เนื้อเรื่องของ 'มหรรณพ' ถูกวางให้เป็นการเดินทางสองด้านทั้งทางกายภาพและทางใจ ซึ่งฉันมองว่าเป็นหัวใจของเรื่องตั้งแต่หน้าแรกจนถึงบทสุดท้าย
จุดเริ่มต้นเล่าเรื่องโฟกัสไปที่ตัวเอกจากหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลที่ต้องออกเรือตามหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์คลื่น
มรณะและปะการังตายเป็นแถบ เรื่องดำเนินผ่านการสะสมเบาะแสทั้งแผนที่เก่า ปากคำชาวประมง และชิ้นส่วนซากเมืองใต้น้ำ จนพาไปถึงความขัดแย้งกับองค์กรที่ต้องการเอาทรัพยากรใต้ทะเลและกลุ่มผู้พิทักษ์ทะเลผู้เชื่อว่าทะเลกำลังตัดสินใจตอบโต้มนุษย์
จุดพลิกผันสำคัญที่ทำให้ฉันนั่งไม่ติดคือการเปิดเผยว่าแรงขับดันของตัวเอกได้รับการบงการจากความทรงจำที่ถูกปรับแต่ง—สิ่งที่คิดว่าเป็นมรดกของครอบครัวกลับกลายเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ยิ่งไปกว่านั้นมีการเปิดเผยทีหลังว่าทะเลในเรื่องไม่ใช่แค่ฉากหลัง แต่มีเจตจำนงบางอย่างที่สื่อผ่านสิ่งมีชีวิตใต้น้ำและภาพฝันซ้ำๆ ทำให้เหตุการณ์เดิมกลับถูกตีความใหม่ทั้งหมด การเปลี่ยนมุมมองครั้งนี้คล้ายกับความรู้สึกเวลาที่อ่านซ้ำแล้วเห็นเบาะแสกระจายอยู่ตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้ตอนกลางและตอนปลายมีความตึงเครียดแบบไม่คาดคิด ผลสรุปของเรื่องไม่ได้จบแบบขาว-ดำ แต่เปิดพื้นที่ให้ตั้งคำถามถึงการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และทะเล ซึ่งนั่นแหละทำให้ 'มหรรณพ' ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดฉันหลังจากปิดเล่มแล้ว