นี่คือมุมมองส่วนตัวของฉันต่อบทสรุปของ 'จะ
รักใครก็รักไป' ที่ทำหน้าที่เหมือนการคลายปมทุกชิ้นด้วยความอ่อนโยนแต่ไม่หวานจนเกินเหตุ: บทสรุปเลือกใช้ฉากสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยบทสนทนาเป็นเครื่องมือหลักในการเฉลยความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญ ๆ แทนการพึ่งพาฉากบรรยายยาว ๆ ทำให้ข้อมูลที่เคยถูกโยนทิ้งไว้ค่อย ๆ ถูกประกอบขึ้นทีละชิ้น เช่นที่มาของความ
ห่างเหินระหว่างตัวละครหลัก สาเหตุที่คนหนึ่งตัดสินใจจากไป และความลับในอดีตที่เคยเป็นแรงผลักดันให้ตัวละครบางคนทำตัวต่างไปจากที่คนอื่นคาดหวัง การเฉลยปมไม่ได้มาแบบช็อกหรือทิ้งจังหวะเกินไป แต่ใช้มุมมองย้อนกลับ (flashback) ประกอบกับ
คำสารภาพในเวลาที่เหมาะสม ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างถูกเรียงร้อยไว้ด้วยความตั้งใจ
ในแง่การพัฒนาตัวละคร ฉันคิดว่าบทสรุปให้ความสำคัญกับการชดเชยความเข้าใจผิดและการรับผิดชอบต่อผลกระทบของการกระทำมากกว่าการให้รางวัลโรแมนติกทันที ตัวละคร A ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเพราะอะไรเขาถึงทำสิ่งที่ทำ ส่วนตัวละคร B ได้พื้นที่ในการเผชิญหน้ากับบาดแผลที่ผ่านมา ซึ่งฉากการเผชิญหน้าระหว่างสองคนนี้เป็นจุดไคลแม็กซ์ที่ทำให้บทสรุปมีน้ำหนัก ทั้งยังมีฉากเล็ก ๆ เช่นจดหมายที่ถูกเก็บไว้หรือของสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เปิดเผยความจริงในช่วงท้าย ช่วยให้ความรู้สึกทั้งการปลงและการคลายปมเกิดขึ้นพร้อมกัน ฉันชอบวิธีที่ผู้เขียนไม่ได้พยายามอธิบายทุกอย่างจนหมดแต่เลือกให้อภัยและการเริ่มต้นใหม่เป็นทางออกสำหรับหลายปม ซึ่งทำให้มันรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าการจบแบบทุกอย่างสมบูรณ์แบบแบบนิทาน
บทสรุปยังคงรักษาความเห็นอกเห็นใจต่อทุกฝ่ายเอาไว้ แทนที่จะปล่อยให้ฝ่ายร้ายถูกตีตราอย่างชัดเจน มันแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจผิดพลาดอาจเกิดจากความกลัวหรือความตั้งใจดีที่สื่อสารผิด ฉันชอบการใช้ภาพประกอบและเพลงประกอบในฉากสำคัญที่ทำให้ความจริงที่ถูกเฉลยดูหนักแน่นขึ้น เช่นเดียวกับงานบางชิ้นอย่าง 'Anohana' ที่ใช้ความทรงจำเป็นตัวนำ หรือ 'Your Lie in April' ที่เล่นกับความเศร้าและการปลดปล่อย บทสรุปของ 'จะรักใครก็รักไป' ให้ความรู้สึกหวานอมขมกลืนและยังคงทิ้งช่องว่างบางส่วนให้ผู้ชมได้คิดต่อ แม้จะมีคำถามเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ตอบแบบตรงตัว แต่นั่นกลับทำให้ประสบการณ์การดูมีชีวิตชีวาและไม่รู้สึกถูกบังคับให้ยอมรับการจบแบบเรียบร้อยเกินไป
โดยรวมแล้วฉันมองว่าบทสรุปทำหน้าที่ได้ดีในฐานะการเฉลยปมสำคัญ มันให้ทั้งความชัดเจนและพื้นที่ให้คิดต่อ ผสมผสานความซับซ้อนของความสัมพันธ์กับความเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ เป็นตอนจบที่ทำให้ฉันได้ยิ้มและคิดถึงเรื่องราวของตัวละครต่อไปอีกนานหลังปิดจอ