มรสุมรัก CEO ซาตาน의 모든 챕터: 챕터 261 - 챕터 270

270 챕터

บทที่ 261

ไม่กี่วินาทีต่อมา ภาพก็ปรากฏชัดเจนมากขึ้นเป็นภาพของห้องเปียโนที่แสนเรียบง่าย พร้อมเปียโนที่แค่มองก็เห็นได้ว่าเป็นเปียโนราคาถูกหนึ่งหลัง และหญิงสาวงดงามสะอาดตาที่สวมชุดเดรสลายดอกไม้เรียบ ๆ รวบผมครึ่งศีรษะ เธอก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย ปอยผมคลอเคลียอยู่บริเวณด้านข้างใบหน้า“ครูคะ โอเคแล้วค่ะ”น้ำเสียงใสซื่อไร้เดียงสาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนเยาว์ดังก้องขึ้นในวิดีโอ หญิงสาวที่ปรากฏในวิดีโอไม่ได้ปริปากพูดอะไรออกมา น่าจะเป็นเสียงของคนที่กำลังถ่ายวิดีโอเมื่อได้ยินเสียงนี้ คนส่วนใหญ่ในห้องแสดงล้วนรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมากขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิด เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เร็วสิคะคุณครู ไม่ต้องเขินหรอก บทบรรเลงเสียงเปียโนที่เพราะขนาดนี้เราก็ต้องอัดไว้ให้ดีสิคะ”ทุกคนค่อย ๆ หันไปมองเซิ่นหรูซวงช้า ๆ และกระจ่างแจ้งในทันทีเสียงในคลิปวิดีโอคล้ายกับเสียงของเซิ่นหรูซวงในตอนนี้มาก ดังนั้นคนที่ถ่ายคลิปวิดีโออยู่คือเซิ่นหรูซวง!หญิงสาวในคลิปวิดีโอเอียงศีรษะพลางยิ้มบาง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความระอาใจ แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “โอเค ถ้าเธอบอกว่าได้ก็คือได้ล่ะนะ”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนค่ะ!”
더 보기

บทที่ 262

หลังจากคลิปวิดีโอเริ่มฉายไปได้ประมาณครึ่งนาที ผู้ชมต่างเงียบกริบทุกคนต่างฟังออกได้ในทันทีว่าในคลิปวิดีโอ เคอซานเหมยกำลังเล่นเพลง ‘ความปรารถนา’ท่าทีของแฟนคลับของเว่ยอวิ่นลู่เปลี่ยนจากความดูถูกเหยียดหยามในตอนแรกเป็นความประหลาดใจ และในท้ายที่สุดใบหน้าของพวกเขาก็แข็งค้างพวกเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา รีบร้อนพิมพ์ค้นหาเวลาที่เร็วที่สุดที่เพลง ‘ความรัก’ ของเว่ยอวิ่นลู่ปล่อยออกมาด้วยนิ้วมือสั่นเทาถ้าเว่ยอวิ่นลู่ไม่ใช่เคอซานเหมย ถ้าอย่างนั้นระหว่างเพลง‘ความปรารถนา’ และเพลง ‘ความรัก’ ก็ต้องมีเรื่องการลอกเลียนแบบเข้ามาเกี่ยวพันอย่างแน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหาว่าเพลงเปียโนสองเพลงนี้เพลงไหนถูกปล่อยออกมาก่อนกัน และเพลงไหนที่ลอกเลียนแบบวันที่ถ่ายทำคลิปวิดีโอแสดงไว้อย่างชัดเจนที่มุมขวาบนของจอภาพสิ่งที่ต้องหาตอนนี้คือวันที่เพลง ‘ความรัก’ ของเว่ยอวิ่นลู่ปล่อยออกมา“เดี๋ยวก่อน ดูบนเวทีสิ”แฟนคลับคนนั้นยังไม่ทันได้กดค้นหาก็โดนคนด้านข้างขัดจังหวะขึ้นเสียก่อนเขาเงยหน้าขึ้นมองบนเวที สายตาจ้องเขม็งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เว่ยอวิ่นลู่เดินจากที่นั่งผู้ชมขึ้นไปยังบนเวที เวลานี้ เธอยืนอยู่
더 보기

