Stockholm Syndrome คือสัญญาณใดที่บ่งชี้ในความสัมพันธ์เชิงลบ?

2025-11-10 06:40:36 243

3 Answers

Cole
Cole
2025-11-14 14:55:09
สัญญาณหนึ่งที่ชัดเจนของ 'stockholm syndrome' ในความสัมพันธ์เชิงลบคือการที่คนถูกทำร้ายปกป้องผู้ทำร้ายเหมือนเป็นข้ออ้างให้พฤติกรรมนั้นคงอยู่。

เมื่อการปกป้องเปลี่ยนไปเป็นการแก้ตัวแทนความจริง ตัวฉันเริ่มสังเกตว่าคนๆ นั้นจะพูดว่าเหตุการณ์รุนแรงเป็นความผิดของตัวเอง หรือเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรจะทำให้คนอื่นทำคะแนนเช่นนี้ หลายครั้งฉันเห็นการตีความเหตุการณ์ด้วยมุมมองของผู้ทำร้าย มากกว่าจะมองความปลอดภัยของตัวเอง สัญญาณอื่นที่ฉันพบคือความกลัวออกจากความสัมพันธ์ แม้จะมีโอกาสช่วยเหลือและพยานเห็นชัดว่าความรุนแรงเกิดขึ้น เหตุผลที่ให้ฟังมักเป็นการสูญเสียสิ่งที่ดีเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตร่วมกัน หรือความเชื่อว่าถ้าอภัยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

ประสบการณ์ส่วนตัวสอนให้รู้ว่าการยอมรับคำพูดซ้ำๆ ของผู้ทำร้าย เช่น 'ฉันรักเธอแต่ทำแบบนี้เพราะ...' เป็นสีธงที่ต้องระวัง เมื่อคนคนหนึ่งเริ่มเห็นความสัมพันธ์ว่าเป็นแหล่งความปลอดภัย ทั้งๆ ที่ความปลอดภัยถูกทำลาย นั่นคือการเกิดพันธะทางอารมณ์ที่เจ็บปวด เกิดการบิดเบือนความทรงจำและการคำนวณความเสี่ยง ฉันมักแนะนำให้มองหาความเห็นจากคนนอกที่เชื่อถือได้ และตั้งคำถามกับเหตุผลที่ทำให้ต้องอยู่ต่อ เพราะเราไม่ควรยึดติดกับความทุกข์ที่ถูกอธิบายว่าเป็นรักเสมอ
Claire
Claire
2025-11-15 18:48:12
คำพูดที่ดูสับสนสามารถเป็นสัญญาณเตือนสำคัญได้ และฉันมักสังเกตจากน้ำเสียงและการเลือกคำพูดของผู้ถูกกระทำมากกว่าการกระทำเพียงอย่างเดียว

เมื่อคนคนนั้นเริ่มพูดว่าตัวเองรู้สึกติดกับผู้ทำร้าย ทั้งๆ ที่มักมีการข่มขู่หรือบังคับ เทคนิคที่ฉันใช้คือถามตัวเองว่าเหตุผลเหล่านั้นมาจากความกลัวหรือจากความรักจริงๆ บ่อยครั้งคำพูดจะมีลักษณะเปลี่ยนความผิดเป็นความคาดหวัง เช่น "ถ้าฉันปรับปรุงตัวได้ เขาจะรักฉันมากขึ้น" ซึ่งเป็นการผูกติดตัวตนเข้ากับการยอมรับจากผู้ทำร้าย

