บททั้งหมดของ ปีศาจสาวและเหล่าฮาเร็มของนาง: บทที่ 21 - บทที่ 30

46

(๒๑) เผื่อเจ้าไม่รู้

๒๑เผื่อเจ้าไม่รู้ ณ กระโจมใหญ่ซึ่งมีทหารมากมายหลายหมื่นนายรายล้อม เฟิ่งเฟยพาหู่ชิงกลับมายังฐานทัพของเขาโดยไม่ได้ใช้เวทอำพรางกระโจมใหญ่แต่อย่างใด เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามาในกระโจมของแม่ทัพใหญ่โดยพลการ เมื่อมาถึง เฟิ่งเฟยก็เริ่มอุ่นเตียงให้สหายชายคนแรกของนางในทันที คนคุ้นเคยกันแล้วจุดติดง่าย ไม่นานทั้งคู่ก็อยู่ในร่างไร้อาภรณ์ นางอยู่กับพวกเขาทีไร ดูเหมือนเสื้อผ้าจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น! เสียงครางแผ่วของหญิงสาว เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอ เสียงริมฝีปากดูดกลืนผิวเนื้อ เสียงเหล่านี้ดังลอดออกไปนอกกระโจม จนทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าหน้ากระโจมใหญ่อยู่หันมาสบตากัน รู้ในทันทีว่าแม่ทัพใหญ่ของพวกเขาคงพาสตรีมาอุ่นเตียงแล้ว ด้วยความห่างหายจากสตรีมานานทำให้พวกเขาไม่สนใจสักนิดว่าหู่ชิงเข้าไปในกระโจมตอนไหน แก่นกายปวดหนึบจนต้องใช้มือของตนเองรีดพิษในกาย โดยเอียงหูฟังเสียงจากด้านใน ใช้จินตนาการสร้างความสุขให้กับตนเอง ส่วนด้านในกระโจมก็โรมรันพันตูกันไม่ยอมหยุด ร่างบางเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะรักด้วยตนเอง มือบางทั้งสองวางอยู่บนร่องตรงหน้าท้องเขา ควงเอวสั่นสะโพกผสา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๒) ให้รางวัลคนอยู่เป็น

๒๒ให้รางวัลคนอยู่เป็น เฟิ่งเฟยลอบกลืนน้ำลายให้กับคำพูดของเขา ทว่าเมื่อได้เห็นลำเขื่องจริง ๆ นางก็อยากใช้เวทหายไปจากตรงนี้ แต่อีกใจหนึ่งนางก็อยากสู้! ยังดีที่เขาให้เวลานางเตรียมใจบ้าง ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงตวัดลิ้นรอบอกอิ่ม ด้วยเพราะรอยช้ำมันขัดตา จู่ ๆ ใจมันก็อยากลบรอยหู่ชิงเสียดื้อ ๆ เสียงริมฝีปากดูดผิวเนื้อดังขึ้นสลับกับเสียง ‘แจะแจะ’ ที่ชายหนุ่มกำลังสอดนิ้วเข้าร่องสาว เขาไม่ยอมเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย ขณะเดียวกันสายตาก็สอดส่องจุดที่หู่ชิงยังไม่ได้สร้างรอยบนตัวนาง มุมปากยกยิ้มร้าย เมื่อเห็นว่าจุดนั้นคือตำแหน่งปลายคาง ลิ้นสากย้ายจากอกงามลากขึ้นไปยังปลายคางเล็กแล้วเม้มอย่างแรง เมื่อมันขึ้นสีเขาก็ยิ้มด้วยความพึงพอใจ กำลังจะมองหาจุดอื่นทว่ากลับรู้สึกได้ถึงน้ำหวานที่ไหลย้อมนิ้ว เขาจึงถอนนิ้วออกแล้วชิมรส มิหนำซ้ำยังก้มลงมาชิมส่วนที่เหลือทุกหยาดหยด ไม่น่าเชื่อว่าชินอ๋องที่ภายนอกดูสูงศักดิ์ไว้ตัวผู้นี้ แต่พออยู่ในห้วงราคะกลับไม่ต่างจากชายบำเรอ “เจ้าทำให้ข้าอยากฆ่าบุรุษทุกคนของเจ้า” คำพูดและสายตาขอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๓) ซ่งฉีอาละวาดกับการเปิดประสบการณ์ใหม่

