บททั้งหมดของ บุปผาเคียงบัลลังก์รบ: บทที่ 11 - บทที่ 20

47

บทที่ 11 เพลงดาบใต้แสงจันทร์

แสงจันทร์สีเงินยวงสาดส่องลงมาอาบไล้ลานประหารหน้าประตูเมืองชิงเหอให้ดูงดงามแต่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย บรรยากาศที่เคยเงียบสงัดด้วยความหวาดกลัว บัดนี้กลับถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียดที่แทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆใจกลางลานประหาร การต่อสู้ได้ปะทุขึ้นราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ"ฮ่าๆๆๆ! เข้ามาเลยไอ้พวกหนูสกปรก"อู่ เลี่ยคำรามลั่นราวกับพยัคฆ์คลั่ง กระบี่ยักษ์ในมือของเขากวัดแกว่งเป็นวงกว้าง สร้างเสียงหวีดหวิวตัดอากาศจนน่าสะพรึงกลัว ทุกครั้งที่ฟาดฟันออกไปจะเต็มไปด้วยพละกำลังอันมหาศาลที่พร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า องครักษ์หลวงสองคนที่เข้าปะทะกับเขา แม้จะมีวรยุทธ์สูงส่งและประสานงานกันได้อย่างไร้ที่ติ แต่ก็ทำได้เพียงอาศัยความเร็วและความคล่องตัวในการหลบหลีกคมกระบี่ที่บ้าคลั่งของเขาอย่างทุลักทุเล ไม่กล้าที่จะเข้าปะทะโดยตรงแม้แต่ครั้งเดียวแต่สมรภูมิที่ดุเดือดและน่าหวาดหวั่นที่สุด คือการต่อสู้ของบุรุษอีกผู้หนึ่ง...เถี่ย อ้าวเทียนเขากำลังเผชิญหน้ากับยอดฝีมือถึงสามคนพร้อมกัน องครักษ์หลวงสองคนพุ่งเข้าขนาบข้างราวกับเงาปีศาจ ดาบสั้นในมือของพวกมันเล็งเข้าใส่จุดตายบริเวณสีข้างและซี่โครงของเขาอย่างแม่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-07
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 12 คลื่นสะท้อน

ค่ำคืนอันยาวนานที่เมืองชิงเหอได้ผ่านพ้นไปพร้อมกับแสงอรุณของวันใหม่ที่สาดส่องเข้ามา แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือผลกระทบอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะสะท้อนกลับไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลังจากจัดการเรื่องราวในเมืองชิงเหอจนเข้าที่เข้าทาง เถี่ย อ้าวเทียนและอู่ เลี่ยก็ไม่ได้พักผ่อนแม้แต่น้อย พวกเขารีบเตรียมตัวออกเดินทางกลับเมืองจินไห่ทันที เพราะต่างรู้ดีว่าทุกวินาทีที่พวกเขาอยู่นอกเมือง คือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับปราการที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาได้ณ หน้าประตูจวนเจ้าเมืองชิงเหอ เจ้าเมืองชิงเหอซึ่งได้รับการรักษาจากหมอหลวงจนอาการดีขึ้นมากแล้ว ได้ออกมาส่งเถี่ย อ้าวเทียนด้วยตนเองพร้อมกับเหล่าข้ารับใช้และทหารองครักษ์ของเมือง"ท่านแม่ทัพเถี่ย บุญคุณในครั้งนี้ ข้าและชาวเมืองชิงเหอจะไม่มีวันลืมเลือน" เจ้าเมืองชิงเหอประสานมือคารวะอย่างสุดซึ้ง "นับจากนี้ไป เมืองชิงเหอของข้าขอประกาศตนเป็นพันธมิตรที่ภักดีที่สุดของท่านและเมืองจินไห่! ไม่ว่าราชสำนักจะมีคำสั่งใดๆ มาอีก เราก็จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างท่าน!""ท่านเจ้าเมืองกล่าวหนักไปแล้ว" เถี่ย อ้าวเทียนประสานมือตอบ "ท่านต่างหากที่ได้แสดงให้ข้าเห็นถึงความกล้าหาญและคว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-07
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 13 กองทัพที่ไม่เต็มใจ

