Semua Bab คุณสามีไร้ค่า เรามาหย่ากันเถอะ: Bab 81 - Bab 90

ทั้งสองคนพูดคุยกันในเรื่องนี้กันอย่างใจเย็น จนในตอนนี้เย่อิงได้รู้แล้ว ว่าเหตุใดหยางเหวินฮ่าวถึงได้มาโผล่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนเธอ“เลขาของฉันนี่ ไม่ว่าจะเวลาไหนก็ทำงานเกินหน้าที่ตลอดเลยจริง ๆ นะคะ” ร่างบางบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงท้อแท้“การทำงานของเธอก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียวนะครับ ถ้าเธอไม่เอาหนังสือนิยายเล่มนั้นมาวางไว้ที่ข้าง ๆ เตียงผู้ป่วยเพื่อให้มันเป็นกำลังให้คุณฟื้นขึ้นมาเร็ว ๆ ตามความเชื่อของเธอ ผมที่แวะไปเยี่ยมคุณก็คงไม่ได้อ่านมันจนเข้ามาเจอกับคุณที่นี่แน่” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ“คุณไม่กังวลเรื่องทางนั้นเลยเหรอคะ ถ้าบริษัทขาดคุณไป...”“ก็ยังมีคนอื่น ๆ คอยทำหน้าที่แทนได้ครับ ไม่เห็นต้องไปกังวลกับเรื่องอื่นเลย ในเมื่อมีเรื่องตรงหน้าที่เราต้องให้ความสำคัญอยู่” เขาชิงตอบเธอออกมาก่อน“คุณกำลังสอนฉัน” เธอจ้องมองอีกฝ่ายคล้ายกำลังคาดเดาความคิดของเขาอยู่“เปล่าครับ ผมแค่ไม่อยากให้คุณกังวลกับทุก ๆ เรื่องที่เราเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เท่านั้นเอง ในตอนนี้คุณควรจะโฟกัสอยู่ที่ตัวคุณ เพราะหลี่เย่อิงในตอนนี้คือชีวิตของคุณอีกชีวิตหนึ่งเหมือนกัน”“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ แล้วคุณ อ่านไปถึงตอนไ

การเดินเที่ยวตลาดในช่วงบ่ายและหาของอร่อยกินกันเป็นมื้อเย็นของกลุ่มหลี่เย่อิงผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นพร้อม ๆ กับเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเหอที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปนับครั้งไม่ถ้วนจากการกระทำอันไม่อายฟ้าดินของเจ้านายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกันส่วนกลุ่มผู้คุ้มกันของหลี่เย่อิงเองก็ต่างฝากความหวังเอาไว้ที่เมิ่งหลานกันถ้วนหน้าเลยก็ว่าได้ดังนั้นหลังจากที่เจ้านายทั้งสองกลับมาถึงที่พักและแยกย้ายกันเพื่อไปอาบน้ำอาบท่ากันแล้ว เมิ่งหลานที่ต้องรีบจัดการตัวเองให้เสร็จก่อนที่คุณหนูจะอาบน้ำเรียบร้อยเพื่อไปรอให้เธอเรียกใช้ก็โดนเหล่าผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ ที่มาด้วยเคาะห้องให้รีบออกไปหาคุณหนูของพวกเขาอย่างกระตือรือร้นในทันที“พวกนายจะเร่งอะไรฉันมากมายฮะ คุณหนูไม่หนีไปไหนหรอกน่า” เมิ่งหลานบ่นอุบขณะที่ร่างของตนก็โดนเพื่อนร่วมงานลากไปทางบ้านพักหลังที่คุณหนูอยู่ไปด้วย“ผมรู้ ว่าคุณหนูไม่หนี แต่พวกเราก็อยากรู้เร็ว ๆ นี่ครับ พี่เองไม่อยากรู้เลยหรือไง” หนึ่งในชายหนุ่มที่ทำหน้าที่เดียวกันกับเมิ่งหลานเอ่ยขึ้น“เอาล่ะ ๆ กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองกันได้แล้ว เดี๋ยวฉันแอบถามคุณหนูได้เมื่อไหร่จะมาเล่าเอง” เมิ่งหลานกระซิ

