All Chapters of เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง: Chapter 11 - Chapter 20

64 Chapters

บทที่ 11

หอคุมกฎเป็นสถานที่ที่ดูแลเรื่องกฎระเบียบและข้อห้ามของสำนัก โดยมีผู้อาวุโสหยวนซวีซึ่งเป็นยอดฝีมือระดับเทพจุติเป็นผู้ควบคุมดูแลแต่เรื่องส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องให้ท่านผู้เฒ่าอย่างเขาออกหน้า เรื่องเล็ก ๆ อย่างลูกศิษย์ชั้นนอกขโมยของ ไม่ต้องถึงมือผู้ดูแลด้วยซ้ำ แค่ส่งลูกศิษย์ผู้คุมกฎธรรมดาสองคนมาก็เพียงพอแล้วตอนที่ลูกศิษย์ผู้คุมกฎระดับสร้างฐานสองคนมาถึง อวี้หลานชิงกลับไปเก็บของที่ห้องพักเก่าเรียบร้อยแล้วถุงเก็บของที่ทางสำนักแจกมีพื้นที่ไม่มากนัก ใส่ได้เพียงโอสถลูกกลอนไม่กี่ขวดกับหินวิญญาณบางส่วน ส่วนของที่ใส่ไม่ได้ โดยทั่วไปแล้วอวี้หลานชิงจะเก็บไว้ในตู้ไม้ตรงหัวเตียงแต่ก็ไม่ได้ใส่อะไรมาก นอกจากเสื้อผ้าที่ใช้เปลี่ยนสี่ห้าชุด ก็มีเมล็ดพืชวิญญาณไม่กี่ถุง หยกดิบบางส่วน เครื่องมือแกะสลักหนึ่งชุด กับกระบี่หนึ่งเล่มเสื้อผ้ากับเมล็ดพืชยังอยู่ เครื่องมือแกะสลักหยกดิบก็ยังอยู่ แต่พวกหยกดิบที่นางใช้เวลาอยู่นานกว่าจะขัดเกลาและแกะสลักออกมา กลับหายไปพร้อมกับกระบี่ชาติที่แล้วหยกดิบพวกนี้ก็หาไม่เจอเช่นกัน จางเม่าฉวนบอกว่าเขาไม่ได้เอาไป ลูกศิษย์ชั้นนอกคนอื่น ๆ ของยอดเขาหลิงเซียวก็ปฏิเสธเช่นกัน จี้
Read more

บทที่ 12

ตามหลักแล้ว ตอนนั้นที่หน้าประตูหอคุมกฎ นอกจากเวินจิ่นจือแล้ว ยังมีผู้ดูแลของหอคุมกฎอีกคนที่อยู่ในระดับแก่นปราณแต่ไม่มีใครสามารถลงมือขัดขวางได้ทันเวลาเพราะใครจะไปคิดว่าอวี้หลานชิงที่เพิ่งบรรลุระดับสร้างฐานไปไม่ถึงสองวัน ก็สามารถปลดปล่อยปราณกระบี่สู่ภายนอกแล้วแม้แต่ผู้ฝึกตนที่บรรลุถึงระดับสร้างฐานขั้นสมบูรณ์หลายคนก็ยังทำไม่ได้เลยก็ยกตัวอย่างลูกศิษย์ชั้นนอกที่ถูกทำร้ายเมื่อครู่ เขาอยู่ในระดับสร้างฐานขั้นแปด ไม่ว่าจะด้วยระดับพลังยุทธ์หรืออายุ ล้วนสูงกว่าอวี้หลานชิงอยู่มากโข แต่กลับไม่สามารถหลบหลีกภายใต้ปราณกระบี่อันดุดันของอวี้หลานชิง จึงถูกทำร้ายจนกระอักเลือดตามที่คนของหอโอสถบอกกล่าว ปราณกระบี่นี้ได้ทำลายถึงอวัยวะภายใน ไม่พักฟื้นสักครึ่งปีเกรงว่ายากจะหายดีผู้ที่รับผิดชอบคดีนี้ ก็คือผู้ดูแลระดับแก่นปราณที่เห็นเหตุการณ์ อวี้หลานชิงทำร้ายคนที่หน้าประตูหอคุมกฎเมื่อครู่เขาได้เข้าใจเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดแล้ว เขามองอวี้หลานชิงที่คุกเข่าอยู่ในห้องโถง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แม้ว่าเป็นตงเฉิงที่กล่าววาจาไม่เหมาะสมก่อน แต่เจ้าเป็นผู้ลงมือโจมตีเพื่อนร่วมสำนักก่อน จนทำให้เพื่
Read more

