Semua Bab เล่ห์แค้นจินฉาน: Bab 11 - Bab 20

52 Bab

องค์ชายสาม 4

หลีกงกงได้มาเยือนที่ตำหนักผิงอันหลังจากที่จินฉานกับชุนเยี่ยนกลับมาจากราชอุทยานในช่วงบ่ายเพื่อกลับมารับประทานอาหารกลางวัน แล้วแจ้งว่าฮ่องเต้ได้มีการพลิกป้ายชื่อของนาง ขอให้นางเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งนางเองก็รับราชโองการนั้นโดยไม่มีการอิดออดแต่ประการใดเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยและพักผ่อนอิริยาบถอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อแสงจันทร์เปลี่ยนทิศ นาฬิกาน้ำบ่งบอกเวลายามเฉิน (ประมาณหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม) เกี้ยวลายหงส์ที่ประดับด้วยทองคำและอัญมณีหรูหราก็มารับจินฉานถึงหน้าตำหนัก โดยมีชุนเยี่ยน เฉิงฮวาน และปี้อัน มาส่ง ระหว่างทางนั้น จินฉานยังได้ยินเสียงหลีกงกงอธิบายเรื่องราวต่างๆ อยู่เป็นระยะ ซึ่งตัวจินฉานเองก็รับฟังอยู่ มิได้กล่าวอันใดออกไป นางเพียงนั่งอยู่ในเกี้ยวอย่างสงบ ประสานมือไว้บนตัก ดวงตาจับจ้องแหวนหยกสีเขียวเข้มที่อยู่บนนิ้วเงียบๆ นางใช้ปลายนิ้วลูบแหวนวงนั้นอย่างทะนุถนอม นัยน์ตาสองข้างพลันมีม่านน้ำตาฉาบบางๆ เอ่ยพึมพำเสียงเบา“หลี่หยวน ท่านอยู่กับข้านะ อยู่กับข้า ให้ฉานเอ๋อร์ผ่านวันคืนนี้ในวังหลวงไปให้ได้”ใช้เวลาไม่นานนักเกี้ยวหงส์ก็หยุดลงที่ตำหนักปีกขวาของตำห
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-12
Baca selengkapnya

องค์ชายสาม 5

ตลอดทางที่ถูกฮ่องเต้อุ้มจากตำหนักปีกมาจนถึงตอนที่ร่างถูกวางอยู่บนแท่นบรรทม จินฉานนิ่งเงียบเหมือนหุ่นกระบอกที่ถูกตัดสายครู่หนึ่ง โดยมีฮ่องเต้เท้าคางมองร่างเล็กที่ห่อตัวจนมิดถึงคอด้วยแพรขาวโปร่ง ยังไม่ยอมทำอันใดอย่างใจต้องการ นับว่าเป็นครั้งแรกที่โอรสสวรรค์เช่นเขาใจเย็นและละมุนละม่อมอย่างที่ไม่เคยกระทำกับสตรีนางใดมาก่อนยิ่งเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบ มีหยาดน้ำคลอที่หน่วยตายิ่งชวนให้อยากหยอกเย้ากลั่นแกล้ง เขาจึงลองยื่นมือไปแตะที่หัวไหล่กลมมน ทว่าเพียงปลายนิ้วสัมผัสเจ้าตัวก็สะดุ้งเฮือก คล้ายแมวจรที่ถูกคนใจร้ายกลั่นแกล้งให้ตกใจ จินฉานยิ่งกอดตนเองแน่น ขดตัวเป็นก้อนกลมราวกับลูกหนังลูกย่อมๆ ลูกหนึ่ง ทำให้ด้านหนึ่งฮ่องเต้พลันรู้สึกสงสารจับจิตกับความอ่อนเดียงสา ใจหนึ่งก็รู้สึกสนุกและฮึกเหิมลำพอง “เป็นอันใด เมื่อก่อนเจ้าใจกล้ากว่านี้ กล้าพูดกล้าคุยเจื้อยแจ้วราวกับนกสาลิกามากกว่านี้ ไฉนวันนี้จึงเอาแต่นิ่งเงียบตัวสั่นขวัญอ่อนเช่นนี้เล่า?”“ก...ก็ตอนนั้น...ที่หม่อมฉันสนทนากับฝ่าบาท มิได้อยู่บนเตียงเช่นนี้ อาภรณ์เหลือน้อยชิ้นเช่นนี้นี่เพคะ...” เด็กสาวตอบอ้อมแอ้ม ท่าทางประหม่าหลายส่วน“แต่ว่านับตั้งแต่นี้
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-12
Baca selengkapnya

