แชร์

บทที่ 39 คิดถึง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-23 18:03:16

รู้ตัวอีกที หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าสายมากแล้ว รีบสั่งให้สาวใช้ไปต้มน้ำแกงไก่ใส่สมุนไพรนำไปให้ท่านเขย แต่สาวใช้บอกว่าท่านเขยออกจากบ้านไปหาหมอหลวงอิ่นนานแล้ว แม้นางจะอยากเจอหน้าเขา น้อยใจที่เขาไม่มาหานางก่อนเดินทาง แต่หากเขารีบร้อนเพื่อไปรักษาอาการป่วย ย่อมเป็นเรื่องดี

หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าตัวเองก็ไม่มีเวลาดูแลเขา การมอบหมายให้พ่อบ้านที่มีความสามารถดูแลเขาก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอันใด

วันเวลาของนางใช้ไปกับการช่วยอาหงฝึกมารยาท เรียนรู้สิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตในวังหลัง ลืมกระทั่งไปรับยู่ยี่มาอยู่ด้วย เพราะท่านย่าพยายามเอาใจนางทุกทาง ท่านย่าไม่ต้องการให้นางไปคลุกคลีกับพวกชนชั้นต่ำ

วันที่สาม ในที่สุดก็มีขันทีมาประกาศราชโองการที่จวนของแม่ทัพหลี่ ยามนั้นลู่มู่เฉินได้เดินทางออกไปรักษาตัวแต่เช้าแล้ว ในจวนจึงมีเพียงหลี่เฟิ่งเซียนและท่านย่า กับพวกบ่าวไพร่

"คุณหนูใหญ่ หลี่เฟิ่งเซียน ได้กระทำคุณงามความดีต่อแผ่นดิน เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่กุลสตรี ช่วยเหลือชีวิตของราษฎร จับคนชั่วพิทักษ์คนดี เป็นกุลสตรีที่เฉลียวฉลาดนำความสงบสุขแก่แผ่นดิน ช่วยชีวิตของสตรีและเด็กหลายร้อยคน

ด้วยองค์การแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงมีพระราชบัญชาให้มอบของรางวัลแก่คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่ ได้แก่ทอง 5,000 ชั่ง ผ้าไหม 2,000 ผืน ที่ดินเขตหลิวต่วน 100 หมู่ และอนุญาตให้คุณหนูใหญ่สามารถถวายราชบรรณาการในอีก 15 วัน" ขันทีประกาศราชโองการจบ แต่ทั้งท่านย่าและบ่าวไพร่ต่างไม่แน่ใจว่าคนในราชโองการที่พูดถึงใช่คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่จริงหรือไม่ หากขันที่ไม่ได้เอ่ยชื่อนางออกมาแต่แรกทุกคนอาจคิดว่าขันทีมาผิดบ้าน

"ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี

ท่านย่าเป็นผู้รับราชโองการนั้น สั่งให้สาวใช้มอบเงินรางวัลกับเหล่าขันทีที่อุตส่าห์เดินทางมาไกลเพื่อประกาศราชโองการ จากนั้นท่านย่าก็รีบดึงตัวหลี่เฟิ่งเซียนเข้าไปในห้องเพื่อพูดคุย

"ที่เจ้าบอกว่ารออีก 3 วันคือเรื่องนี้ใช่หรือไม่ เจ้าไปทำงานให้กับฮ่องเต้ตั้งแต่เมื่อใดกัน บอกย่ามาเดี๋ยวนี้" ท่านย่าพูดด้วยความเป็นห่วง

หลี่เฟิ่งเซียนจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่ตัวเองวางแผนให้ท่านย่าฟัง แล้วบอกว่าฮ่องเต้รับปากนางแล้วด้วย นางยังชมฮ่องเต้ว่าทำงานรวดเร็วยิ่ง แต่ท่านย่ากลับตกใจ

"นางเด็กคนนี้นี่ ย่าเลี้ยงเจ้ามาตั้งนานเพื่อไม่ให้เจ้าได้ไปยุ่งกับวังหลัง ย่าสอนเจ้าให้ใช้ชีวิต สุดท้ายเจ้ายังจะเข้าไปยุ่งเรื่องพวกนี้ให้ได้ใช่หรือไม่ ย่าสอนไปตั้งเท่าไหร่ทำไมไม่จำ!" ท่านย่าทั้งทุบตีและด่านาง

"ท่านย่าอย่าเพิ่งโกรธ เรื่องนี้ข้าไม่ช่วยพวกเขาไม่ได้ ท่านเป็นคนสอนข้าเองว่าหากพบคนลำบากให้ลงมือช่วยทันที พวกนางไม่ได้เลือกจะเป็นเช่นนั้น ข้าไม่อยากทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ช่วย 10 คนเหลืออีก 100 คน ถ้าต้องการช่วยพวกนางทั้งหมดและหนทางเดียวที่จะช่วยพวกนางได้ก็คือต้องเข้าไปยุ่งกับเรื่องเช่นนี้" หลี่เฟิ่งเซียนก้มหน้าอธิบาย ไม่กล้าสบตาท่านย่า

"เฮ้อ ย่าไม่น่าปล่อยให้เจ้าหนีไปได้เลยจริงๆ ย่าประคบประหงมเจ้าทุกวัน เจ้าใช้ชีวิตปลอดภัยจนโต แต่กลับไปเหยียบถูกหางของผู้อื่นตอนอยู่นอกบ้าน ตอนที่ท่านพ่อเจ้าบอกว่าเจ้าโดนจับ ท่านย่าอย่างข้าได้แต่ภาวนาทุกวัน ขอให้เจ้าปลอดภัยกลับมา ครั้งเจ้าปลอดภัยกลับมาเจ้ากลับหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัวตัวเองเสียนี่" ท่านย่าว่า