๒๓ซ่งฉีอาละวาดกับการเปิดประสบการณ์ใหม่ เช้าวันนี้จวนตระกูลซ่งวุ่นวายยกใหญ่ เมื่อประมุขน้อยของจวนหาสาวใช้คนสนิทไม่พบ! ตอนแรกเขาเพียงร้อนใจเท่านั้น แต่มาถึงยามเย็นแล้วเฟิ่งเฟยก็ยังไม่มาสักที หนุ่มน้อยจึงอาละวาดทำลายข้าวของในห้อง เดือดร้อนถึงนายหญิงและนายท่านใหญ่ของจวนให้เป็นผู้มาไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง “นางอาจมีธุระก็ได้ ฉีเอ๋อร์อย่าเพิ่งร้อนใจไป” ดวงตาซ่งฉีลุกเป็นไฟ กำหมัดแน่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา เพราะกลัวว่าจะหลุดคำพูดไม่น่าฟังจนระคายหูบิดามารดา ท่าทีเช่นนี้ของบุตรชายเพียงคนเดียวทำเอาสองสามีภรรยาถึงกับต้องมองหน้ากัน ในใจคิดตรงกันว่า... ฉีเอ๋อร์ขาดเฟิ่งเฟยไม่ได้เสียแล้ว! ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังกลัดกลุ้มกันอยู่นั้น จู่ ๆ เด็กรับใช้ในเรือนก็วิ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่แล้วยื่นจดหมายให้ซ่งฉี “คุณชายขอรับ มีคนมาส่งสิ่งนี้ให้คุณชายขอรับ” ซ่งฉีรับมาอย่างไวแล้วเปิดอ่าน ด้วยคิดว่าอาจจะเป็นเบาะแสจากเฟิ่งเฟย ในที่สุดเขาก็ยิ้มออก ใบหน้าผ่อนคลายต่างจากก่อนหน้านี้หันไปมองบิดามารดา “เดี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๔) สโมสรพักใจ

๒๔สโมสรพักใจ เมื่อเข้าห้องลับไปแล้ว เฟิ่งเฟยก็จูงมือซ่งฉีเดินไปท่ามกลางความมืด เพราะซ่งฉีไม่เคยมาเส้นทางนี้มาก่อน ตอนเดินจึงระมัดระวังเป็นอย่างมาก ต่างกับเฟิ่งเฟยที่ก้าวเดินฉับ ๆ นั่นเพราะดวงตาปีศาจของนางสามารถมองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน “ระหว่างทางเป็นพื้นราบทั้งหมด อย่าได้ทั้งกังวล” ได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น เขาจึงเบาใจจนสามารถเดินตามนางไปโดยไม่ชะงัก ปลายแสงอยู่ตรงหน้า เดินเพียงไม่นานก็มาถึงหนึ่งในประตูทางออก “ถึงแล้ว” ระหว่างทางซ่งฉีไม่ได้กล่าวสิ่งใดทั้งนั้นจนกระทั่งมาถึงสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ต่างจากหมู่บ้านขนาดย่อม “ข้าเข้าใจที่เจ้ากล่าวแล้ว” ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น ทั้งยังใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้ แต่ในความรู้สึกของซ่งฉีแล้วใครก็ไม่งามเท่าสตรีที่กุมมือเขาอยู่ ไม่สิ! คนที่นี่ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกับเขา อดคิดในใจไม่ได้ว่า คนอะไรงามทะลุหน้ากาก “ข้าบอกแล้ว” เฟิ่งเฟยตบไหล่เขาอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะพาเขาเดินชมกิจกรรมการละเล่นต่าง ๆ ซึ่งเป็นการละเล่นที่ถึงเนื้อถึงตัวทั้งนั้น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๕) นกกระเรียนมงกุฎแดง