บทที่ 263

จอภาพขนาดใหญ่ด้านหลังยังคงฉายคลิปวิดีโอต่อไป บทเพลงเปียโนที่เคอซานเหมยบรรเลงในวิดีโอนั้นเหมือนกับบทเพลงที่เซิ่นหรูซวงบรรเลงทุกประการ ประสานเสียงกันได้อย่างลงตัวผู้ชมด้านล่างเวทีต่างพากันส่งเสียงฮือฮาเพราะเว่ยอวิ่นลู่พูดยอมรับกับปากของตัวเองว่าลอกเลียนแบบเพราะเว่ยอวิ่นลู่ไม่ใช่เคอซานเหมย และเคอซานเหมยเป็นคนคนหนึ่งที่มีอยู่จริงข้อมูลที่ถาโถมเข้ามานั้นท่วมท้นมากเสียจนกรรมการและผู้ชมด้านล่างเวทีต่างตกตะลึง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา“เธอเตรียมตัวมาดีมากเลยนี่” เซิ่นหรูซวงได้ยินเสียงเย็นเยียบของตัวเอง พยายามระงับซ่อนความโกรธที่แทบไม่มีคนรู้เอาไว้ “เธอเคยสืบค้นข้อมูลของเคอซานเหมยมาก่อน ถึงได้รู้เรื่องของเธอมากขนาดนี้”หยาดน้ำตาสีใสหยดลงมาจากปลายหางตาของเว่ยอวิ่นลู่ เธอยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกคิดถึงปนโล่งใจ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกพร้อมยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “หรูซวง ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอเข้าใจฉันผิด ฉันเองก็เข้าใจ”“แต่ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจฉันบ้าง ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอเองก็วางแผนให้อาเหมยและห่วงใยเธอมากขนาดนี้ ถ้าฉันรู้ บางทีฉันคงไม่เลือกเดินเส้นทางนี้หรอก”ในขณะที่พูด เธอก็ยิ้มรา
더 보기

บทที่ 264

“อันดับสาม แม้ว่าเธอจะไม่มีทางเลือกอื่นและจำเป็นต้องใช้วิธีการลอกเลียนแบบเพื่อสร้างกระแส เธอก็ควรนำเพลงต้นฉบับมาและใส่ชื่อของเธอลงไป แบบนี้คงจะตรงไปตรงมามากกว่า และดีกว่าการพยายามสร้างสรรค์เพลงใหม่ที่ไม่มีแม้แต่ความเข้ากันได้ขึ้นมาอย่างยากลำบาก”เสียงของเซิ่นหรูซวงยิ่งราบเรียบมากกว่าเดิม “คุณหนูเว่ย ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ นะคะ เหตุผลที่เธอเอามาอธิบายนั้นไร้ซึ่งตรรกะ ไร้แก่นสาร ฟังแล้วยิ่งรู้สึกผิดแปลกไปเสียหมด”“ฉันฟังแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าคำกล่าวอ้างที่เธอตั้งใจจะคืนชื่อให้เคอซานเหมยนั้นปลอมมาก แต่การลอกเลียนแบบกลับเป็นเรื่องจริง คำอธิบายอื่นก็เป็นเพียงข้ออ้างสำหรับการลอกเลียนแบบของเธอเท่านั้น”ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของเว่ยอวิ่นลู่ก็ซีดลงเล็กน้อยเว่ยอวิ่นลู่ดูเหมือนถูกบังคับไล่ต้อนจนต้องถอยหลังไปสองสามก้าว แววตาของเธอฉายแววตึงเครียดและหมดหนทางเซิ่นหรูซวงมองไปที่ฝีเท้าของเว่ยอวิ่นลู่ เรียวคิ้วขมวดแน่นในทันทีเดิมทีเว่ยอวิ่นลู่ก็ยืนอยู่ริมขอบเวทีอยู่แล้ว ถ้าถอยไปมากกว่านี้ก็อาจจะไปชนกับโครงนั่งร้านเหล็ก และอาจจะพลัดตกจากเวทีสูงหนึ่งเมตรได้คิ้วเรียวสวยของเว่ยอวิ่นลู่ขมวดขึ้นเล็กน้
더 보기