บทที่ 13

ยอดเขาชิงจู๋ในสวนที่เต็มไปด้วยต้นไผ่เขียว เมฆหมอกลอยอบอวลรูปปั้นหินรูปสัตว์ที่ตั้งเรียงรายกลางป่าไพ่ เดิมทีก็แกะสลักได้อย่างสมจริงเหมือนมีชีวิต เวลานี้มัน ‘เหยียบ’ อยู่บนเมฆ ยิ่งเพิ่มความน่าเกรงขามหลายส่วน ราวกับกำลังยืนปกป้องที่พำนักเซียนที่ถูกรายล้อมด้วยกลุ่มเมฆใช่แล้ว กลุ่มเมฆ ที่พำนักเซียนเพียงแค่วันเดียว เสิ่นหวยจั๋วไปนำก้อนเมฆบนฟ้าลงมาจริง ๆสวนไผ่เขียวในเวลานี้ แลดูมีกลิ่นอายเซียนหลายส่วน เสิ่นหวยจั๋วบินขึ้นไปบนท้องฟ้า มองผลงานชิ้นเอกที่อยู่เบื้องล่างด้วยความพึงพอใจกล่องค่ายกลของหอพันกลเยี่ยมจริง ๆ ไม่เสียแรงที่เขาใช้หินวิญญาณไปตั้งสองหมื่นก้อน!ขณะที่กำลังชื่นชมผลงานของตนเอง เสิ่นหวยจั๋วก็พลันสังเกตเห็นเขตอาคมนอกสวนไผ่ถูกสัมผัสทันใดนั้นก็งอนิ้ว ดีดอาคมสายหนึ่งออกไปม่านเขตหวงห้ามที่คลุมทั้งสวนไผ่เขียวก็เปิดออกเป็นช่องว่างเล็ก ๆมีบัตรเชิญหนึ่งฉบับลอยนิ่งอยู่กลางอากาศนอกเขตอาคม เมื่อเขตอาคมเปิดออก มันก็ร่วงลงสู่พื้นอย่างแผ่วเบาเสิ่นหวยจั๋วไม่ได้สนใจบัตรเชิญฉบับนั้น เขาพบว่านอกเขตอาคมยังมีกลิ่นอายอีกสายหนึ่งเคยมาเขางอนนิ้ว ดีดวิชาอาคมออกไปอีกครั้ง หลังจากนั้นค
Read more

บทที่ 14

“เมื่อครู่ข้าได้ยินพวกเจ้าพูดถึงชื่อของอวี้หลานชิง ลูกศิษย์ที่ชื่ออวี้หลานชิงทำไมหรือ?” เสิ่นหวยจั๋วกล่าวถามอย่างจริงจังลูกศิษย์สามคนนั้นตะลึงไปชั่วขณะ แต่หลังจากนั้นก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนยอดเขาหลักในวันนี้ออกมาทั้งหมดโดยไม่มีกั๊กเครื่องรางถูกลูกศิษย์ชั้นนอกขโมยใช้เอยทำร้ายลูกศิษย์ร่วมสำนักที่หน้าประตูหอคุมกฎเอยและยังมีเรื่องที่ไม่ยอมรับความผิดในหอคุมกฎ ยอมถูกลงโทษด้วยแส้ ก็ยังคงยืนกรานไม่เปลี่ยนคำพูด…หากไม่ใช่เพราะมัวแต่ไปสนใจเรื่องชาวบ้านเหล่านี้ พวกเขาก็คงไม่ถึงกับมาถึงยอดเขาหลักหนึ่งชั่วยามแล้ว แต่เพิ่งจะไปรับภารกิจที่หอบำเหน็จตอนนี้!คิดไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสก็ชอบฟังเรื่องชาวบ้าน?หลังจากลูกศิษย์ทั้งสามเล่าเรื่องราวที่น่าภาคภูมิใจในวันนี้ของอวี้หลานชิงจบ พวกเขาก็แอบเงยหน้ามองกลับพบว่าผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงทำหน้าเหมือนตะลึงและสะเทือนใจอย่างมาก……เชิงเขาสำนักกระบี่เสวียนเทียนณ ตลาดเมืองเวิ่นเจี้ยน ภายในร้านเซิ่งเป่า“สหาย หัวเข็มขัดลายมังกรที่เจ้าเลือกมีสองแบบ มีแบบหยกหลิงหลงฝังไหมทองกับหยกเขียวไหมเงิน ไม่ทราบว่าเจ้าต้องการแบบใด?”เทพธ
Read more