๒๕นกกระเรียนมงกุฎแดง กิจกรรมส่งท้ายที่เฟิ่งเฟยกับซ่งฉีได้เลือกใช้เวลาร่วมกันคือการนั่งเรือล่องแม่น้ำสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติท่ามกลางแสงจันทร์ โดยมีหิ่งห้อยเป็นตัวสร้างบรรยากาศ กระแสน้ำในฤดูนี้ไม่ได้แรงมาก เรือจึงไหลเอื่อย ๆ ไปตามฝีพายคนแจวเรือ เรือที่ทั้งคู่เลือกเป็นเรือขนาดย่อมมีห้องโดยสารส่วนตัวที่กันสายตาจากคนแจวเรือและคนที่สัญจรเรือผ่านไปมา เฟิ่งเฟยเปิดหน้าต่างเรือให้ลมพัดเข้ามา ร่างบางโดนซ่งฉีโอบกอดเอาไว้ ใบหน้างามที่ปลดหน้ากากออกแล้วซบหน้าลงกับอกหนั่นแน่น... เดี๋ยวนะ อกหนั่นแน่นเช่นนั้นหรือ! เมื่อสัมผัสได้ถึงอกหนั่นแน่นของชายหนุ่ม เฟิ่งเฟยก็ผละออกจากอกเขาพร้อมใช้พลังปีศาจตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าพลังเทพของเขาเข้มข้นกว่าเดิมหนึ่งส่วน หรือภารกิจของข้าใกล้จะสำเร็จแล้ว “ทำไมหรือ” ซ่งฉีที่ถอดหน้ากากออกแล้วเช่นกันเลิกคิ้วขึ้นสูง ทว่าก็ได้รับเพียงรอยยิ้มจากหญิงสาวกลับมาเท่านั้น “ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าเจ้าดูบึกบึนขึ้น” ไม่ว่าเปล่า เฟิ่งเฟยยังแสร้งยื่นมือไปลูบอกเปลือยเปล่าของเข
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๖) ตานติ่งเฮ่อพากลับชายแดน

๒๖ตานติ่งเฮ่อพากลับชายแดน ตานติ่งเฮ่อ​​​​​ในชุดสีขาวทั้งตัวก้าวเข้ามาหาเฟิ่งเฟยหนึ่งก้าว ส่วนนางก็ถอยหนีเขาหนึ่งก้าว ทำเอาร่างสูงขมวดคิ้วแล้วหยุดเดิน “หนีเกอเกอด้วยเหตุใด เกอเกอไม่ได้จะทำอะไรเจ้าเสียหน่อย” กล่าวจบก็ชำเลืองมองคนที่นอนอยู่บนพื้นเรือ ชายแขนเสื้อยาวสะบัดหนึ่งครั้ง ร่างของซ่งฉีก็หายวับไปจากเรือ “เฮ่อเกอพาเขาไปที่ใดเจ้าคะ ที่จริงเขาเป็น...” “เกอเกอย่อมทราบ! แล้วอย่างไร ในยามนี้เขาคือมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น ได้เวลาต้องกลับจวนแล้ว” ตานติ่งเฮ่อทราบว่าซ่งฉีคือเทพปราการที่ลงมาฝ่าด่านเคราะห์ และในยามนี้เขาได้ส่งซ่งฉีกลับเรือนนอนแล้ว “แต่ข้ายังไม่อยากกลับแดนปีศาจนะเจ้าคะ” ใบหน้างามบึ้งตึง แสดงท่าทางงอแงออกมาอย่างชัดเจน ทำเอาคนเป็นพี่ชายต่างสายเลือดถึงกับส่ายหน้า “เจ้าเล่นสนุกมากพอแล้ว อยู่เมืองมนุษย์นานเกินไปย่อมไม่ดีต่อร่างกาย กลับไปชำระล้างก่อนจะกลับมาอีกรอบย่อมได้ เกอเกอไม่ห้าม” “ไม่ห้ามแน่นะเจ้าคะ พูดแล้วคืนคำไม่ใช่บุรุษที่ดีนะ” ตานติ่งเฮ่อทำเสียง ‘หึ’ สะบัดแขนหนึ่งครั้งท
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๗) เหลียนฮวาเยาขอความช่วยเหลือ