องค์ชายสาม 6

หลังจากช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านพ้น อี๋เหม่ยเหรินแห่งตำหนักผิงอันในสภาพเปล่าเปลือย โดยมีอ้อมแขนกว้างโอบกระชับ ให้ความรู้สึกสนิทแนบเนื้อ ขาข้างหนึ่งกอดก่ายเรียวขางามทั้งคู่ของนางเอาไว้ หมายจะกลืนกินให้หมดทั้งตัว ต้นขาด้านในยังเหนียวเหนอะด้วยเชื้อพันธุ์ที่เขาทิ้งไว้ในกายนาง จนนางยังคิดว่าตนเองกำลังถูกงูใหญ่ที่เพิ่งลอกคราบรัดพันเอาไว้จินฉานเหม่อมองไปยังหน้าต่าง ราวกับแสงจันทร์ที่ทอแสงนุ่มนวลนั้นจะช่วยปลอบประโลมหัวใจของนางกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ฮ่องเต้นั้นแม้อายุจะมีเลขสี่นำหน้า แต่กำลังวังชาและความต้องการนั้นมิได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด ถึงช่วงเริ่มต้นจะอ่อนโยนละมุนละม่อม ทว่าเมื่อตอนที่ร่างกายของทั้งสองสอดประสานกัน กลับเป็นตัวฮ่องเต้เองที่ระงับกักกั้นอารมณ์ไม่อยู่ แม้สีหน้าของหญิงสาวใต้ร่างจะแสดงถึงความเจ็บปวดฝืดคับด้วยยังไม่พร้อม แต่อีกฝ่ายก็ใช้กำลังหักหาญน้ำใจด้วยกำหนัดกล้า กระแทกกระทั้นเร่งเร้าจนเสร็จสมในที่สุดถ้าเป็นองค์หญิงน้อยจินฉานสมัยที่ยังอยู่ป๋ายอี้คนนั้น คงไม่อาจทานทนกับเรื่องทารุณเช่นนี้ได้ สองมือคงเปะปะจิกข่วน กรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บ และสุดท้ายก็จบลงด้วยเสียงสะอึกอื้น
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-12
Baca selengkapnya

องค์ชายสาม 7

เมื่อเข้าล่วงยามซื่อ (ประมาณเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมง) เกี้ยวนางหงส์ก็มาส่งจินฉานที่หน้าประตูตำหนักผิงอัน โดยมีชุนเยี่ยนกับเฉิงฮวานคอยต้อนรับ ชุนเยี่ยนส่งยิ้มหวานหยดพลางยื่นแขนประคองนายหญิงของตนให้เข้าไปในตำหนัก “นายหญิงปรนนิบัติฝ่าบาทร่วมค่อนคืนคงเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย หม่อมฉันกับเฉิงฮวานให้เหล่านางกำนัลต้มน้ำอาบและเตรียมยาเร่งนิทราให้ท่าน พอพระสนมอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์จะได้เข้าบรรทมพักผ่อน”จินฉานพยักหน้าน้อยๆ เฉิงฮวานยังเอ่ยต่อ “เมื่อครู่คนของตำหนักเฟิ่งหวงมาแจ้งว่า พระสนมถวายการปรนนิบัติเป็นที่พอพระทัยของฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่ง สิ้นเปลืองกำลังแรงกายไปไม่น้อย ฮองเฮาจึงมีรับสั่งอนุญาตให้นายหญิงพักผ่อนในตำหนัก มิต้องมาเข้าเฝ้าถวายบังคมหนึ่งวันเพคะ”เจ้าของนามอี๋เหม่ยเหรินอมยิ้ม กล่าวเพียงว่า “ฮองเฮาทรงมีพระเมตตาแก่สนมตัวเล็กๆ เช่นข้ายิ่ง”ทั้งหมดต่างล้วนเห็นด้วย จากนั้นจินฉานจึงกล่าวต่อ “คนที่ปรนนิบัติตัวข้าอาบน้ำ ให้ชุนเยี่ยนกับปี้อันทำกันสองคนก็พอ ส่วนเฉิงฮวาน ข้าฝากให้เจ้าดูแลตำหนักให้ดี ควบคุมเหล่านางกำนัลขันทีให้ทำความสะอาดตำหนักอย่างละเอียดรอบคอบ อย่าให้มีฝุ่นละอองแม้แต่เม็ดเดียว”เฉิงฮวา
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-12
Baca selengkapnya

