All Chapters of พลิกชะตาคุณชายตกอับ: Chapter 21 - Chapter 30

30 Chapters

บทที่ 21

เมื่อไปถึงตลาดก็ซื้อข้าวสารมาจำนวนหนึ่ง รวมถึงน้ำมันและเกลือ โยนให้จางหู่เป็นคนแบกพอเพิ่งกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นอู่ชิงถือมีดตัดฟืนเดินเข้ามาหา“เมื่อครู่ซานโก่วมา บอกให้เจ้าไปที่พรรคโพจื่อหน่อย” ใบหน้าของอู่ชิงเขียวคล้ำขึ้น น้ำเสียงแฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวลั่วฝานคาดไว้นานแล้วว่าซานโก่วจะต้องมาหาเรื่องตน ทั้งหมดเป็นเพราะผลประโยชน์อีกฝ่ายเห็นว่าเขาหาเงินได้ ย่อมต้องอยากมาขูดรีดจากเขาสักก้อนเป็นธรรมดาอีกทั้งลั่วฝานเองก็เคยคลุกคลีอยู่กับหัวหน้าพรรคโพจื่อมาก่อน พอพวกนั้นเห็นลั่วฝานหาเงินได้ ก็อยากจะมาตักตวงผลประโยชน์ด้วย“พี่ฝาน ข้าจะไปกับท่านด้วย หากพวกมันกล้าลงมือ ข้าจะสู้ตายกับพวกมัน!” จางหู่กำหมัดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาลพรรคโพจื่อเป็นองค์กรอิสระแห่งหนึ่งในเมืองหย่งอัน ผู้คนที่ไม่มีอำนาจหรือที่พึ่งพิงในอำเภอหย่งอันจำนวนไม่น้อยต่างก็เข้าร่วมพรรคโพจื่อ ก็เพื่อต้องการมีคนหนุนหลัง เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะได้มีคนคอยค้ำจุนทว่าเมื่อจำนวนคนเพิ่มมากขึ้น โพจื่อหลิวแห่งพรรคโพจื่อก็ใช้พรรคนี้เป็นเครื่องมือในการกอบโกยเงินทอง“อย่าเพิ่งไปสนใจพวกเขาเลย” ลั่วฝานขมวดคิ้วมุ่นหากตอนนี้บุกไป
Read more

บทที่ 22

ลั่วฝานขยับเข้าไปดูบาดแผลที่ขาของหม่าเชาใกล้ ๆ ตอนนี้มันบวมเป่งอักเสบเป็นหนองไปแล้ว ทั้งยังมองเห็นตัวหนอนเล็ก ๆ กำลังไชอยู่ที่บาดแผลได้ราง ๆ“ขาของเขา หากไม่รีบรักษาอีก เกรงว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต” ลั่วฝานขมวดคิ้วกล่าว“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?” พอหม่าเหลียงได้ยินคำพูดของลั่วฝาน ก็ร้อนรนจนน้ำเสียงสั่นเทาหม่าเชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ความเป็นความตายล้วนมีลิขิตสวรรค์ เกิดมาในยุคกลียุคเช่นนี้ สู้ตายไปให้พ้น ๆ เสียยังจะดีกว่า”ในยุคโบราณไม่มีวิธีการเย็บแผล บาดแผลที่ยาวขนาดนี้หากไม่สามารถเย็บได้ บาดแผลก็ไม่มีทางสมานกันได้อย่างแน่นอนหม่าเชาเองก็รู้ตัวดีว่าตนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นจึงได้สิ้นหวังถึงเพียงนี้“พี่ฝาน ท่านช่วยหม่าเชาได้หรือไม่?” จางหู่รู้สึกอดสูใจจนทนไม่ไหวลั่วฝานพยักหน้า “ได้สิ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หม่าเหลียงก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที “หากท่านสามารถช่วยชีวิตพี่ใหญ่ของข้าได้ ต่อให้ข้าต้องคาบหญ้าคาบห่วงแหวน เป็นวัวเป็นม้า ข้าก็จะตอบแทนบุญคุณของท่านให้จงได้”สองพี่น้องตระกูลหม่าเป็นพี่น้องมารดาเดียวกัน! ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งยิ่งนักลั่วฝานยื่นมือออกไปพยุง
Read more

