All Chapters of เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง: Chapter 31 - Chapter 40

64 Chapters

บทที่ 31

“ศิษย์ตัวน้อยเจ้ารู้จักต้นหยางแก่ที่อยู่ตรงตีนเขาของยอดเขาหลักหรือไม่?”เมื่อเห็นท่านอาจารย์ที่ตื่นนอนเมื่อใดไม่ทราบ จู่ ๆ ก็ปรากฏกายขึ้นตรงหน้า อวี้หลานชิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบอย่างงุนงงว่า “รู้จัก”เสิ่นหวยจั๋วโน้มตัวลงเล็กน้อย เข้าไปใกล้ใบหน้าของอวี้หลานชิง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นพิเศษว่า “เจ้าขมวดคิ้วอีกนิดเดียว รอยย่นก็จะลึกกว่าเปลือกต้นหยางแก่นั่นแล้ว!”“...” อวี้หลานชิงถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่า ท่านอาจารย์เห็นตนขมวดคิ้วครุ่นคิดเมื่อครู่นี้ จึงได้หยอกล้อตนเล่น“ท่านอาจารย์ ท่านอย่าล้อศิษย์สิ”“ศิษย์ตัวน้อยกลัดกลุ้มด้วยเรื่องใดรึ บอกมาให้อาจารย์ช่วยเจ้าคิดหาทางออกให้ดีหรือไม่?” เสิ่นหวยจั๋วฉีกยิ้มถามอวี้หลานชิงจึงตัดสินใจถามออกไปตรง ๆ ว่า “ท่านอาจารย์ไม่สบายหรือเจ้าคะ?”รอยยิ้มของเสิ่นหวยจั๋วชะงักไป “เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น?”ท่านอาจารย์ไม่ได้ปฏิเสธทันที ในใจของอวี้หลานชิงพลันหล่นวูบ แววตาฉายความกังวลหนักขึ้นอีกหลายส่วน เอ่ยปากอย่างประหม่าว่า “ศิษย์สังเกตเห็นท่านอาจารย์ดูไม่ค่อยสดชื่น มักจะพักผ่อนอยู่บ่อยครั้ง...”ยังพูดไม่ทันจบ เสิ่นหวยจั๋วก็หัวเราะ “ฮ่า ๆ” เสี
Read more

บทที่ 32

เมื่อมองไปยังจานผลไม้สีแดงสดนั้น อวี้หลานชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ท่านอาจารย์ ศิษย์ได้หลอมรวมผลแห่งวิถีปัญจธาตุแล้ว พลังยุทธ์เลื่อนขึ้นสู่ระดับสร้างฐานปราณขั้นที่หกแล้วขอรับ”“ยอดเยี่ยม!” เสิ่นหวยจั๋วตบต้นขาฉาดใหญ่ พูดด้วยน้ำเสียงเกินจริง “ศิษย์ตัวน้อยเป็นอัจฉริยะโดยแท้! ตอนเจอเจ้าครั้งแรกยังเพิ่งจะอยู่ระดับสร้างฐานปราณ ผ่านไปเพียงเจ็ดแปดวัน ตอนนี้ก็ใกล้จะแตะขอบเขตระดับสร้างฐานปราณขั้นปลายแล้ว ความก้าวหน้าเช่นนี้ มองไปทั่วทั้งโลกบำเพ็ญเพียร จะมีผู้ใดเทียบได้?”แน่นอนว่าก็ไม่ใช่จะไม่มีใครเทียบได้เลยความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของอวี้หลานชิงนั้น นำหน้าศิษย์รุ่นเดียวกันในสำนักกระบี่เสวียนเทียนไปไกล แต่หากมองไปทั่วทั้งโลกบำเพ็ญเพียร อย่าว่าแต่ระดับสร้างฐานปราณขั้นกลางตอนอายุสิบห้าเลย คนที่บรรลุถึงระดับหลอมแก่นปราณในวัยนี้ก็มีอยู่ถมไป พุทธบุตรแห่งซีโจวผู้นั้นมิใช่บรรลุแก่นทองคำตอนอายุสิบห้า ก่อกำเนิดทารกวิญญาณตอนอายุยี่สิบหรอกหรือ?อวี้หลานชิงไม่เคยลำพองใจกับความก้าวหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตนเอง แต่คำชมเชยที่เกินจริงของท่านอาจารย์กลับทำให้นางรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่แ
Read more

