อีวอนน์อ้าปากด้วยความประหลาดใจ “คุณ...”"หยุดพูดได้แล้วน่า!" เฮนรี่บีบมือเธอด้วยกำลังที่มี “เดี๋ยวผมจะไปกับคุณเอง ทำไมคุณถึงดื้อนักล่ะ? เรารีบไปกันก่อนเถอะ!"เฮนรี่ลากเธอออกจากห้องของแจ็คเกอลีนระหว่างทางขึ้นชั้นบน อีวอนน์คอยจ้องมองที่มือของเธอซึ่งอยู่ถูกเฮนรี่คว้าเอาไว้ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับเผยยิ้มออกมาถ้ามีเฮนรี่อยู่ตรงหน้า สนามรบเธอก็จะไม่กลัว นับประสาการผ่าตัดบริจาคไขกระดูกถึงกระนั้น เธอก็ยังเข้าใจความจริงที่ว่าเฮนรี่ยังคงมีความรู้สึกกับแจ็คเกอลีนอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไร อีวอนน์ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เขาแต่งงานด้วย เนื่องจากเฮนรี่บอกแล้วว่าเขาจะไม่กลับไปคบกับแจ็คเกอลีน นั่นคือความมั่นใจทั้งหมดที่เธอต้องการตราบใดที่อีวอนน์สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ อีวอนน์เชื่อว่าท้ายที่สุดเฮนรี่จะเห็นเธออยู่ในสายตาสักวันหนึ่งแน่นอนระหว่างที่กำลังคิดเช่นนั้น อีวอนน์ก็เดินไปสวมชุดผ่าตัดและมานั่งลงบนเตียงผ่าตัด ภายใต้การดูแลของเฮนรี่ เธอถูกพยาบาลผลักเข้าไปในห้องผ่าตัดเชนอยู่เหนือศีรษะเธอ เขาสวมหน้ากากผ่าตัดอยู่ "คุณพร้อมไหม?"อีวอนน์สูดหายใจอย่างประหม่า “อ่า ฉั
“ไม่มีอะไรแล้วแหละครับ พักผ่อนเถอะ! เดี๋ยวผมไปดูอีกคนก่อน" เชนถอดหูฟังออกและกำลังจะจากไปแต่ทว่า จู่ ๆ แม่บ้านซูก็หยุดเขาไว้ “คุณหมอซัมเมอร์สคะ ถ้าขึ้นไปชั้นบน ได้โปรดอย่าลืมแจ้งคุณเฮนรี่ด้วยนะคะว่าภรรยาของเขาตื่นแล้ว ถ้าเขามีเวลามากพอที่จะดูแลคนอื่น ก็ช่วยบอกให้เขาลงมาเยี่ยมเธอด้วยนะคะ เขาควรจะรู้ว่าใครเป็นภรรยาตัวจริง" "แม่บ้านซูคะ!" อีวอนน์ไม่คิดเลยว่าแม่บ้านซูจะพูดอะไรแบบนั้นออกไป อีวอนน์รีบตะโกนเพื่อหยุดเธอ แต่ถึงกระนั้น แม่บ้านซูแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเธอและพูดกับเชนต่อ “เขาไปดูแลผู้หญิงคนอื่นแทนภรรยาของตัวเองได้ยังไงกัน? ในฐานะเพื่อนของเขา คุณควรเตือนเขาบ้างนะคะ คุณหมอซัมเมอร์ส!”เชนประหลาดใจกับคำพูดของแม่บ้านซู เขาขมวดคิ้ว “คุณกำลังพูดเหมือนกับว่าเฮนรี่ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมพี่สะใภ้เลยจนถึงตอนนี้อย่างนั้นแหละ" แม่บ้านซูบ่นอย่างไม่พอใจ “คุณผู้ชายสนใจผู้หญิงคนนั้นมากไปแล้ว เขาแทบจะลืมเรื่องคุณผู้หญิงไปแล้วมั้งคะ" ใบหน้าของเชนหม่นหมองลงไป “เข้าใจแล้วครับ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะบอกเขาเอง!”เขาตบไหล่แม่บ้านซูและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าเฮนรี่จะไม่ได้เก็บคำพูดเตือน
นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเฮนรี่มันเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดในการตัดสินว่าตระกูลคอนราดสามารถขึ้นเรือลำเดียวไปกับตระกูลแลงคาสเตอร์ได้รึเปล่าเชนก็จ้องไปที่เฮนรี่เช่นเดียวกันอันที่จริง เชนก็ต้องการทราบคำตอบของเฮนรี่เหมือนกันเฮนรี่จ้องตาทั้งสองอย่างเฉยเมย เขาขยับริมฝีปากและกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ทว่า กลับมีเงาร่างเล็กผุดขึ้นมาในจิตใจของเขา ความคิดนั้นยุ่งเหยิงมากเสียจนเขาคิดอะไรไม่ถูก มันก็รบกวนจิตใจเขาไม่น้อยใครกันนะ?“เฮนรี่?” โดมินิกอดไม่ได้ที่จะเรียกชื่ออีกครั้งทันทีที่เห็นเฮนรี่ก้มหน้าลง ดูเหมือนเขาจะจมอยู่ในความคิดของตัวเองแทนที่จะตอบคำถามเฮนรี่ขมวดคิ้วทันทีที่ถูกขัดจังหวะ เขากล่าวคำพูดออกมา "อะไรนะครับ?"“คำถามน่ะ คำถามที่ฉันถามไป...”“มันเป็นไปไม่ได้แล้วครับสำหรับเราทั้งสองคน” เฮนรี่ตอบคำถามทว่า คำตอบของเขาทำให้โดมินิกตกใจมากกว่าเดิมมันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว?เฮนรี่หมายความว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาคบกับแจ็คกี้อีกต่อไปแล้วแม้ว่าเขาจะยังมีความรู้สึกต่อเธออยู่งั้นเหรอ?ถ้าอย่างนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลคอนราดที่กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำกัน? หากตระกูลคอนราดไม่ได้รั
"หน้าคุ้น?" อีวอนน์ตกตะลึงโดมินิกยิ้มเศร้า ๆ “ใช่ คุณหน้าคล้ายกับใครคนหนึ่งที่ผมเคยรู้จักในอดีต ถ้าคนคนนั้นไม่ตาย ผมคงเข้าใจผิดคิดว่าคุณคือลูกสาวของเธอ...”โดมินิกรู้สึกประหลาดใจทันทีที่เดินเข้ามาผู้หญิงคนนี้มีความคล้ายคลึงกับแนนซี่จริง ๆดวงตาของเธอก็เหมือนกัน“เอ่อ... เธอคนนั้นเป็นใครเหรอคะ คุณคอนราด?” อีวอนน์กะพริบตาอย่างสงสัยและถามขึ้นเฮนรี่กัดริมฝีปากและจ้องมองโดมินิกอย่างจดจ่อ เห็นได้ชัดว่าเฮนรี่ก็อยากรู้คำตอบเช่นกันโดมินิกเพียงแค่ยักไหล่ “เธอคนนั้นเสียชีวิตไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วน่ะ ช่างมันเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหยิบยกอดีตขึ้นมาพูดหรอก”“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจ” อีวอนน์เข้าใจดี เธอสังเกตเห็นความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของชายตรงหน้า เธอมีลางสังหรณ์ว่าบุคคลนั้นน่าจะเป็นอดีตคนรักของเขาหรือไม่ก็เป็นญาติสนิทคนหนึ่ง“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย” โดมินิกมองดูนาฬิกา หลังจากนั้นเขาตบต้นขาแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันควรไปได้แล้วสินะ เฮนรี่”“ได้สิครับ” เฮนรี่ตอบอย่างเย็นชาเมื่อเห็นว่าเฮนรี่ไม่ได้ตั้งใจจะลุกออกไป โดมินิกก็ถอนหายใจดูเหมือนว่าทุกอย่างระหว่างเฮนรี่กับแจ็คกี้จะจบลงแล้
