All Chapters of มรสุมรัก CEO ซาตาน: Chapter 251 - Chapter 260

270 Chapters

บทที่ 251

เว่ยอวิ่นลู่ เม้มปาก รู้สึกอบอุ่นวาบในหัวใจ “อาเหยียน ฉันรู้แล้วล่ะ”ซิงจือเหยียนวางเอกสารไว้ข้างตัว แล้วหันมามองเว่ยอวิ่นลู่อย่างตั้งใจ “คุยเรื่องอะไรกับเซิ่นหรูซวงไปบ้าง?”เว่ยอวิ่นลู่ก้มหน้าลง แวบหนึ่งมีอารมณ์บางอย่างที่อ่านไม่ออกฉายผ่านดวงตาเธอเม้มปากส่ายหน้า แล้วพูดเสียงอ่อน “แค่คุยเรื่องแข่งเท่านั้นน่ะ ไม่มีอะไรหรอก คุณไม่ต้องห่วงนะ”ซิงจือเหยียนมองดูเธอเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าเขาเชื่อคำพูดของเธอไหมเว่ยอวิ่นลู่เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีเลยซิงจือเหยียนพูด “ถ้าต้องการความช่วยเหลือก็มาหาฉันได้ ฉันเคยบอกไปแล้ว”เว่ยอวิ่นลู่ยิ้มพร้อมเม้มริมฝีปาก สายตามีความสุข “ได้สิ ฉันรู้แล้วน่า ถ้าฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันจะไม่เกรงใจเลย”แต่เรื่องนี้มันไม่น่าเปิดเผยเลย เธอไม่อยากให้ซิงจือเหยียนหรือคนอื่น ๆ รู้เรื่องนี้ เธอจึงต้องเก็บเป็นความลับให้ดีเงินสองร้อยห้าสิบล้านถึงจะเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรวบรวมมาไม่ได้ยิ่งกว่านั้นคือก่อนหน้านี้ซิงจือเหยียนยังมอบหุ้นบริษัทอวิ๋นเหยียนเทคโนโลยีให้กับเธอห้าเปอร์เซ็นต์ด้วย นั่นหมายความว่า ต่อให้เธอไม่ทำอะไรเลย ก็จะมีเงินปันผลเข้าบัญชีทุกเดือนแม้ว่าเธอ
Read more

บทที่ 252

เธอได้เช็คเงินเก็บของตัวเองแล้ว ยังขาดไปอีกหลายล้านกว่าจะครบสองร้อยห้าสิบล้าน จึงต้องยืมจากเพื่อนคนอื่น ๆ นิดหน่อยติงเจียซือพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “เธอจะยืมเงินไปทำอะไร? เงินไม่พอเหรอ? ทำไมไม่ขอจากพี่เขยล่ะ พี่เขยต้องเต็มใจให้แน่ ๆ”พี่เขยที่พูดถึงก็คือซิงจือเหยียนตั้งแต่ติงเจียซือรู้ว่าเว่ยอวิ่นลู่ท้อง เธอก็ถือว่าซิงจือเหยียนได้เป็นสามีของเว่ยอวิ่นลู่ไปแล้ว ก็เลยเปลี่ยนคำเรียกเป็นพี่เขยโดยอัตโนมัติเว่ยอวิ่นลู่ชอบใจมากที่ได้ยินคำว่าพี่เขย ส่วนซิงจือเหยียนเองได้ยินแล้วแต่ไม่ได้คัดค้านอะไรดังนั้นติงเจียซือจึงเรียกซิงจือเหยียนว่าพี่เขยมาตลอดเว่ยอวิ่นลู่เล่าเรื่องจงอี้เหนียนกับเทปบันทึกเสียงให้เธอฟังคร่าว ๆ ติงเจียซือฟังแล้วก็ขมวดคิ้วไม่หยุด“เซิ่นหรูซวงเรียกเงินจากเธอตั้งสองร้อยห้าสิบล้านเลยเหรอ?” ติงเจียซือร้องเสียงหลงทันที “กล้าดียังไงถึงได้เรียกร้องมากมายขนาดนั้น?”เสียงปลายสายของติงเจียซือค่อนข้างดัง เว่ยอวิ่นลู่จึงมองไปยังห้องน้ำอย่างกังวล แล้วพูดเสียงเบาว่า “เธอเบาเสียงหน่อย อาเหยียนยังอยู่กับฉัน ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาเลย"ติงเจียซือก็เป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
Read more

