานวิจัยที่หรงฉือเผยแพร่นั้นยอดเยี่ยมแค่ไหนอย่างไรก็ตาม พวกเขาต่างรู้ดีว่าเควิน สมิธอาจารย์ที่ปรึกษาระดับปริญญาเอกของหลินอู๋เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากในแวดวง AIขนาดบุคคลระดับโลกยังให้ความสำคัญกับวิทยานิพนธ์ฉบับหนึ่ง ถึงขั้นติดต่อหลินอู๋เป็นพิเศษให้เธอศึกษาเนื้อหาสำคัญในวิทยานิพนธ์ให้ดีแบบนี้ แถมเมื่อครู่ลูกศิษย์ปริญญาเอกของศาสตราจารย์หม่าก็ยังบอกอีกว่า วิทยานิพนธ์ของหรงฉือได้สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ จนวิศวกรระดับแนวหน้าของวงการต้องอ่านกันข้ามคืนสามารถเห็นได้ว่า วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ของหรงฉือ มีมูลค่าอย่างมากแต่วิทยานิพนธ์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ หรงฉือจะเป็นคนเขียนได้อย่างไรกัน?ศาสตราจารย์หม่าไม่รู้ว่าหรงฉือเป็นใคร และยิ่งไม่รู้ถึงบุญคุณความแค้นระหว่างหรงฉือ ตระกูลหลิน และตระกูลซุนแม้เขาจะยังไม่ได้อ่านวิทยานิพนธ์ของหรงฉือ แต่พอรู้ว่าวิทยานิพนธ์ฉบับนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อความยาวของโมเดลขนาดใหญ่ได้มากกว่าสิบเท่า แค่คิดถึงคุณค

เฟิงถิงเซินจะคิดอย่างไร จะมองเธออย่างไร หรงฉือไม่สนใจ แล้วก็ไม่ใส่ใจด้วยหลังออกจากร้านอาหาร หรงฉือกับอวี้มั่วซวินและคนอื่น ๆ ก็กลับไปประชุมที่เฟิงซื่อเทคโนโลยีครั้งนี้ ซุนเยว่ชิง ซุนลี่เหยาและคนอื่น ๆ กลับไม่ได้ตามมาด้วยแต่หลินอู๋กลับตามมาพอเห็นหลินอู๋ยังจะตามมาอีก อวี้มั่วซวินก็แอบกลอกตาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยปากพูดว่า “ประธานเฟิง ประธานหลิน นี่...”เฟิงถิงเซินดูเหมือนรู้ว่าเขาคิดจะพูดอะไรอวี้มั่วซวินยังพูดไม่จบ เขาก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “หากประธานอวี้อยากพูดถึงเรื่องข้อมูลลับรั่วไหล เรื่องนี้ประธานอวี้ไม่ต้องกังวล หากเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริง ผมจะรับผลที่ตามมาเอง”อวี้มั่วซวินรู้ว่าเฟิงถิงเซินจะต้องพูดเแบบนี้แน่ถึงอย่างไร ตอนแรกที่พวกเขาเพิ่งเริ่มร่วมมือกับซวิ่นตู้ เฟิงถิงเซินก็เคยพูดแบบเดียวกันแม้เขารู้ว่าเฟิงถิงเซินจะพูดแบบนี้ แต่เขายังต้องการคำรับประกันจากเฟิงถิงเซินอยู่ดีได้ยินเขาพูดแบบนั้น อวี้มั่วซวินยิ้มแบบหน้าตายแล้วพูดว่า “มีคำพูดนี้ของประธานเฟิง อย่างนั้นผมก็วางใจแล้ว”ระหว่างประชุมในตอนเช้า เฟิงถิงเซินเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่ตำแหน่งกลางโต๊ะที่ประชุมแต่ตอนนี้หลิน

