Semua Bab รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี: Bab 51 - Bab 60

ความคิดต่อมาคือคิดว่าทำไมถึงบังเอิญขนาดนี้ คนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกรำคาญที่ต้องบังเอิญเจอคนคุ้นเคยเวลาที่มาเดินช็อปปิ้งคนเดียวและเซ่าเยว่ก็เป็นคนประเภทนั้นวันนี้ซางจื้อเหนียนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทางการ กลับใส่ชุดออกกำลังกายสีดำสนิท สวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวสีดำ ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกันกับที่ทิ้งไปตัวนั้น แต่ความยาวต่างกันใบหน้าคมชัดยังคงสมบูรณ์แบบเช่นเคย ทั้งยังแช่แข็งคนได้เหมือนอย่างเคยในเมื่อเจอกันแล้ว จะทำเป็นไม่เห็นก็ไม่ได้เซ่าเยว่เอ่ยทักทายแหวกอากาศออกไป “ประธานซาง” ซางจื้อเหนียนหันใบหน้าเย็นชามามองเซ่าเยว่ถึงกับแข็งทื่อเพราะสายตาของเขา เธอเลยไม่ได้พูดอะไรมาก ทำเพียงพยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นก็เก็บสายตา แล้วจัดการคิดเงินต่อ ซางจื้อเหนียนถูกลู่เจี้ยนเฉินฟาดเข้าให้ที่หัวไหลอย่างไม่เบามือ “รอบที่สี่แล้ว”ไม่รอให้ซางจื้อเหนียนพูดจาร้ายกาจอะไรออกมาอีก ลู่เจี้ยนเฉินก็วางแก้วทั้งสองใบในมือลง แล้วเดินไปหาเซ่าเยว่ พลางขัดเธอที่กำลังจ่ายเงิน เขาพูดออกไปราวกับรู้จักการมาเนิ่นนาน “สวัสดีครับ ผมซื่อลู่เจี้ยนเฉิน”ลู่เจี้ยนเฉินมีดวงตาดอกท้อคู่สวย แม้ว่าจะไม่ได้ยิ้มแต่ก็ยกมุมปากขึ้นเล็

แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่เชื่อในเรื่องรักแรกพบอะไรแบบนั้น แค่อยากลองดูเท่านั้น เผื่อว่าจะจุดประกายความรักขึ้นมาบ้างก็ได้?ความรู้สึกจำเป็นต้องอาศัยเวลาคอยฟูมฟัก กอปรกับที่เขาเองก็สนใจเซ่าเยว่ไม่น้อยพอดีนึกไม่ถึงว่าเพิ่งพูดจบไป ซางจื้อเหนียนจะลืมตาขึ้นมา “เอาสิ”ลู่เจี้ยนเฉิน “ฉันจีบผู้หญิงที่นายไม่สนใจ ไม่ได้ขอให้นายเห็นด้วยสักหน่อย”ซางจื้อเหนียน “ฉันไม่ห้ามนายสวมเขาให้เจียงเฉินหานหรอก”ลู่เจี้ยนเฉินชะงักไปหลายวินาที พร้อมกับสีหน้าอึ้ง น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก “เซ่าเยว่เป็นผู้หญิงของเจียงเฉินหาน?”เฟิงเยี่ยนเองก็มีความตกใจปรากฏขึ้นในดวงตาเช่นกัน “น้องชายคนละแม่ของนายนั่นอะนะ? ฉันจำได้ว่าเจียงเฉินหานแต่งงานแล้ว ถ้าเซ่าเยว่เป็นเมียเขา ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเลยล่ะ กลับเป็นเจียงเฉินหานที่ช่วงนี้มักจะพาผู้หญิงอีกคนไปออกงานด้วยกันเสียมากกว่า”อวี๋หลินโจวพูดแทรกขึ้นมาในตอนนี้เอง “เซ่าเยว่แต่งงานกับเจียงเฉินหานมาสามปีแล้ว”พูดจบ ทันใดนั้นอวี๋หลินโจวก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมตอนที่รู้ว่าเซ่าเยว่แต่งงานเร็วถึงได้รู้สึกเสียดายก็อย่างที่เฟิงเยี่ยนว่า เซ่าเยว่กับซางจื้อเหนียนต่างหากถึงจะ

ในฐานะที่เจียงซื่อกรุปเป็นเศรษฐีเก่าแห่งเมืองไห่ พวกเขายังคงสืบทอดเส้นสายที่เริ่มต้นตั้งแต่เจียงเจิ้นมาจวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เศรษฐีใหม่อย่างเซี่ยหงเซินผู้ไล่ตามกระแสในยุคปัจจุบันจนกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองไห่อยากจะส่งของขวัญไปให้ก็ยังหาช่องทางไม่ได้ ไม่มีทางแทนที่ได้เลยคนที่กระตือรือร้นประจบประแจงคนตระกูลเจียงนั้น ต้องมีอยู่ไม่น้อยแน่เซ่าเยว่รู้มาตลอดว่าเจียงเฉินหานชอบเซี่ยอวิ๋นซู เพียงแต่ไม่ได้รู้รายละเอียดมากพอหนึ่งอาทิตย์กว่า ๆ ที่ผ่านมานี้ เธอรับรู้ได้ว่าเจียงเฉินหานนั้นดีต่อเซี่ยอวิ๋นซูมากแค่ไหนจากรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆและตกใจกับเจียงเฉินหานที่ทำตัวเย็นชาสุดขั้วอย่างกับก้อนน้ำแข็งกับเธอว่าจะรักใครได้ขนาดนี้ ถึงขั้นที่ทำเรื่องแบบนั้นได้...ความรู้สึกลึกซึ้งขนาดนั้น ขอแค่ได้เห็นได้รับรู้กับตาก็ไม่มีทางถามคำถามที่ฟังดูหลงตัวเองอย่าง ‘ทำไมนายถึงไม่รักฉัน’ หรือ ‘ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะหันมามองฉันบ้าง’เพราะความรักของพวกเขาลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง จนไม่มีที่ให้ใครแทรกตัวเข้าไปได้เมื่อก่อนเซ่าเยว่อยากละลายหัวใจของเจียงเฉินหานให้ได้ มันช่างเป็นความคิดเพ้อฝันจริง