คลื่นสะท้อนจากการกระทำของเถี่ย อ้าวเทียนที่เมืองชิงเหอ ได้ย้อนกลับไปกระแทกราชสำนักที่เมืองหลวงอย่างรุนแรงและรวดเร็วยิ่งกว่าที่ใครจะคาดคิดณ ตำหนักบูรพา บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยเสียงดนตรีและการร่ายรำ บัดนี้กลับเงียบสงัดราวกับป่าช้า มีเพียงเสียงวัตถุที่ถูกขว้างปาจนแตกกระจายดังขึ้นเป็นระยะๆ ขันทีและนางกำนัลทุกคนต่างคุกเข่าตัวสั่นงันงกอยู่ตามมุมห้อง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง"อ๊ากกกก! ไอ้สุนัขเถี่ย อ้าวเทียน! ข้าจะฆ่ามัน! ข้าจะฉีกร่างมันออกเป็นหมื่นๆ ชิ้น!"องค์รัชทายาทกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูจนน่ากลัว ดวงตาแดงก่ำจ้องเขม็งไปยังร่างของบุรุษผู้หนึ่งที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น...จ้าวอู๋จี๋"ของขวัญ" ที่เถี่ย อ้าวเทียนส่งกลับมานั้น ได้สร้างบาดแผลที่ลึกที่สุดให้แก่ศักดิ์ศรีขององค์รัชทายาท ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเขาไม่เพียงแต่จะพ่ายแพ้ยับเยิน แต่ยังถูกทำลายวรยุทธ์และตัดเส้นเอ็นจนกลายเป็นเพียงเศษเนื้อที่ไร้ค่า ไม่สามารถแม้แต่จะหยิบจับอาวุธได้อีกตลอดชีวิต นี่ไม่ใช่แค่การตบหน้า แต่เป็นการเหยียบย่ำเกียรติยศของเขาลงไปจมดิน!"รัชทายาท
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-07
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 14 สุสานพยัคฆ์คำราม

ณ ช่องเขาพยัคฆ์คำราม หุบเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องความคับแคบและอันตรายที่สุดบนเส้นทางสู่เมืองจินไห่...สองฟากฝั่งของหุบเขาคือหน้าผาสูงชันที่ตั้งตระหง่านราวกับกำแพงธรรมชาติขนาดมหึมา บีบให้เส้นทางเดินทัพเบื้องล่างเหลือเพียงทางสายแคบๆ ที่คดเคี้ยวไปมาราวกับลำตัวของอสรพิษยักษ์ สายลมพัดหวีดหวิวผ่านซอกหิน เกิดเป็นเสียงก้องกังวานน่าสะพรึงกลัวสมกับชื่อของมัน บรรยากาศที่นี่เงียบสงัดและเยียบเย็นจนน่าขนลุก แต่ภายใต้ความเงียบนั้น กลับมีไอสังหารอันหนาแน่นซ่อนเร้นอยู่ทุกอณูบนไหล่เขาที่รกทึบไปด้วยป่าไม้ ร่างของทหารม้าในชุดเกราะเบาสีดำกว่าห้าพันนายซุ่มซ่อนอยู่ราวกับฝูงพยัคฆ์ที่หมอบรอตะครุบเหยื่อ พวกเขาคือหน่วยทหารม้าเร็วที่เก่งกาจที่สุดของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬ ทุกนายล้วนนิ่งสงบไม่ไหวติงราวกับรูปสลักหิน แม้แต่เสียงหายใจก็ยังแผ่วเบาและพร้อมเพรียงกันราวกับเป็นคนคนเดียว สายตาของพวกเขาจับจ้องลงไปยังเส้นทางเบื้องล่างด้วยความเย็นชาและไร้ความปรานีอู่ เลี่ย นอนราบอยู่กับพื้นหิน ณ จุดที่สูงสุดของหน้าผา เขามองดูกองทัพพันธมิตรที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในหุบเขาด้วยสายตาที่ดูแคลน "ฮึ่ม! ไอ้พวกหนูสกปรกนี่มันเดินทัพกันได้น่าสมเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 15 ผลสะท้อนแห่งความพ่ายแพ้