หลังกินข้าวเสร็จ เฟิงจิ่งซิ่นก็กลับบ้านตระกูลหรงกับหรงฉือคืนวันนั้น เธอรับโทรศัพท์ของหรงหง บอกว่าพรุ่งนี้เช้าอยากชวนเธอกับอวี้มั่วซวินไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟหรงฉือตอบรับแล้วเพียงแต่ ตอนที่ดูสถานที่ที่หรงหงส่งมา เธอถึงกลับชะงักไปเล็กน้อยสนามกอล์ฟแห่งนี้ บังเอิญว่าเป็นกิจการของตระกูลเฟิงเมื่อก่อนเธอเคยไปแต่ทว่า ในเมื่อตอบรับแล้ว เธอก็ไม่ควรพูดกลับคำเช้าตรู่ในวันเสาร์ เธอยังคงขับรถออกไปตอนที่เธอกับอวี้มั่วซวินมาถึงสนามกอล์ฟ หรงหงกับเหรินอี้อัน จี้หวนอิง และคนอื่น ๆ ก็มาถึงกันแล้วเมื่อเห็นพวกเขา หรงหงและคนอื่น ๆ ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “มาถึงแล้วเหรอ?”“ค่ะ” หรงฉือพยักหน้าหรงหงถามขึ้นว่า “ตีกอล์ฟเป็นไหม?”หรงฉือพยักหน้า “เคยเรียนมา ตีเป็นนิดหน่อยค่ะ”หลังหรงฉือ อวี้มั่วซวิน หรงหงและคนอื่น ๆ พูดคุยปราศรัยกันสักพักหนึ่ง ก็เริ่มตีกอล์ฟไปด้วย พูดคุยกันไปด้วยสักพักหนึ่ง ตอนที่หรงฉือเก็บไม้กอล์ฟ ก็มองเห็นคนสองคนเดินมาเข้ามาไม่ไกลจากตรงนั้นเป็นเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ปกติมีกิจกรรมผ่อนคลายอะไร เฟิงถิงเซินกับหลินอู๋จะเรียกเฮ่อฉางปั่วกับฉีอวี้หมิงมาด้วยวันนี้กลับไม่เห็นเฮ่อฉาง

พวกเขาคุยกันไปด้วย ตีกอล์ฟไปด้วยแต่ทว่า เมื่อเทียบกับการตีกอล์ฟ เหรินอี้อันกับหรงหงและคนอื่น ๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนใจหัวข้อที่พวกเขาพูดคุยกันมากกว่าตอนแรก พวกเขาคุยกันเรื่องสถานการณ์ระหว่างประเทศ แต่พอคุยไปคุยมา เหรินอี้อันกับหรงหงก็จำลองแผนการสู้รบกันแบบสด ๆ ตรงนั้นอย่างจริงจังพวกเขาคุยกันอย่างออกรสออกชาติ หรงฉือกับอวี้มั่วซวินก็ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ เฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ก็เช่นกันอาจจะไม่เหมาะหากให้คนรุ่นหลังยืนดูเฉย ๆ หรงหงจึงพูดขึ้นว่า “ไม่อย่างนั้น มาคุยกันหน่อยไหมว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นยังไงกันบ้าง?”หลังจากนั้นไม่นาน หรงฉือก็เอ่ยปากว่า “สี่ด้านล้อมรอบไปด้วยศัตรู ไม่เหมาะที่จะเดินหน้าเพียงลำพัง ดังนั้นการตรึงกำลังไว้เฉย ๆ ในตอนนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ”พอได้ยิน หลินอู๋ก็ชะงักไปต้องยอมรับว่า นี่เป็นวิธีที่ใช้ได้เลยจริง ๆ แต่ หากหรงฉือไม่พูด เธอก็คงจะ…จริง ๆ นั่นแหละเธอเพิ่งคิดได้แค่นั้น ก็เห็นหรงหงพยักหน้าแล้วยิ้ม แสดงท่าที่เห็นด้วยอวี้มั่วซวินตอบสนองได้เร็ว เขาเคลื่อนย้ายถ้วยจำลองทั้งสองอัน แล้วพูดว่า “ผมเลือกโจมตีทั้งสองด้านครับ”ทันทีที่เขาพู