จินเฟย 1

จริงอย่างที่ชุนเยี่ยนกล่าวไว้ ตลอดหกวันที่เหลือนั้น ทางฮ่องเต้ได้ให้หลีฮุ่ยส่งน้ำแกงรสเปรี้ยวอมหวานนั้นมาให้ทุกเช้า โดยแต่ละครั้งนั้นหลีฮุ่ยจะจับจ้องจินฉานว่าได้ดื่มน้ำแกงนั้นจนหมดหรือไม่ ซึ่งเด็กสาวก็แกล้งไม่รู้ไม่ชี้ ดื่มจนเกลี้ยงถ้วยไม่เคยเหลือแม้แต่หยดเดียว เมื่อเห็นแบบนั้นขันทีประจำพระองค์ก็จะยิ้มแย้มพอใจ จากนั้นจึงรีบกลับไปรายงานฝ่าบาทก่อนประชุมเช้าจะเริ่ม ส่วนจินฉานเองก็เตรียมล้างหน้าวีผม ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อเตรียมไปถวายบังคมที่ตำหนักเฟิ่งหวง ซึ่งบรรยากาศของตำหนักเฟิ่งหวงก็มิได้แตกต่างไปจากเมื่อเจ็ดวันก่อน สงบสุขราบเรียบ มีแต่เสียงหัวเราะละมุนละไมอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ที่พิเศษเสียหน่อยก็ตรงที่ตรัสชื่นชมจินฉานที่แม้จะผ่านการถวายการปรนนิบัติมาค่อนคืน ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงก็ยังมีใจภักดี ตั้งใจที่จะมาถวายบังคมพระนางอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จึงใคร่อยากให้นางสนมหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับจินฉานได้ดูเป็นตัวอย่างเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าคำพูดของฮองเฮาทำให้จินฉานกลายเป็นเป้าอันใหญ่ที่ถูกสายตาคมกริบราวลูกศรจากสนมนางในหลายสิบคน ณ ที่นั้นที่พุ่งมาปักอย่างแม่นยำ เรียกได้ว่าฮองเฮาเป็นพวกปากปราศรัยน้
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-13
Baca selengkapnya

จินเฟย 2

จินเฟยเหมือนสังเกตเห็นการมาของพวกนาง พระนางหันมามองจินฉานแล้วส่งยิ้มให้ “ที่แท้อี๋เหม่ยเหรินก็มาชมความงามของดอกล่าเหมยเช่นเดียวกับตัวข้าและองค์ชายห้า”จินฉานย่อกายคารวะบุคคลทั้งสองตามธรรมเนียม แล้วเอ่ย “ล่าเหมยผลิบานสื่อถึงวสันตกาลที่กำลังจะมาเยือน เมื่อเบ่งบานเต็มที่แล้วจะร่วงโรยในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าไม่มายลคงน่าเสียดายยิ่งนักเพคะ”“จริงอย่างที่เจ้าว่า ล่าเหมยที่เบ่งบานเต็มที่ ย่อมเหมือนเหล่าน้องสาวที่เข้าวังมาในปีนี้ งดงาม นุ่มนวล อ่อนหวาน เปล่งประกายเจิดจรัส ไม่เหมือนกับตัวข้าที่โรยรา” จินเฟยว่าพลางลูบแก้มตนเองช้าๆ พลางทอดถอนใจใหญ่ องค์ชายห้าที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ย “เสด็จแม่กล่าวอันใดกัน ท่านยังงดงามเหมือนตอนที่ลูกเห็นตอนที่ยังเด็กไม่มีผิด ยิ่งถ้าให้มายืนเคียงไหล่กันกับอี๋เหม่ยเหริน ถ้าคนไม่รู้คงคิดว่าพวกท่านสองคนเป็นพี่น้องกันเสียด้วยซ้ำ”จินเฟยเม้มปากยิ้ม “อี๋เหม่ยเหริน ท่านดูเอาเถอะ ว่าลูกของข้าคนนี้ปากหวานเพียงใด”กู้อวิ๋นคลี่ยิ้มหล่อเหลาตอบ “กระหม่อมมิได้ปากหวาน ไม่เชื่อท่านลองถามน้องเจ็ดหรือใครก็ได้ อี๋เหม่ยเหริน ท่านเองก็คิดเหมือนกันใช่หรือไม่?”จินฉานพยักหน้ารับ “เพคะ พี่หญิ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-13
Baca selengkapnya

