การเริ่มต้นรักษา 'Stockholm syndrome' ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างผู้ถูกกระทำและผู้กระทำมากกว่าจะมองแค่อาการเพียงอย่างเดียว วิธีที่ฉันมักแนะนำให้คนเข้าใจคือแบ่งงานออกเป็นขั้นสั้น ๆ ที่จับต้องได้: ด้านความปลอดภัย ด้านจิตใจ และด้านสังคม
ความปลอดภัยหมายถึงการตรวจสอบว่าคนคนนั้นยังอยู่กับผู้ที่ทำร้ายหรือ
พ้นจากสภาพแวดล้อมนั้นแล้ว หากยังอยู่ ความช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น บริการแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือที่พักชั่วคราวต้องเป็นลำดับแรก ส่วนด้านจิตใจเริ่มจากการให้ความรู้ว่าอาการหลงรักหรือเห็นใจผู้กระทำเป็นกลไกการเอาตัวรอด ไม่ใช่ความบกพร่องของตัวเอง เทคนิคการบำบัดที่มีหลักฐานรองรับ เช่น การบำบัดจิตเวชเชิงบาดแผลและการบำบัดด้วยการเล่าเรื่อง จะช่วยให้เปลี่ยนมุมมองต่อเหตุการณ์ได้
สิ่งสำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์เชิงบำบัดที่มั่นคง คนที่มีภาวะนี้มักจะมีความสับสนเรื่องความผูกพันและความไว้วางใจ การทำงานร่วมกันอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยนักบำบัดที่เข้าใจการถูกจับตัวหรือการใช้ความรุนแรงแบบครอบครัว เป็นกุญแจช่วยให้คนค่อย ๆ แยกความรู้สึกกับผู้กระทำออกจากการประเมินเหตุการณ์จริง การให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ เช่น ทักษะจัดการอารมณ์และการตั้งขอบเขต ช่วยให้คนเริ่มฟื้นฟูชีวิตได้จริงจัง โดยเฉพาะในกรณีผู้รอดชีวิตจากการจับตัวหรือเหตุการณ์การถูกครอบงำชั่วคราว กระบวนการต้องใช้ความอดทนและการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน