ค้นหา
ห้องสมุด
หน้าหลัก / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 38 ตอบแทนบุญคุณ

บทที่ 38 ตอบแทนบุญคุณ

2025-06-23 18:02:56

“เจ้าไม่ดีใจหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

“เชอะ ข้าเลือกได้หรือ พวกเจ้าผู้ยิ่งใหญ่จะให้ข้าเป็นหรือตายมันก็ง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ ชีวิตของข้า ไม่ใช่ของข้าด้วยซ้ำ” 

“แล้ว หากว่าเจ้ามีโอกาสได้เลือกหนทางที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่เจ้าสามารถช่วยชีวิตของพี่น้องของเจ้าทั้งหมด เจ้าจะทำหรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

“หากมันช่วยได้ ต่อให้ต้องทำงานสกปรก ใครกันจะไม่ยินดี” อาหงว่า

“อืม ดี” หลี่เฟิ่งเซียนพยักหน้า

“เช่นนั้นข้าขอถาม เจ้าทำอะไรเป็นบ้าง สิ่งที่ถนัด หรือศิลปะ การแสดง ร้องเพลง สมัยที่อยู่ในร้านน้ำชาหรือหอนางโลม เจ้าได้เรียนรู้งานพวกนี้หรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

“ข้าถนัดทำให้ผู้ชายครวญครางหอบถี่” อาหงยิ้มมองอย่างเย้าแหย่

หลี่เฟิ่งเซียนขมวดคิ้ว รู้สึกเขินอายเล็กน้อย

“ฮ่าๆๆๆ ดูเจ้าทำหน้าเข้า ไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วหรือ เหตุใดพูดเรื่องเช่นนี้ยังจะทำเขินอาย เอ๊ะ หรือพวกเจ้ายังไม่ได้เข้าหอ!!” อาหงทำเป็นตกใจยกมือปิดปาก ใส่จริตเช่นสาวงามในหอโคมเขียว

“ไร้สาระ ..ข้า ข้าถามเรื่องของเจ้าอยู่นะ” หลี่เฟิ่งเซียนหน้าแดง ไม่ตอบก็เหมือนตอบ

“หึ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” อาหงยังหัวเราะต่อไป

“ตกลงเจ้าจะตอบข้าหรือไม่!” หลี่เฟิ่งเซียนทำเป็นโกรธเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย

“ได้ ข้าทำเป็นทุกอย่าง ทั้งดีดพิณ ร่ายรำ เย็บปัก ชงชาและวาดรูป”

“อะไรนะ เจ้าเป็นหมดนั่นเลยหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนตกใจอยู่บ้าง เพราะขนาดนางเป็นคุณหนูตระกูลขุนนาง ท่านย่าเชิญอาจารย์มาสอนบ่อยครั้ง แต่นางกลับทำเรื่องพวกนั้นไม่ได้เรื่อง สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ดียังเป็นการจับกระบี่ไล่ฆ่าโจร ทำท่านย่าร้องไห้ตั้งหลายครั้ง

“ข้าต้องเอาชีวิตรอดนะ ฝึกไม่ได้ข้าก็ถูกส่งไปนอนอ้าขาบนเรือให้พวกคนงานเหม็นเหงื่อรุมโทรมน่ะสิ” อาหงพูดยิ้มคล้ายเป็นเรื่องตลกที่นางไม่ใส่ใจ แต่หลี่เฟิ่งเซียนยามนี้เข้าใจดีว่าความจริงต้องดิ้นรนขนาดไหน

“ข้าขอฮ่องเต้ให้รับเจ้าเป็นสนม เพื่อจะได้ประกาศออกไปทั่วสารทิศว่าหญิงคณิกาไม่ได้ต้อยต่ำ เมื่อเจ้าเป็นสนมให้โอรสสวรรค์แล้ว ผู้คนจะเห็นว่าแม้แต่โอรสสวรรค์ก็ยังรับเจ้าเป็นภรรยา พี่น้องหญิงที่เคยทำงานในหอคณิกาเมื่อออกมาแล้วก็สามารถหางานทำได้ ไม่มีผู้ใดกล้าดูถูกพวกเจ้าอีก” หลี่เฟิ่งเซียนบอกอาหงในสิ่งที่นางตั้งใจจะทำ

“....!!” อาหงได้แต่ตกตะลึงพูดสิ่งใดไม่ออก

“เพียงแต่ หนทางในวังหลัง มันน่ากลัว ทุกข์ทรมานและโดดเดี่ยว ข้าไม่รู้ว่าเจ้ายังจะยินดีเดินไปบนเส้นทางนี้หรือไม่ หากเจ้ายินดี ข้าจะช่วยเต็มที่ สิ่งที่เจ้าทำจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของผู้คน เพื่อชีวิตของหญิงสาวที่ไร้ทางเลือกอีกมากจะได้ไม่ต้องถูก..ถ่วงน้ำ” 

“ข้ายินดี!!” อาหงตอบอย่างไม่ลังเล

“เจ้าแน่ใจหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนถามย้ำ

“เจ้าก็เห็นข้าในตรอกนั่น ในชีวิตที่เหลือของข้า ยังจะมีอะไรให้ต้องกลัวด้วยหรือ” 