บทที่ 23

“แน่นอนอยู่แล้ว!” น้ำเสียงของลั่วฝานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “แต่ข้าให้เงินมากขนาดนี้ ก็ต้องการให้พวกเจ้าทั้งสองช่วยข้าอย่างจริงใจ ข้าทำธุรกิจผลิตกระดาษ ต่อไปในภายหน้าย่อมต้องมีคู่แข่งมาหาเรื่องอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความหมายของข้าก็คือ หากมีคนมาขวางเส้นทางทำมาหากิน พวกเจ้าจะนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้”สองพี่น้องตระกูลหม่าได้ยินคำพูดของลั่วฝานก็พากันนิ่งเงียบไป เห็นได้ชัดว่างานที่ลั่วฝานทำนั้นอันตรายอย่างยิ่ง“ฆ่าคนวางเพลิงคือหนทางสู่ความมั่งคั่ง พวกเราอาศัยอยู่ในยุคกลียุคเช่นนี้ ก็เพียงเพื่อปากท้องให้อิ่มไปวัน ๆ หากพวกเจ้าไม่มีความกล้า ข้าก็จะถือเสียว่าข้าไม่เคยมาที่นี่ก็แล้วกัน”สองพี่น้องตระกูลหม่ากัดฟันกรอด ในที่สุดก็ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว เอ่ยขึ้นพร้อมกันว่า “ตกลง พวกเราสองพี่น้อง จะขอติดตามเถ้าแก่”ลั่วฝานยิ้มแล้วกล่าวว่า “พรุ่งนี้ข้าจะร่างหนังสือสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่ง แล้วส่งไปศาลาว่าการ ตั้งแต่นี้ไป พวกเจ้าจงยกข้าเป็นเจ้านาย ต่อไปทำสิ่งใดให้ถือข้าเป็นหลัก”“ไม่มีปัญหาขอรับ!” หม่าเหลียงประสานหมัดกล่าวหม่าเชายังมีอาการบาดเจ็บที่ขา ชั่วขณะนี้จึงยังไม่สามารถติดตามลั่วฝานไปทำงานได้ แต่หม่าเหลีย
Read more

บทที่ 24

เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วฝานก็พยักหน้าเล็กน้อย ดูท่าว่าจะเป็นคนที่จงรักภักดีและมีคุณธรรม“เจ้ารู้จักใครอีกบ้าง ก็เรียกมาให้หมด บอกไปว่าข้าให้เดือนละห้าร้อยอีแปะ แถมยังดูแลเรื่องอาหารการกินให้ด้วย” ลั่วฝานกล่าวกับจางหู่จางหู่เคยเป็นลูกน้องนักเลงให้เจ้าที่ดินในคฤหาสน์ใหญ่มาก่อน ย่อมต้องรู้จักยอดฝีมือที่ต่อสู้เก่ง ๆ อยู่บ้างทว่าลั่วฝานมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง นั่นคือพวกที่อาศัยอำนาจบาตรใหญ่รังแกผู้อื่น เขาไม่เอา“ก็พอมีอยู่บ้าง ข้าจะไปเรียกพวกเขามานะ” จางหู่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวลั่วฝานหยิบเงินสามก้วนออกมาส่งให้จางหู่ “เงินนี่เจ้ารับไป ให้พวกเขาคนละห้าร้อยเหวิน แล้วพามาที่นี่”จางหู่เบิกตากว้าง เงินมากมายขนาดนี้? กลับมอบให้ตนง่าย ๆ เช่นนี้ ไม่กลัวว่าตนจะยักยอกไปหรือ?เขารู้สึกอยู่ตลอดว่าลั่วฝานดูเหมือนจะเปลี่ยนไป หากเป็นเมื่อก่อน แค่เขาไม่โกงเงินของตนก็นับว่ามีคุณธรรมมากแล้วจางหู่ทำตามความต้องการของลั่วฝาน เขาไปตามชายฉกรรจ์ร่างกำยำสูงใหญ่มาอีกสามคน ทุกคนต่างก็มีท่าทางซื่อสัตย์จริงใจลั่วฝานเดินออกมาจากห้อง เมื่อมองดูคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจต่อไปใน
Read more