บทที่ 15

“โอสถเสริมพลังวิญญาณหนึ่งขวดเป็นหินวิญญาณห้าสิบก้อน สองขวดนี้ยังไม่ได้เปิดผนึก คุณภาพของหอโอสถแห่งสำนักกระบี่เสวียนเทียน ร้านเซิ่งเป่าของเราวางใจแน่นอน ส่วนยันต์นี่ แม้เป็นของระดับทั่วไป แต่พลังโจมตีของยันต์กระบี่รุนแรง ราคาจึงสูงกว่าอักขระยันต์อื่นเล็กน้อยเสมอ ทั้งสองอย่างรวมกัน ข้าสามารถให้เจ้าได้หกร้อย”ซู่เยว่ดันกระบี่เล่มนั้นคืนกลับไป พลางชี้แนะเบา ๆ “ร้านตีเหล็กที่อยู่ฝั่งตรงข้าม รับซื้ออาวุธที่ผ่านการใช้งานแล้ว ในราคาที่สูงกว่าพวกเราเล็กน้อย เจ้าสามารถลองไปถามทางนั้นก่อนค่อยกลับมา”“ไม่ แค่นี้ก็พอแล้ว” ราคาที่ร้านเซิ่งเป่าเสนอนั้นเป็นยุติธรรมมาก อวี้หลานชิงรู้สึกดีใจอย่างคาดไม่ถึงนางนำหยกดิบกับสายหนังที่ตนเองเตรียมไว้ออกมา “สามารถขอให้ช่างหลอมอาวุธของที่นี่ฝังให้หรือไม่?”“ได้อยู่แล้ว” ซู่เยว่พยักหน้า “วันนี้มีช่างหลอมอาวุธพอดี ของสิ่งนี้ประกอบง่ายมาก แค่เรื่องเล็กน้อย หากเจ้าไม่รีบไป นั่งรอสักครู่ก็ได้ของแล้ว”อวี้หลานชิงก็ไม่มีธุระอย่างอื่น เมื่อได้ยินจึงนั่งลงรอวันนี้ในร้านเซิ่งเป่าไม่มีลูกค้ามากนัก บนชั้นหนึ่งอันกว้างใหญ่ นอกจากอวี้หลานชิง ก็มีเพียงผู้ฝึกตนสองคนที่กำ
Read more

บทที่ 16

ด้วยเหตุนี้นางจึงสรุปว่าหยกพวกนั้นไม่ธรรมดา หลังจากคิดไปคิดมา นางเตรียมนำไปเจียระไน นำมาประกอบเป็นสายคาดเอวหนึ่งเส้น เพื่อมอบเป็นของขวัญแรกพบให้อาจารย์เรื่องราวต่อจากนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว หยกหาย ‘อาจารย์’ ก็ไม่ได้อยากได้ของขวัญจากนางนางไม่เคยเจอหยกพวกนั้นอีกเลย แต่ในหลายปีต่อมา ตอนที่นางใกล้จะหลอมรวมแก่นปราณ ได้ยินมาว่ามีการค้นพบถ้ำที่สัตว์อสูรทิ้งไว้ในหุบเขาแห่งหนึ่งใกล้กับสำนักซึ่งตำแหน่งของถ้ำนั้น ก็คือใต้ก้นแอ่งน้ำในตอนนั้น!นางคาดเดาไม่ผิด หยกพวกนี้ไม่ธรรมดาจริงด้วยฉางยวนไม่คู่ควรกับความตั้งใจเช่นนี้มีเพียงอาจารย์ท่านใหม่เสิ่นหวยจั๋วที่คู่ควร……ท่ามกลางยอดเขาวิญญาณที่ตั้งตระหง่านเรียงรายต่อกันร่างเงาสีขาวสายหนึ่งพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วดูจากทิศทางแล้ว กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองเวิ่นเจี้ยนที่อยู่ตรงเชิงเขานี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นหวยจั๋วรู้สึกว่า ระยะทางเพียงไม่กี่สิบลี้นี้ ช่างยาวนานเหลือเกิน…หลังจากรับรู้เรื่องราวที่ลูกศิษย์ต้องเจอในวันนี้จากลูกศิษย์ชั้นในสามคนนั้น เขาก็ไปหาที่หอคุมกฎ กลับไม่เจอแม้แต่เงาของลูกศิษย์แต่โชคดีได้เจอกับเวินจิ่นจือที่เพิ่งกลับมาจากข้
Read more

