ดูอนิเมะจีน

ความลับนางฟ้าสุดเซ็กซี่
ความลับนางฟ้าสุดเซ็กซี่
"ฮึ่ย เจ็บจัง~" ภายใต้แสงไฟจากด้านบนที่สว่างจ้า ชายคนนั้นให้ฉันนอนคว่ำหน้าบนเตียง จากด้านหลัง เขาค่อยๆ ออกแรงกดเอว ในขณะที่กำลังมองหาจุดที่เหมาะสมที่สุด แต่ฉันรู้สึกผิดปกติมาก อดไม่ได้ที่จะอุทานและขอให้เขาหยุด แต่ที่น่าประหลาดใจคือ เขาไม่ได้หยุด แต่ยังคว้าเข็มขัดของฉันอย่างแรงอีกด้วย
6 บท
หมอร้ายคลั่งรัก ยัยแฟนเก่า
หมอร้ายคลั่งรัก ยัยแฟนเก่า
วันที่เธอทุ่มเทรักให้เขา คุณหมอเย็นชาคนนั้น รักที่เคยถูกเขาทิ้งขว้าง ไม่สนใจ และไม่เคยให้ความสำคัญ ผ่านไปหลายปี เธอกับเขากลับมาอีกครั้ง เขานั้นยังรักเธออยู่เต็มหัวใจ แต่เธอยังจมอยู่กับความเจ็บปวดในอดีต ครั้งนี้เป็นเขา ที่ต้องเดินหน้า เติมเชื้อไฟให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง... “ปล่อยนะคุณหมอ ฉันเจ็บนะ คุณทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ” “ไม่มีกฎหายข้อไหน ที่จะห้ามผัวคุยกับเมีย” “หุบปากนะ! คุณพูดบ้าอะไรน่ะ อย่ามาคุกคามกันนะ ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ อ๊ะ! เอาคืนมานะ!” “ปล่อย!” “ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บ ทางที่ดีอยู่เฉย ๆ แล้วมานั่งคุยกันดี ๆ เถอะ จะได้ไม่เจ็บตัว ถ้าคุณดิ้นมากกว่านี้ ผมไม่รับรองนะว่า จะทำมากกว่าลากคุณมาที่นี่” คนหนึ่ง ยังรู้สึกเข็ด และไม่อยากเจ็บปวดกับความรัก….. อีกคนก็รุกเต็มที่ เพื่ออยากขอโอกาส เพียงแค่รักเธออีกครั้ง…. ที่สุดแล้ว หมอติณณ์จะสามารถจุดถ่านไฟเก่าครั้งนี้ขึ้นมาได้อีกไหม ฝากติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ ไปพร้อม ๆ กัน ด้วยนะคะ
10
98 บท
ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย
ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย
"ลืมตาอีกทีฉันดันทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดซะงั้น" บทนำ "จิวฉิง" หญิงสาวที่ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อการดำรงชีวิตให้ผ่านไปได้แต่ละวันก็ต้องมาพบเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด เมื่อนางได้ทะลุมิติไปอยู่ในร่างของฮูหยินผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงโหดร้าย เพราะนางได้เลี้ยงดูแลบุตรแฝดของบุรุษที่นางรัก แถมเด็กๆนั้นก็เป็นบุตรของเพื่อนรักของนางเช่นกัน แต่เมื่อนางทำเช่นไรก็ไม่เคยได้หัวใจของเขานางจึงได้ทำร้ายรังแกเด็กเพราะเวลาเห็นใบหน้าของเด็กๆนั้นก็พลอยให้นางได้เห็นเพื่อนรักของนางเช่นกัน แต่เมื่อจิวฉิงเข้ามาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ นางจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างนางจะเป็นมารดาที่ดีรักและดูแลเด็กๆอย่างดี จุดประสงค์ที่นางทำเช่นนั้นเพราะต้องรอคอยเวลากลับโลกของตนเอง เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลินางจะได้หวนกลับอีกครั้ง จากนี้ไปนางจึงอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่ทว่าก็ไม่ได้เป็นเช่นดั่งที่นางคาดหวังเพราะ สตรีอีกนางที่แอบรักเหิงเยว์ได้เข้ามาก่อกวนเพื่อกำจัดนาง
10
39 บท
 รักสุดหวงของคุณหมอสุดโหด
รักสุดหวงของคุณหมอสุดโหด
“ข่วนได้แต่ห้ามกัด เพราะจะกระตุ้นให้ฉันคลั่งมากกว่าเดิม ไม่อยากเจ็บตัวก็…อย่ากระตุ้น” คนหนึ่งที่แอบรักเขามาโดยตลอด แต่เพราะฐานะเพียงเด็กในบ้าน ความคิดนี้...เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะคิด เขา....ที่หลงรอยยิ้มแรกของเธอ แต่ก็เป็นเพราะเขาอีกนั่นเอง ที่ทำให้รอยยิ้มนั้นของเธอ หายไป.... วันนี้ เขาอยากได้รอยยิ้มนั้นคืนมา ไม่สิ.... เขาอยากได้ทั้งหมด ทั้งรอยยิ้ม และตัวเธอ เขาไม่มีทางยอมปล่อยเธอไป และเขาต้องได้ครอบครองทั้งหมด..... “เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้างพูดมาสิ” “ม่ะ…ไม่ค่ะ ไม่ได้ยินอะไรเลย” “โกหก เธอได้ยินแน่ ๆ” “อาย….คุณเจษคะ อายขอโทษอายจะไม่พูดค่ะ อายจะ…ว๊าย!!”
คะแนนไม่เพียงพอ
42 บท
นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง
นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง
’มู่หนิงชิง‘จารชนระดับเพชรและนักจารกรรมมือฉกาจ มีความสามารถพิเศษตั้งแต่เกิด ที่บังเอิญได้หยกโบราณอายุนับพันปีมาครอบครอง ตื่นมาก็พบว่าตนทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กสาวที่ครอบครัวอัตคัดขัดสน น้องทั้งสองคนผอมโซจนน่าสงสาร ขณะกำลังทำงานสร้างตัว จู่ๆก็มีท่านอ๋องจอมกวนเข้ามาพัวพันในชีวิต ตามติดนางหนึบ แถมร่างนี้ยังมีความลับซ่อนไว้! ปริศนาที่ต้องหาคำตอบรอนางอยู่!
10
201 บท
เฮียครามคนโหด
เฮียครามคนโหด
ยั่วเก่งฉิบหาย สักวันกูจะจับกระแทกเอาให้เดินไม่ได้ไปสักสามสี่วัน !
10
279 บท