บทที่ 265

เสียงกรีดร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในหูของเซิ่นหรูซวง จู่ ๆ เสียงนั้นกลับฟังดูราวกับมาจากอีกโลกหนึ่ง ราวกับเสียงเหล่านั้นอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินอย่างชัดเจน พร่าเลือนและเลือนรางราวกับมีกำแพงกั้นระหว่างโลกกั้นระหว่างพวกเธอเอาไว้เธอมองดูแขนทั้งสองข้างของเว่ยอวิ่นลู่ที่โอบรอบเอวของซิงจือเหยียนเอาไว้อย่างแนบแน่น พร้อมซุกซบใบหน้าลงบนหน้าอกของซิงจือเหยียนและซิงจือเหยียนเองก็โอบรอบไหล่และเอวของเว่ยอวิ่นลู่เอาไว้เต็มแรง ใช้ร่างกายของเขาขยับพาร่างของเว่ยอวิ่นลู่กลิ้งตัวไปด้านข้าง พ้นออกจากขอบเขตของโครงเหล็กที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาท่ามกลางความเงียบสงัด ทุกอย่างดูเหมือนจะช้าลง เซิ่นหรูซวงได้ยินเสียงลมหายใจและจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองอย่างชัดเจนทุกสิ่งพร่าเลือนมากเสียจนเซิ่นหรูซวงแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เสียดแทงลงบนส่วนอ่อนนุ่มที่สุดของหัวใจเธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่ราวกับรับรู้และสัมผัสได้ถึงโครงเหล็กที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากด้านบนในวินาทีนั้น เสียงสัญญาณเตือนภัยในใจของเธอดังขึ้น เธอกัดฟันแน่นแล้วพุ่งตัวไปยังทิศทางตรงข้ามกับซิงจือเหยียนและเว่ยอวิ่นลู่ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงรอยยิ้มของเว
더 보기

บทที่ 266

เว่ยอวิ่นลู่ทัดปลายผมที่ร่วงหล่นลงมาคลอเคลียข้างใบหน้าขึ้นไปบนใบหู แสดงท่าทางราวกับเพิ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ร้ายแรงด้วยความอ่อนโยนอ่อนหวานน่าประทับใจ พร้อมพูดเสียงอ่อนว่า “ฉันเองก็ตั้งใจอยากจะดึงรั้งเธอเอาไว้ แต่เธอปล่อยมือเร็วเกินไป ฉันยังไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ”เรียวคิ้วสวยของเว่ยอวิ้นลู่ขมวดเข้าหากัน ถอยกลับไปยังข้างกายซิงจือเหยียนพร้อมยกมือขึ้นโอบรอบแขนของซิงจือเหยียน แล้วพูดเสียงเบาว่า “เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ได้ดึงเธอออกไปด้วย”เมื่อได้ยินดังนี้ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปในทันที สายตาที่มองไปยังเซิ่นหรูซวงเองก็เปลี่ยนไปเช่นกันดังนั้นการที่เซิ่นหรูซวงยื่นมือไปหาเว่ยอวิ่นลู่เป็นเพียงการแสดงเท่านั้นหรือ?เว่ยอวิ่นลู่หันศีรษะไปมองซิงจือเหยียน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและความขวยเขิน “อาเหยียนเองก็เหมือนกัน ทันทีที่พุ่งตัวเข้ามาก็ดึงฉันออกไปทันที เราไม่ทันสังเกตเห็นคุณเลยด้วยซ้ำ”ใครบางคนในกลุ่มผู้คนหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา “ฉันบอกแล้วว่าเซิ่นหรูซวงกำลังแสดง”เซิ่นหรูซวงเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ใบหน้าและริมฝีปากของเธอซีดเผือด พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ความหมายของเธอคือการที
더 보기