ฉันมองเห็นภาพของความสัมพันธ์แบบนี้ในฉากเอนกประสงค์ของเกมอย่าง 'The Last of Us' ที่บางจังหวะความผูกพันเกิดขึ้นจากการพึ่งพาซึ่งกันและกันในสถานการณ์รุนแรง แม้สื่อจะจับมิติบางอย่างเป็นความอบอุ่น แต่มันก็เปิดช่องให้เข้าใจว่าพันธะแบบทารุณสามารถถูกมองว่าเป็นความปลอดภัยได้ นี่เป็นการเตือนให้ระวังคำพูดที่ทำให้คนตัดสินใจอยู่ต่อ ทั้งที่ความเป็นอยู่กำลังถอยลงอย่างชัดเจน
Braxton
Braxton
2025-11-15 18:54:35
การปฏิบัติตัวที่ต่อต้านการหนีเป็นอีกสัญญาณที่ฉันพบบ่อย เมื่อคนที่ถูกกระทำเริ่มทำงานหนักเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของผู้ร้าย คนรอบข้างมักจะมองไม่เห็นความผิดปกติทันที เพราะการกระทำเหล่านั้นถูกห่อหุ้มด้วยคำพูดที่ให้เหตุผลได้ง่าย เช่น "เขาเครียด" หรือ "เป็นเพราะฉันทำให้เขาโกรธ"

ตัวฉันชอบแยกสัญญาณเป็นข้อสั้นๆ เพื่อให้จำได้ง่าย:
- อ้างเหตุผลแทนการยอมรับว่าถูกทำร้าย
- กลัวโซเชียลหรือตัดการติดต่อคนที่อยากช่วย
- เปลี่ยนความรู้สึกผิดมาเป็นการรับผิดชอบทุกอย่าง
- พยายามให้เหตุผลกับพฤติกรรมที่ชัดเจนว่ารุนแรง
- มีความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่เข้มข้นกับผู้ทำร้ายจนยากจะตัดสินใจจากมุมมองอื่น

ตัวอย่างจากสื่อที่ฉันนึกถึงคือฉากที่ตัวละครยังคงเชื่อฟังคนที่ทำร้ายใน 'Death Note' เพราะหวังผลลัพธ์ที่ตัวเองเชื่อว่า "ถูก" ซึ่งสะท้อนปฏิกิริยาทางจิตใจแบบเดียวกับชีวิตจริง การเห็นรูปแบบเหล่านี้ช่วยให้ฉันแยกแยะและพูดคุยกับคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้นได้ง่ายขึ้น
View All Answers
Scan code to download App