บทที่ 33

ที่เชิงเขายอดหลักของสำนักกระบี่เสวียนเทียน มีลานกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง มีห้องบรรยายสามห้องที่เปิดให้ผู้ฝึกตนขั้นต่ำในสำนักเข้าเรียน ห้องเหล่านี้ใช้สำหรับสอนศิษย์ระดับหลอมปราณขั้นต้น ศิษย์ระดับสร้างฐาน รวมถึงไว้ใช้สอนศิษย์ที่ศึกษาหลากศาสตร์และหกศิลป์ในจำนวนนี้ ห้องเรียนสำหรับระดับหลอมปราณและระดับสร้างฐานถูกสร้างขึ้นตรงข้ามกันไม่ใช่โรงเรียนธรรมดา ๆ เหมือนในโลกมนุษย์ ห้องเรียนทั้งสามแห่งของสำนักกระบี่เสวียนเทียนนี้ แต่ละห้องสามารถรองรับคนได้ถึงห้าร้อยคนในเวลาเดียวกันหน้าห้องเรียน มีเวทีประลองหลายแห่งสร้างไว้สำหรับให้พวกศิษย์ได้ฝึกซ้อมและแข่งขันกัน ซึ่งทางสำนักได้ใช้หินวิญญาณจ้างหอพันกลมาสร้างเป็นพิเศษ มีรูปแบบหลากหลาย โดยปกติแล้วจะมีเวทีสี่แห่งตั้งอยู่หน้าห้องเรียนแต่ละห้อง และเมื่อจำเป็นก็สามารถรวมกันเป็นเวทีที่กว้างขวางขึ้นได้อวี้หลานชิงคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดีชาติที่แล้ว ทันทีที่มีเวลา นางก็จะมาฟังการบรรยายที่นี่ อาจารย์ผู้สอนศิษย์ระดับเจินเหรินแม้จะมีพลังยุทธ์เพียงระดับหลอมแก่นปราณ แต่ล้วนเป็นผู้ที่มีวิชากระบี่เป็นเลิศในระดับเดียวกัน อวี้หลานชิงเคยได้รับประโยชน์จากที่นี่มากมา
Read more

บทที่ 34

ว่ากันว่าทุกครั้งที่เปิดแดนลับ จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถทะลวงระดับพลังได้จากข้างในชาติที่แล้วไม่ได้ไปแม้แต่ครั้งเดียว นับเป็นความเสียใจของอวี้หลานชิงมาโดยตลอดนางใช้เวลาเพียงห้าปีในการบำเพ็ญเพียรระดับหลอมปราณ จึงไม่ทันแดนลับเปิด ไม่พูดถึงก็แล้วไปแต่ต่อมา จากระดับสร้างฐานจนถึงระดับหลอมแก่นปราณ นางใช้เวลาถึงสามสิบปีเต็ม ตามหลักแล้วน่าจะทันสักครั้ง แต่กลับไม่ได้ไปแม้แต่ครั้งเดียวครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับปัจจุบัน นางเพิ่งได้รับป้ายอาคมของยอดเขาหลิงเซียวที่ฉางยวนให้มา วุ่นวายอยู่ทุกวันจนหัวหมุน ไม่รู้เรื่องแดนลับเขาเสวียนทงเลยแม้แต่น้อยครั้งที่สอง ฉางยวนบอกว่าพลังยุทธ์ของนางต่ำเกินไป ไม่จำเป็นต้องเสียโอกาสเข้าแดนลับ แต่กลับไปขอสิทธิ์เข้าแดนลับเล็กจากเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ให้ศิษย์น้องหญิงจี้ฝูเหยาครั้งที่สาม นางสมัครเข้าร่วมการประลอง และผ่านเข้ารอบยี่สิบคนสุดท้ายได้สำเร็จ เมื่อเหลืออีกสามวันสุดท้าย ศิษย์น้องหญิงมาอ้อนวอนให้นางช่วยตามหาสัตว์วิญญาณที่หายไปนางตามหาไปจนถึงภูเขาไร้ผู้คนใกล้สำนัก และบังเอิญไปติดอยู่ในค่ายกลมายาที่ถูกทิ้งร้างบนเขา หลังจากดิ้นรนอยู่สามวันจึงหลุดออก
Read more