บทที่ 17

ภายในสวนไผ่เขียวที่ราวกับที่พำนักเซียนอวี้หลานชิงถูกจัดมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ทำมาจากหยกอุ่นทั้งตัว มองดูคนตรงหน้านำโอสถลูกกลอนออกมาจากกำไรเก็บของอย่างไม่หยุดหย่อน พริบตาเดียวก็ถูกวางเรียงเป็นแถว“ท่านอาจารย์ นี่มันเยอะเกินไปแล้วเจ้าค่ะ!”โอสถลูกกลอนมากมายเช่นนี้ ต่อให้เอามาเคี้ยวเล่นเหมือนลูกอม นางก็กินไม่หมดในทันที“ไม่เป็นไร ล้วนแต่เป็นโอสถบำรุงจิตวิญญาณ ลมปราณและอวัยวะภายใน เจ้าเก็บไว้ค่อย ๆ กิน”เมื่อเห็นว่าลูกศิษย์ตัวน้อยยังมีท่าทีที่จะปฏิเสธ เสิ่นหวยจั๋วก็กล่าวหน้าตึง “เจ้าอย่าทำเป็นเล่นกับร่างกายของตนเอง แส้ลงทัณฑ์จิตมีผลต่อจิตวิญญาณ ตอนนี้ภายนอกเจ้าดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ข้างในอาจพรุนไปหมดแล้วก็ได้ หากวันข้างหน้าทิ้งผลข้างเคียงไว้ ค่อยรักษาก็สายไปแล้ว!”“เช่นนั้นข้ารับโอสถลูกกลอนบำรุงจิตวิญญาณพวกนี้ไว้ก็พอแล้ว” อวี้หลานชิงไม่ได้ปฏิเสธอีกนางรู้แล้วว่าอาจารย์เพิ่งมาจากยอดเขาหลัก และได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่นางทำในวันนี้แล้วตลอดทางที่กลับจากตลาดไปยอดเขาชิงจู๋ อาจารย์เป็นห่วงอาการบาดเจ็บบนกายนางหลายครั้ง ทั้งควักไม้บำรุงวิญญาณออกมา ทั้งตั้งค่ายกลตรึงวิญญาณ และท้ายสุดยัง
Read more

บทที่ 18

อวี้หลานชิงกลัวว่าเพราะอยู่ใกล้เกินไป อาจารย์ไม่เชื่อว่าจะมีโอกาสโชคอยู่ จึงตั้งใจกล่าวอีกว่า “ยิ่งเข้าใกล้แอ่งน้ำนั้น ยิ่งรู้สึกได้ถึงความลึกลับ สรุปคือมันอยู่ไม่ไกลจากสำนักมากนัก ท่านก็ถือเสียว่าไปเดินเล่น…ศิษย์จะไปเป็นเพื่อนท่านเองเจ้าค่ะ” “ได้ เช่นนั้นพวกเราแวะไปหน่อยก็แล้วกัน”เสิ่นหวยจั๋วหายใจเข้าลึก ๆ ใช้พลังวิญญาณห่อหุ้มสายคาดเอวหยกเอาไว้ แล้วแอบร่ายคาถาปัดฝุ่นสองจบ จึงจะนำมาคาดไว้ที่เอว พร้อมกับรำพึงในใจสหายเก่าเอ๋ย ต้องขอโทษจริง ๆ ใครใช้ให้เจ้ามีวาสนากับลูกศิษย์ของข้าเล่า!……วันต่อมา หลังจากหลอมลูกกลอนบำรุ่งจิตชั้นสูงเสร็จสิ้น ลูกศิษย์อาจารย์ทั้งสองก็เดินทางออกจากยอดเขาชิงจู๋ทางเหนือของสำนักกระบี่เสวียนเทียนหลังบินออกจากค่ายกลคุ้มกันสำนักได้ไม่ไกล เสิ่นหวยจั๋วก็พาอวี้หลานชิงร่อนลงระหว่างหุบเขาอวี้หลานชิงยังไม่ทันยื่นมือชี้ตำแหน่ง ก็เห็นแอ่งน้ำปรากฏอยู่ตรงหน้าตนเองแล้วอาจารย์สมกับที่เป็นอาจารย์อาศัยแค่กลิ่นอายอันน้อยนิดบนหยก ก็สามารถหาตำแหน่งที่แม่นยำเจอแล้ว หุบเขาทางเหนือของสำนักคล้ายกันหมด แม้แต่นางที่เคยมา ก็ต้องหาอยู่พักใหญ่!น้ำในแอ่งใสสะอาดและนิ่งสงบ
Read more

