“การเขียนตัวอักษรบนกระดาษนี้ ไม่เพียงแต่ให้ลายเส้นที่คมชัดและหนักแน่น มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่ยังแยกระดับหมึกเข้มจางได้อย่างชัดเจน มันคือสุดยอดกระดาษแห่งยุคโดยแท้”ลั่วฝานเอ่ยขึ้น “เวลามีจำกัด ข้าเลยทำออกมาได้แค่หนึ่งพันแผ่น”แม้ว่าจะยังไม่ถึงสามพันแผ่น แต่สวีหย่วนกลับยิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่เป็นไร มูลค่าของกระดาษหนึ่งพันแผ่นนี้ สูงกว่ากระดาษป่านสามพันแผ่นเสียอีก เดี๋ยวพวกเราไปหาเถ้าแก่หลิวกัน เขาได้เห็นกระดาษเยื่อไผ่นี้ จะต้องชอบมันอย่างแน่นอน”สวีหย่วนคัดกระดาษส่วนหนึ่งออกมาเป็นพิเศษ ห่ออย่างระมัดระวัง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังโรงพิมพ์หย่งอันพร้อมกับลั่วฝานหลังจากลัดเลาะผ่านถนนที่เจริญรุ่งเรืองสองสามสาย ลั่วฝานและสวีหย่วนก็มาถึงหน้าโรงพิมพ์ที่ดูหรูหราและมีเอกลักษณ์แห่งหนึ่ง“เถ้าแก่สวี ลมอะไรหอบท่านมาถึงนี่ได้?” ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางไว้เครายาวคนหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เถ้าแก่หลิว!” สวีหย่วนประสานมือคารวะพลางยิ้ม แล้วเดินเข้าไปในโรงพิมพ์หย่งอันพร้อมกับลั่วฝาน“เถ้าแก่สวีมาเยือนในวันนี้ มีธุระอันใดหรือ?” เถ้าแก่หลิวเอ่ยถามด้วยท่าทีอย่างบัณฑิตลั่วฝานกวาดตามองการต
Read more