Beranda / โรแมนติก / ดวงใจจำนน / ตอนที่ 3 ความผิดพลาดของนภิศา

Share

ตอนที่ 3 ความผิดพลาดของนภิศา

Penulis: Korbngern
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-15 13:41:44

ในเช้าวันจันทร์ที่นภิศามาทำงานปกติ แต่ดูเหมือนว่าตัวเธอเองจะไม่ปกติเหมือนอย่างเช่นทุกวัน หญิงสาวรู้สึกเวียนหัวจนต้องขอยาดมกับพี่ปานเลขาหน้าห้องของการุณย์มาดม

“เป็นอะไรนัท ไม่สบายมากหรือเปล่า พี่ว่าไปหาหมอดีมั้ย”

ปานกมลเอ่ยถามด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นผู้ช่วยของเธอดูมีอาการที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ปกตินภิศาเป็นคนแข็งแรงดี ไม่ค่อยเจ็บป่วยให้เห็นบ่อยๆ นอกจากเป็นหวัดเป็นไข้ทั่วไปที่กินยาแล้วก็หาย แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้คงจะไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะนอกจากจะเวียนหัวแล้วนภิศายังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจนต้องพักขอยาดมจากเธอ

“นัทก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่ปาน เมื่อเช้าตอนที่แวะซื้อเต้าหู้หน้าออฟฟิศได้กลิ่นปาท่องโก๋ทอดแล้วก็เวียนหัวพะอืดพะอมมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ”

“นัทก็แวะซื้อบ่อยแต่ไม่เคยเป็นไม่ใช่เหรอ”

“ค่ะ ไม่เคยเป็นเลย แต่วันนี้ทำไมอยู่ๆ ถึงมีอาการขึ้นมาได้ก็ไม่รู้ มันเหม็นแล้วก็เวียนหัวจนต้องเดินหนี”

“นัท...” ปานกมลคว้ามือของผู้ช่วยของเธอมากุมไว้แล้วมองจ้องหน้าอย่างพิจารณา

“พี่ว่าอาการนัทมันแปลกๆ แล้วนะ ลองไปซื้อที่ตรวจมาตรวจดูหน่อยมั้ย”

ปานกมลเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของนภิศาและเกื้อกูลพี่ชายของเจ้านาย และเธอเองก็มีลูกเล็กถึงสองคน อาการของคนตรงหน้าที่เห็นอยู่มันอดคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยจริงๆ

“พี่ปาน..แต่...”

นภิศาอึกอักเริ่มไม่แน่ใจในอาการของตัวเอง หลังจากท้องแรกที่เธอเอาเขาออก หญิงสาวก็ระวังเรื่องการป้องกันมากขึ้นเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก เธอระแวงการตั้งครรภ์อยู่ตลอดเวลาเพราะการทำแท้งครั้งนั้นเหมือนเป็นแผลในใจ หลังจากที่ใช้ยาเม็ดอยู่นานเธอจึงตัดสินใจปรึกษาหมอและใช้การคุมกำเนิดแบบฝังยาคุมในระยะเวลาสามปี แต่มันอีกตั้งสองเดือนไม่ใช่เหรอถึงจะครบกำหนด หรือว่าเธอจะจำเดือนผิด

นภิศามองหน้าปานกมลอย่างไม่แน่ใจ เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก อยากจะกลับไปตรวจเช็กวันครบกำหนดของยาฝังคุมกำเนิดที่เธอใช้อยู่ว่ามันเลยมาหรือยัง แต่ก็ติดที่ยังไม่เลิกงาน ถ้าเกิดว่าเธอจำวันผิดแล้วท้องขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง

“อย่าให้มันเกิดขึ้นอีก ฉันเคยบอกเธอไว้แล้วไม่ใช่เหรอ”

“คง..คงไม่ใช่หรอกพี่ปาน นัทฝังยาคุมนะ”