บทที่ 35

แน่นอนว่าเรื่องราวในอดีตเหล่านี้ เสิ่นหวยจั๋วจะไม่เล่าให้ศิษย์ฟังเสิ่นหวยจั๋วแค่กระแอมเบา ๆ แล้วถามอย่างจริงจังว่า “จะออกเดินทางเมื่อใด?”“อีกสี่วันเจ้าค่ะ”“ดี” เสิ่นหวยจั๋วพยักหน้ารับรู้ “ถึงเวลานั้น อาจารย์จะไปส่งเจ้าด้วยตนเอง”......สี่วันผ่านไปอย่างรวดเร็วชาติที่แล้วอวี้หลานชิงไม่เคยไปแดนลับเขาเสวียนทง แต่ก็ได้ยินศิษย์ร่วมสำนักพูดถึงอยู่บ่อยครั้งว่ากันว่าแดนลับแห่งนั้นแท้จริงแล้วคือสถานพำนักที่สำนักเซียนโบราณสร้างขึ้นเพื่อให้ศิษย์ใหม่ได้บำเพ็ญเพียร ดังนั้น นอกจากจะมีพลังปราณที่หนาแน่นแล้ว การบำเพ็ญเพียรในนั้นยังให้ผลลัพธ์ในการชำระล้างไขกระดูกและเส้นเอ็นอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วยในแดนลับไม่มีสัตว์อสูรระดับสูง ไม่จำเป็นต้องเตรียมของไปมากนัก อวี้หลานชิงจึงเพียงแค่จัดเก็บของที่มีอยู่ให้เป็นระเบียบ และยังนำยันต์กระบี่ที่ตนเองหลอมขึ้นหลายตั้งไปแลกกล่องค่ายกลป้องกันตัวที่ตลาดเชิงเขามาหนึ่งกล่องถึงเวลาที่ต้องบำเพ็ญเพียร จะได้เปิดวางไว้ข้างกายได้ดวงตะวันเริ่มทอแสงแสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนลำธารหน้าเรือนเล็ก ผืนน้ำสะท้อนภาพของเรือนหลังน้อย“ศิษย์ตัวน้อย ออกเดินทางกันเถอะ!”เมื
Read more

บทที่ 36

เมื่อเข้ามาใกล้ ทุกคนจึงเพิ่งค้นพบด้วยความประหลาดใจว่า สตรีที่ถูกห้อมล้อมอยู่ตรงกลางนั้น มีพลังยุทธ์เพียงแค่ระดับหลอมปราณขั้นหนึ่งเท่านั้น!เมื่อมองดูคนทั้งสามที่อยู่ข้าง ๆ ก็พบว่ามีระดับหลอมปราณขั้นสมบูรณ์และขั้นเก้าอยู่ด้วย ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าถูกส่งมาเพื่อคุ้มครองสตรีผู้นี้อย่างแน่นอนผู้ที่มีไหวพริบดี พอจะเดาฐานะของสตรีผู้นั้นออก ก็พากันเข้าไปทักทายพูดคุย“ศิษย์น้องหญิงจี้ อาวุธวิเศษเหาะเหินและเครื่องรางเก็บของของเจ้า ล้วนเป็นของที่ทันสมัยที่สุดในร้านเซิ่งเป่าเลยนะ”“พวกเราศิษย์ชั้นนอก เกรงว่าเก็บเงินทั้งชาติก็ยังซื้อไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว...”ท่ามกลางเสียงชื่นชมเหล่านั้น จี้ฝูเหยาค่อย ๆ ก้มหน้าลงเล็กน้อย เผยให้เห็นท่าทีเขินอาย “ข้าก็ไม่รู้ว่าของที่ท่านอาจารย์ให้จะล้ำค่าถึงเพียงนี้ นึกว่าแค่สวยงาม ไม่ได้มีค่าอะไร”พอพูดจบ สายตาอิจฉาของคนรอบข้างก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น“ศิษย์น้องหญิงจี้ ปรมาจารย์กระบี่ช่างตามใจเจ้าเสียจริง!”“แม้แต่ของขวัญ ก็ยังเลือกแบบที่ผู้ฝึกตนหญิงสาวชอบ เห็นได้ชัดว่าใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง”“เจ้าจะไปฝึกฝนที่แดนลับ ปรมาจารย์กระบี่คงจะกำชับเรื่องที่ต้องระวังมากมาย
Read more

