เซิ่นหรูซวงมองไปทางต้นกำเนิดของเสียงแวบหนึ่งซิงจือเหยียนแววตาลึกซึ้ง เว่ยอวิ่นลู่เม้มปาก ท่าทางเป็นกังวลมากเว่ยอวิ่นลู่กระซิบ “หรูซวง เธอจำป้าไม่ได้แล้วเหรอ? นี่แม่อาเหยียนนะ ฉันว่าต้องมีมารยาทกับผู้หลักผู้ใหญ่”“ไม่ต้องหรอก” เฉวียนชูม่านพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าเธอรับฟัง ก็ไม่ใช่เซิ่นหรูซวงแล้ว”เซิ่นหรูซวงยิ้มเยาะหนึ่งทีเสียงประกาศเตือนอีกหนึ่งรอบ เร่งให้เธอรีบขึ้นเวทีเซิ่นหรูซวงก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดกับพวกเขาอีก สาวเท้าเดินเข้าไปในห้องแสดงห้องแสดงยังคงเป็นห้องเดียวกับรอบคัดเลือก ด้านล่างเวทีมีเพียงกรรมการ ที่นั่งผู้ชมไร้ผู้คน แตกต่างจากวันแข่งขันรอบคัดเลือกเป็นอย่างมากในวันแข่งรอบคัดเลือกนั้น นอกจากคู่แข่งของเธอจะนั่งอยู่ที่ที่นั่งผู้เข้าแข่งขันแล้ว เปียโนหลังนั้นก็พังอีกด้วยคราวนี้ ด้านล่างเวทีเงียบสงบมาก ไม่มีสายตาแปลก ๆ และการวิพากษ์วิจารณ์ เปียโนคราวนี้ก็ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้วเซิ่นหรูซวงยืนอยู่บนเวที โค้งคำนับไปทางที่นั่งกรรมการ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้เปียโนเซิ่นหรูซวงคิดแล้วคิดอีก ก็คิดออกเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้เธอสามารถรักษาตำแหน่งระดับกลางได้เธอเลือกเพ
Read more