“เจ้า..ไม่เสียใจหรือ จ้าวเหลียงกับเจ้า..” หลี่เฟิ่งเซียนพยายามหาคำอธิบาย

“เชอะ เจ้าเห็นข้าเป็นอะไร ข้ารังเกียจเจ้าเด็กนั่น เด็กนั่นก็ไม่ต่างจากผู้ชายหัวหงอกหัวดำคนอื่นๆ เห็นข้าแก้ผ้าก็กระสันอยากจะทิ่มใส่ข้า ไม่ว่าใครก็ไม่เห็นข้าเป็นคน ต่างมองด้วยสายตาที่ใช้มองหมูตัวเมีย ข้าขยะแขยง”

หลี่เฟิ่งเซียนพยักหน้าตอบ แม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูดเท่าไหร่

“ฮ่องเต้ก็เป็นผู้ชายนะ เป็นท่านอาของข้า รักข้ามาก ข้าก็เคารพเขา แต่เขา..เขาก็..” หลี่เฟิ่งเซียนอยากพูดว่าฮ่องเต้ก็ชอบมองผู้หญิงเป็นหมูตัวเมีย แต่ไม่กล้าพูดออกมา

“ข้าไม่รังเกียจที่จะขึ้นเตียงกับใครก็ตามที่สามารถช่วยให้ความต้องการของข้าสำเร็จ” อาหงพูดยิ้มๆ

“อ้อ ข้าเพียงเห็นว่าจ้าวเหลียงดูหลงใหลเจ้าไม่น้อย”

“เด็กน้อย เจ้าไม่รู้จักผู้ชาย ที่เด็กนั่นหลงใหลไม่ใช่ตัวข้า แต่เป็นลูกท้อตรงนี้ของข้าต่างหาก” อาหงพูด มือก็ลูบไปที่ตรงหว่างขา หลี่เฟิ่งเซียนกะพริบตาหลายครั้งก่อนจะหันหน้าหนี

“ข้าไม่เข้าใจจริงๆนั่นแหละ ทุกคนจริงๆหรือ?.. เวลาที่ข้า..ที่ข้า อยากสัมผัส ข้าไม่ได้..หลงใหลตรงนั้น เขาก็ดูไม่ได้หลงใหลอย่างที่จ้าวเหลียงเป็น ข้า..ข้าอยากจูบ..เขายัง” หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มพูดติดขัดเรื่อยๆ

อาหงยกมือขึ้นมาปิดปากและมองนางยิ้มๆอีกแล้ว

“ข้า ข้าไปก่อนนะ อีกสองสามวันจะมีคนมา เราค่อย...ค่อย..ว่ากัน” หลี่เฟิ่งเซียนลุกขึ้นจะเดินหนีออกไป

“คุณหนูใหญ่ ท่านสามารถมาถามข้าได้ทุกเรื่องที่ข้องใจ ข้าเชี่ยวชาญเรื่องนี้ท่านก็รู้ใช่หรือไม่ ถือว่าข้าตอบแทนบุญคุณให้ท่านเป็นอย่างไร” อาหงตะโกนตามหลังไปเช่นนั้นพร้อมกับรอยยิ้ม

ช่วงบ่ายหลี่เฟิ่งเซียนขอไปส่งลู่มู่เฉินไปรักษาอาการป่วยในวังกับท่านหมอหลวง ท่านย่าไม่อนุญาต นางจึงทำได้เพียงกำชับพ่อบ้านให้ช่วยดูแลท่านเขยให้ดีๆ มอบหนังสือที่ท่านพ่อฝากมาให้ท่านหมอหลวงอิ่นไปกับพ่อบ้านด้วย นางยังยืนส่งรถม้าหน้าจวนอยู่นาน จนรถม้าหายไปจากถนนแล้วก็ยังไม่ยอมเข้าบ้าน 

ตกเย็นหลี่เฟิ่งเซียนยังไปยืนรอรับลู่มู่เฉินหน้าจวนอยู่นาน แต่รอจนค่ำก็ยังไม่กลับ ท่านย่าให้กินข้าวนางก็ยังไม่ยอม จะรอเขาก่อน 

ยามเฉินเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็อ้างว่ากินข้าวมาแล้วที่บ้านท่านหมอหลวง ทั้งเขายังต้องรักษาโรคจึงไม่สะดวกพักห้องเดียวกับนาง เขายังพูดขออนุญาตแยกห้องกับท่านย่าอย่างเป็นทางการด้วย ท่านย่าที่ไม่ชอบเขาอยู่แล้วยิ่งสนับสนุน

หลี่เฟิ่งเซียนด้วยความเป็นห่วงโรคของเขา กลัวว่าอาจร้ายแรงจนถึงชีวิต นางจึงไม่ได้ทักท้วงหรือไม่พอใจ แม้นางจะอยากอยู่ห้องเดียวกับเขา จะได้หาโอกาสกินเต้าหู้เขาอีก แต่ห่วงร่างกายของเขามากกว่า อย่างไรก็ต้องยอมตามที่เขาต้องการ ไม่ได้สังเกตว่าเขาแทบจะไม่สบตานางเลย

วันต่อมา มีขันทีน้อยมาหาหลี่เฟิ่งเซียนตั้งแต่เช้า นางต้องรีบจัดการเรื่องอาหงให้เร็วที่สุด กลัวว่ายิ่งช้าอาจมีหญิงสาวหลายชีวิตต้องตาย นางเคยไปช่วยชีวิตของลู่มู่เฉินช้า จนต้องเสียมือซ้ายไปแล้ว ยามนี้นางจึงตั้งใจจัดการให้เร็วที่สุด จึงมัวแต่พูดคุยธุระกับขันทีน้อย จนลืมลู่มู่เฉินไป

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป