ทั้งสองคนกอดกันอยู่พักใหญ่ กว่าที่หมิงหานจะหยุดร้องไห้ก็พักใหญ่ ตอนที่ผละออกจากกันหมิงหานหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าแดงจากร้องไห้ หรือแดงจากอาการเขินอายที่ตัวเองไปร้องไห้ต่อหน้าผู้หญิงก็ไม่อาจทราบ“ขะ เข้าบ้านกันเถอะ” หมิงหานที่กำลังแก้มแดงเหมือนมะเขือเทศสะกิดต้นแขนเซียนอวี่เบา ๆ เขาอยากจะเดินหนี แต่ก็เป็น
“พอได้แล้ว! ถ้ายังไม่หยุดเข้ามาวุ่นวาย ผมจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาจัดการนะ ปู่ ผมว่าปู่น่าจะเข้าใจดีกว่าใครไม่ใช่หรอครับ ตอนที่ย่าใหญ่อยากให้ตัดผมออกจากตระกูล ปู่เองก็น่าจะเห็นดีเห็นงามด้วย เพราะไม่อยากเลี้ยงคนไร้ประโยชน์แบบผมเอาไว้ใช่มั้ยล่ะ เอาจริง ๆ ผมรู้ตัวนะปู่ รู้มาตลอดว่าสิ่งที่เจออยู่ในบ้านตร
เธอยินดีมาก ๆ ที่จะอวดสามีของเธอ ก็นะ คนอะไรยิ่งโตก็ยิ่งหล่อ แถมช่วงนี้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง คงเพราะไม่ต้องออกไปทำงานตากแดดตากลมเหมือนเมื่อก่อนนั่นแหละเพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังสิ่งที่เซียนอวี่พูดกันอย่างตั้งใจ ประสบการณ์จากเมืองหลวงเชียวนะ พวกเขาจะไม่ฟังได้ยังไงกันล่ะ มีแต่เรื่องที่พวกเขาไ
หลังจากรับหนังสือ โรงเรียนก็ให้เวลาเด็ก ๆ เตรียมตัวก่อนเข้าเรียนหลายวัน เซียนอวี่และหมิงหานใช้เวลาอ่านและทบทวนบนเทียนในแต่ละเล่มกันแบบไม่รีบ แต่เดิมพวกเขาก็ใช้เวลาในการอ่านและทำความเข้าใจหนังสือกันทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้นกิจวัตรประจำวันของทั้งสองคนเลยไม่ได้ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่ใช้เวลาไม่นานก็ถึงวั
“หนิงหนิง เธอ...คิดว่ายังไง เรื่องของซ่งเซียนอวี่” ฟางเหม่ยแม้จะชิงชังเซียนอวี่แค่ไหน แต่เธอก็มักจะเป็นคนแรก ๆ ที่รู้ข่าวของเซียนอวี่และหมิงหานอยู่เสมอ“ฉันก็ยินดีกับทั้งสองคนนะ ถึงพี่จะไม่ต้องการฉัน แต่ฉันก็ยินดีกับพี่จริง ๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น ฉันก็ไม่กล้าไปสู้หน้าทั้งสองคนแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่เรื
หลังจากสมัครเรียนและจ่ายค่าเทอมเรียบร้อย เซียนอวี่และหมิงหานก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าเรียนแต่อย่างใด ทั้งสองคนรับหนังสือเรียนมาจากอาจารย์ ก่อนจะพากันออกไปเดินเล่นในตลาดเซียนอวี่พยายามมองหาช่องทางทำกินอื่นนอกจากการขายไข่ กิจการค้าไข่ของเธอก็ไม่ได้แย่ รายได้ก็ค่อนข้างดี ผลผลิตก็ขายหมดทุกวัน คนต้องการไ