ท้องพระโรงที่เคยโอ่อ่าและเปี่ยมด้วยอำนาจ บัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นตลาดสดที่เต็มไปด้วยความโกลาหล และความขัดแย้งอย่างสมบูรณ์แบบ ข่าวร้ายสองสายที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ความพ่ายแพ้ย่อยยับที่ช่องเขาพยัคฆ์คำราม และการล่มสลายของแนวป้องกันสุดท้ายด่านชิงเฟิงที่ชายแดนทางเหนือ ได้ทำลายสติสัมปชัญญะของทุกคนในที่นั้นจนหมดสิ้นเสียงตะโกนอย่างเสียสติขององค์รัชทายาทที่ต้องการจะนำทัพไปล้างแค้นเถี่ย อ้าวเทียน ยังไม่ทันจะจางหายไปดี ก็ถูกกลบด้วยเสียงร่ำไห้ของทหารม้าเร็วจากแดนเหนือที่เพิ่งนำข่าวร้ายมาแจ้ง"เจ้า...ว่า...อะ...ไร...นะ?"เสียงของฮ่องเต้ขาดห้วงไปราวกับคนใกล้จะสิ้นใจ ร่างของพระองค์โงนเงนไปมาบนบัลลังก์มังกรจนเหล่าขันทีต้องรีบเข้ามาประคอง แววตาของพระองค์เบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกสุดขีดราวกับเพิ่งถูกปลุกขึ้นมาจากฝันร้าย"แนวป้องกันที่ทุ่งราบด่านชิงเฟิงแตกพ่ายรึ!" องค์รัชทายาททวนคำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง "จะเป็นไปได้อย่างไร นั่นคือแนวป้องกันสุดท้ายแล้วนะ กองกำลังผสมจากหลายหัวเมืองที่นั่นมีกำลังพลเกือบห้าหมื่นนายไม่ใช่รึ""ทูลองค์รัชทายาท!" ทหารม้าเร็วจากแดนเหนือผู้นั้นกล่าวทั้งน้ำตา "เป็นความจริงพ่ะย่ะค่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 16 บัลลังก์ใต้คมดาบ

เจ็ดวันที่ยาวนานราวกับเจ็ดปี...นับตั้งแต่วันที่ข่าวร้ายสองสายถาโถมเข้ามาทำลายขวัญกำลังใจของราชสำนักจนหมดสิ้น บรรยากาศทั่วทั้งเมืองหลวงต้าหลงก็พลันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันไม่ใช่ความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เป็นความสิ้นหวังที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของผู้คนอย่างช้าๆ ราวกับยาพิษที่ออกฤทธิ์อย่างเชื่องช้าแต่แน่นอนภายในท้องพระโรงที่เคยโอ่อ่าและเปี่ยมด้วยอำนาจ บัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นเวทีแห่งการถกเถียงอันไร้ประโยชน์ที่ดำเนินซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกๆ วัน เหล่าขุนนางยังคงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและทุ่มเถียงกันด้วยหัวข้อเดิมๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่กลับไม่มีแผนการที่เป็นรูปธรรมใดๆ ถูกเสนอขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย"ฝ่าบาท! เราจะรอช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!" อาจารย์เฒ่ายังคงคุกเข่าวิงวอนเช่นทุกวัน "โปรดส่งราชสาส์นไปขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพเถี่ยเถิด! นี่คือความหวังสุดท้ายของพวกเราแล้ว""ข้าบอกแล้วอย่างไรเล่าว่าข้าไม่ยอม!" องค์รัชทายาทก็ยังคงตะคอกกลับด้วยเหตุผลเดิมๆ "เกียรติของราชวงศ์สำคัญกว่าชีวิต การไปก้มหัวให้ไอ้กบฏนั่น สู้เรายอมตายอย่างสมศักดิ์ศรีเสียยังจะดีกว่า""แต่ชีวิตของราษฎรเล่าพ่ะย่ะค่ะ!""ฝ่า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 17 ทางเลือกสุดท้าย