“มันก็ไม่แน่หรอก อะไรก็เกิดขึ้นได้ นัทเองก็ไม่แน่ใจใช่มั้ยล่ะ ถึงได้มีสีหน้าแบบนี้”

“มันนานมากแล้ว นัทไม่แน่ใจ นัทอยากกลับไปดูสมุดที่จดไว้ว่าครบกำหนดหรือยัง”

ตกบ่ายมาอาการของนภิศาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ดีขึ้น เธอยังคงเวียนหัวและมีอาการพะอืดพะอมอยู่ตลอดเวลา แม้จะน้อยลงมากแต่มันก็ไม่หายไปสักที

“ปานเดี๋ยวผมจะออกไปพบลูกค้าข้างนอกนะ แล้วก็จะไม่เข้าบริษัทแล้ว ถ้ามีอะไรคุณช่วยรับเรื่องไว้แทนที”

การุณย์เดินออกมาจากห้องทำงาน แล้วบอกกับเลขาของตน แต่สายตาเขากลับหันไปมองที่นภิศาด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวมีท่าทางอิดโรยและหยิบยาดมขึ้นมาจ่อจมูกอยู่หลายครั้ง

“เป็นอะไรนัท ไม่สบายเหรอ”

“เอ่อ..เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นอะไรมาก เดี๋ยวเลิกงานไปนอนพักสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น”

“พี่จะออกไปข้างนอกพอดี เก็บของซะแล้วกลับไปพร้อมกันเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

การุณย์ให้ความเอ็นดูกับนภิศาไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่ง เขาใช้คำแทนตัวเองว่าพี่มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าจนกระทั่งทุกวันนี้ แต่นภิศาก็ไม่กล้าพอที่จะเรียกตาม

“ไม่เป็นไรค่ะ อีกไม่นานก็จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว เดี๋ยวนัทนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยปฏิเสธเพราะเกรงใจทั้งการุณย์และปานกมลที่ต้องทิ้งงานไว้ให้ทำคนเดียว

“ไปเถอะนัท เรื่องงานไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวพี่ทำต่อเอง มันเหลือไม่มาก”

นภิศากลับมาถึงห้องพักด้วยความเอื้ออาทรจากการุณย์ที่ขับรถมาส่ง ทันทีที่กลับมาถึงสิ่งแรกที่เธอทำคือหาสมุดบันทึกเพื่อตรวจดูวันครบกำหนดที่เธอต้องเอายาฝังคุมกำเนิดออก เอกสารที่หมอให้มาเธอไม่แน่ใจว่ายังอยู่ในสมุดเล่มนั้นด้วยหรือเปล่า

หญิงสาวเดินมานั่งคุกเข่าลงที่หน้าตู้เล็กข้างเตียง เปิดลิ้นชักชั้นแรกออก หยิบสมุดบันทึกปกแข็งบุผ้าลินินสีหวานออกมาด้วยหัวใจที่เต้นตุบตับ สมุดเล่มนั้นมีเอกสารแนบไว้ ไม่ต้องเปิดดูก็รู้ว่าคือบัตรนัดของโรงพยาบาลที่เธอเก็บเอาไว้ นภิศาหยิบใบนัดออกมาดูด้วยมือที่สั่นเทา เธอกลัวเหลือเกินว่ามันจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เธอกลัวเหลือเกินว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้นมาอีก

ทันทีที่เปิดออกดูวันที่ที่เห็นว่าครบกำหนดสามปีที่เธอต้องเอายาฝังคุมกำเนิดออกคือวันที่สี่เดือนห้า แต่ตอนนี้มันคือวันที่เจ็ดเดือนแปด ทำไมเธอถึงได้สะเพร่าแบบนี้นะนภิศา ทำไมเธอถึงไม่ระวัง

“ไม่จริงหรอก อาจจะไม่ท้องก็ได้”