นักเขียนแฟนฟิคมักเขียนบุคลิกของนางในให้เป็นแบบใด?

4 คำตอบ2025-10-05 02:50:00

ชอบนางในที่ถูกเขียนให้มีหลายชั้นจนทำให้ฉันอยากเกาะติดผลงานนั้นต่อไปเรื่อย ๆ

ฉันมักเจอแฟนฟิคที่เลือกทำให้นางในกลายเป็นคนดีงามและใจดีสุดโต่งแบบที่ทุกคนรัก หรืออีกฝั่งหนึ่งคือการแต่งให้เธอเป็นคนเข้มแข็งจนแทบไม่มีรอยแตกเลย ทั้งสองแบบมีเหตุผลทางอารมณ์ของผู้เขียน: บางคนต้องการความอบอุ่นหลังวันหนัก ๆ จึงเขียนนางในเป็น 'ท่านแม่' ประเภทที่ให้อภัยได้หมด กลุ่มอื่นอยากเห็นการแก้แค้นหรือการเติบโต จึงปั้นนางในให้ผ่านบททดสอบและกลายเป็นฮีโร่

ตัวอย่างที่ฉันชอบคือการเอานางในจากผลงานคลาสสิกมาปรับให้มีข้อบกพร่องชัดเจน เช่น ทำให้เธอมีอดีตที่เจ็บปวดหรือความไม่มั่นคง เพื่อทำให้การพัฒนาตัวละครมีความหมายกว่าการเป็นคนดีเพอร์เฟ็กต์ เหตุผลนี้แหละที่แฟนฟิคหลายเรื่องลงเอยด้วยนางในที่ทั้งรักและหงุดหงิดได้ในเวลาเดียวกัน — ซึ่งทำให้การอ่านสนุกขึ้นและมีพื้นที่ให้คนอ่านร่วมอินไปกับการเติบโตของเธอ

บอล สูงต่ำ แตกต่างจากการแทงบอลแบบอื่นอย่างไร

4 คำตอบ2025-10-04 01:04:41

การแทงแบบสูงต่ำคือการวัดกันที่ภาพรวมของเกมมากกว่าจะเป็นเรื่องแพ้ชนะซึ่งทำให้มันแตกต่างสุดๆ จากการแทงแบบอื่น ๆ

ผมมักชอบมองสูงต่ำเหมือนการลงเดิมพันกับบรรยากาศเกม: ไม่ได้สนใจว่าใครจะชนะ แต่สนใจว่าทีมทั้งสองจะทำประตูรวมกันมากน้อยแค่ไหน นั่นต่างจากการเดิมพันแบบ '1X2' ที่โฟกัสผลลัพธ์สุดท้าย หรือแบบแฮนดิแคปที่ต้องชดเชยความเหนือ-ด้อยของทีม ซึ่งทั้งสองแบบนั้นเรียกร้องให้เราวิเคราะห์ตัวผู้เล่น แผนการเล่น และความได้เปรียบทางสถิติมากกว่า