จินเฟย 3

ตำหนักหรูอี้ของจินเฟยนั้นเป็นตำหนักที่หรูหราสมฐานะพระสนมชั้นเฟย ภายในอบอุ่นประดุจฤดูใบไม้ผลิด้วยเตาถ่านถึงสี่เตา แต่ละเตาบรรจุถ่านหงหลัวชั้นดี เวลาลุกไหม้แดงโชติช่วงสม่ำเสมอ ไร้เขม่าควันรบกวนซ้ำยังส่งกลิ่นหอมละมุน จินเฟยเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเก้าอี้เซียงเฟยข้างกัน ก่อนสั่งให้นางกำนัลนำน้ำชาและเครื่องว่างเข้ามา ทั้งขนมหยวนเป่า ขนมเปี๊ยะเหมยกุ้ย แต่สิ่งที่สะดุดตาจินฉานกลับเป็นห่อลูกกวาดและผลไม้เชื่อมหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ห่อด้วยกระดาษหลากสีคละเคล้ากันไป นางหยิบห่อกระดาษสีแดงสดขึ้นมาอย่างรู้สึกคุ้นเคย “เหมือนหม่อมฉันเคยกินลูกกวาดชนิดนี้มาก่อน...”“ที่ป๋ายอี้หรือ?”“เพคะ แต่ระหว่างทางมาที่นี่ มีอยู่ช่วงหนึ่งหม่อมฉันไม่ใคร่สบายนัก องค์ชายห้าเห็นดังนั้นจึงประทานลูกกวาดเช่นนี้เหมือนกันให้หม่อมฉัน บอกว่าเสด็จแม่ของพระองค์เป็นคนปรุงขึ้นมาเอง อมให้ละลายในปากช้าๆ จะทำให้หยุดไอได้”จินเฟยพยักหน้า จากนั้นจึงหยิบลูกกวาดสีเดียวกับที่อยู่ในมือจินฉานแกะออกให้ดู “สมัยที่ข้ายังอยู่ป๋ายอี้ เสด็จพี่...เสด็จพ่อของเจ้ามักไอมีเสมหะบ่อยๆ เวลาที่มีอากาศหนาว แต่ก็ไม่ทรงโปรดเสวยโอสถที่หมอหลวงจัดให้ ข้าจึงป
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-13
Baca selengkapnya

จินเฟย 4

จินเฟยได้ฟังยิ่งรู้สึกสะทกสะท้อน นางเองก็เป็นสตรีที่แต่งเข้ามาอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่น โอรสสองคนที่ถือกำเนิดจากนางถึงแม้จะได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้ แต่ด้วยความเป็นลูกครึ่งลูกเสี้ยว มีสายเลือดต่างเผ่าอยู่ในตัวจึงถูกบรรดาเหล่าองค์ชายที่เกิดจากสนมนางในชาวต้าเจวียนดูหมิ่นบ่อยครั้ง และทำให้ถึงแม้จะทำความชอบ หรือเก่งกล้าสามารถเพียงใด บรรดาเหล่าขุนนางมักเลือกเมินเฉยไม่กล้าที่จะสนับสนุนหรือทูลขอให้โอรสของนางรับตำแหน่งรัชทายาท ความขมขื่นเหล่านี้ นางสามคนแม่ลูกได้รับมาจนชาชิน แต่สำหรับชาวต้าเจวียนสายเลือดบริสุทธิ์เล่า จะยอมรับความอัปยศเหล่านี้ได้หรือ //นอกจากนี้ล่ะ? ////เสด็จพ่อยังตรัสอีกว่า ฝ่าบาทมีประสงค์จะสร้างสถานศึกษาที่นั่น แล้วปีหน้าจึงให้เด็กๆ ป๋ายอี้เข้ารับการศึกษาอักษรต้าเจวียน ทางการของเราก็เริ่มมีคำสั่งให้ใช้อักษรต้าเจวียนเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกับราชสำนัก...หลีกเลี่ยงชาวบ้านพูดภาษาป๋ายอี้ และพิธีกรรมที่ไม่ใช่ศาสนาที่ชาวต้าเจวียนนับถือ// จินฉานเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะมองปฏิกิริยาของจินเฟยที่ลอบขยำกระโปรงสีม่วงลายองุ่นทองของตนเองจนยับย่น //การที่ท่านอาหญิงมีท่าทีเช่นนั้น แสดงว่ามิไ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-13
Baca selengkapnya