หลังจากไปทำธุระการุณย์ก็กลับเข้าบ้านมาในช่วงค่ำทันเวลามื้อเย็นของที่บ้านพอดี ทันทีที่เห็นหน้าลูกชายคนเล็กคุณพรประภาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไปในทางประชดประชัน

“วันนี้ไม่มีนัดสาวที่ไหนกินข้าวเหรอลูก ทำไมกลับบ้านได้แต่หัวค่ำเชียว”

“โธ่คุณแม่ครับ ผมก็อยากจะมาทานข้าวกับคุณแม่บ้างสิครับ ลูกชายกลับมาบ้านเร็วแทนที่จะดีใจ ทำไมถึงได้ประชดกันแบบนี้ล่ะครับ”

การุณย์รีบอ้อน เดินเข้าไปกอดซบหน้าลงกับไหล่ผู้เป็นแม่อย่างเอาใจ หอมแก้มไปฟอดใหญ่ก่อนจะขยับมานั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้าง

“กลับมาบ้านเร็วทำไมไม่เอานัทเขามาด้วยล่ะ วันหยุดเมื่อกี้ก็ไม่ได้มา เห็นว่าไปเที่ยวกับเพื่อนนี่” คุณพรประภาอดถามถึงเด็กในอุปการะของท่านไม่ได้

พอถูกเอ่ยถามไปอย่างนั้นการุณย์ก็เงยมองหน้าสบตาพี่ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างรู้กัน ปกตินภิศาจะมาที่บ้านนี้ในช่วงวันหยุดเป็นประจำ หากิจกรรมมาทำกับคุณพรประพาเพื่อให้ท่านไม่เหงา บางทีก็ทำขนม ทำกับข้าว แล้วแต่ว่าผู้ใหญ่ท่านจะสอนอะไร

“เด็กเขาโตแล้วคุณ มีเพื่อนมีสังคมจะให้เขามาขลุกอยู่กับเราตลอดก็คงไม่ได้หรอก ดีไม่ดีนัทเขาก็อาจจะมีแฟนหรือไปเที่ยวกับแฟนเขาหรือเปล่า”

คุณเกรียงศักดิ์เอ่ยบอกภรรยา ในขณะที่เกื้อกูลเอาแต่นิ่งเงียบ การุณย์มองสังเกตอาการของพี่ชายก็ไม่เห็นว่าเขาจะออกตัวว่ายังไง

หลายปีแล้วที่การุณย์เห็นความสัมพันธ์ของพี่ชายตัวเองกับเด็กอุปถัมภ์ของบิดามารดา สำหรับนภิศานั้นหลงรักเกื้อกูลอย่างหัวปักหัวปำแน่ๆ แต่พี่ชายเขาล่ะ จะเก็บเธอไว้ในความลับแบบนี้ต่อไปน่ะเหรอ ถ้าวันหนึ่งพี่ชายของเขาแต่งงานไปกับใครสักคนที่ไม่ใช่เธอ แล้วนภิศาจะเป็นยังไง จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปยังไงก็ในเมื่อเห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าทั้งชีวิตนภิศามีไว้เพื่อเกื้อกูลคนเดียว

“พี่เกื้อ”

ด้วยความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น ทำให้การุณย์อดไม่ได้ที่จะคุยเรื่องนี้กับเกื้อกูล จึงได้ขอเวลาพี่ชายออกมาคุยกันที่สวนหลังบ้าน

“มีอะไรจะคุยงั้นเหรอ”

“เรื่องของนัทพี่จะเอายังไง”

“อะไรคือเอายังไง” เกื้อกูลหันมองน้องชายแล้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบติดจะห้วนเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าการุณย์จะอยากคุยกับเขาในเรื่องนี้

“พี่ไม่น่าถามผมแบบนี้เลย”

“นายต่างหากที่ไม่น่ามาถามฉันอย่างนี้ เรื่องระหว่างฉันกับนัทมันไม่ได้เกี่ยวกับนายนี่”