ณ ค่ายทหารชั่วคราวนอกเมืองไท่หยวน บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความสิ้นหวังจากการพ่ายแพ้ บัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบสงัดอันน่าหวาดหวั่น เหล่าเจ้าเมืองและแม่ทัพนายกองที่รอดชีวิตจากการรบที่ช่องเขาพยัคฆ์คำราม ต่างนั่งรวมกันอยู่ในกระโจมบัญชาการที่ใหญ่ที่สุดด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่าราวกับคนไร้วิญญาณข่าวการล่มสลายของเมืองหลวงและการยอมจำนนที่น่าอัปยศของราชวงศ์ได้เดินทางมาถึงพวกเขาแล้ว มันไม่ได้สร้างความโกรธแค้น...เพราะความโกรธแค้นทั้งหมดได้ถูกใช้ไปกับการพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพพยัคฆ์ทมิฬแล้ว...แต่มันกลับสร้างความรู้สึกว่างเปล่าและอับจนหนทางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแผ่นดินที่พวกเขาเคยภักดี ราชวงศ์ที่พวกเขาเคยรับใช้ บัดนี้ได้กลายเป็นเพียงอดีตไปแล้ว"แล้ว...แล้วตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันต่อไป" เจ้าเมืองจางแห่งเมืองหย่งชวนเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ น้ำเสียงของเขาแหบพร่าและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง "ราชวงศ์ล่มสลายแล้ว พวกเรา...ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กกำพร้าที่ไร้ซึ่งผู้ใดให้พึ่งพิง""ท่านยังจะอาลัยอาวรณ์อะไรกับราชวงศ์ขี้ขลาดนั่นอีก!" เจ้าเมืองหลิวแห่งเมืองหลิงซานตวาดลั่น แม้ในน้ำเสียงจะเต็มไปด้วยโทสะ แต่แววตา
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 18 มหานทีสู่จินไห่

ประวัติศาสตร์ของแคว้นต้าหลงจะต้องจารึกภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้ไว้ตลอดกาล...ภาพของมหานทีแห่งชีวิตที่ไหลบ่าจากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ มันไม่ใช่สายน้ำที่เกิดจากธรรมชาติ แต่เป็นสายธารที่ประกอบขึ้นจากผู้คนนับแสนชีวิตที่กำลังเดินทางอพยพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาขบวนผู้อพยพยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา คดเคี้ยวไปตามเส้นทางธุรกันดารราวกับมังกรไร้สิ้นสุด ขบวนนั้นประกอบไปด้วยทหารผู้พ่ายทัพที่ยังคงมีแววตาของนักรบซ่อนอยู่ภายใต้ความอิดโรย, เหล่าราษฎรผู้สูญสิ้นบ้านเกิดเมืองนอนที่อุ้มลูกจูงหลานเดินทางด้วยเท้าเปล่า, และกองคาราวานเกวียนที่บรรทุกเสบียงและทรัพย์สินทั้งหมดที่พวกเขาสามารถขนย้ายมาได้ เสียงล้อเกวียนที่บดเบียดกับพื้นดิน เสียงร้องไห้ของทารก และเสียงฝีเท้าของคนนับแสน ผสมปนเปกันจนกลายเป็นเสียงหึ่งๆ ที่น่าเวทนาและเปี่ยมด้วยความหวังในเวลาเดียวกันพวกเขาละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง...บ้านเกิด...ทรัพย์สมบัติ...และอดีต...เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายเพียงแห่งเดียว...เมืองจินไห่...ปราการสุดท้ายแห่งความหวังทว่าเส้นทางสู่ความหวังนั้นหาได้ราบรื่นไม่...ห่างออกไปทางทิศเหนือหลายร้อยลี้ ณ ป่าทึบริมแม่น้ำเหลื
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 19 ปราการแห่งความหวัง

เมืองจินไห่ที่เคยเป็นเพียงเมืองท่าอันมั่งคั่งและสงบสุข บัดนี้ได้แปรเปลี่ยนโฉมหน้าไปโดยสิ้นเชิง มันได้กลายเป็นมหานครแห่งความหวัง...เป็นที่มั่นสุดท้ายของแผ่นดินต้าหลงที่ยังคงยืนหยัดท้าทายอำนาจของผู้รุกรานภาพของผู้คนนับแสนที่หลั่งไหลเข้ามาในเมืองสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ทุ่งราบโล่งกว้างที่เคยใช้เป็นลานฝึกทหาร บัดนี้ได้ถูกแปรสภาพเป็นค่ายพักพิงชั่วคราวขนาดมหึมา กระโจมนับหมื่นหลังถูกกางขึ้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ควันไฟจากโรงครัวขนาดใหญ่ที่ถูกจัดตั้งขึ้นลอยกรุ่นขึ้นสู่ท้องฟ้าตลอดทั้งวันทั้งคืน เสียงพูดคุยโหวกเหวกของผู้คนจากต่างถิ่น เสียงร้องไห้ของทารก และเสียงค้อนตอกไม้ที่กำลังเร่งสร้างที่พักเพิ่มเติม ผสมปนเปกันจนกลายเป็นเสียงแห่งชีวิตที่อึกทึกแต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังภายในค่ายทหารเองก็คึกคักไม่แพ้กัน เหล่าทหารจากหัวเมืองต่างๆ ที่อพยพเข้ามา ถูกจัดระเบียบและนำไปรวมกับกองทัพพยัคฆ์ทมิฬอย่างรวดเร็ว ลานฝึกทหารทุกแห่งเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องและเสียงอาวุธกระทบกันขณะที่พวกเขากำลังเร่งฝึกซ้อมและปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการรบที่เข้มข้นของกองทัพจินไห่ทว่าภายใต้ภาพความวุ่น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 20 วายุหึงหวง

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน...ณ เมืองหลวงต้าหลง บรรยากาศที่เคยโอ่อ่าและเปี่ยมด้วยเกียรติยศ บัดนี้ได้ถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาและกลิ่นอายป่าเถื่อนของเหล่าทหารเป่ยหมันที่ยึดครองเมือง ธงมังกรสีเหลืองทองของราชวงศ์ต้าหลงถูกปลดลงจากทุกสารทิศ ถูกแทนที่ด้วยธงหมาป่าสีดำทมิฬของแคว้นเป่ยหมันที่ปลิวสะบัดอย่างหยิ่งผยองราวกับกำลังเยาะเย้ยความพ่ายแพ้ของเจ้าของดินแดนเดิมภายในท้องพระโรงที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน บัดนี้แม่ทัพใหญ่ฮาหลันซิวกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรด้วยท่าทีที่สบายอารมณ์ เขายกจอกสุราขึ้นจิบพลางมองดูเหล่าขุนนางต้าหลงที่คุกเข่าตัวสั่นอยู่เบื้องล่างด้วยสายตาที่ดูแคลน"เรียนท่านแม่ทัพใหญ่" สายลับผู้หนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน "สายข่าวของเราจากแดนใต้ส่งข่าวมาขอรับ...ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น""หืม?" ฮาหลันซิวเลิกคิ้ว "เรื่องอะไรที่น่าสนใจไปกว่าการรอให้พวกเจ้าเมืองขี้ขลาดนั่นยอมจำนนอีกเล่า?""คือว่า...พวกมัน...พวกมันไม่ได้ยอมจำนนขอรับ มีแต่เมืองผิงหยางเท่านั้นที่ยอมจำนนแก่เรา" สายลับกล่าวเสียงสั่น "เจ้าเมืองทางใต้เกือบทั้งหมด...กำลังอพยพผู้คนและกำลังทหารทั้งหมดมุ่งห
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-12-09
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
12345
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status