บทที่ 253

พอเธอเดินออกมา ก็เห็นซิงจือเหยียนยังคงใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมอยู่“ทำไมไม่ใช้ไดร์เป่าผมล่ะคะ?”ซิงจือเหยียนพูดว่า “มันเสียใช้ไม่ได้ พนักงานกำลังหาอันใหม่มาให้อยู่”เว่ยอวิ่นลู่เดินเข้าไปใกล้ ดึงผ้าเช็ดตัวจากมือซิงจือเหยียนมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เดี๋ยวฉันช่วยเช็ดให้นะ คุณนั่งลงสิ”ซิงจือเหยียนนั่งลงบนโซฟาอย่างว่าง่าย เว่ยอวิ่นลู่ยืนอยู่ข้าง ๆ ใช้มือทั้งสองข้างกดบนศีรษะของซิงจือเหยียนอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนผ่านผ้าเช็ดตัวผืนนั้นทั้งสองคนคุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อย ๆ พอคุยไปคุยมา เว่ยอวิ่นลู่ก็เผลอเหลือบมองไปยังเตียงที่อยู่กลางห้องโดยไม่รู้ตัวห้องนี้มีเตียงใหญ่แค่เตียงเดียวถ้าซิงจือเหยียนจะค้างคืนที่นี่ แล้วเขาควรจะนอนที่ไหนดีล่ะ?เธอใช้น้ำยาอาบน้ำแบบเดียวกับอาเหยียน ทั้งสองคนจึงหอมกลิ่นเดียวกันเว่ยอวิ่นลู่คิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง หัวใจก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมาทันที เธอรู้สึกเขินอายจึงกัดริมฝีปาก แล้วก้มลงมองซิงจือเหยียนผ่านไปครู่หนึ่ง เธอรวบรวมความกล้า แล้วพูดเบา ๆ ว่า “อาเหยียน คืนนี้คุณจะนอนที่ไหนคะ?”เสียงของซิงจือเหยียนแหบเล็กน้อย “เธออยากให้ฉันนอนที่ไหนล่ะ?”เว
Read more

บทที่ 254

ทุกคนเห็นเพียงเซิ่นหรูซวงสวมชุดราตรียาวสีเขียวที่มีพู่ห้อย การออกแบบคอเสื้อเป็นรูปตัววีที่สวยงามเผยให้เห็นไหปลาร้าและช่วงไหล่ที่ขาวเนียน สายชุดพันอยู่บนไหล่ของเธอ พู่ห้อยระย้าลงมาราวกับม่านน้ำตก มีเข็มขัดสีทองคาดเอว ซึ่งช่วยเน้นให้เห็นหุ่นเอวบางได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผิวขาวเนียนของเธอเปล่งประกายภายใต้แสงไฟ ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องหันมามองแผ่นหลังของเซิ่นหรูซวงเปิดโล่งเกือบทั้งหมด เผยให้เห็นรูปร่างที่สวยงามและได้สัดส่วนอย่างเด่นชัด ผมยาวสีดำสลวยดุจน้ำตกสยายเต็มหลัง กระดูกสะบักงดงามซ่อนอยู่ใต้เส้นผมอย่างเลือนลาง เธอแต่งหน้าอย่างประณีต ดวงตาเรียวสวยและสดใสจ้องมองผู้คนที่อยู่ในงานอย่างสงบนิ่ง ดวงตาที่เปล่งประกาย ฟันขาวสะอาดเรียงสวยนั้นไม่อาจจะมีสำนวนมาบรรยายได้เลยนับว่าเซิ่นหรูซวงมาถึงค่อนข้างสายแล้ว ตอนที่เธอมาถึง ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ในรอบชิงชนะเลิศได้มาถึงห้องพักรับรองกันแล้วในห้องพักรับรองเพื่อรอแสดงนี้มีทั้งชายหญิงที่แต่งกายหรูหราอยู่มากมาย แต่เมื่อเซิ่นหรูซวงเดินเข้ามา เธอก็แทบจะดึงดูดสายตาทุกคนไปทั้งหมด ช่างโดดเด่นสะดุดตาจริง ๆในขณะที่ทุกคนตะลึงในความงาม ก็แอบพึมพำในใจว่า “ว
Read more

