สามวันต่อมาลู่ผิงถิงกลับเข้าเมืองมาแล้ว เนื่องจากมาถึงยามวิการจึงพักที่เรือนมารดาหนึ่งวัน เช้าวันนี้นางกำลังเดินทางไปจวนอ๋องก้าวขาเข้าจวนที่ผูกผ้าแพรสีดำสีขาว ผ้าพลิ้วไหวไปตามสายลม ทั้งจวนดูมืดมนไม่ต่างจากใจของนางซู่เหยาในชุดขาวสะอาดนั่งอยู่หน้าพระโกศ (โลงศพ) ลู่ผิงถิงเดินเข้าไปนั่งลงข้างกายซู่เหยา “เจ้าเห็นเขาแล้วหรือ” นางอยากเปิดฝาพระโกศออก แล้วดูหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย ทว่ากลัวทำใจไม่ได้ซู่เหยาสบเข้ากับสายตาเจ็บปวดของพระชายาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย เห็นสตรีคนหนึ่งที่งดงามผ่ายผอมลงในชั่วพริบตา ก็เกิดความเวทนาสงสาร จึงอธิบายเรื่องที่ค้างคาใจอยู่เผื่อจะทำให้พระชายาอารมณ์ดีขึ้นบ้าง “พระชายาความจริงบุตรในท้องหม่อมฉันไม่ใช่บุตรของท่านอ๋อง” ซู่เหยาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “ตอนนั้นหม่อมฉันไร้ทางออกคิดสังหารตัวเอง ท่านอ๋องจึงไม่อาจปล่อยหม่อมฉันไว้คนเดียวได้ พวกเราไม่เคยมีความสัมพันธ์กัน ทุกครั้งที่พบกันมีเพียงเรื่องภารกิจเท่านั้นเพคะ หม่อมฉันเป็นหนึ่งในนักสืบข่าวของท่านอ๋อง หอเฟิ่งหวงเองก็เป็นท่านอ๋องก่อตั้งขึ้นมา ทว่าเรื่องนี้น้อยคนนักที่จะรู้ อีกอย่างช่วงนั้นท่านอ
Last Updated : 2025-06-01 Read more