ชื่อ 'ยาจกซู' ทำให้ผมนึกถึงภาพของตัวละครที่มีรากจากนิทานพื้นบ้านมากกว่าจะเป็นนิยายเล่มเดียวที่มี
ผู้แต่งคนเดียว
ในมุมมองของคนที่ชอบอ่าน
ตำนานและเรื่องเล่าพื้นเมือง ผมมองว่า 'ยาจกซู' มักถูกจุดประกายมาจากตัวละครพื้นบ้านหรือเรื่องเล่าปากต่อปาก ซึ่งหมายความว่าไม่มีผู้แต่งที่แน่นอนแบบงานวรรณกรรมร่วมสมัย แต่มีการนำเนื้อหาไปปรับแต่งต่อเนื่องทั้งในละครเวที โอเปรา วรรณกรรมท้องถิ่น และสื่อภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทำให้ตัวตนของ 'ยาจกซู' เปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัยและภูมิภาค
สิ่งที่ผมชอบคือความยืดหยุ่นของตัวละครทำนองนี้—มันถูกนำไปเล่าใหม่ในหลากหลายรูปแบบ บางเวอร์ชันเน้นเชิงตลก บางเวอร์ชันเน้นดราม่า บางเวอร์ชันดัดแปลงเป็นฉากต่อสู้หรือเรื่องราวแนวกำลังภายใน ดังนั้นถาคุณถามว่าใครเป็นผู้แต่ง คำตอบเชิงประวัติศาสตร์คือไม่มีคนคนเดียว แต่ถามว่าเรื่องนี้มีผลงานอื่นอะไรบ้าง ก็สามารถหาได้จากบทละคร
เรื่องสั้นงานรวมเล่มและการดัดแปลงในหนังกับโทรทัศน์ ซึ่งแต่ละเวอร์ชันแทบจะเป็นผลงานใหม่ที่มีเอกลักษณ์ของผู้สร้างคนนั้น ๆ เหมือนการเห็นหน้ากากที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามรสนิยมของแต่ละยุค
ผมชอบคิดว่าการที่ไม่มีผู้แต่งตายตัวทำให้ 'ยาจกซู' มีชีวิตยืนยาวและมีความหลากหลายในการตีความ คนที่ชอบสำรวจเวอร์ชันต่าง ๆ จะพบว่าทุกเวอร์ชันสะท้อนค่านิยมและอารมณ์ของผู้สร้าง ณ ขณะนั้น ทำให้การตามหา "ต้นฉบับ" กลายเป็นการเดินทางที่น่าสนุกพอ ๆ กับการอ่านผลงานนั้นเอง