Related Books

คลั่งรักเมียแต่ง
คลั่งรักเมียแต่ง
"ฉันบอกแล้วไงถ้าไม่มีถุงยางอนามัยฉันไม่ให้" "จะอะไรนักหนา" ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิดเมื่อเธอพยายามหนีบขาไว้ "การที่ผู้หญิงเขาปฏิเสธไม่ให้สด นั่นเพราะเขากลัวเชื้อโรคที่คุณรับมาจากผู้หญิงคนอื่น!" "ไม่เคยสดกับใครสักหน่อย"
9.9
160 Chapters
เล่ห์รักพายุร้าย(20+)
เล่ห์รักพายุร้าย(20+)
เขาลวงเธอเพื่อหวังเพียงร่างกาย แลกกับข้อเสนอเป็นแฟนปลอม ๆ ของเธอ ความผูกพันธ์ทางกายเปลี่ยนเป็นความผูกพันธ์ทางใจ อุปสรรคในรักครั้งนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกของคนสองคน แต่คือเขาที่กลายเป็นคนมีพันธะขึ้นมา จากคำสั่งให้แต่งงานของคนเป็นพ่อ นิยายในเซตเดียวกัน อ่านแยกกันได้ค่ะ 1.วิศวะร้อนรัก เพลิง&ปิ่นมุก 2.วิศวะลวงรักร้าย คิณ&ขวัญตา 3.วิศวะร้ายพลาดรัก เสือ&มะปราง 4.เล่ห์รักพายุร้าย พายุ&ลินดา
10
51 Chapters
จะหยุดเสือเหยื่อต้องเด็ด
จะหยุดเสือเหยื่อต้องเด็ด
"อือ" เสียงครางดังออกมาเล็กน้อย "น้ำเยอะเลยนะเรา" ริมฝีปากหนากระซิบพูดใกล้ก่อนที่จะฝังจูบลงซอกคอระหง ที่เขาบอกว่าน้ำเยอะเพราะตอนนี้นิ้วเปรอะไปด้วยน้ำในร่องเล็กนั่น ใบหน้าคมไซร้ต่ำลงมาจนถึงร่องหน้าอกแล้วก็ดูด วันจันทร์ยังคงปล่อยให้เขาเชยชมเรือนร่างของเธอถึงแม้จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชควาสนา เธอก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงที่เขาเรียกมาใช้บริการ ไม่สิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขายังเรียกมาแต่กับเธอเป็นคนมาหาเขาถึงที่เอง หญิงสาวที่กำลังคิดอะไรอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกเขาจับมือไปกำส่วนนั้นที่มันกำลังแข็ง วันจันทร์แอบวัดขนาดของมันดู..ไม่อยากคิดเลยถ้ามันเข้ามาอยู่ในร่างกายแล้วเธอจะรับไหวไหม "นั่งทับมันลงมาสิ" "ที่นี่เหรอคะ" ถ้ามันสว่างหน่อยคงเห็นหน้าตาที่ตื่นกลัวของเธอ เธอจะเสียสิ่งที่หวงแหนมา 20 กว่าปีให้เขาที่แบบนี้จริงๆ เหรอ "ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก" "คือ..ฉัน.." "อย่าบอกนะว่าเธอยังไม่พร้อม แต่ที่เห็นนี่คือพร้อมมากแล้วนะ" ถึงแม้เขาจะดูเถื่อน แต่ไม่เคยขืนใจผู้หญิงที่ไหน ผู้หญิงส่วนมากจะเต็มใจเป็นของเขาเองทั้งนั้น
10
200 Chapters
บอสฮั่ว พี่ชายทั้งสิบของคุณผู้หญิงเร่งให้หย่าอีกแล้วนะ
บอสฮั่ว พี่ชายทั้งสิบของคุณผู้หญิงเร่งให้หย่าอีกแล้วนะ
จ้าวซีซีได้แต่งงานกับผู้สืบทอดตระกูลเศรษฐีอย่างไม่คาดคิด และวันที่ตรวจเจอว่าตั้งครรภ์เธอก็ได้รับข้อตกลงการหย่าร้างการยึดครองเรือนหอของเศรษฐีจอมปลอมอย่างเธอกับแม่สามีที่แสนรังเกียจเธอผู้ไร้อิทธิพลและอำนาจแต่แล้วชายหนุ่มที่หล่อเหลาและร่ำรวยหกคนก็ล่วงหล่นลงมาจากฝากฟ้า หนึ่งในนั้นเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเขายืนกรานที่จะมอบคฤหาสน์หลังใหญ่ให้เธอหลายร้อยหลังอีกคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ AI