อีกจุดที่ผมชอบคือความยืดหยุ่นของการแทงสูงต่ำในตลาดสด (live betting) — ถ้าเกมเปิดแลกกันดุดัน โอกาสสูงจะน่าสนใจ แต่ถ้าทั้งสองทีมเล่นรัดกุม ตลาดสูงต่ำจะชี้ให้เห็นโอกาสเดิมพันต่ำแทน ความเสี่ยงกับการจ่ายค่าตอบแทนก็มักจะต่างกับการเดิมพันทายผลตรงๆ เพราะอัตราต่อรองสะท้อนคาดการณ์จำนวนประตูโดยตรง ถ้ารู้จักบริหารทุนและอ่านเกมให้เป็น สูงต่ำกลายเป็นเครื่องมือที่สนุกและมีมิติไม่ซ้ำกับการเดิมพันแบบอื่น ๆ

ศีล 227 มีต้นกำเนิดและประวัติจากที่ใด

1 คำตอบ2025-09-13 18:47:39

ย้อนกลับไปในยุคสังคายนาพุทธครั้งแรก ความคิดเกี่ยวกับการมีระเบียบวินัยในคณะสงฆ์ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นข้อปฏิบัติจริงจังเพื่อรักษาความเป็นชุมชน นักบวชมีการรวบรวมกฎระเบียบไว้ในส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกที่เรียกว่า 'Vinaya Pitaka' ซึ่งภายในนั้นมีส่วนย่อยที่ชื่อว่า 'Pātimokkha' ซึ่งรวบรวมข้อกำหนดสำหรับภิกษุ ภายใต้แบบแผนของเถรวาทจำนวนข้อที่นิยมกันคือ 227 ข้อ—จึงมักเรียกกันว่า "ศีล 227" สำหรับพระสงฆ์ชาย การกำหนดข้อเหล่านี้มีต้นกำเนิดจากบริบทการปฏิบัติจริงในชุมชนสงฆ์สมัยพุทธกาล มักเป็นกฎที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมหรือเหตุการณ์ที่ทำให้คณะจับต้องไม่ได้ จึงต้องมีข้อกำหนดที่ชัดเจนขึ้นมาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความน่าเชื่อถือของผู้อุปสมบท

ความทรงจำในตำราและตำนานเล่าว่าในการสังคายนาครั้งแรกหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน นักบุญสำคัญอย่างอุปาลี (Upāli) รับหน้าที่ท่องระเบียบวินัย และเป็นผู้ถ่ายทอดเนื้อหาที่กลายมาเป็นแก่นของ 'Pātimokkha' ส่วนพระอนุรุทธะหรือพระอานนท์มีบทบาทในการท่องพระสูตรตามแบบเรื่องเล่าแบบดั้งเดิม ระหว่างศตวรรษต่อมามีการสังคายนาอีกหลายครั้งและการบันทึกด้วยลายลักษณ์อักษรเกิดขึ้นจริงครั้งสำคัญในศรีลังกาเมื่อประมาณศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล ทำให้ข้อปลีกย่อยในพระวินัยถูกบันทึกลงในพระไตรปิฎกแบบภาษาปาลี การบันทึกนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จำนวนข้อและการจัดลำดับของกฎต่างๆ ยืนหยัดมาได้จนถึงยุคหลัง

ต้องยอมรับว่าจำนวน 227 ข้อนั้นเป็นลักษณะเฉพาะของระบบวินัยแบบเถรวาท ในนิกายหรือสำนักวินัยอื่นๆ ในพุทธศาสนามหายานหรือมหาสังฆิกก็อาจมีการนับข้อแตกต่างกันไป เช่นในบางนิกายอาจมีการแยกหรือรวมข้อ ทำให้ตัวเลขเปลี่ยนได้ แต่สาระหลักคือการวางกรอบการประพฤติตัวของสงฆ์ ทั้งเรื่องความเป็นโสดาบัน การครองเพศ การจัดการทรัพย์สิน การพูดจา และการปฏิบัติต่อสังคมภายนอก การท่อง 'Pātimokkha' ยังเป็นพิธีที่ทำกันเป็นประจำในเทศกาลอุโบสถ เพื่อให้องค์รวมของคณะสงฆ์ได้ตรวจสอบบทบัญญัติและตักเตือนกันอย่างสม่ำเสมอ

ในฐานะคนที่เคยอ่านและคิดตามเรื่องนี้บ่อยๆ สิ่งที่ผมชอบคือความเป็นไปได้เชิงปฏิบัติของกฎเหล่านี้ มันไม่ได้เป็นข้อห้ามเชิงอภิปรัชญาแต่แรก แต่เกิดจากการสังเกต การประสบปัญหา และต้องการรักษาความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ปฏิบัติศาสนา ยิ่งเมื่อกฎเหล่านี้ถูกสืบทอดผ่านการสังคายนาและการบันทึก มันจึงกลายเป็นมรดกทางวินัยที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน ทำให้เราเห็นภาพของคณะสงฆ์พุทธโบราณที่พยายามปรับตัวและรักษาแก่นแท้ของการปฏิบัติไว้จนถึงวันนี้

การค้นหายอดนิยม เพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status