บทที่ 25

“ออกไปนอกเมืองหรือขอรับ?” สีหน้าของจางเหลียวตกตะลึง“มีอันใดหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“เถ้าแก่ ท่านอาจยังไม่ทราบ ตอนนี้ด้านนอกเมืองหย่งอันวุ่นวายไปหมดแล้วขอรับ ได้ยินมาว่าด่านชายแดนถูกตีแตกแล้ว ช่วงนี้จึงมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยมารวมตัวกันอยู่ที่นอกเมือง” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“ผู้อพยพ?” ลั่วฝานได้ยินดังนั้น สีหน้าก็ฉายแววระมัดระวังขึ้นมา“พวกเราจำเป็นต้องออกไปนอกเมืองจริง ๆ หรือขอรับ?” จางเหลียวเอ่ยถามลั่วฝานพยักหน้า “เจ้าก็รู้ว่าราคาข้าวสารอาหารแห้งในเมืองมันแพงเพียงใด คนสิบกว่าชีวิตต้องกินต้องใช้ ธัญพืชถือเป็นรายจ่ายก้อนโตทีเดียว”หากคิดจะประหยัดต้นทุน ก็ทำได้เพียงออกไปรับซื้อธัญพืชตามหมู่บ้านนอกเมืองเท่านั้น แต่ตอนนี้ด้านนอกเมืองมีผู้อพยพอยู่ เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดลั่วฝานก็ยังคงตัดสินใจที่จะออกไปนอกเมืองความมั่งคั่งย่อมต้องเสาะหามาจากในภยันตราย หากปราศจากความกล้า ก็อย่าได้คิดทำการใหญ่“พวกเราฟังเถ้าแก่ขอรับ” จางเหลียวกล่าวลั่วฝานพยักหน้า เตรียมตัวจะออกจากบ้าน ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันหลังเดินกลับไปบอกจูอีโหรวว่า “ตอนกลางวันข้า
Read more

บทที่ 26

ธัญพืชสิบสือ ก็คือหนึ่งพันชั่งในยุคโบราณ นี่ถือเป็นการค้าที่ใหญ่มากอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่ร้านขายธัญพืชเองก็ใช่ว่าจะหาธัญพืชจำนวนมากขนาดนี้ออกมาได้ง่าย ๆ“เถ้าแก่ รอไม่ได้ ตอนนี้บ้านเมืองกำลังวุ่นวายเพราะภัยสงคราม ยามค่ำคืนเกรงว่าจะมีพวกโจรออกอาละวาด” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเตือนสติลั่วฝานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “เถ้าแก่ ตอนนี้ท่านมีธัญพืชอยู่เท่าใด?”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชกล่าวว่า “มีธัญพืชไม่ถึงสามสือขอรับ หากพวกท่านต้องการ ข้าก็สามารถขายให้พวกท่านได้ทั้งหมด”ธัญพืชสามสือก็ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ที่บ้านมีคนกินข้าวอยู่สิบกว่าชีวิต ในแต่ละวันต้องบริโภคข้าวสารสิบกว่าชั่ง สามสือก็พอจะประทังไปได้หนึ่งเดือนทว่า ในขณะที่ลั่วฝานกำลังคิดจะจ่ายเงินแล้วกลับเข้าเมืองนั้นเอง เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชก็พลันกล่าวขึ้นว่า “เดี๋ยวจะมีธัญพืชมาส่งอีกชุดหนึ่งแล้วขอรับ ท่านรออีกเพียงหนึ่งชั่วยามก็พอ น่าจะมีสักประมาณห้าสือ”หนึ่งชั่วยามหรือ? ลั่วฝานหันไปมองจางเหลียว แล้วกล่าวว่า “จะสามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันก่อนฟ้ามืดได้หรือไม่?”จางเหลียวเงยหน้ามองดูสีของท้องฟ้า พยักหน้าแล้วตอบว่า “ก็น่าจะทันอยู่ขอรับ”เม
Read more