บทที่ 255

เซิ่นหรูซวงรออยู่ในห้องพักรับรอง ก็ยังได้ยินเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มจากทางฝั่งผู้ชมในทันทีหลังจากที่เว่ยอวิ่นลู่ขึ้นเวที เสียงเชียร์นั้นทะลุผ่านกำแพงห้องพักรับรอง เข้าหูผู้เข้าแข่งขันทุกคนชัดแจ๋วทุกคนดูแปลกใจ “เป็นแฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่กันหมดเลยเหรอ ทำไมเสียงดังขนาดนี้?”“แล้วเธอคิดว่ายังไง แฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่เยอะขนาดที่เข้าวงการบันเทิงเป็นดาราได้สบาย ๆ เลยนะ ไม่ได้โม้ บัญชีโซเชียวส่วนตัวของเธอมีผู้ติดตามเป็นหลักสิบล้านแล้ว”บรรยากาศในห้องพักรับรองหยุดนิ่งชั่วขณะเสียงเชียร์ข้างนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าตั้งใจฟังก็จะได้ยินชื่อเว่ยอวิ่นลู่ในนั้นด้วย ราวกับว่ายิ่งเสียงเชียร์ดังมากเท่าไหร่ เว่ยอวิ่นลู่ก็จะยิ่งคว้าแชมป์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้นแฟนคลับกลุ่มนี้ยังแสดงความภักดีต่อเว่ยอวิ่นลู่ โดยคำนึงถึงเธออย่างจริงใจ เมื่อคณะกรรมการพูดผ่านไมโครโฟนว่าขอให้เงียบ ทุกคนก็หยุดส่งเสียงทันทีหลังจากนั้น ตลอดการบรรเลงของเว่ยอวิ่นลู่ แฟนคลับกลุ่มนั้นก็ไม่ส่งเสียงเชียร์อีกเลย พวกเขาเงียบมาก ๆเซิ่นหรูซวงก้มหน้าลง พร้อมสีหน้าเยาะเย้ยสำหรับการแสดงที่น่าตื่นเต้นในวันนี้ แน่นอนว่าคนยิ่งดูมาก ยิ่งคึกคั
Read more

บทที่ 256

ไม่นานนัก เว่ยอวิ่นลู่ก็เดินเข้ามาพร้อมกับช่อกุหลาบสีน้ำเงินต่างจากรอบแรกและรอบคัดเลือก ครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ไม่มีใครเข้าไปแสดงความยินดีหรือกล่าวชื่นชมเลย ตรงกันข้าม พวกเขาทำเหมือนว่าเว่ยอวิ่นลู่ไม่มีตัวตน ทำหน้าเฉยเมย และแสร้งทำเป็นไม่เห็นเว่ยอวิ่นลู่อยู่ในห้องเว่ยอวิ่นลู่ก็ไม่ได้สนใจอะไร รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและหยิ่งผยอง เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอกระทบพื้นดังชัดเจน เสียงนี้ดังเป็นพิเศษในห้องพักรับรองที่เงียบสงัด แต่เว่ยอวิ่นลู่ก็ไม่ได้ลดความดังของการก้าวเลยเซิ่นหรูซวงมองดูเว่ยอวิ่นลู่เดิน ตึก ตึก ตึก เข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอเซิ่นหรูซวงมองเธอแต่ไม่ได้พูดอะไร เว่ยอวิ่นลู่ยกยิ้มมุมปาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงความหยิ่งผยองว่า “เซิ่นหรูซวง ฉันเห็นหมดแล้วนะ ขอบคุณที่ปรบมือให้ฉัน”เซิ่นหรูซวงพูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่เป็นไร”เว่ยอวิ่นลู่หัวเราะเบา ๆ ทันที แล้วเปลี่ยนเรื่อง คิ้วขมวดเล็กน้อยพร้อมพูดว่า “แต่ฉันคงไม่มีเวลาปรบมือให้เธอแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันกับอาเหยียนมีธุระต้องออกไปข้างนอก”พูดเสร็จ เว่ยอวิ่นลู่ก็แสดงสีหน้าเขินอาย “เธอก็รู้”เธอสอดส่ายส
Read more