ข่าวการเลื่อนสถานะความสัมพันธ์ของซีอีโอสาวแห่งตระกูลหลี่และท่านประธานเหอผู้ทรงอิทธิพลและเป็นที่จับตามองในแวดวงธุรกิจ แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วทันทีที่พวกเขากลับมาจากการเที่ยวพักผ่อนการประกาศคบหากันอย่างเป็นทางการของทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพียงข่าวธรรมดาเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องที่สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงให้กับวงการนักธุรกิจและแวดวงตระกูลใหญ่ทั้งหลายไม่น้อยเลยหลายคนต่างพูดถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่หยุด ราวกับมีคนคอยปั่นกระแสให้ข่าวนี้ไม่มีช่วงเวลาได้ซาลงอยู่อย่างไรอย่างนั้นเรื่องราวตั้งแต่การพบเจอกันของพวกเขาในครั้งแรก ไปจนถึงการไปพักผ่อนร่วมกันของทั้งสองเมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นในในแวดวงนักธุรกิจหรือผ่านนิตยสารออนไลน์ก็ยังมีมาอยู่เรื่อย ๆ จนซีอีโอหลี่ผู้เป็นหัวข้อในการถูกเอ่ยถึงยังอดคิดไม่ได้เลยทีเดียว ว่าตนเองกำลังถูกใครบางคนปั่นกระแสเรื่องความรักของเธออย่างลับ ๆ อยู่หรือไม่ เพราะเรื่องของเธอและเหอเทียนเหวินโด่งดังมานานเสียจนใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวก็ยังมีโอกาสได้รู้ข่าวนี้เลยนั่นเองเสียงซุบซิบเกี่ยวกับอนาคตของสองตระกูลและการขยาย

งานแต่งของหลี่เย่อิงและเหอเทียนเหวินเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่มากกว่าการแต่งงานของนักธุรกิจและคนตระกูเก่าแก่ตระกูลอื่น ๆ อยู่หลายเท่าเลยก็ว่าได้จะบอกว่างานนี้เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำและตระกูลชนชั้นสูงทุกตระกูลเอาไว้ในงานเดียวเลยก็ไม่ผิดนักหลี่เย่อิงในวันนี้อยู่ในชุดเจ้าสาวที่งดงามโดดเด่นเกินคำบรรยาย เดรสสีขาวบริสุทธิ์ที่เธอสวมใส่เป็นชุดเกาะอกที่ถูกประดับไปด้วยคริสตัลระยิบระยับทั่วทั้งชุด ส่งให้เธอดูเปล่งประกายสะท้อนแสงไฟภายในงานเพิ่มความหรูหราและสง่างามมากยิ่งขึ้นไปอีกชุดนี้ถูกออกแบบมาอย่างประณีตและส่งเสริมให้รูปร่างของหลี่เย่อิงดูเพรียวบางอย่างลงตัวเลยทีเดียวกระโปรงที่ฟูฟ่องทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายก็ไม่ปาน อีกทั้งการตัดเย็บของชุดยังช่วยเพิ่มความน่าทะนุถนอมและทำให้เธอดูอ่อนโยนมากยิ่งขึ้นอีกด้วยเหอเทียนเหวินเองในวันนี้ก็อยู่ในชุดแต่งงานสุดหรูที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเช่นเดียวกัน ชุดสูทสีขาวสะอาดตาตัดเย็บอย่างประณีตเข้ากับรูปร่างสูงโปร่งของเขาทำให้ดูสง่างามและมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าปกติเป็นอย่างมากเหอเทียนเหวินที่มักจะมีท่าทีเยือกเย็นและน่าเกรงขามอยู่เสมอ ในวันนี้

เมื่ออวี๋เย่อิงได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเธอเองหมดสติไปจากปากของเลขาทั้งหมด เธอก็ได้รู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าเธอนั้นหมดสติไปแค่ 2 สัปดาห์เพียงเท่านั้นอีกทั้งประธานหยางหรือหยางฮ่าวเหวินเองก็ยังกำลังรักษาตัวอยู่ที่ห้องข้าง ๆ เธอจากอาการหมดสติเหมือนกับเธอหลังจากที่เขาเฝ้าไข้เธอไป 4 คืนติดอีกด้วยเรื่องนี้จะว่าแปลกก็แปลก เพราะท่านประธานหยางที่ร่างกายแข็งแรงมาตลอดทั้งยังแทบไม่เคยป่วยเลย กลับต้องมาหมดสติเหมือนกับหญิงสาวที่เขาเฝ้าไข้ไปอีกคนอย่างไม่ทราบสาเหตุเช่นนี้เสียได้แต่ถึงอย่างนั้นคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีแค่เลขาของเธอและเลขาส่วนตัวของท่านประธานหยางเพียงเท่านั้นเช่นกันด้วยความที่ทั้งซีอีโออวี๋และท่านประธานหยางนั้นเป็นบุคคลที่ได้รับการจับตามองจากสังคมไม่น้อย การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของพวกเขาจึงต้องถูกจำกัดและระมัดระวังมากที่สุดจากเหล่าเลขาที่เป็นดั่งมือขวาของพวกเขาไปโดยปริยายเลยนั่นเอง‘ระยะเวลาแค่ 2 สัปดาห์ในโลกอันแสนวุ่นวายแห่งนี้ กลับเป็นช่วงเวลานานนับสิบ ๆ ปีในโลกของนิยายเรื่องนั้นซะได้’ อวี๋เย่อิงคิดในใจ“คุณอวี๋คะ ไม่ทราบว่าคุณกับท่านประธานหยางเอาเวลาไหนไปสนิทสนมกันเหรอคะ