๒๗เหลียนฮวาเยาขอความช่วยเหลือ เมื่อสมุนทั้งแปดทราบว่านายสาวกลับแดนปีศาจมาแล้ว พวกเขาก็ผละจากสิ่งที่ทำอยู่มาหานายสาว จากตำหนักที่เงียบสงบมานานก็ครึกครื้นขึ้นในทันใด “นายท่าน ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว” เฟิ่งเฟยมองสมุนทั้งหลายของนางด้วยรอยยิ้มเอ็นดู พวงเขายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แย่งกันเอ่ยถามนางอย่างกับว่าจะไม่ได้ถามอีก “เอาล่ะ ๆ ข้ายังอยู่แดนปีศาจอีกนาน เวลานั้นอยากทราบเรื่องใดค่อยถามทีละคนก็แล้วกันนะ” เฟิ่งเฟยเอ่ยตัดบทก่อนจะเข้าไปในห้องนอนของตนเอง นอนหลับพักผ่อนเอาแรง ในใจมีลางสังหรณ์ว่าจะพบเจอเรื่องให้ต้องใช้แรงกายแรงใจอีกมาก และแล้วลางสังหรณ์ของนางก็เป็นจริง เพราะหลังจากที่นอนหลับไปไม่นาน อาหลิงก็เข้ามาปลุกนางด้วยสีหน้าลุแก่โทษ “ขออภัยที่รบกวนขอรับนายหญิง เหลียนฮวาเยากล่าวว่ามีธุระสำคัญจะคุยกับท่าน ขอร้องให้ข้าน้อยช่วยมาปลุกท่านให้ทีขอครับ” “เหลียนฮวาเยารึ ยากนักที่เขาจะขอความช่วยเหลือจากข้า แสดงว่าต้องเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก” เฟิ่งเฟยลุกขึ้นนั่งบนเตียง อาหลิงเข้ามาช่วยจัดผมจัดเสื้อผ้าให
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๘) แสดงให้ท่านแม่ได้รู้

๒๘แสดงให้ท่านแม่ได้รู้ เหลียนฮวาเยากลับดินแดนกลางน้ำสถานที่ซึ่งเป็นสระบัวขนาดใหญ่ที่สุดในดินแดนปีศาจ เขามีอายุเป็นหมื่นปี สะสมตบะมาตั้งแต่เป็นภูตไม้ธรรมดาจนปัจจุบันสามารถกลายเป็นปีศาจชั้นสูงได้ ดินแดนกลางน้ำของเขาไม่เพียงมีแค่ดอกบัวสายพันธุ์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่เท่านั้น แต่พืชสมุนไพรตัวยาหายากก็ขึ้นอยู่ในดินแดนกลางน้ำของเขาเช่นกัน เพราะเป็นปีศาจเกี่ยวกับพืช เผ่าของเขาจึงไม่ใช่เผ่าที่สามารถสู้รบตบมือกับใครได้ เป็นได้เพียงฝ่ายรักษา ไม่ใช่ฝ่ายจู่โจม การที่ท่านแม่ของเขาอยากให้เขาหมั้นหมายกับเผ่าปีศาจจิ้งจอก เหตุผลข้อหนึ่งที่เขาคิดได้คือ ‘อยากได้รับการปกป้อง’ “กลับมาแล้วหรือ” เขามองไปยังเจ้าของเสียงอันคุ้นเคย ก่อนจะเห็นท่านแม่ของตนก้าวออกมาจากดอกบัวใหญ่ขนาดเรือนเรือนหนึ่งของมนุษย์ เขาเกิดมาได้ด้วยพลังของมารดา หาใช่เกิดจากการมีท่านพ่อร่วมกระบวนการในการเกิดไม่ ดินแดนกลางน้ำ สมาชิกส่วนใหญ่ยังเป็นแค่ภูต มีปีศาจชั้นสูงเพียงเขากับมารดาเท่านั้น หากให้เทียบกับมนุษย์ก็คงไม่ต่างจากครอบครัวที่มีฐานะกลาง ๆ ค
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๒๙) ให้ข้าตอบแทนด้วยสิ่งใดดี