“แต่นัทเขาเป็นลูกน้องผม และคุณแม่เองก็เอ็นดูเขามาก ถ้าพี่คิดจะจริงจังท่านก็คงไม่ว่าอะไร แต่ถ้าพี่ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นพี่ก็ควรจะปล่อยนัทเขาไป”

“ที่นายอยากคุยกับฉันก็แค่เรื่องนี้เหรอ”

การุณย์ถอนหายใจหนัก เขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ตัวเองไม่ควรยุ่ง แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ จะให้มองดูคนที่ตัวเองเห็นเป็นเหมือนน้องสาวอยู่ในฐานะเมียบำเรอพี่ชายตัวเองไปอีกนานแค่ไหน ตัวเขาเองทั้งอึดอัด ทั้งสงสารนภิศาไปด้วยในเวลาเดียวกัน

“ผมขอโทษที่ยุ่งเรื่องของพี่ ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์พูด ถ้าคุณแม่เอ็นดูนัทเขาเหมือนลูกสาว ผมก็เห็นเขาเป็นน้องสาวคนหนึ่ง”

“นายจะบอกว่าห่วงเขาในฐานะพี่ชายเหรอ”

“แล้วพี่อยากให้ผมห่วงเขาในฐานะอะไรล่ะ”

คำถามนั้นทำเอาคนถูกถามถึงกับหน้าตึงและมองกลับมาด้วยแววตาเข้มจัด แต่การุณย์ก็ไม่ได้สนใจ เพราะเขาเองไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับนภิศาจริงๆ

“เฮ้อ! ช่างเถอะ คิดซะว่าผมไม่ได้มาพูดอะไรกับพี่ก็แล้วกัน แต่ยังไงช่วงนี้พี่ก็เพราๆ ลงบ้างนะ ดูเหมือนว่านัทเขาจะไม่สบาย”

“เป็นอะไร”

“ไม่รู้สิ เห็นบอกว่าเวียนหัว ตอนออกมาผมพาไปส่งที่คอนโดฯแล้ว พี่ใช้งานเขาหนักไปหรือเปล่าถึงได้พักผ่อนไม่เพียงพอ”

หลังจากการุณย์เดินจากไปเกื้อกูลก็รีบโทร.ออกหานภิศาทันที แต่โทรไปเท่าไหร่เธอก็ไม่รับสาย เขาจึงตัดสินใจขับรถไปหาที่ห้องพักอย่างร้อนใจ

นภิศานั่งซบหน้าลงกับเข่าอยู่ที่พื้นตรงข้างเตียง ในใจของเธอตอนนี้มันสับสนวุ่นวายไปหมด เขาบอกแล้วว่าห้ามท้อง แต่เธอเองก็พลาดจนได้ แล้วจะทำยังไงดี เธอไม่อยากเสียลูกไปอีกแล้ว ถ้าจะขอเกื้อกูลเก็บลูกไว้เขาจะยอมมั้ยนะ เขาจะยอมหรือเปล่า

ในมือของหญิงสาวกำที่ตรวจครรภ์ไว้แนบอกร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะไม่อยากสูญเสียลูกไปเหมือนครั้งที่แล้ว เธอจะทำร้ายลูกอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้ เขาไม่ได้ผิดอะไรเลย คนที่ผิดคือเธอเองต่างหากที่ไม่ระวัง และป้องกันไม่ดีพอ ถ้าเขาจะให้เธอไปทำแท้งอีก เธอทำไม่ได้หรอก ทำไม่ได้จริงๆ

“นัท นัท”

เกื้อกูลเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นนภิศานั่งฟุบหน้าร้องไห้กับเข่าก็ตกใจ รีบทรุดตัวนั่งลงตรงหน้า แล้วดันไหล่เธอขึ้นเพื่อจะถามไถ่อาการทันที

“เป็นอะไร เรียกแล้วทำไมถึงไม่ได้ยิน ร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น”