บทที่ 267

“แต่สำหรับเรื่องนี้ ให้จบลงไว้ที่ตรงนี้”แววตาของเซิ่นหรูซวงแข็งค้างเรื่องที่ซิงจือเหยียนกำลังพูดถึง เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่เธอเปิดโปงการลอกเลียนแบบของเว่ยอวิ่นลู่ทุกคนจึงตระหนักได้ว่าทุกอย่างที่ซิงจือเหยียนทำลงไปก็เพื่อเว่ยอวิ่นลู่ เป็นการแยกแยะผู้หญิงคนอื่นอย่างชัดเจน และเพื่อแผนการระยะยาว ที่ต้องการปกป้องผู้หญิงที่เขาวางไว้กลางยอดดวงใจนั้น ห่างจากอันตรายทั้งปวง ช่างเป็นผู้ชายที่ดีมากเลยจริง ๆสายตาของเว่ยอวิ่นลู่อ่อนแสงลง น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา “อาเหยียน ขอบคุณที่ทำเพื่อฉันมากมายขนาดนี้นะคะ”เซิ่นหรูซวงแค่นหัวเราะเย้ยหยัน “ลืมไปเถอะ เวทีนี้เป็นเวทีที่ผู้จัดงานการแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่สร้างขึ้นมา พวกเขาต่างหากที่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ”“อีกอย่าง” เซิ่นหรูซวงมองไปที่ซิงจือเหยียน “สำหรับเรื่องนี้ ฉันจะไม่ยอมปล่อยไปแน่นอน”น้ำเสียงของเธอยิ่งทวีความหนักแน่นมากขึ้นดวงตาสีเข้มของซิงจือเหยียนมืดครึ้มลงในทันที จ้องมองเธอด้วยสายตาของความกดดันทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกจากปาก ความเงียบงันก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณและเป็นจวงเหมยที่พูดแทรกขึ้นมาเพื่อทำลายความเ
더 보기

บทที่ 268

เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น ก็ทำให้ใจของจวงเหมยอ่อนลงยวบยาบน้ำเสียงของเซิ่นหรูซวงราบเรียบ แต่เมื่อฟังแล้วก็สามารถสัมผัสได้ถึงความคับข้องใจที่มีอยู่จวงเหมยยื่นมือไปแตะมือของเซิ่นหรูซวง พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เธอพูดมาเถอะ ฉันจะรับผิดชอบให้เธอเอง”คำพูดนี้แม้จะพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา แต่น้ำหนักของมันมากยิ่งกว่าภูเขาเสียอีกถ้าจวงเหมยเชื่อคำพูดของเซิ่นหรูซวง นั่นก็หมายความว่าจะเป็นการยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเว่ยอวิ่นลู่การยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเว่ยอวิ่นลู่นั้น ก็จะเป็นการยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามซิงจือเหยียนเช่นเดียวกันนอกจากนี้ซิงจือเหยียนก็เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เขาหวังว่าเรื่องนี้จะจบลงเพียงเท่านี้ทุกคนต่างตระหนักได้ดีถึงความมั่งคั่ง อิทธิพล และกลวิธีของซิงจือเหยียนสำหรับความรักใคร่ชอบพอของซิงจือเหยียนที่มีต่อเว่ยอวิ่นลู่ ทุกคนก็ต่างเข้าใจดีคำพูดของจวงเหมยนั้นพูดได้ว่าเป็นการตั้งใจเพิกเฉยต่อคำพูดของซิงจือเหยียนอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าซิงจือเหยียนคิดจัดการกับเรื่องนี้ต่อไป จวงเหมยย่อมหลีกเลี่ยงการแก้แค้นของเขาไม่ได้เช่นกันคำพูดของจวงเหมยนั้นช่างแสนหนักอึ้งหัวใจของเซิ่นหรูซว
더 보기

