นี่เป็นหัวข้อที่นักวิเคราะห์มักจะหยิบมาพูดกันบ่อยเมื่อพูดถึง 'Lookism' และตัวละครฮยองซอก เพราะโครงเรื่องที่ให้ตัวเอกมีสองร่างกลายเป็นกรอบที่ชัดเจนในการสำรวจการแบ่งชั้นทางสังคมจากมุมมองของรูปลักษณ์และอำนาจ ผู้วิเคราะห์มักเน้นว่าการมีสองร่างไม่ได้เป็นแค่ลูกเล่นแฟนตาซี แต่เป็นเครื่องมือเชิงสังคมที่จับภาพความไม่เสมอภาคในชีวิตจริง: คนที่ดูดีได้รับโอกาสที่ต่างออกไป ถูกปฏิบัติแตกต่าง ถูกมองว่าเชื่อถือได้มากกว่า ในขณะที่คนที่ถูกตราหน้าต้องทนความรุนแรงทั้งทางกายและจิตใจ ฉากในโรงเรียน ที่ทำงาน หรือแม้แต่โลกใต้ดินที่ถูกเล่าในเรื่อง ถูกหยิบมาเป็นตัวอย่างของระบบที่ให้ค่ากับรูปลักษณ์และวางตำแหน่งคนตามความสวยงามและเงินทอง มากกว่าจะดูจากความดีจริงใจหรือความสามารถ
นักวิเคราะห์ยังชอบพูดถึงเรื่องการแสดงตัวตนและความเป็นอื่นในสังคม ผ่านการที่ฮยองซอกต้องใช้ชีวิตในร่างต่างกัน ทำให้เรื่องราวเปิดประเด็นว่าการยอมรับตัวเองกับการถูกยอมรับโดยสังคมไม่จำเป็นต้องไปด้วยกันเสมอ ความซับซ้อนของตัวละครรองหลายคน ซึ่งมีเบื้องหลังเป็นความยากจน ความรุนแรงในครอบครัว หรือการถูกบีบให้เลือกทางที่โหดร้าย ถูกยกมาใช้เพื่อชี้ว่าปัจจัยเชิงโครงสร้างผลักดันให้คนทำสิ่งที่สังคมตีตรา นักวิเคราะห์บางคนจะเชื่อมโยงประเด็นนี้กับเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นทุนรูปแบบหนึ่ง—ถ้าคุณมีหน้าตาที่ขายได้ คุณจะได้สิทธิพิเศษมากกว่า และนั่นทำให้การแก้ปัญหาเช่นการต่อต้านการรังแกหรือการแบ่งชนชั้นกลายเป็นเรื่องที่ต้องมองความไม่เป็นธรรมเชิงระบบ ไม่ใช่แค่ปรับทัศนคติของคนสองคน
ภาพของโซเชียลมีเดีย ยุคคลิกภาพออนไลน์ และการยกย่องคนดังที่ปรากฏในเรื่อง ก็เป็นอีกมุมที่นักวิเคราะห์ยกมา โดยมองว่า 'Lookism' สะท้อนยุคที่การตัดสินเร็วและการปฏิเสธปรากฏผ่านคอมเมนต์หรือไลค์ ซึ่งผลสะท้อนกลับทำให้ความรุนแรงดูเป็น
เรื่องธรรมดา ตัวอย่างความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปเมื่อสถานะหรือรูปลักษณ์เปลี่ยน ก็บ่งบอกว่าสังคมให้คุณค่าต่อหน้ากากมากกว่าจิตใจจริงๆ นักวิเคราะห์บางคนยังชมว่าเรื่องไม่ละเลยการให้อภัยและการเติบโตของตัวละครหลายคน ทำให้การวิจารณ์ทางสังคมไม่กลายเป็นการตัดสินเผด็จการ แต่กลับเปิดทางให้เห็นสาเหตุและทางออกในระดับมนุษย์ ฉันชอบมุมที่นักวิเคราะห์เน้นว่าผลงานไม่ได้สอนเพียงว่า "อย่าเป็นคนตัดสินจากรูปลักษณ์" แต่พยายามชวนให้มองโครงสร้างที่ผลักดันการตัดสินนั้น ผลสุดท้ายสำหรับฉันคือความรู้สึกทั้งเจ็บและ
ปลอบประโลมไปพร้อมกัน เพราะเรื่องพาเราเห็นความโหดร้ายของโลก แต่ก็ยังให้พื้นที่เล็กๆ สำหรับความเห็นอกเห็นใจและการเปลี่ยนแปลง