ที่จะมอบรถยนต์หรูไร้คนขับรุ่นลิมิเต็ดให้เธออีกคนเป็นศัลยแพทย์ยอดฝีมือที่อยู่บ้านทำอาหารให้เธอทุกวันอีกคนเป็นนักเปียโนผู้มากพรสวรรค์ที่เล่นเปียโนให้เธอฟังทุกวันอีกคนเป็นยอดนักทนายที่จะเป็นคนกวาดล้างเหล่าแฟนคลับแอนตี้ทั้งหมดให้เธอและอีกคนเป็นราชาภาพยนตร์ ที่ประกาศออกสาธารณะว่าเธอต่างหากที่เป็นรักแท้เศรษฐีจอมปลอมโอ้อวด “คนเหล่านี้ล้วนเป็นพี่ชายของฉันเองค่ะ”พี่ชายทั้งหกค้านขึ้นพร้อมกัน “ผิดแล้วล่ะ ซีซีต่างหากที่เป็นคุณหนูมหาเศรษฐีตัวจริง”เธอเลี้ยงลูกคนเดียวอย่างงดงามและเพลิดเพลินไปกับพี่ชายสุดหล่อหกคนที่เอ็นดูเธออย่างไร้ขีดจำกัด แต่แล้วผู้ชายบางคนกลับอิจฉาตาร้อน “ซีซี เรามาแต่งงานกันอีกครั้งได้ไหม?”ริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอยกยิ้มน้อย ๆ “งั้นคุณต้องถามพี่ชายทั้งหกคนของฉันแล้วล่ะว่าตกลงหรือเปล่า?”แล้วก็มีชายหนุ่มรูปงามอีกสี่คนจากฟากฟ้าล่วงหล่นลงมา “ผิดแล้ว ควรจะเป็นสิบคนต่างหาก!”
8.7
315 Chapters
คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
เดิมทีเขาคือนายน้อยแห่งแดนมังกร ที่มีมรดกมหาศาลทว่าสี่ปีของการย้ายเข้าไปอยู่ในครอบครัวของภรรยา เขาจำต้องปกปิดสถานะทางสังคม เขาทั้งโดนข่มเหงรังแกและถูกมองด้วยความดูถูกอย่างไรก็ตาม เพื่อลูกสาวและภรรยาแล้ว เขาจำต้องกลับไปยังแดนมังกรมา เพื่อรับมรดกทุกอย่างเพราะครั้งหนึ่งเคยสัญญากับหล่อนว่าจะหล่อนต้องมีชีวิตที่ร่ำรวย ณ ตอนนี้ แม้แต่โลกทั้งใบก็ให้หล่อนได้
9.2
945 Chapters
หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน
หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน
หลังจากนางในดวงใจในใจของเขาเสียชีวิต เจียงวั่งโจวก็เกลียดชังข้ามาสิบปี ข้าพยายามทำดีทุกวิถีทาง ทว่าเขากลับหัวเราะเย็นชา “หากเจ้าอยากเอาใจข้าจริง ก็ไปตายเสียดีกว่า” ความเจ็บปวดแล่นปราดเข้าสู่หัวใจ แต่ในขณะคานเรือนที่ลุกไหมกำลังจะหล่นทับข้า เขากลับยอมตายเพื่อช่วยชีวิตข้าไว้ ก่อนตาย เขาที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของข้า ได้ใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายปัดมือข้าที่สัมผัสตัวเขาออก “ซ่งจือเสวี่ย หากชั่วชีวิตนี้ข้าไม่เคยได้พบเจ้า จะดีเพียงใด...” ในพิธีศพ มารดาเจียงร่ำไห้จนพูดไม่เป็นคำ “วั่งโจว เป็นความผิดของแม่เอง ตอนนี้ไม่ควรบังคับให้เจ้าแต่งกับนาง หากตอนนั้นแม่ยอมตามใจเจ้า ให้เจ้าได้แต่งกับกู้หว่านเหอ จุดจบในวันนี้จะแตกต่างออกไปหรือไม่” บิดาเจียงจ้องมองข้าอย่างเคียดแค้น “วั่งโจวช่วยชีวิตเจ้าถึงสามครั้ง เหตุใดเจ้ามีแต่นำเคราะห์กรรมมาให้เขา! เหตุใดคนที่ตายจึงไม่ใช่เจ้า!” ทุกคนต่างเสียใจที่เจียงวั่งโจวแต่งงานกับข้า แม้แต่ตัวข้าเองก็เช่นกัน สุดท้าย ข้าจึงทิ้งกายจากยอดหอเด็ดดารา...แล้วหวนกลับมาเมื่อสิบปีก่อน ในครานี้ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะตัดขาดวาสนาทั้งหมดที่มีต่อเจียงวั่งโจว เพื่อทำให้ความปรารถนาของทุกคนเป็นจริง
9.4
9 Chapters