ทันทีที่เห็นหน้าเกื้อกูลนภิศาก็โผเข้ากอดเขาไว้แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น เธอทนไม่ไหวแล้ว ทนเก็บความกดดันนี้ไว้คนเดียวไม่ไหวอีกแล้ว

“คุณเกื้อ ฮือๆ คุณเกื้อ นัทขอโทษ นัทขอโทษ”

เธอพร่ำบอกคำขอโทษแก่เขาอยู่ซ้ำๆ กอดเขาไว้แน่นน้ำตานองหน้า มือข้างหนึ่งยังคงกำที่ตรวจครรภ์ไว้ไม่ยอมปล่อย

“เป็นอะไรนัท ไหนพูดสิ หยุดร้องไห้แล้วพูด”

เกื้อกูลดึงตัวนภิศาออกจากการกอดรัดเขาแล้วดันหลังให้พิงที่เตียงเพื่อที่จะมองหน้า แต่หญิงสาวยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น เห็นเขามองจ้องมาก็ยิ่งพูดไม่ออก

“นัท! เป็นอะไร ทำไมถึงไม่พูด เธอเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนี้แล้วฉันจะรู้มั้ย”

คนร้อนใจเพราะเป็นห่วงเริ่มอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อถามอะไรออกไปแล้วไม่ได้ความ นอกจากอาการเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายของคนตรงหน้า

“คุณเกื้อ นัท ฮึก นัท…” นภิศาพูดไม่ออก เธอก้มมองที่มือตัวเองก่อนคลายมือที่กำอยู่ออกให้เขาดู

ที่ตรวจครรภ์ขึ้นผลการตรวจสองขีดวางอยู่กลางฝ่ามือนุ่ม แต่ความยินดีไม่ได้เกิดขึ้นในจิตใจของเกื้อกูล ชายหนุ่มนิ่งงันรู้สึกเหมือนอากาศในห้องมีไม่มากพอที่จะให้เขาหายใจ ดวงตาวาวเงยขึ้นสบตานั่นยิ่งทำให้นภิศาใจเสีย เธอโผเข้ากอดเขาไว้แน่นแล้วปล่อยโฮออกมาอีกรอบ

“คุณเกื้อ นัทขอโทษ คุณเกื้อไม่โกรธนัทใช่มั้ย คุณเกื้อไม่โกรธใช่มั้ย นัทขอโทษนะคะคุณเกื้อ นัทขอโทษ”

“ไปเอาออก”

คำพูดสั้นๆ จากปากเขาแค่คำเดียวทำเอาเสียงร้องไห้คร่ำครวญของนภิศาหยุดลงทันที เธอผละอ้อมกอดจากเขาแล้วเงยมองหน้าด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสที่คลอขังส่วนที่ล้นขอบตาก็ไหลอาบลงมาตามสองข้างแก้ม มือที่กำที่ตรวจครรภ์ถูกยกมาไว้แนบอกอย่างหวงแหนเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต แววตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ

“คุณ..คุณเกื้อ ไม่จริงใช่มั้ย เมื่อกี้คุณเกื้อไม่ได้พูด..”

“ฉันพูด ฉันพูดว่าให้เธอไปเอาออก”

เขาตอบออกมาโดยที่ไม่มองหน้า นภิศาถึงกับสิ้นแรงที่จะนั่งให้ตรง เธอเอนหลังพิงที่เตียงอีกครั้ง ขยับถอยห่างเขาแล้วส่ายหน้าปฏิเสธด้วยเสี่ยงอันสั่นเทา

“ไม่ คุณเกื้อ ไม่ นี่ลูกของนัทนะ ลูกของนัท” เธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “นัท..นัทจะไม่ทำร้ายเขาอีก นี่ลูกของนัท คุณเกื้อ นี่ลูกของนัท”