บทที่ 37

นอกจากตอนประลองยุทธ์บนเวทีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่อวี้หลานชิงได้รับความสนใจมากถึงเพียงนี้แต่หากมองดูให้ดี ก็จะพบว่าสายตาส่วนใหญ่ล้วนจับจ้องไปที่ท่านอาจารย์เมื่อมองดูสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึงและหลงใหลจากเบื้องล่าง ในใจของอวี้หลานชิงก็พลันเกิดความภาคภูมิใจขึ้นมา“เซียนบุรุษ” ผู้หล่อเหลาสง่างามและเป็นที่ชื่นชมผู้นี้ ก็คือท่านอาจารย์ของนาง!“ศิษย์ตัวน้อย เรื่องอื่นอาจารย์จะไม่พูดมากแล้ว”เสิ่นหวยจั๋วล้วงเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบแหวนทองประดับอัญมณีสีฟ้าแดงออกมาวงหนึ่ง “เจ้ารับสิ่งนี้ไป ข้างในล้วนเป็นของที่อาจารย์เตรียมไว้ให้เจ้าสำหรับการฝึกฝนในแดนลับ”อวี้หลานชิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรับแหวนมาสวมบนนิ้วทันที แม้นางจะสวมอาภรณ์เรียบง่ายงดงาม แต่แหวนที่แลดูหรูหรานี้เมื่อสวมแล้วกลับไม่ขัดตา แต่ยังยิ่งขับให้เรียวนิ้วขาวผ่องยาวงามดุจต้นหอมอ่อนดูละมุนยิ่งขึ้นด้วยนิสัยส่วนตัว อวี้หลานชิงไม่ค่อยชอบของที่หรูหรา แต่ในขณะนี้กลับรู้สึกว่าแหวนบนนิ้ววงนี้ช่างถูกใจยิ่งนัก“ขอบคุณท่านอาจารย์”เสิ่นหวยจั๋วลดระดับก้อนเมฆลงเล็กน้อย “เอาล่ะ ไปเถอะ อาจารย์ขอให้เจ้าเดินทางโดยสวัสดิภาพ รอเจ้ากลับมา อ
Read more

บทที่ 38

ปีก่อน ๆ ตอนที่สำนักกระบี่เสวียนเทียนเข้าร่วมการประชุมใหญ่ของสำนักเซียน ก็จะนำเรือวิญญาณสองลำนี้ออกมาใช้ เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของสำนัก“ศิษย์น้องหญิงอวี้ นี่คือศิษย์พี่หญิงเฝิง ศิษย์สายตรงของอาจารย์อาหลีเซียวเจินจวิน ครั้งนี้ก็จะเข้าแดนลับใหญ่เขาเสวียนทงเหมือนกับพวกเรา”“นี่คือศิษย์น้องซ่งหมินและซ่งอวี้ ศิษย์ของอาจารย์อาซั่วผิงเจินจวิน”“นี่คือศิษย์น้องหลี่ อาจารย์ของเขาคือหลินเจินเหรินผู้ดูแลยอดเขาวั่งเฉินของพวกเรา พวกเขาทั้งหมดจะเข้าไปในแดนลับเล็ก”ที่นั่งภายในเรือวิญญาณล้วนจัดเป็นแถว ฉิวเหวินซวี่จองสองแถวท้ายเรือไว้โดยตรง แล้วดึงอวี้หลานชิงมาแนะนำทีละคนเมื่อแนะนำชื่อติดต่อกันเป็นชุด ในใจของอวี้หลานชิงก็มีความคิดเพียงอย่างเดียว...คนของยอดเขาวั่งเฉินช่างเยอะเสียจริง!ใคร ๆ ก็ว่าผู้อาวุโสจวีหยางแห่งยอดเขาวั่งเฉินเป็นอาจารย์ที่ดี มีลูกศิษย์มากมาย ที่ผ่านมาอวี้หลานชิงยังไม่เคยมีความรู้สึกชัดเจน ทว่าในตอนนี้นางก็พอจะเข้าใจได้แล้วไม่ต้องพูดถึงเรื่องไกลตัว แค่สิทธิ์ราวร้อยกว่าที่ในการเข้าแดนลับเขาเสวียนทงครั้งนี้ ยอดเขาวั่งเฉินเพียงยอดเขาเดียวก็คว้าไปถึงสิบที่แล้วในจำนวนนี้เ
Read more

