จินตนาการถึงโลกเพลงประกอบที่เปิดด้วยสายไวโอลินพราวระยับ แล้วค่อย ๆ ถูกเติมเต็มด้วยกลิ่นอายของทองคำและแก้วคริสตัล — นั่นแหละคือน้ำเสียงแรกที่ผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับเรื่องทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย ความหรูหราควรถูกถ่ายทอดผ่านออร์เคสตราเบา ๆ ที่มีฮาร์พ เสียงปิ๊กกีตาร์เล็ก ๆ และคีย์บอร์ดที่มีความใสเป็นประกาย เพื่อสร้างบรรยากาศของคฤหาสน์
งานเลี้ยง และชีวิตที่ถูกประดับประดาด้วยสิ่งสวยงาม แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีชั้นของเสียงอิเล็กทรอนิกส์หรือซินธ์แปะไว้ด้านหลังเพื่อเตือนว่ามีความแปลกใหม่และเวทมนตร์ของการทะลุมิติอยู่ข้างใน เสียงธีมหลักควรเริ่มจากเมโลดี้เรียบง่ายที่สามารถพัฒนาเป็นซาวด์สเกปกว้างใหญ่เมื่อเรื่องราวก้าวหน้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวละคร
แนวทางการใช้มอตีฟ (motif) มีความสำคัญมากในการบอกเล่าเรื่องราวภายในเพลงประกอบ เห็นได้ชัดเวลาที่ตัวเอกยังคงเป็นคนธรรมดา มอตีฟอาจเล่นด้วยเปียโนและไวโอลินอย่างเรียบง่าย เมื่อทะลุมิติและสวมบทเป็นสาวผู้ร่ำรวย มอตีฟนั้นค่อย ๆ ขยายด้วยเครื่องทองเหลือง เบลนด์กับคอรัสเล็ก ๆ เพื่อให้รู้สึกถึงพลังและตำแหน่งทางสังคม ส่วนมุมของความขัดแย้งภายในหรือความเหงาของตัวละครควรใช้กลุ่มเสียงต่ำ เช่น เชลโล่ ซินธ์แพ็ดบาง ๆ หรือกลองทอมที่มีจังหวะกระชับ เพื่อสร้างแรงดันทางอารมณ์ บทเพลงบรรยากาศสั้น ๆ ระหว่างซีนสำคัญ ๆ จะช่วยให้ผู้ชมรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือช่วงเวลาที่ต้องใส่ใจกับความเปลี่ยนแปลงทางใจของตัวเอก
การแบ่งสไตล์ของเพลงในแต่ละประเภทฉากทำให้ซีรีส์มีความหลากหลายและไม่จำเจ ช่วงซีนงานเลี้ยงหรือแฟชั่นโชว์เหมาะกับจังหวะป็อป-เลานจ์ผสมอิเล็กโทร-สวิง ที่มีเบสเด่นและโฮโลกราฟฟิคซาวด์เพื่อแสดงถึงความจี๊ดจ้าของสังคมสูง ส่วนซีนโรแมนติกนุ่ม ๆ ควรหันไปหาบัลลาดเปียโนกับสตริงนุ่ม สอดแทรกเสียงฮาร์มอนิกเซลเลสต้าเล็ก ๆ เพื่อให้ความรู้สึก “หรูแต่เปราะบาง” ด้านซีนคอมเมดี้หรือมุกจิกกัด ควรมีสไตล์แจ๊สฟังเล่น ๆ หรือใช้สตริงสั้น ๆ แบบสเน็ปเพื่อให้เกิดการคอนทราสต์และความขำแบบคลาสสิก ตัวอย่างการผสมแบบนี้จะทำให้นึกถึงความชาญฉลาดของเพลงประกอบใน 'Ouran High School Host Club' ที่สามารถสลับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและชาญฉลาด
เพลงเปิดและเพลงจบควรถ่ายทอดคาแรคเตอร์ของตัวเอกอย่างชัดเจน เปิด (OP) อาจเป็นเพลงป็อปบัลลาดที่มีพาร์ทร้องหญิงนำเสียงสูงแสดงถึงความมั่นใจผสมความใส ส่วนเพลงปิด (ED) ควรลงน้ำหนักที่ความคิดถึง ความเปลี่ยนแปลง และการยอมรับชีวิตใหม่ เลือกนักร้องที่เสียงมีลักษณะเป็นเกลียวอารมณ์—สามารถร้องพิธีกรแสดงความหรูหราได้แต่ยังคงความเปราะบางไว้ได้ในคราวเดียว หากต้องการมู้ดทันสมัยมากขึ้น สามารถใส่พาร์ทแร็ปสั้น ๆ ใน OP เพื่อเป็นเสียงบอกเล่าเรื่องราวภายในหัวตัวเอก ทำให้เพลงมีมิติและติดหูมากขึ้น
ท้ายที่สุด แนวทางซาวด์แทร็กนี้จะช่วยเน้นทั้งความยิ่งใหญ่และความเปราะบางของเรื่องราวทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวยได้อย่างลงตัว ในฐานะแฟนที่ชอบจับคู่ภาพกับเสียง ผมเชื่อว่าเมโลดี้ที่เรียบง่ายแต่พัฒนาไปเป็นออร์เคสตราที่ใหญ่ขึ้น จะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ฟังจดจำตัวละครและเรื่องราวไปได้อีกนาน