แต่คำพูดของหนานโย่วไม่มีผลใดๆ ต่อกู้หว่านเยว่เลย กู้หว่านเยว่พุ่งออกไปไกลในแวบเดียวโดยไม่ฟังเขา“นี่!”หนานโย่วคิดจะไปดึงนางอีกครั้ง แต่โดนผู้ใต้บังคับบัญชาดึงไว้ก่อน“องค์ชายรอง อยากเข้าไป ตรงนั้นอยู่ในระยะสายตาของหน่วยลาดตระเวนแล้ว ท่านเข้าไปต้องถูกจับได้แน่”หนานโย่วตกใจจนรีบถอยกลับไป วรยุทธ์ของเขาไม่สูง ไม่กล้าฝืนในเวลานี้ ทำได้เพียงภาวนาในใจขอให้กู้หว่านเยว่ปลอดภัยขณะเดียวกันหลังจากกู้หว่านเยว่บินออกไป นางไม่ได้หายตัวไปในทันที แต่รอจนพ้นสายตาของพวกหนานโย่ว เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนแล้ว จึงจะวาร์ปเข้าไปในมิติจากนั้นก็บังคับมิติค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ปากอุโมงค์เห็นได้ชัดว่าอุโมงค์เหมืองแห่งนี้ถูกทิ้งร้างนานแล้ว ปากอุโมงค์ทรุดโทรมมาก มีเศษหินเศษดินร่วงลงมาเป็นระยะเวลานี้เอง มีหน่วยลาดตระเวนมาเปลี่ยนเวรยามพอดีกู้หว่านเยว่รีบเข้าไปแอบฟังพวกเขาใกล้ๆ“ตื่นตัวหน่อย อย่าเผลอหลับเสียล่ะ รอบนี้คนเยอะ ต้องจับตาดูให้ดี ระวังเกิดปัญหา”“ได้ยินว่าลั่วหลิงปลอมตัวเป็นเทพธิดา ถูกคนของแคว้นเซียนหลิงจับได้แล้ว?”“จับได้แล้วอย่างไร? แต่ก็ยังจับตัวไม่ได้ไม่ใช่หรือ?”มีคนกระซิบเบาๆ “ผู้หญิ
“บนถนนมีร้านมากมายเช่นนี้ ร้านของท่านกลับขายดีไม่หยุดเลยนะ” กู้หว่านเยว่ชวนคุยเถ้าแก่ยิ้มอย่างขมขื่น “ลูกค้าทั้งสองมาจากต่างถิ่นกระมัง ร้านข้าก็แค่ดูเหมือนจะขายดี เวลามีเรื่องอะไร คนที่ซวยก่อนก็คือพ่อค้าแม่ค้าข้างทางอย่างพวกเรา”ชายแดนทางใต้ของพวกเขาไร้ระเบียบ มักจะเกิดการต่อสู้ขึ้นตามถนนพวกคนที่ต่อสู้ไม่เคยเห็นหัวร้านข้างทาง ส่วนมากข้าวของในร้านถูกทำลายจนพังพินาศกู้หว่านเยว่พยักหน้า ในดินแดนที่วุ่นไหวเช่นนี้ อยากหาเลี้ยงปากท้องไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ“ใช่แล้ว เถ้าแก่ ในเมื่อท่านเปิดร้านข้างทาง ย่อมเจอผู้คนหลากหลาย”เช่นนั้นท่านเคยได้ยินกองทัพซินเยว่หรือไม่?เถ้าแก่พลางต้มบะหมี่ พลางพยักหน้า “เคยได้ยินสิ เมืองถัดไปก็อยู่ภายใต้อำนาจของกองทัพซินเยว่ อีกไม่นานก็จะบุกมาถึงที่นี่แล้ว”ลมหายใจกู้หว่านเยว่ชะงัก “เจียวโจวหรือ?”“ใช่”เถ้าแก่ยกบะหมี่มาอย่างกระฉับกระเฉง กู้หว่านเยว่ไม่มีกะจิตกะใจที่จะกินแล้ว นางกินไปแค่สองคำแต่หนานโย่วกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย เป็นได้ชัดว่าหิวแล้ว“องค์ชายรอง” คนที่ถูกส่งออกไปหาเขาเริ่มทยอยกลับมา เขากระซิบข้างหูหนานโย่ว “หาอุโมงค์เหมือนเจอแล้วพ่ะย่ะค่