บทที่ 269

“ส่วนเว่ยอวิ่นลู่”จวงเหมยชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “สำหรับเรื่องของเคอซานเหมยนั้น ในตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้นคะแนนในรอบชิงชนะเลิศของเธอจึงจะไม่ได้รับผลกระทบ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกตัดสินว่าลอกเลียนแบบ แต่ผู้จัดงานก็ไม่มีสิทธิ์ยกเลิกผลคะแนนการแข่งขันของเธอ เพราะบทเพลงเปียโนที่เธอเลือกใช้ในรอบชิงชนะเลิศไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างมากที่สุดพวกเขาก็จะสั่งห้ามไม่ให้เว่ยอวิ่นลู่เข้าร่วมการแข่งขันในอนาคตอีก”ดวงตาของเซิ่นหรูซวงสั่นไหวจากความเข้าใจของเธอที่มีต่อเว่ยอวิ่นลู่ บทเพลงเปียโนที่เว่ยอวิ่นลู่กล่าวอ้างว่ารังสรรค์ขึ้นมาเองและใช้ในรอบชิงชนะเลิศเองก็น่าจะเป็นผลงานของคนอื่น อาจจะลอกเลียนแบบมาหรือซื้อมาในราคาสูงแต่เธอไม่ได้พูดออกไป เรื่องนี้เป็นเพียงการคาดเดาของเธอเท่านั้นโดยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน การพูดออกมาอาจทำให้เว่ยอวิ่นลู่มีโอกาสในการตอบโต้กลับมาได้นอกจากนี้ เรื่องของเคอซานเหมยยังไม่ได้รับข้อสรุป และเธอเลือกที่จะมุ่งเน้นความสนใจไปที่เรื่องของเคอซานเหมยมากกว่าอย่างไรก็ตาม นี่ก็นับเป็นสิ่งที่ตักเตือนใจของเธอถ้าเธอต้องการกำจัดภัยคุกคามอย่างเว่ยอวิ่นลู่ให้หมดสิ้น
더 보기

บทที่ 270

เธอพูดว่า “เซิ่นหรูซวง ฉันมองออกนะว่าเธอเก็บเรื่องราวมากมายไว้ในใจ ถ้าเธอไม่รังเกียจก็ลองคุยกับคนรอบข้างดูสิ อย่ามัวแต่เก็บกดเรื่องราวเหล่านั้นเอาไว้ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้นะ”เซิ่นหรูซวงเคยคิดถึงเหตุผลมากมายที่จวงเหมยอาจจะหยิบยกขึ้นมาพูด แต่เธอไม่เคยคิดเลยจวงเหมยจะพูดแบบนี้ สีหน้าของเธอชะงักงันด้วยความตกตะลึงจู่ ๆ เซิ่นหรูซวงก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมาถึงจะดีจวงเหมยตบไหล่ของเธอเบา ๆ แล้วถอนหายใจ “เธอพักผ่อนให้ดีเถอะ ฉันไปก่อนนะ ถ้าเธอมีเรื่องอะไรก็บอก ——”“บอกฉันก็พอค่ะ”หญิงวัยกลางคนในชุดเรียบง่ายเดินเข้ามาจากด้านนอกห้องพักผู้ป่วยอย่างกะทันหัน ในมือของเธอยังถือกล่องอุ่นข้าวไว้พร้อมรอยยิ้มของความใจดีเมตตาที่ประดับบนใบหน้าเซิ่นหรูซวงถาม “ คุณคือ?”ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาแล้ววางกล่องอุ่นข้าวไว้บนโต๊ะข้างเตียง แกะกล่องอุ่นข้าวแล้ววางลงอย่างเป็นระเบียบพลางพูดว่า “ฉันเป็นคนที่ประทานซิงจ้างมาให้ดูแลคุณหนูเซิ่นค่ะ คุณหนูเซิ่นเรียกฉันว่าป้าหยางก็ได้ ในช่วงนี้ฉันจะมาที่นี่ทุกวันและจะจัดเตรียมอาหารพร้อมซุปที่มีประโยชน์ เหมาะกับอาการของคุณหนูเซิ่นมาด้วยค่ะ”ซิงจือเหยียน?เซิ่นหรูซวงข
더 보기
이전
1
...
222324252627
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status