๒๙ให้ข้าตอบแทนด้วยสิ่งใดดี เฟิ่งเฟยไม่เพียงมีความสามารถทำให้บุรุษหลงใหลได้เท่านั้น แม้แต่สตรีด้วยกันเองก็ยังรู้สึกหลงนาง นางรู้วิธีการเข้าหาผู้ใหญ่ เพียงพูดคุยกันไม่นาน สายตาที่เหลียนฮวาหมู่มองเฟิ่งเฟยก็เปลี่ยนไปแล้ว “ขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยข้าในวันนี้” เหลียนฮวาเยาพาเฟิ่งเฟยไปเดินเล่นที่ตลาด เพื่อเป็นการกลบข่าวลือก่อนหน้านี้ ในเมื่อจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมาจากตลาดทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะจบเรื่องนี้ที่นี่ “เจ้าชอบปิ่นอันนี้หรือไม่ ข้าซื้อให้” เมื่อเดินผ่านร้านขายเครื่องประดับ เหลียนฮวาเยาก็พานางเดินเข้าไปดูเพราะรู้ว่าสหายชอบของสวย ๆ งาม ๆ “อืม...” เฟิ่งเฟยยกปิ่นขึ้นมาดูพลางทำสีหน้าครุ่นคิด แต่แล้วก็ยกปิ่นทาบบนผมด้านหลัง ถามความเห็นของเขา “เจ้าว่าอย่างไร งามหรือไม่” ใบหน้างามมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าเฝ้ารอคำตอบ พร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนคนถูกถามใบหน้าร้อนฉ่า “เจ้าถามข้าด้วยเหตุใด เอาตามความชอบเจ้าสิ” “ข้ารู้ตัวว่าตนเองงามมากอยู่แล้ว ปักอันไหนก็รอด แต่ปิ่นอันนี้เจ้าเป็นคนซื้อให้ ก็ต้องอิง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม

(๓๐) ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร

๓๐ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร คำถามของเหลียนฮวาเยาทำให้เฟิ่งเฟยแววตาล้ำลึกขึ้น ดวงตาคู่งามหลุบลงเพื่อปกปิดอารมณ์ ร่างบางเดินออกมาจากร้านเครื่องประดับไปยังตรอกที่ลึกลับขึ้น “เฟิ่งเฟย เจ้าเป็นอันใดไป หรือว่าข้าพูดสิ่งใดผิด” เหลียนฮวาเยาเดินตามมาแล้วคว้าข้อมือเล็กไว้ ร่างบางหันกายมาเผชิญหน้าเขา “เจ้าไม่ได้พูดสิ่งใดผิดเลย ข้าผิดเองที่คิดไม่ซื่อ” เหลียนฮวาเยากลืนน้ำลายลงคอ ผินหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบสายตา แต่คล้ายกับว่าไม่อาจฝืนใจตนเองได้อีกต่อไป เมื่อหันหน้ามาอีกทีดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้น สลัดคราบเหลียนฮวาเยาผู้มีภาพลักษณ์อ่อนโยนดุจดอกบัวขาว “ข้าเองไม่ใช่ว่าไม่คิด แต่เป็นเพราะข้าเข้าใจเจ้ามากเกินไป ข้าจึงได้พยายามซ่อนความรู้สึกของตนเองมาตลอด” แววตาของเขาสื่อความหมายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูด นางก็สามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้ ทว่า... “ข้ายังไม่อยากแต่งงานในตอนนี้” “ข้ารู้” เหลียนฮวาเยาพยักหน้ารับในทันที “แต่ขอให้ข้าได้ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ เจ้า เพียงเท่านี้ข้าก็ดีใจแล้ว” เฟิ่งเฟ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-05-13
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
12345
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status