ไป๋ลี่เยว่ยิ้มรับไว้ด้วยท่าทางนอบน้อม ก้มกายยิ้มรับด้วยความสงบเสงี่ยม “ขอบพระทัยไทเฮา หม่อมฉันซาบซึ้งในพระเมตตาเพคะ” ไทเฮาชี้ไปยังกล่องหยกงามประณีต “ในนั้นเป็นปิ่นหยกประดับไข่มุกน้ำจืด ข้าเก็บไว้จากเมืองหนานซาน ฝีมือช่างหลวงเก่าแม้กาลผ่าน แต่ยังคงงามวิจิตรยังประหนึ่งอัญมณีสดใหม่ ข้าขอมอบให้เป็นของรับหลานสะใภ้เช่นเจ้า” ก่อนที่ไทเฮาจะค่อย ๆ เปิดฝาหีบออก เผยให้เห็นม้วนผ้าไหมเนื้อละเอียดบรรจงวางเรียงซ้อนอย่างประณีต แสงจากโคมทองสะท้อนจับเนื้อผ้าเกิดประกายเงาวาววับดั่งหยาดน้ำค้างบนยอดหญ้าในยามรุ่งอรุณ “เยวเอ๋อร์” น้ำเสียงของไทเฮาอ่อนโยน “ผ้าไหมนี้เป็นผ้าไหมอวิ๋นจิ่น ทอจากหัตถกรรมตำหนักเฉพาะของหนานจิง เส้นไหมแต่ละเส้นผสมทองคำแท้ ปกติมีไว้สำหรับตัดชุดเฉพาะฮองเฮาเท่านั้น แต่ในวันนี้เจ้า คือผู้ที่เจิ้งหยางเลือกให้เป็นหลานสะใภ้ของข้า เจ้าย่อมคู่ควร”” ไป๋ลี่เยว่เบิกตากว้างเล็กน้อย ม่านตาสั่นระริกขณะน้อมกายลงกราบลึกด้วยความตื้นตัน “หม่อมฉันไม่อาจรับพระเมตตาได้เพคะ ผ้าชิ้นเป็นของล้ำค่านัก”“รับไว้เถิดของล้ำค่า ก็ต้องคู่แก่ผู้ล้ำค่า” ไทเฮาตรัสด้วยรอยแย้ม “เมื่อครั้งอดีต ข้าเคยรับฮองเฮาด้วยผ้
Terakhir Diperbarui : 2025-08-23 Baca selengkapnya