“ฉันอ่านเอกสารที่เขาส่งมาให้แล้ว ถึงลูจิ-เอ็กซ์จะเคยจัดการปัญหาที่ยาก ๆ พอกันมาก่อน แต่ระยะเวลามันห่างกันตั้งสามปี แถมรายละเอียดก็ต่างกัน เธอก็รู้ดี เรื่องเทคโนโลยีน่ะ ไอ้ที่บอกว่าไม่ต่างกันมากคือต่างกันมาก ๆ ทีมของฉันแก้ไม่ได้ แต่ฉันคิดว่าเธอลองดูได้นะ”“แน่นอนว่าไต้อวิ๋นหานใจกว้างขนาดนี้ เป็นเพราะได้การลงทุนจากเจียงซื่อกรุป ก็สามีเก่าเธอนั่นแหละ ฉันเลยต้องบอกเรื่องนี้กับเธอให้ชัดเจน ถ้าเธอไม่สบายใจ ก็ไม่เป็นไร”สไตล์การพูดของเฉิงเหยียนโย่วเปลี่ยนไปทันที “แต่ไม่มีใครต้านทานเงินได้หรอกใช่ไหมล่ะ?”เซ่าเยว่ “แน่นอน ฉันไม่ได้ไร้เหตุผลขนาดนั้น พวกเราตกลงกันไว้แล้วนี่ ว่าจะรวยไปด้วยกัน”“ฉันว่าแล้วเชียว บอกกับเธอตรง ๆ แล้วกัน สัญญาเงินห้าสิบล้านอยู่ตรงหน้าฉันเนี่ย เตรียมเซ็นสัญญาให้เธอได้ทุกเมื่อ แต่แน่นอนว่าเซ็นในนามบริษัทนะ ใช้บัญชีของบริษัท จะได้ช่วยเธอจัดการเรื่องจ่ายภาษีได้ง่ายหน่อย”เซ่าเยว่ “เธออย่าเพิ่งรีบ ฉันต้องขอดูเอกสารก่อน ถ้ามั่นใจแล้วจะรับปากเธออีกที”“วางใจเถอะ ฉันปฏิเสธไต้อวิ๋นหานไปแล้ว ถ้าเธอคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ฉันค่อยติดต่อไปบอกเขาว่าสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ถึงยั

เนื่องจากมีมาตรการรักษาความลับ จึงเป็นไปไม่ได้ที่เอกสารนี้จะมีเนื้อหาของทั้งโปรเจกต์อย่างครบถ้วนในเอกสารโชว์แค่ปัญหาเท่านั้น แต่ก็ต้องใช้กระดาษบรรยายไว้ถึงสามสิบหน้าด้วยกันเซ่าเยว่กวาดสายตาอ่านอย่างว่องไว โดยจับผิดพวกคำศัพท์ที่บรรยายปัญหาไว้ไม่ชัดเจนมากพอก่อน และเมื่อเห็นว่ามีการอ้างอิงถึงงานวิจัยค่อนข้างน้อยแล้ว เธอถึงได้เริ่มจัดเอกสารใหม่ ปัญหาที่กินหน้ากระดาษไปถึงสามสิบหน้า ถูกรวบย่อให้อยู่ภายในสิบหน้ากระดาษจากนั้นจึงใช้ความคิดหลากหลาย จัดเรียงวิธีแก้ปัญหาที่พอจะเป็นไปได้ออกมาจำนวนหนึ่ง เซ่าเยว่จัดการดาวน์โหลดงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งจากภายในและภายนอกประเทศตามทิศทางการแก้ปัญหาที่ร่างไว้อย่างรวดเร็ว...เมื่อจัดการไปได้ไม่น้อยแล้ว เซ่าเยว่พลันนึกถึงหนังสือที่ฮั่วปิงเคยตีพิมพ์เล่มหนึ่งเนื่องจากใช้ศัพท์เทคนิคอธิบายไว้ค่อนข้างไม่ชัดเจนมากนัก ยากแก่การอ่านทำความเข้าใจ จึงตีพิมพ์ออกมาไม่ถึงหนึ่งร้อยเล่ม กอปรกับบนอินเทอร์เน็ตก็ไม่มีรูปภาพประกอบเซ่าเยว่ทำการค้นหา แล้วจึงพบว่าในหอสมุดเมืองมีอยู่หนึ่งเล่มเมื่อกินข้าวหลังเลิกงานแล้ว เซ่าเยว่จึงตรงดิ่งไปยังหอสมุดทันทีเข้าไปหาตาม