บอกกับเขาแล้วน้ำตาของเธอก็ไหลพรากอีกครั้ง สองมือกุมที่ตรวจครรภ์ไว้แนบอกอย่างหวงแหน มองหน้าเขาพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธที่จะทำตามในสิ่งที่เขาบอก เธอจะไม่ทำอีกแล้ว เธอจะไม่ทำร้ายลูกอีกแล้ว ไม่ว่าใครก็จะมาพรากลูกไปจากเธอไม่ได้ เขาเกิดมาแล้ว ลูกของเธอเขาเกิดมาแล้ว เธอจะไม่ทำร้ายเขาอีกเหมือนกับครั้งหนึ่งที่เคยทำ มันเจ็บปวดเหลือเกิน ไม่ใช่เพียงร่างกายที่ทรมาน แต่หัวใจของเธอก็แตกสลายและร้าวรานไม่ต่างกัน มันคือปมที่ฝังอยู่ในใจมาจนทุกวันนี้ เธอจะไม่ทำมันอีก จะไม่ฆ่าลูกของตัวเองอีกแล้ว

“ฉันบอกให้เธอไปเอาออก”

เกื้อกูลบอกเสียงเยียบเย็นพร้อมกับลุกขึ้นยืน เดินห่างออกมาแล้วหันหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นอาการคร่ำครวญเจ็บปวดของคนตรงหน้า แต่นภิศาก็ไม่ได้เชื่อฟังเขาอีกแล้ว เธอลุกขึ้นยืนตาม เอ่ยถามเขาออกไปด้วยความผิดหวังและเสียใจอย่างที่สุด

“ทำไมคุณเกื้อถึงได้ใจร้ายแบบนี้ นี่ลูกนะ ลูกทั้งคนนะคุณเกื้อ”

“ลูกแล้วยังไง” เกื้อกูลหันมามองจ้องหน้า เอ่ยออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์ “เขายังไม่ได้เกิดมาด้วยซ้ำ ก็แค่ก้อนเลือดก้อนหนึ่ง เธอจะมาอาลัยอาวรณ์อะไรนักหนา ฉันบอกให้ไปเอาออกก็ต้องไปเอาออก”

“คุณเกื้อ…”

“ไม่ต้องมาคร่ำครวญอะไรอีก พร้อมเมื่อไหร่ก็โทรมา ฉันจะให้คนพาไป”

เอ่ยจบประตูห้องของนภิศาก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของเกื้อกูลที่เดินจากไป เหลือทิ้งไว้เพียงถ้อยคำที่แสนเลือดเย็นให้คนที่ยังอยู่ข้างในได้เจ็บปวดกับถ้อยความนั้น

นภิศาเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง เธอยังคงกุมที่ตรวจครรภ์เอาไว้แนบอกร้องไห้สะอึกสะอื้น เกื้อกูลจากไปแล้ว จากไปพร้อมกับการบอกให้เธอไปทำแท้งอีกเป็นครั้งที่สอง จากไปพร้อมกับความเฉยเมยเย็นชาที่ไม่แม้แต่จะแสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยทั้งร่างกายและความรู้สึกของเธอ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดวงใจจำนน   ตอนพิเศษ 2 ท้องที่ 2