บทที่ 39

สายตาโดยรอบพลันถูกดึงดูดเข้ามาทันทีเด็กสาวหน้าตาน่ารักขอบตาแดงก่ำ มักจะทำให้คนอดใจอ่อนไม่ได้อยู่เสมอ“ศิษย์พี่หญิงอวี้ ระหว่างพวกท่านมีความเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?” ศิษย์น้องหลี่แห่งยอดเขาวั่งเฉินเอ่ยถามขึ้นทว่ายังไม่ทันที่อวี้หลานชิงจะตอบ ศีรษะของเขาก็โดนตบไปฉาดหนึ่งฉิวเหวินซวี่ขยับข้อมือพลางด่าว่า “มีเจ้าที่ปากมาก”“ข้า...”พอจะอ้าปากอีกครั้ง อ้อยท่อนหนึ่งก็ถูกยัดเข้าไปในปากของศิษย์น้องหลี่ คำพูดที่ยังไม่ได้เอ่ยออกมาจึงกลายเป็นเสียง “อื้อ ๆ” ติดต่อกันศิษย์พี่หญิงเฝิงแทงทีเดียวเข้าเป้า แล้วนั่งกลับไปที่เดิมเมื่อเห็นอวี้หลานชิงมองมาทางตน มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย พลางชี้ไปที่ถาดผลไม้ตรงหน้า “อ้อยนี่หวานดีนะ เดี๋ยวเจ้าลองชิมดูบ้างสิ”แววตาของอวี้หลานชิงปรากฏรอยยิ้มจาง ๆชาติที่แล้วนางจำกัดสายตาของตนเองอยู่แต่ในยอดเขาหลิงเซียว ไม่เคยรู้เลยว่าในสำนักยังมีคนที่น่าสนใจมากมายขนาดนี้จี้ฝูเหยารู้สึกอับอายเล็กน้อย ท่าทางที่โค้งคำนับอยู่แทบจะทรงตัวไม่อยู่ “ท่านอาจารย์อา...”เพิ่งจะเริ่มพูด ก็มีลมระลอกหนึ่งพยุงนางให้ยืนตัวตรงขึ้นหางตาที่แห้งผากไปนานแล้ว และขอบตาที่กลับเป็นปกติก
Read more

บทที่ 40

“เจ้าไม่ได้พูดผิด ข้าไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ ท่านอาจารย์ของข้าไม่เคยบอกข้าเลยด้วยซ้ำว่าปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนเคยมา”น้ำเสียงของอวี้หลานชิงเรียบเฉยแต่จริงจังเมื่อเผชิญหน้ากับท่าที “จะเป็นไปได้อย่างไร” ของจี้ฝูเหยา นางก็เอ่ยขึ้นว่า “หลายวันก่อนหลังจากพิธีรับศิษย์สิ้นสุดลง ข้าก็กลับไปที่ยอดเขาชิงจู๋เพื่อหลอมรวมผลแห่งวิถีปัญจธาตุที่ท่านอาจารย์มอบให้ ผลไม้ที่เจ้าบอกว่าปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนต้องการแลกเปลี่ยนด้วยผลวิญญาณที่มีมูลค่าเท่ากัน ก็น่าจะเป็นผลแห่งวิถีปัญจธาตุใช่หรือไม่? นอกจากนี้แล้ว ข้าก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีอะไรที่คู่ควรให้ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนต้องมาด้วยตนเอง”“ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าได้หลอมรวมผลวิญญาณไปในวันนั้นแล้ว ไม่มีอะไรจะไปแลกกับใครได้ ต่อให้พูดถึงเรื่องที่เจ้าเพิ่งกล่าวมา การแลกเปลี่ยนย่อมหมายถึงความเสมอภาคของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะแลกหรือไม่แลกก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลทั้งสิ้น เหตุใดเมื่อแลกเปลี่ยนไม่สำเร็จ ถึงได้กล่าวหาว่าข้าทำให้อาจารย์ของเจ้าต้องเสียหน้าต่อหน้าเหล่าผู้อาวุโสเล่า?”“ศักดิ์ศรีของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน ช่างไร้ค่าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”จี้ฝูเหยาถูกถามจนพูดไม่อ
Read more
PREV
1234567
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status