บทที่ 257

ผ่านไปสิบกว่าวินาที เพลงก็ดำเนินต่อไป เป็นทำนองที่คุ้นเคย สีหน้าของคณะกรรมการ ผู้เข้าแข่งขัน และผู้ชมด้านล่างเวทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ต่างก็มีแววตาประหลาดใจและไม่แน่ใจ แล้วมองดูสีหน้าของเว่ยอวิ่นลู่ด้วยความระมัดระวังเว่ยอวิ่นลู่นั่งอยู่ตรงกลางแถวแรก ทุกคนจึงเห็นได้แค่ศีรษะด้านหลังของเธอเท่านั้นก่อนการแข่งขันจะไม่มีการประกาศรายชื่อเพลงที่ผู้เข้าแข่งขันเลือก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้ว่าเซิ่นหรูซวงเลือกเพลงอะไรพร้อมกันเพลงที่เซิ่นหรูซวงกำลังบรรเลงอยู่นั้น ก็คือเพลง “ความรัก” ของเว่ยอวิ่นลู่นั่นเองทำไมเซิ่นหรูซวงถึงเล่นเพลงที่เว่ยอวิ่นลู่แต่งล่ะ?ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ขัดแย้งกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?อีกทั้งเซิ่นหรูซวงยังเล่นต่อหน้าต่อตาเว่ยอวิ่นลู่ด้วย...เมื่อมองเซิ่นหรูซวงที่กำลังตกอยู่ในห้วงเพลงบรรเลงอยู่กลางเวทีแล้ว สีหน้าของผู้คนก็แตกต่างกันไปคณะกรรมการกับผู้เข้าแข่งขันยังคงเก็บอาการ เพราะกำลังอยู่ในช่วงแข่งขัน แต่แฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่เริ่มสบถด่าเสียงเบา ๆ ที่ด้านล่างเวทีแล้ว“เซิ่นหรูซวงนี่หน้าไม่อายจริงนะ กล้าดียังไงมาเล่นเพลงของลู่ลู่เรา เธอมีสิทธิ์
Read more

บทที่ 258

ซิงจือเหยียนพูดเสียงเบาว่า “ได้สิ เดี๋ยวฉันให้ผู้ช่วยจัดการ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก”เว่ยอวิ่นลู่เม้มปากยิ้ม “ขอบคุณนะคะ อาเหยียน”จวงเหมยขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกเสียดายการแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่รอบชิงชนะเลิศให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ของผู้เข้าแข่งขันมาโดยตลอด ดังนั้นเกณฑ์การให้คะแนนในรอบชิงชนะเลิศจึงแตกต่างจากรอบแรกและรอบคัดเลือกเล็กน้อย โดยมีคะแนนสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานอิสระอยู่ที่ห้าเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้สัดส่วนจะไม่สูงมากนัก แต่ก็สามารถส่งผลต่อคะแนนและอันดับโดยรวมได้ดังนั้นผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ จึงเลือกเล่นเพลงที่พวกเขาแต่งขึ้นเองมีแค่เซิ่นหรูซวงเท่านั้นที่ไม่ได้เลือกเพลงที่ตัวเองแต่งซ้ำยังเป็นเพลงที่เว่ยอวิ่นลู่แต่งขึ้นมาอีกด้วยนั่นหมายความว่า คะแนนห้าเปอร์เซ็นต์ของเซิ่นหรูซวงหายไป ถ้าเธอไม่ได้บรรเลงได้ยอดเยี่ยมจนน่าทึ่งจริง ๆ ก็คงยากที่จะสู้กับผู้เข้าแข่งขันเก่ง ๆ คนอื่นได้เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนระหว่างเซิ่นหรูซวงกับเว่ยอวิ่นลู่แล้ว จวงเหมยก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีคนที่มาในงานส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่ จวงเหมยภาวนาให้แฟนคล
Read more