"ข้าต้องช่วยพวกเขา" หลี่เฟิ่งเซียนพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำเดิม

"เจ้าจะส่งอาหงเป็นบรรณาการหรือ?" ท่านย่าถาม หลี่เฟิ่งเซียนทำเพียงพยักหน้า

"หลานไม่รักดี!!" ท่านย่าโกรธจนหน้าสั่น

"ท่านย่าท่านใจเย็นๆ ข้าไม่ดีเอง" 

"เจ้าให้ข้าใจเย็น ทั้งที่เจ้าเอาหัวของตัวเองไปขึ้นเขียง เจ้าจะให้ท่านย่าเห็นเจ้าตายก่อนหรือ?!!!" ท่านย่าน้ำตานองหน้า

หลี่เฟิ่งเซียนรีบลงไปคุกเข่าจับมือท่านย่ามาตบหน้าตัวเอง แต่ท่านย่ากลับนั่งลงมาและกอดนางไว้ ยังคงร้องไห้บ่นด่าไม่จบสิ้น แน่นอนว่าหลี่เฟิ่งเซียนรู้ดี พวกคนที่อยู่ในวังหลังแม้ต่อหน้าจะบอกให้ลูกๆเรียกนางเป็นคุณหนูใหญ่เพื่อเอาใจฮ่องเต้ แต่ลับหลังใครจะรู้ว่าคิดอะไรอยู่

วันนั้นนางถูกท่านย่าสั่งสอนอยู่ในห้องทั้งวัน

ตกเย็นด้วยความอยากพบหน้าลู่มู่เฉินมาก หลี่เฟิ่งเซียนจึงหยิบหมั่นโถวสองลูก วิ่งไปนั่งรออยู่ที่หน้าจวน นางรู้สึกว่าตั้งแต่คืนนั้นที่ศาลบรรพชน นางแทบไม่ได้พบเจอเขาอีกเลย เฝ้ารอจนกระทั่งฟ้ามืดอย่างกระวนกระวาย รถม้าค่อยๆวิ่งมาตามถนนมืดๆ

หลี่เฟิ่งเซียนดีใจรีบไปยืนรอ แต่ครั้งรถม้าจอดและลู่มู่เฉินเปิดประตูรถม้า เขาเห็นว่านางมารับเขา เขากลับก้มหน้าหลบตา แต่เขาลงจากรถม้ายังไม่ทันยืนมั่นคง หลี่เฟิ่งเซียนก็โถมตัวใส่เขากอดเขาไว้แน่น

“อื้อ..หอมกลิ่นของเจ้าจัง ข้าคิดถึง” นางออดอ้อน

“...” เขาคล้ายว่าสติหลุดไปชั่วขณะ

พ่อบ้านและคนบังคับรถม้าก้มหน้าหลบภาพตรงหน้าแทบไม่ทัน เพราะถึงจะมืดแล้ว แต่หน้าจวนแม่ทัพหลี่จุดโคมไว้ ใครๆจึงมองเห็นได้ชัด ยังดีที่แถวนั้นไม่มีใครนอกจากพวกเขา พ่อบ้านรีบโบกไม้โบกมือให้คนขับรถม้ารีบไปจากที่นั่น พ่อบ้านก็ต้องรีบไปด้วยเช่นกัน

หลี่เฟิ่งเซียนยื่นสองมือจนสุดแขนไปคล้องคอเขาเพราะเขาตัวสูงแปดถึงเก้าฉื่อได้ นางตั้งใจจะดึงเขามาหอมแก้ม แต่เขากลับรีบผลักนางออก

“อย่าเหลวไหล” ลู่มู่เฉินหลบตานาง

“เหลวไหลอันใด ข้าไม่ได้เจอเจ้าตั้งหลายวัน คิดถึงจนทนไม่ได้ ขอกอดขอหอมแก้ม กินเต้าหู้เล็กๆน้อยๆไม่ได้เลยหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนจ้องเขา

“...” เขาขมวดคิ้ว รีบเดินเข้าจวนไม่สนใจนาง แต่ตรงอกด้านซ้ายไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันเต้นโครมครามจนควบคุมไม่ได้แม้จะรู้ดีว่านางชอบเกี้ยวผู้ชายเป็นปกติ

หลี่เฟิ่งเซียนมองเขาไม่สนใจนางแม้พวกเขาจะไม่ได้เจอตั้งหลายวัน เขาไม่คิดถึงนางบ้างเลยหรือ นางวิ่งตามเขาไป

“เจ้าไม่คิดถึงข้าบ้างเลยหรือ ไม่ได้เจอข้าตั้งหลายวันแล้ว” นางถาม

“สองวันเท่านั้น” เขาตอบ ยังคงเดินเร็วๆ นางไม่ยอมคว้าจับมือเขาเอาไว้

“เจ้าได้พยายามหลบหน้าข้าหรือไม่”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาตอบ

“เช่นนั้น ..!!” นางยังพูดไม่จบ มือซ้ายที่นางจับอยู่กระตุกอย่างแรง

“มือของเจ้าเป็นอะไร” นางรีบดึงมาดูพร้อมถามด้วยความเป็นห่วง

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status