Related Questions

Stockholm Syndrome คือพฤติกรรมอย่างไรเมื่อเหยื่อพัฒนาความผูกพันกับผู้กักขัง?

3 Answers2025-11-10 15:14:26
ความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างเหยื่อกับผู้กักขังมักเป็นกลไกเอาตัวรอดที่ซับซ้อนมากกว่าความรักแบบที่คนทั่วไปคิด. ฉันมองว่ามันเป็นการผนึกกันของความกลัว การพึ่งพา และการตีความเหตุการณ์ใหม่ให้เข้ากับบริบทที่เอื้อประโยชน์ต่อการอยู่รอดของตัวเอง อธิบายสั้น ๆ นะ — พฤติกรรมนี้มักเริ่มจากการแยกเหยื่อออกจากโลกภายนอก ทำให้ข้อมูลเชิงบวกและเชิงลบจากผู้กักขังมีน้ำหนักไม่เท่ากัน เมื่อผู้กักขังแสดงความอ่อนโยนเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงเวลาที่เหลือเต็มไปด้วยความรุนแรง เหยื่ออาจจดจำการกระทำเหล่านั้นเป็นความเมตตา และเริ่มมองว่าผู้กักขังคือคนเดียวที่ให้ชีวิตหรือความปลอดภัยได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจรวมถึงการปกป้องผู้กักขังเมื่อถูกช่วยเหลือ ปฏิเสธที่จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หรือแม้แต่การเข้าร่วมกิจกรรมของฝ่ายผู้กักขังเอง เหตุการณ์ของแพ็ตตี้ เฮิร์สต์ (Patty Hearst) เป็นตัวอย่างประวัติศาสตร์ที่ชวนถกเถียง—เธอแสดงพฤติกรรมที่ผู้คนตีความว่าเป็นการสนับสนุนผู้จับกุมหลังจากถูกกักขังเป็นเวลานาน. ในการช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะแบบนี้ จำเป็นต้องเน้นการสร้างความปลอดภัย ฟังแบบไม่ตัดสิน และใช้แนวทางกายภาพและจิตใจทั้งระบบเพื่อค่อย ๆ ฟื้นฟูความไว้วางใจและการตัดสินใจอิสระของเขา

Stockholm Syndrome คือมีตัวอย่างคดีจริงหรือเรื่องเล่าที่คนไทยรู้จักไหม?

3 Answers2025-11-10 03:51:01
ดิฉันมักจะนึกถึงกรณีของแพ็ตตี้ เฮิร์สต์เสมอเมื่อพูดถึง 'Stockholm syndrome' — เรื่องราวของผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวในสหรัฐฯ แล้วต่อมาดูเหมือนจะเข้าข้างกลุ่มผู้ลักพาตัวเองมากจนสังคมงงว่ามันเป็นการเปลี่ยนใจหรือความอยู่รอดทางจิตใจ เหตุการณ์ของแพ็ตตี้เป็นตัวอย่างคลาสสิกที่คนไทยมักได้ยินผ่านสารคดีหรือบทความแปล: เธอถูกจับเป็นตัวประกันโดยกลุ่มหัวรุนแรง กลายเป็นหน้าตาของขบวนการนั่น และท้ายสุดถูกจับกุมพร้อมกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ระหว่างความกลัว การถูกควบคุม และความพยายามที่จะปรับตัวให้รอด นี่ไม่ใช่เรื่องของความรักแบบนิยาย แต่เป็นกลไกทางจิตใจที่ทำงานในสถานการณ์ที่คนหนึ่งแทบไม่มีทางเลือก เมื่อคิดถึงภาพรวม ดิฉันเห็นว่าคนไทยรู้จักคำนี้ผ่านข่าวต่างประเทศและภาพยนตร์สารคดีมากกว่าจะมีคดีไทยที่ถูกติดป้ายชัดเจนว่าเป็น 'Stockholm syndrome' ในชีวิตจริง หลายครั้งสื่อบ้านเราเอาคำนี้ไปใช้กับกรณีที่คนถูกควบคุมทางความคิดหรืออยู่ใต้การครอบงำของผู้อื่น ทั้งในเรื่องความรุนแรงในครอบครัวหรือการชักนำเข้าคลับลัทธิ ดังนั้นการใช้คำนี้จึงต้องระวังไม่ให้กลายเป็นฉลากง่ายๆ แต่ถ้าดูให้ลึกมันช่วยเตือนว่าเส้นแบ่งระหว่างความยินยอมและการบังคับนั้นบางและซับซ้อนจริงๆ

Stockholm Syndrome คือปรากฏการณ์แบบไหนที่มักถูกนำเสนอในหนังหรือซีรีส์?

3 Answers2025-11-10 07:27:28
เคยมีฉากในหนังที่ทำให้ฉันหยุดคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถูกจองจำกับผู้กักขังนานเป็นวัน ๆ — มันไม่ใช่เพียงชั้นของความรักแบบโรแมนติก แต่เป็นการเอาตัวรอดของจิตใจที่ถูกย่อลงจนต้องหาแสงสว่างจากใครสักคนที่ยังคงมีอำนาจเหนือชีวิตเขา ฉากประเภทนี้มักถูกใส่ชื่อว่า 'Stockholm syndrome' ในบทวิจารณ์และบทสนทนา โดยภาพจำในหนังมักเล่าเป็นสองแบบหลัก: แบบที่เห็นความผูกพันค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจากความกลัวร่วมและการพึ่งพาซึ่งกันและกัน กับแบบที่เน้นการบิดเบือนจิตใจจนเหยื่อเริ่มยอมรับและปกป้องผู้กระทำ เช่น ในฉากที่ความสงบแปลกประหลาดเกิดขึ้นระหว่างตัวประกันกับผู้ปล้นจากหนังอย่าง 'Dog Day Afternoon' ความสัมพันธ์นั้นไม่น่ารักเลย แต่เป็นกลไกทางจิตที่ซับซ้อน ผมมองว่าการนำเสนอเรื่องนี้ในงานสร้างสรรค์มักจะผสมปนเประหว่างข้อเท็จจริงทางจิตวิทยากับนิยายเพื่อเพิ่มความเข้มข้น แง่มุมทางวิทยาศาสตร์ เช่น 'identification with the aggressor' หรือการสร้างสายสัมพันธ์จากการพึ่งพาและการแลกเปลี่ยนทรัพยากร มักถูกย่อให้กลายเป็นฉากรักเพราะสะดวกต่อการสร้างอารมณ์ แต่หนังที่ทำได้ละเอียดจริง ๆ อย่าง 'Room' กลับเลือกฉายให้เห็นผลกระทบทางยาวของการจองจำ ทั้งความซับซ้อนของความรัก ความผิดหวัง และการฟื้นฟูตัวตน การชมฉากแบบนี้จึงทำให้ฉันคิดถึงความรับผิดชอบของผู้สร้างในการไม่ทำให้ความทุกข์กลายเป็นเรื่องหวานอมขมกลืน เพราะท้ายที่สุดสิ่งที่น่าสนใจคือการเข้าใจว่ามนุษย์สามารถปรับตัวต่อการกดขี่ได้อย่างไร มากกว่าจะฉวยโอกาสทำให้มันกลายเป็นเรื่องโรแมนติก

Stockholm Syndrome คือสาเหตุทางจิตวิทยาอะไรที่ทำให้เกิดในเหยื่อ?

3 Answers2025-11-10 02:11:00
เราเคยทึ่งกับวิธีที่บางคนสามารถผูกพันกับผู้กระทำความร้ายได้จนดูเหมือนขัดกับตรรกะ แต่นั่นคือแก่นของปรากฏการณ์นี้: สมองกำลังตั้งโปรแกรมเพื่อให้รอด ถ้าจะอธิบายแบบเข้าใจง่าย ฉันเห็นว่าเหตุผลหลักเริ่มจากความกลัวและการพึ่งพาอย่างสุดโต่ง เมื่อชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง การตอบสนองทางอารมณ์จะย้ายจากการต่อต้านเป็นการประเมินว่าควรทำอย่างไรให้รอด ซึ่งมักทำให้เหยื่ออ่านการกระทำของผู้กระทำในมุมบวกหรือพยายามอธิบายว่าเขาไม่ร้ายทั้งหมด กระบวนการนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยการเสริมแบบไม่สม่ำเสมอ—บางครั้งมีความเมตตาเล็กน้อย บางครั้งมีการทำร้าย ซึ่งสร้างความหวังและยึดเหนี่ยวใจอย่างที่พฤติกรรมศาสตร์เรียกว่า intermittent reinforcement สิ่งที่ยิ่งซับซ้อนคือการทำงานร่วมกันของความโดดเดี่ยว การควบคุมข้อมูล และความเหนื่อยล้าทางจิต เมื่อถูกแยกจากเครือข่ายสนับสนุน เหยื่อไม่มีมาตรวัดความเป็นจริง ภายใต้ความเครียดระดับสูง ฮอร์โมนความเครียดจะเปลี่ยนการจดจำและการตัดสินใจ ทำให้ความทรงจำของช่วงที่เจ็บปวดถูกเบลอหรือถูกแทนที่ด้วยความทรงจำของช่วงที่รู้สึกปลอดภัยเล็กน้อย การยอมรับหรือเห็นอกเห็นใจผู้กระทำจึงกลายเป็นกลไกเอาตัวรอด มากกว่าการเห็นใจแบบเลือกได้—มันคือการรักษาชีวิต และนั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์แปลกประหลาดแต่เข้าใจได้เหมือนในฉากที่ชัดเจนของ 'The Shawshank Redemption' ที่ตัวละครเรียนรู้จะยึดติดกับสภาพแวดล้อมแม้มันจะทำร้ายเขา สุดท้ายแล้ว ฉันมองว่าการเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ทำให้เรามองเหยื่อด้วยความเห็นใจมากขึ้น ไม่ใช่การตัดสินว่าเขาโง่หรือยอมเท่านั้น