บทที่ 19

ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนผู้เคยเข้าร่วมสงครามหุบเหวปีศาจ และได้สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรรับลูกศิษย์ครั้งแรกทุกสำนักที่ได้รับบัตรเชิญ ล้วนส่งคนมาแสดงความยินดีวันนี้ก็คือวันที่จัดพิธีรับศิษย์สำนักชางหลานกับสำนักชิงอวิ๋นที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากสำนักกระบี่เสวียนเทียนในสงครามหุบเหวปีศาจ ล้วนส่งเจ้าสำนักมาร่วมแสดงความยินดีด้วยตนเองเพื่อแสดงความเคารพ เจ้าสำนักอวิ๋นไห่ไปรอต้อนรับแขกที่หน้าประตูสำนักด้วยตนเองเวลานี้เริ่มมีแขกทยอยกันมาบ้างแล้ว และยังเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วยามกว่าก่อนพิธีจะเริ่มเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ลอยตัวอยู่กลางอากาศเหนือประตูสำนัก เขาหันกลับไปมองทิศทางของยอดเขาชิงจู๋ในสำนักแวบหนึ่ง แล้วถอนหายใจอย่างแรงตอนแรกเสิ่นหวยจั๋วบอกว่าจะจัดพิธีรับศิษย์วันเดียวกับปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน เขายังรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคนเห็นเสิ่นหวยจั๋วพาลูกศิษย์ออกจากสำนัก หลายวันนี้ศิษย์อาจารย์ทั้งสองไม่ปรากฏตัวในสำนักเลย บนยอดเขาชิงจู๋ก็ไม่มีคนอยู่ คิดว่าน่าจะอยู่ข้างนอกยังไม่กลับมา และคงลืมเรื่องพิธีรับศิษย์แล้ว เมื่อนึกถึงนิสัยที่ไม่น่าเชื่อถือข
Read more

บทที่ 20

“หรือว่ามีสมบัติวิญญาณหรือวังเซียนถือกำเนิด?”“อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หรือไม่สหายอวิ๋นไห่พาพวกเราไปดูหน่อย!”แม้แขกจากแต่ละสำนักบอกว่าเชิญอวิ๋นไห่พาพวกเขาไปดูทว่าแต่ละคนหาได้มีเจตนาสอบถามอย่างแท้จริง เพียงขยับนิ้วร่ายเคล็ดอาคม ร่างเงาก็พากันหายไปจากที่เดิมแล้วเจ้าสำนักอวิ๋นไห่ก็รีบตามไปเช่นกันตอนนี้เขาก็งงเป็นไก่ตาแตก ดูจากทิศทางที่แสงสีทองปรากฏ มันคือภูเขารกร้างที่อยู่ทางเหนือของสำนัก สำนักกระบี่เสวียนเทียนตั้งอยู่ที่นี่มานับพันปี หากมีสมบัติอะไรฝันอยู่จริง คงถูกค้นพบตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้ว จะรอมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร?ผ่านไปครู่หนึ่ง ตัวแทนของแต่ละสำนักที่เดิมทีควรไปเข้าร่วมพิธีรับศิษย์ที่ยอดเขาหลัก กลับมารวมตัวที่ข้างแอ่งน้ำกลางหุบเขาแทนในแอ่งน้ำ ยังมีแรงกดดันและกลิ่นอายแห่งความตาย ที่ยังไม่สามารถสลายทั้งหมดแฝงอยู่อย่างคลุมเครือเห็นได้ชัดว่าแสงสีทองกับเสียงคำรามมังกรเมื่อครู่มาจากตรงนี้ ที่ก้นแอ่งน่าจะมีถ้ำของอสูรที่ดับสูญแล้วแรงกดดันยังไม่หายไป ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวส่งเดชสายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่แอ่งน้ำ จากนั้นก็เห็นวังวนปรากฏขึ้นบนผิวน้ำที่นิ่งสงบทันใดนั้
Read more
PREV
1234567
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status