บทที่ 259

“เพลงที่เล่นไม่ใช่เพลง “ความรัก” ของเว่ยอวิ่นลู่เหรอ? เป็นเพลง “ความปรารถนา” ของเคอซานเหมย แต่นั่นก็เป็นผลงานของเว่ยอวิ่นลู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"“เซิ่นหรูซวงบ้าไปแล้วหรือ? เอาอีกแล้ว? บทเรียนครั้งเดียวยังไม่ทำให้เธอยอมแพ้อีกเหรอ ก็บอกไปหมดแล้วว่าเคอซานเหมยก็คือนามแฝงของเว่ยอวิ่นลู่ไม่ใช่หรือไง? ไม่รู้จักจบจักสิ้นจริง ๆ!”“นั่นสิ ฉันว่าเธอคงอิจฉา เห็นเว่ยอวิ่นลู่กำลังจะคว้าแชมป์ ก็เกิดอิจฉาตาร้อน ทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้ดี คนอื่นก็อย่าหวังมีความสุขด้วยทำนองนั้น!”จวงเหมยจับใจความชื่อของเคอซานเหมยได้อย่างรวดเร็ว ขมวดคิ้ว แววตามีความประหลาดใจแวบหนึ่งเมื่อมีทีมรักษาความปลอดภัยอยู่ตรงนั้น กลุ่มผู้ชมก็ไม่ได้พูดคุยกันนาน พวกเขาถูกบังคับให้หยุดพูด ทำให้จวงเหมยอยากฟังต่อก็ทำไม่ได้ชื่อของเคอซานเหมย ดูเหมือนเธอจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เธอก็เผลอหันไปมองเว่ยอวิ่นลู่ที่อยู่ด้านหลังซ้ายมือโดยไม่ตั้งใจเพียงแวบเดียวเท่านั้น ความสงสัยในใจของจวงเหมยก็ยิ่งลึกมากขึ้นถึงแม้เว่ยอวิ่นลู่จะยังคงรักษาความสงบและอ่อนโยนเหมือนปกติ แต่จวงเหมยก็สังเกตเห็นความรู้สึกกังวลและความกลัว
Read more

บทที่ 260

เว่ยอวิ่นลู่กำมือแน่น แต่สีหน้าก็ยังดูนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากยิ่งเป็นช่วงเวลาแบบนี้ ยิ่งต้องใจเย็นและคุมสถานการณ์ให้ได้นิ่งเท่านั้นถึงจะชนะ ไม่ให้เซิ่นหรูซวงได้ทำสำเร็จแน่เว่ยอวิ่นลู่เอาแต่จ้องมองไปที่เวทีตลอด แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของเวทีนั้นทันทีสายตาเธอชะงักไปนิดนึง มีแววตาบางอย่างฉายวาบขึ้นมา แล้วเธอก็ค่อย ๆ ก้มหน้าลง“เป็นอะไรไป?”ซิงจือเหยียนเหมือนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน แล้วกระซิบข้างหูเธอ เสียงที่พูดออกมาก็นุ่มทุ้มใจของเว่ยอวิ่นลู่เต้นตึกตักนิดนึง เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก คุณไม่ต้องกังวลนะ”ดวงตาที่สวยคมเข้มของซิงจือเหยียนดูลึกลับและมืดมิดไปอีกท่ามกลางบริเวณที่นั่งผู้ชมที่ค่อนข้างมืดสลัว เขาหล่อจนเกินจริงมาก ๆ เว่ยอวิ่นลู่มองแล้วก็หน้าแดงใจเต้น “มองฉันแบบนี้ทำไมเหรอ?”ซิงจือเหยียนพูดว่า “ฉันจำได้ว่าเพลงของเซิ่นหรูซวงมีจุดขัดแย้งกับเพลงของเธออยู่หน่อยนะ”เว่ยอวิ่นลู่ตะลึงไปเล็กน้อยถ้าเธอจำไม่ผิด เรื่องบทเพลงนี้ ซิงจือเหยียนเคยได้ยินเซิ่นหรูซวงเล่นแค่ครั
Read more
PREV
1
...
222324252627
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status