จินเฟย 5

จินฉานกับจินเฟยสบตากันเพียงอึดใจ จากนั้นจินฉานจึงหันไปตอบขันทีส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ “ข้าทราบแล้ว ขอบคุณหลีกงกงที่อุตส่าห์นำความมาบอกด้วยตนเอง”“เรื่องเล็กน้อย มิได้ลำบากเลยสักนิด” หลีฮุ่ยเอ่ยอย่างถ่อมตน จากนั้นจึงขอทูลลากลับ จินเฟยส่งยิ้มละไมให้หลานสาว “เจ้ามาถึงเพียงไม่กี่วัน ฝ่าบาทก็พลิกป้ายชื่อเรียกเจ้าถวายการปรนนิบัติเป็นครั้งที่สองแล้ว นับว่ามีวาสนาอย่างยิ่ง”“ฝ่าบาทตอนนี้กำลังเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเห่อของเล่นใหม่ ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่พระองค์จะหน่ายของเล่นชิ้นนี้จนความโปรดปรานสิ้นสุดลง” จินฉานว่าอย่างอ่อนน้อม ขณะที่จินเฟยเอ่ยต่อ“โปรดปรานหรือไม่ ดูจากที่เจ้าสนิทกับหลีกงกงก็พอคาดเดาได้ นับว่าฉลาดยิ่งที่รู้จักเข้าหาขันทีคนสนิทของฝ่าบาท”“แต่คงฉลาดมิสู้ท่านอาหญิงที่มองเพียงปราดเดียวก็ทราบอย่างทะลุปรุโปร่ง” เด็กสาวยิ้มเอ่ย “ท่านอาหญิงทราบได้อย่างไร?”“ที่ข้ารู้ เพราะดูจากหัวด้ามแส้ปัดของหลีกงกง ข้ากับหลีกงกงค่อนข้างพบหน้ากันบ่อยครั้ง แต่เท่าที่จำได้ ที่หัวด้ามแส้ปัดของเขามิมีแก่นทับทิมแดงประดับเช่นนั้นอยู่ ถึงเขาจะบอกข้าว่ามันเป็นเพียงแค่ปะการังแดงซาติง (ปะการังแดงแบ่งออกเป็นห้าวรรณะซึ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-13
Baca selengkapnya

พระเขนยลายองุ่นทอง 1

แม้กล่าวว่าฮ่องเต้มีรับสั่งเรียกให้จินฉานถวายการปรนนิบัติ ทว่าไม่ได้มีสัมพันธ์เร่าร้อนแต่ประการใด เพียงมีรับสั่งให้จินฉานอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดนอนแพรต่วนสีเฟิ่นหง อยู่สนทนาเป็นเพื่อนกับฮ่องเต้ที่ยังคงนำฎีกามาอ่านถึงในห้องบรรทมพร้อมสั่งให้ขันทีน้อยชงชาแดงเข้มข้นมากาหนึ่ง จินฉานตัดสินใจขออนุญาตฮ่องเต้รินชาให้ และรินชาจอกหนึ่งให้กับตนเอง แต่ว่าเพียงจิบเล็กน้อยนางก็ทำหน้าเบ้ บ่นว่าขมเหลือใจ ขมติดลิ้นจนต้องหยิบซานจาเชื่อมที่อยู่ข้างๆ มาใส่ปากเคี้ยว พอรสเปรี้ยวอมหวานของซานจากระจายทั่วปากจึงพอยิ้มออกมาได้บ้าง จนฮ่องเต้ยังอดหันมามองอย่างนึกเอ็นดูมิได้ “ซนนัก อยู่ดีๆ ดื่มชาขมเช่นนั้นทำไมกัน?”“กราบทูลฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงแค่อยากรู้ว่าพระสุธารสชานี้รสชาติดีเพียงใด ไฉนฝ่าบาทจึงดื่มได้โดยสีหน้ามิเปลี่ยนเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะขมขนาดนี้ ขมยิ่งกว่าสมุนไพรหวงเหลียนที่ใครๆ ต่างพูดว่าขมเสียอีก”“เด็กโง่ ที่เราดื่มชารสเข้มข้นเช่นนั้นเพื่อให้อยู่อ่านฎีกาได้นานยิ่งขึ้นเท่านั้น แล้วที่ให้นกสาลิกาตัวน้อยอย่างเจ้าอยู่ด้วย เจ้าจะได้เจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆ บรรยากาศรอบข้างจะได้ไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก”“ฝ่าบาท
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-05-13
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123456
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status