Stockholm Syndrome คือรักษาได้อย่างไรและควรเริ่มด้วยวิธีใด?

3 Answers2025-11-10 03:53:22
การรักษา 'Stockholm syndrome' ต้องเริ่มจากการทำให้คนคนนั้นปลอดภัยก่อนเสมอ การอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ที่มีการคุกคามหรือการจับตัวทำให้สมองปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดได้หลายแบบ หนึ่งในนั้นคือการเห็นความเมตตาหรือความใกล้ชิดจากฝ่ายที่ทำร้าย ตัวกลางที่ควรเริ่มคือการจัดการสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพาออกจากพื้นที่เสี่ยง การติดต่อสายด่วนช่วยเหลือ หรือการเข้าไปอยู่ในที่พักพิงที่มีการดูแลด้านกฎหมายและการแพทย์ ในประสบการณ์ที่ผมได้คุยกับคนที่ผ่านการถูกกักขังหรือความรุนแรงในบ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเปลี่ยนแรกที่ทำให้คนเริ่มเปิดรับการรักษาแบบจริงจัง หลังจากความปลอดภัยถูกประกันแล้ว ขั้นต่อมาที่มักได้ผลคือการให้ความรู้เรื่องอาการและปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด ร่วมกับการสร้างพันธะความไว้วางใจระหว่างผู้รับการรักษากับผู้ให้การรักษา วิธีการบำบัดที่มักนำมาใช้ได้ผลได้แก่ การบำบัดด้วยการโฟกัสที่บาดแผล เช่น เทคนิคการประมวลบาดแผล (trauma-focused CBT), EMDR และการเยียวยาด้านความสัมพันธ์ การเยียวยาแบบค่อยเป็นค่อยไปที่ให้คนได้ฝึกทักษะควบคุมอารมณ์ สร้างกรอบความคิดใหม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ และค่อย ๆ แยกความสัมพันธ์เชิงพึ่งพาออกจากอิทธิพลของผู้กระทำ มียาจัดการอาการร่วม เช่น ยาต้านซึมเศร้าสำหรับภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลแพทย์ การกลับสู่สังคมและการเชื่อมสัมพันธ์ที่ปลอดภัยเป็นงานระยะยาว การเข้ากลุ่มผู้รอดชีวิตหรือการได้รับการสนับสนุนจากคนใกล้ชิดช่วยสร้างจุดอ้างอิงใหม่ให้กับตัวตน ในมุมมองส่วนตัวแล้ว การรักษาที่ได้ผลคือการผสมผสานระหว่างการประกันความปลอดภัย การให้ข้อมูลเชิงการรักษา การฟื้นฟูทักษะชีวิตประจำวัน และพื้นที่ที่คนสามารถทบทวนความสัมพันธ์ในอดีตได้อย่างไม่ถูกเร่ง ผลลัพธ์อาจไม่ตรงไปตรงมา แต่มีความหวังเสมอและคนมักกลับมามีชีวิตที่มีความหมายอีกครั้ง
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status