อีวอนน์นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่สิบห้า วันนี้เป็นวันเงินเดือนออกโดยปกติแล้ว แม่ของอีวอนน์มักจะโทรหาเธอแต่เช้าเพื่อขอเงิน“ดิฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ” แม่บ้านซูส่ายหน้าหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งอีวอนน์ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ แม่ของเธอมักจะยุ่งแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อยู่เสมอ ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่แม่จะไม่มาถามถึงเรื่องนี้เลย“โทรศัพท์ของฉันอยู่ไหน?” อีวอนน์หันศีรษะไปทางซ้ายและขวาพยายามมองหาโทรศัพท์ “นี่ค่ะ” แม่บ้านซูหยิบโทรศัพท์ของอีวอนน์ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงอีวอนน์ไม่สามารถลุกขึ้นได้ เธอทำได้เพียงแค่อยู่บนเตียงเท่านั้น โชคดีที่มือซ้ายของเธอยังใช้การได้ เธอยังเล่นโทรศัพท์ได้อยู่ แม้ว่าเธอจะรู้สึกเจ็บข้อมือเล็กน้อยเวลายกขึ้นมาก็ตามอีวอนน์ตรวจสอบประวัติการโทรซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอตกใจมากที่ไม่พบเบอร์ของแม่ตัวเองเลย“แปลกจังที่แม่ไม่โทรมาขอเงิน!" อีวอนน์ถือโทรศัพท์ด้วยมือสั่นคลอนแม่บ้านซูรับใช้เธอมาสามปีแล้ว เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของอีวอนน์ เธอหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของอีวอนน์ “ดิฉันว่ามันดีแล้วนะคะ คุณผู้หญิงจะได้อยู่อย่างสงบ ๆ สักที" “มัน
“ฉันเป็นผู้ดูแลจากห้อง 901 ชั้นบนค่ะ” คำตอบดังมาจากข้างนอกสีหน้าของอีวอนน์แข็งทื่อไป901 คือเลขห้องของแจ็คเกอลีนไม่ใช่หรือ?ผู้ดูแลของเธอมาตอนนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับแจ็คเกอลีนรึเปล่านะ?“สวัสดีค่ะ คุณต้องการอะไรจากคุณแลงคาสเตอร์เหรอคะ?” อีวอนน์ถามแล้วพูดต่อ “พอตอนนี้เขาหลับไปแล้ว มาหาเขาใหม่วันพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ" “ไม่ได้ค่ะ คุณแจ็คเกอลีน คอนราดเพิ่งตื่น เธอเอาแต่ถามหาคุณแลงคาสเตอร์ไม่หยุดเลย” ผู้ดูแลที่อยู่ข้างนอกส่งเสียงเป็นกังวลระหว่างที่อีวอนน์กำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา เธอตระหนักว่าชายที่อยู่ข้างกายได้ลืมตาขึ้นมาและลุกขึ้นนั่ง“เฮนรี่ คุณ...”“เดี๋ยวผมจะไปดูชั้นบนเอง” เฮนรี่พูดพร้อมสวมเสื้อผ้าอีวอนน์คว้าแขนของเขา เธอไม่อยากให้เขาไป “แต่ตอนนี้คุณดูเหนื่อยมากเลยนะ ทำไมคุณไม่ไปพรุ่งนี้ล่ะ?”“ไม่ได้ ถ้าผมไม่อยู่ แจ็คกี้จะไม่สบายใจ” เฮนรี่ดึงแขนออกจากอีวอนน์ทันทีอีวอนน์มองดูมือเปล่าที่ว่างเปล่าราวกับหัวใจของเธอในตอนนี้เฮนรี่เป็นห่วงแจ็คเกอลีนงั้นเหรอ?ทำไมเขาถึงไม่สนใจเธอแบบนี้บ้างล่ะ?อีวอนน์หรี่สายตาลงเพื่อปกปิดความผิดหวังในดวงตา "ก็ได้ แต่คืนนี้คุณยังคงกลับมาไหม?”เ