ทุกคนรู้แค่ว่าคนคนนี้ลึกลับอย่างยิ่ง บนใบหน้าสวมหน้ากากสีเงิน ไม่เคยเผยโฉมที่แท้จริงให้ผู้ใดเห็นแม้กู้หว่านเยว่อยากรู้ว่าตกลงคนผู้นี้ใช่ซูจิ่งสิงหรือไม่ แต่พยายามหาข่าวมาตลอดทางก็ไม่ได้อะไรเลย ทำให้นางอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้หนานโย่วเห็นดังนี้จึงกล่าวปลอบใจ “องค์หญิงน้อยไม่ต้องเสียใจไป ข้าว่าอีกไม่เกินหนึ่งวันพวกเราก็ถึงเหมี่ยนฟางแล้ว เมื่อเข้าสู่เขตแดนเหมี่ยนฟาง สืบเรื่องนี้ก็ง่ายขึ้นมากแล้ว”กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยความสงสัย “พวกเราพาทหารมาด้วยหนึ่งหมื่นคน ชายแดนเหมี่ยนฟางจะยอมให้พวกเราผ่านหรือ?”หนานโย่วส่ายศีรษะ “แม้เหมี่ยนฟางจะมีความวุ่นวายภายใน แต่มีกลุ่มอิทธิพลที่ค่อนข้างใหญ่ในท้องถิ่นอยู่หนึ่งกลุ่ม เรียกว่าพรรคพยัคฆ์ดำถ้าพวกเราพาทหารหนึ่งหมื่นคนเข้าเหมี่ยนฟาง ต้องถูกสกัดแน่นอน และหากดึงดูดความสนใจของพรรคพยัคฆ์ดำเข้า ก็อาจจะเกิดการนองเลือด”หนานโย่วเคยวิเคราะห์ในใจแล้ว ในเมื่อลั่วหลิงกล้าลำเลียงชาวบ้านไปยังเหมี่ยนฟางทั้งหมด แสดงว่าเหมี่ยนฟางกับตลาดมืดต้องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นแฟ้นแน่นอน“องค์หญิงน้อยไม่ต้องห่วง ท่านช่วยพวกเรามาเยอะแล้ว เรื่องนี้ปล่อยให้ข้ากับแม่ทัพฮั่วจ
“เหมี่ยนฟางเป็นแคว้นเล็กๆ และยากจนที่อยู่ทางตอนใต้ แคว้นอื่นถึงขนาดไม่คิดจะเสียแรงไปปล้นพวกเขา”หนานโย่วพลางเดินตามข้างกายกู้หว่านเยว่ พลางอธิบายไปด้วย“องค์หญิงน้อยไม่ต้องห่วง เสด็จพ่อให้ทหารพวกเรามาหนึ่งหมื่นคน ช่วยชาวบ้านพวกนั้นกลับมา ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”กู้หว่านเยว่หยิบกระบอกน้ำมาดื่มน้ำหนึ่งอึก แล้วหันมองไปทางใต้ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “เมื่อครู่ตอนข้ากรอกน้ำในโรงน้ำชา ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าเหมือนจะเกิดสงครามขึ้นที่ทางใต้ เหตุใดไม่เหมือนที่เจ้าพูดเลย?”หนานโย่วเบิกตากว้าง นึกถึงอะไรบางอย่างกะทันหัน“ใช่ๆ ข้าลืมเรื่องนี้ไปเลย ได้ยินมาว่าทางใต้เพิ่งมีกองกำลังใหม่ผุดขึ้น เรียกว่ากองทัพซินเยว่ คนที่เป็นผู้นำร้ายกาจมาก เป็นอัจฉริยะด้านการศึก และยังวรยุทธ์สูง ชนะติดต่อกันมาหลายครั้งแล้ว”ส่วนมากทางใต้จะมีแต่แคว้นเล็กๆ แคว้นต่างๆ และกลุ่มอำนาจต่างๆ สู้รบกันอย่างชุลมุนมาโดยตลอด ไม่เหมือนสามแคว้นใหญ่ทางตอนเหนือของพวกเขา แทบจะอยู่ในสถานการณ์ที่มั่นคงตลอดจะรบก็รบกับแคว้นรอบข้างเท่านั้น ก็มีแต่ผู้หญิงบ้าอย่างกู้หว่านเยว่ที่กล้าบุกโจมตีเป่ยตี้ แคว้นเซียนหลิงของพวกเขากับแคว้นโยวหลานไ
สำหรับเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ทำได้เพียงส่ายศีรษะอย่างหมดหนทางอย่าศรัทธาในตัวพี่เลย พี่ไม่ใช่ตำนานระหว่างทางราบรื่นอย่างน่าประหลาด ไม่เจอเรื่องกวนใจอะไรเลย นางกำนัลพากู้หว่านเยว่ไปถึงตำหนักเจาหัวอย่างนอบน้อมช่วยจัดเตียงนอน เตรียมน้ำร้อนให้เสร็จสรรพจากนั้นก็ปิดประตู ออกไปเฝ้าที่ข้างนอกอยากรู้หน้าที่ทันทีที่นางกำนัลออกไป กู้หว่านเยว่ก็รีบล็อคประตู แล้ววาร์ปเข้าไปในมิติเนื่องจากไม่ได้คิดจะปล่อยให้ลั่วหลิงมีชีวิตรอด กู้หว่านเยว่จึงไม่ได้ปิดบัง นางใช้น้ำเย็นสาดอีกฝ่ายแล้วเริ่มสอบสวนทันที“ข้าขอถามเจ้า อุโมงค์เหมืองอยู่ที่ไหน?”ลั่วหลิงระดมชาวบ้านจำนวนมากส่งพวกเขาไปอุโมงค์เหมืองในนามของหนานถ่า ได้ยินมาว่าอุโมงค์เหมืองแห่งนี้อยู่นอกดินแดนแคว้นเซียนหลิง ตั้งอยู่ในแคว้นเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จักกู้หว่านเยว่คาดเดา ลั่วหลิงน่าจะใช้เรื่องนี้บังหน้า ลักลอบส่งชาวบ้านพวกนั้นไปยังตลาดมืดสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือช่วยชาวบ้านพวกนั้นออกมา“เจ้าอยากรู้? ข้าไม่บอกเจ้าหรอก เก่งจริงก็ฆ่าข้าเลยสิ”ลั่วหลิงสติแตกแล้ว อะไรเนี่ย?กระบี่เทพธิดาที่นั่งเฝ้าฝันอยากได้มาโดยตลอด ปรากฏว่าคนผู้นี้กลับสาม
เหมือนว่าก่อนหน้านี้เพิ่งเคยเจอ…ทันใดนั้นหนานถ่าฉุดคิดขึ้นมาได้ นางคือสหายน้อยที่เพิ่งช่วยเขาไม่ใช่หรือ!“พวกท่านกำลังทำอะไร?”กู้หว่านเยว่เดินเข้าไป หลังจากเสียงอันสดใสและชัดเจนดังขึ้น ดวงตาดอกท้อที่มีชีวิตชีวาคู่หนึ่งก็เริ่มปรากฏให้เห็น“เจ้าจริงๆ ด้วย?”หนานถ่ากลืนน้ำลายทีหนึ่ง และชี้ไปที่มือของกู้หว่านเยว่ “เจ้า เจ้า…”กู้หว่านเยว่แก่วงกระบี่ “ท่านหมายถึงอันนี้หรือ ข้าบังเอิญไปเห็นกระบี่เทพธิดาตอนที่จับลั่วหลิง ชั่วขณะเกิดความสงสัย ก็เลยดึงมันออกมาเสียเลย คิดไม่ถึงว่ายังใช้เหมาะมือด้วย”ลองวัดดูก็เหมาะมือจริงๆราวกับว่าสร้างขึ้นมาเพื่อนางโดยเฉพาะ“ชั่วขณะเกิดความสงสัย?”ดวงตาของหนานถ่าแทบหลุดออกจากเบ้า และคิดในใจ ‘เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรอยู่?’ชั่วขณะเกิดความสงสัยก็เลยดึงกระบี่เทพธิดาออกมา?เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนเท่าไรที่ใฝ่ฝันอยากดึงกระบิเล่มนี้ออกมา แต่ไม่มีใครทำสำเร็จเลย!“ใช่แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าสหายน้อยชื่ออะไร”เรื่องอื่นไม่สำคัญแล้ว ในเมื่อคนผู้นี้สามารถดึงกระบี่เทพธิดาออกมา ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิดก็ได้ต้องสืบประวัติของนางให้แน่ชัด และรั