บทที่ 27

เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชยิ้มประจบประแจง “นั่นน่ะสิขอรับ ใครบ้างจะไม่รู้ว่ากระดาษของเฉิงซินถังตระกูลหวังนั้นดีที่สุดในเมืองหย่งอัน ไอ้คนสิ้นไร้ไม้ตอกนั่นมันจะไปนับเป็นอะไรได้ ถึงกล้ามาแย่งธุรกิจกับตระกูลหวัง”“ฮ่า ๆ พูดได้ดี”ชายร่างผอมบางมองไปยังเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช “เจ้าวางใจได้ ต่อไปธัญพืชของตระกูลหวังข้า จะให้เจ้าเป็นคนจัดหาให้”เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มตื่นเต้นยินดีในทันที “ขอบคุณเถ้าแก่หวังมากขอรับ”ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม พอออกมาจากตำบลได้ราวสองลี้ ลั่วฝานก็พลันสังเกตเห็นว่ามีคนติดตามอยู่รอบ ๆลั่วฝานสงสัยอย่างมากว่า เมื่อครู่เถ้าแก่ร้านขายธัญพืชจงใจถ่วงเวลา ทำให้ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วก็ยังไม่สามารถกลับไปถึงเมืองหย่งอันได้“เถ้าแก่ ไม่น่าไว้วางใจเลยขอรับ” จางเหลียวขมวดคิ้ว กวาดตามองไปรอบทิศ“มีอันใดหรือ? มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ?” ลั่วฝานเอ่ยถาม“ด้านหน้าคล้ายกับมีคนอยู่ขอรับ อาจจะเป็นพวกโจรป่าดักปล้น” จางเหลียวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินคำพูดของจางเหลียว ลั่วฝานก็ทอดสายตาไปเบื้องหน้า พลันเห็นคบเพลิงสี่ห้าอันสว่างวาบขึ้นท่ามกลางความมืดยามค่ำคืนช่วงเวลาเช
Read more

บทที่ 28

จากนั้นก็ทะยานพรวดขึ้น โถมเข้าใส่ม้าตัวนั้น ฉากต่อมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันตกตะลึงจนอ้าปากค้างเห็นจางหู่กอดรวบหัวม้าไว้ คำรามลั่นแล้วเหวี่ยงออกไปสุดแรง!ม้าชั้นดีที่หนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันชั่ง ถูกจางหู่เหวี่ยงกระเด็นไปไกลถึงสิบเมตรหัวหน้าโจรป่าที่นั่งอยู่บนหลังม้า ถูกม้าทับอยู่ใต้ท้องในทันที กระอักเลือดออกมาคำโต ไม่นานก็สิ้นใจตายโจรป่าที่เหลืออีกสองสามคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงอย่างหนัก แววตาฉายแววหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัดจางหู่ในยามนี้ ในสายตาของพวกเขา ไม่ต่างอะไรไปจากอสูรสงครามตนหนึ่งเลย“จางหู่ ลั่วฝาน พวกเจ้าจงไปตายเสีย!” โจรป่าสองสามคนคำรามลั่น ควบม้าเงื้อดาบพุ่งเข้าใส่จางหู่ลั่วฝานเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่นคนเหล่านี้รู้ชื่อของข้าได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นคนรู้จักกัน?ลั่วฝานมัวแต่คิดไม่ตก พลันเห็นจางหู่คำรามลั่นแล้วพุ่งเข้าใส่คนทั้งห้าเห็นเพียงจางหู่พลิกตัวหลบคมดาบยาวที่ฟันเข้ามาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ชกหมัดตรงเข้าที่ท้องของม้าอย่างจังม้าร้องโหยหวนออกมาเสียงหนึ่ง ร่างกายอ่อนยวบ โซซัดโซเซล้มลงกับพื้นจางหู่ฉวยโอกาสนั้นจับโจรที่อยู่บนหลังม้า ทุ่มลงกับพื้นจนมึนงงไป
Read more

บทที่ 29

อีกทั้งลั่วฝานยังรู้ดีว่าหลี่หน้าบากไม่มีทางมีเงินมากขนาดนี้ได้ เป็นไปได้เพียงว่ามีคนว่าจ้างให้หลี่หน้าบากมาฆ่าคน“ให้ตายเถอะ เงินแท้ตั้งสองร้อยห้าสิบตำลึง หลี่หน้าบากไปร่ำรวยมาจากไหนตั้งแต่เมื่อใดกัน?” จางหู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจเมื่อหวนนึกถึงเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชที่จงใจถ่วงเวลาเมื่อครู่ ลั่วฝานก็แสยะยิ้มเย็นชา “ดูท่าว่า พวกเขาคงวางแผนกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คิดจะดักปล้นฆ่าพวกเรากลางทาง”“เถ้าแก่ ท่านหมายความว่าเถ้าแก่ร้านขายธัญพืชคนนั้นมีปัญหาหรือขอรับ?” จางเหลียวขมวดคิ้วกล่าว“จางเหลียว เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเจ้ารู้จักกับเถ้าแก่ร้านขายธัญพืช?” สีหน้าของจางหู่เปลี่ยนไปทันที ตวาดเสียงกร้าว“จางหู่” ลั่วฝานพูดขัดจางหู่ขึ้นมา ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่จางเหลียว เมื่อครู่ในมือของจางเหลียวถือมีดตัดฟืน ทั้งยังอยู่ข้างกายข้าตลอดเวลา หากเขามีความคิดไม่ดี ข้าคงตายไปนานแล้ว”จางเหลียวประสานหมัดกล่าว “ขอบคุณเถ้าแก่มากขอรับ”จางหู่ตะโกนอย่างเดือดดาล “หากข้ารู้นะว่าไอ้สารเลวหน้าไหนมันคิดร้ายต่อพี่ชายของข้า ข้าจางหู่จะชกมันให้ตายไปเลย”“กลับเข้าเมืองก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อย ๆ คิ
Read more

บทที่ 30

ระยะเวลาในการแช่ไม้ไผ่ โดยทั่วไปยิ่งนานยิ่งดี กระดาษก็จะยิ่งอ่อนนุ่มแม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เพื่อดึงดูดลูกค้า ลั่วฝานก็ยังยืนกรานที่จะแช่ไว้ครึ่งเดือน ถึงจะเริ่มขั้นตอนที่สองนั่นคือการนึ่ง“จางเหลียว หม่าเหลียง พยายามกำจัดสิ่งเจือปนออกไปให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียว” ลั่วฝานขมวดคิ้ว สั่งการหม่าเหลียงและจางเหลียวค่อนข้างมีความสามารถ อีกทั้งยังฉลาดมาก ส่วนจางหู่กลับดูซื่อ ๆ ไปบ้าง แต่ก็สามารถข่มขวัญคนที่คิดไม่ซื่อได้“เถ้าแก่ กระดาษของเรานี้เรียกว่าอะไรหรือขอรับ”หม่าเหลียงมองเยื่อไผ่ที่นึ่งไปแล้วสามครั้ง เอ่ยถามขึ้น“คิดไว้แล้ว เรียกว่ากระดาษเหวินหย่าเซวียน!”“จิ๊ ๆ ช่างเป็นชื่อที่ดีจริง ๆ”หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในที่สุดการผลิตชุดใหม่ก็เสร็จสิ้น ผลิตได้ทั้งหมดหนึ่งหมื่นกว่าแผ่น หักที่ต้องให้โรงกระดาษหยางจี้ห้าพันแผ่น ยังเหลืออีกห้าพันแผ่น ลั่วฝานตั้งใจจะเก็บไว้หาคู่ค้าเพิ่มอีกสักสองสามรายขนกระดาษหนึ่งหมื่นแผ่นขึ้นรถม้า ลั่วฝานพาหม่าเหลียงและจางหู่มุ่งหน้าไปยังเมืองลวี่วั่งออกจากบ้านแต่เช้า พอใกล้ถึงตอนเที่ยงก็มาถึงเมืองลวี่วั่ง ลั่วฝานอาศัยความทรงจำตามหาโรงก
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status