“ใช่ค่ะ คุณคอนราดบอกมาแบบนั้น” ผู้ดูแลตอบอย่างนอบน้อมด้วยการโค้งคำนับเล็กน้อย“กลับไปเถอะค่ะ” อีวอนน์เผยยิ้ม "คะ?" ผู้ดูแลรู้สึกสับสนเล็กน้อย“ฉันจะไม่ไปพบเธอ อีกอย่าง ฉันยังลุกจากเตียงไม่ได้ด้วย" อีวอนน์ยกแขนซ้ายที่ถูกเจาะสายน้ำเกลือให้เธอดูเธอไม่มีประเด็นอะไรที่จะไปพบกับแจ็คเกอลีนเลยพฤติกรรมของเธอจากการพบกันครั้งล่าสุดทำให้อีวอนน์รู้ซึ้งแล้วอีวอนน์รู้สึกว่าเธอควรรักษาระยะห่างจากผู้หญิงสองหน้าคนนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกใส่ร้ายในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำผู้ดูแลรู้สึกหงุดหงิดทันที เธอไม่คิดว่าอีวอนน์จะปฏิเสธเธออย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น “คุณเฟรย์คะ ฉันรู้ว่าคุณกำลังรู้สึกลำบากใจ แต่คุณคอนราดบอกว่าเธอต้องการพบคุณ มิฉะนั้น...""เดี๋ยวสิ!" แม่บ้านซูทนไม่ไหวแล้ว เธอขัดจังหวะผู้ดูแลด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “มิฉะนั้นอะไร? เธอคิดว่าคุณคอนราดสำคัญอยู่คนเดียวเหรอ? ทำไมคุณผู้หญิงของเธอจะต้องขอพบคุณผู้หญิงของฉันด้วยล่ะ?" อีวอนน์พยักหน้าเห็นด้วย“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ...” คนดูแลเกือบจะกล่าวคำพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก เธอโบกมือและอธิบาย “ฉันไม่ได้จะสื่อแบบนั้น ฉันแค่พูดในสิ่งที่คุณคอนราดบอกมาเท่านั้นเอง"
“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายบอกอะไรบ้างคะ?" แม่บ้านซูอดกังวลไม่ได้ เธอสังเกตเห็นสีหน้าของอีวอนน์เปลี่ยนไปอีวอนน์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “เขาบอกฉันว่าอย่ารังแกแจ็คเกอลีนอีก”“คุณแจ็คเกอลีนน่ะเหรอคะ?” แม่บ้านซูรู้สึกมึนงง “คุณผู้หญิง คุณได้ทำอะไรแบบนั้นรึเปล่า?”“ไม่เลย! ฉันจะไปรังแกหรือทำร้ายเธอทำไมกัน?! เธอนั้นแหละที่เป็นคนใส่ร้ายฉัน!”“แล้วทำไมคุณผู้ชายถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ?”“แจ็คเกอลีนโทรหาเฮนรี่ แจ็คเกอลีนบอกเฮนรี่ว่าเธอส่งผู้ดูแลมาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณอะไรสักอย่าง แล้วเธอก็แสร้งทำเป็นว่าถูกฉันไล่ นั่นเป็นเหตุผลที่เฮนรี่เตือนฉันว่าอย่ารังแกเธออีก” อีวอนน์โยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้าง เธอรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อยแม่บ้านซูตกตะลึงจนตบโต๊ะด้วยความโกรธอีกครั้ง “ช่างเป็นคนที่ไร้ยางอายอะไรขนาดนี้! เธอมาขอบคุณคุณผู้หญิงตอนไหนกัน?!”“นั่นไม่สำคัญหรอกค่ะ” อีวอนน์เช็ดใบหน้า “ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอจงใจบิดเบือนเรื่องราวและใส่ร้ายฉัน เฮนรี่เชื่อเธอ เขาไม่ได้ให้โอกาสฉันอธิบายเลยด้วยซ้ำ”“ให้ตายสิ! คุณผู้ชายทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?!” แม่บ้านซูถอนหายใจด้วยความไม่พอใจ“ช่างมันเถอะค่ะ ฉันเข้าใจ ท้ายที่สุดแ