    เสียงครางงึมงำของเกื้อกูลที่ดังอยู่ข้างหูทำให้นภิศาหันมามอง คนที่นอนอยู่ข้างๆเธอเขายังคงหลับตา แต่ริมฝีปากก็ยังพึมพำอะไรบางอย่างที่เธอฟังไม่ค่อยชัด“คุณเกื้อคะ คุณเกื้อ ละเมอเหรอคะ คุณเกื้อคะ”เธอพยายามเขย่าปลุกเรียกให้ตื่น แต่เกื้อกูลก็ยังคงเพ้อไม่หยุด“ไม่ ไม่จริง ไม่ใช่ ไม่จริง มันไม่ใช่ความจริง”คราวนี้นภิศาได้ยินชัดเพราะเขาพูดคำเดิมซ้ำๆและดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนกำลังเถียงกับตัวเอง นอกจากนั้นท่าทางของเกื้อกูลยังดูหวาดกลัวในสิ่งที่ตัวเขาเองกำลังปฏิเสธมันออกมา“คุณเกื้อคะ คุณเกื้อ ตื่นค่ะ คุณเกื้อ เพี๊ยะ!!”เมื่อเห็นว่าแค่ปลุกเรียกเขาคงไม่ตื่น เธอจึงฟาดฝ่ามือลงที่ท่อนแขนที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามออกมาเต็มแรง ทำเอาคนที่กำลังหลับละเมอสะดุ้งตื่น เขาหันมามองหน้าเธอสีหน้างงงวย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นภิศาจึงอธิบายให้ฟังว่าเขาละเมอ เธอพยายามปลุกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมตื่นเลยต้องฟาดฝ่ามือตีแรงๆ“พี่ละเมอเหรอ”“ค่ะ คุณเกื้อละเมอ จำได้มั้ยคะว่าละเมอว่าอะไร นัทได้ยินคุณเกื้อบอกว่าไม่ ไม่จริง

  • ดวงใจจำนน   ตอนพิเศษ 1 คำขอของเกื้อกูล

    เค้กช็อคโกแลตก้อนใหญ่ปักเทียนเอาไว้โดยรอบ ถูกยื่นมาตรงหน้าของเจ้าหนูกุลกานต์ ที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้เด็ก รายล้อมไปด้วยปู่ย่า พ่อแม่ และอา รวมทั้งคนงานในบ้านทุกคน ต่างมาร่วมอวยพรและร้องเพลงวันเกิดให้ ทำเอาน้องกานต์ชอบใจปรบมือแปะๆตามทุกคน ปากก็ร้องงึมงำงึมงำตามไม่เป็นภาษา จนเมื่อเพลงจบเกื้อกูลจึงบอกให้ลูกเป่าเค้ก พ่อกับแม่ช่วยกันเป่าดับไปแล้วบางส่วน เจ้าตัวเล็กเห็นแบบนั้นก็เอาบ้าง เป่าลมพรูออกจากปากจนน้ำลายกระเด็น แต่เทียนก็ยังดับไม่หมดจนคนเป็นพ่อต้องช่วยเป่าแทนอีกรอบ พอเทียนดับหมดน้องกานต์ก็ปรบมือแปะๆชอบใจ“หนึ่งขวบแล้วนะครับหลานย่า”คุณพรประภาก้มจูบลงที่ศีรษะของหลานรักด้วยความเอ็นดู คนเป็นปู่ก็ยื่นมือมายีหัวอย่างรักใคร่ ใครต่อใครต่างเข้ามาห้อมล้อมเต็มไปหมด จนเจ้ากานต์น้อยไม่รู้จะหันไปมองใคร จึงทำได้แต่กวักมือเรียกหาแม่อยู่ไหวๆ“แหมะๆๆ แหมะ”การุณย์ได้ยินหลานเรียกแม่แบบนั้นก็ขำใหญ่ หัวเราะงอหายท้องขดท้องแข็ง“โธ่ เจ้าอ้วนหลานอา นั่นแม่นะลูก ไม่ใช่แพะ จะมาเรียกแหมะๆแบบนั้นไม่ได้ ไหนเรียกใหม่ซิ แม่ เรียกเร็วเรียก แม่ ไ

  • ดวงใจจำนน   ตอนที่ 25 เธอไม่ใช่เมียบำเรอ

    หลายวันผ่านไปห้องของเกื้อกูลที่รีโนเวทไว้ก็เรียบร้อย จากที่ตั้งใจจะเร่งให้เสร็จโดยไวแต่ก็ทิ้งระยะไปเป็นเดือนเพราะเตียงไซน์ใหญ่ที่เขาสั่งทำขึ้นมาใหม่ยังไม่พร้อมโชคดีเป็นของชายหนุ่มอยู่บ้างที่ระหว่างรอนั้นเขาคืนดีกับนภิศาได้แล้ว จึงทำให้มีที่หลับนอน ไม่อย่างนั้นก็คงต้องอาศัยห้องของการุณย์แล้วคอยตื้อขอนอนห้องเธออยู่อย่างนั้นจนกวาจะใจอ่อนวันนี้เกื้อกูลสั่งให้คนในบ้านช่วยกันย้ายข้าวของของนภิศากับลูกมาไว้ที่ห้องนอนของเขาจนเกลี้ยง แน่นอนว่าเกลี้ยงชนิดที่กลับมานอนอีกไม่ได้ แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้บางอย่างเขาก็ยกให้คนงานในบ้านแบ่งกันเอาไปใช้ให้หมดเพราะเกื้อกูลคิดไว้แล้วว่าหากเผลอทำอะไรให้นภิศางอน จะต้องไม่มีห้องให้เธอหอบลูกหนีมานอนแยกกับเขาได้อีกหลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จสรรพ รวมทั้งช่วยกันกับอินทรยกชั้นออกไปไว้ที่ห้องพักเขาก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน พอเดินผ่านห้องนั่งเล่น พ่อกับแม่ของเขาก็เรียกให้เข้าไปหา“พ่อกับแม่มีอะไรจะคุยกับผมหรือเปล่าครับ”“มีสิ” คุณพรประภาเป็นคนตอบ ก่อนจะมองหน้าแล้วเอ่ยถามลูกชายด้วยสีหน้าจริงจัง&l

  • ดวงใจจำนน   ตอนที่ 24 ฉ่ำรัก 2 NC

    “อ๊ะ! อ๊า คุณเกื้อเบาๆ ค่ะ นัทเจ็บ”นภิศาห่อไหล่ครางซี้ดซ้าด ทั้งเจ็บทั้งเสียวจากแรงดูดดึงและขบเม้มของเกื้อกูล เขาผละจากอกอิ่มข้างหนึ่งมาดูดดึงอีกข้างหนึ่งจนพอใจ จึงลุกขึ้นมาถอดทิ้งเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดก่อนจะโน้มลงคร่อมร่างของเธอเอาไว้แล้วกดจูบลงไปที่สองข้างแก้ม ริมฝีปาก ปลายคาง ซอกคอ หัวไหล่ซ้าย หัวไหล่ขวา ลูบไล้ไปทั่วผิวกายอ่อนละมุน กดจูบดอมดมไปทั่วทุกอณูเนื้อนวลสัมผัสแผ่วเบาของเขาลากเรื่อยไปตามผิวกายของนภิศาจูบไล่ลงมาตามร่องอก เคลื่อนริมฝีปากลงต่ำมาจนถึงสะดือเล็ก แล้วช้อนตาขึ้นมองเธออีกครั้งก่อนจะวางฝ่ามือลงที่หว่างขา ลูบไล้ไปมาเบาๆ ทำเอานภิศาถึงกับต้องกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นหัวใจสั่นไหวในตอนที่เขาจ้องมอง“อยากให้พี่ทำยังไงครับ”เกื้อกูลเอ่ยถามเสียงพร่า นภิศาปิดปากส่ายหน้า ไม่รู้ว่าจะต้องตอบเขาว่ายังไง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอก็ยินยอมทั้งนั้นเกื้อกูลยิ้มในหน้า ฝ่ามือของเขายังคงลูบไล้อยู่ที่กลุ่มใหมบางของเธอไปมา ก่อนจะกดปลายนิ้วเข้าหาความฉ่ำชื้นที่กำลังเอ่อไหลแล้วค่อยจมมิดหายเข้าสู่กายสาวถึงสองนิ้วพร้อมกันอย่างช้าๆ“อ๊ะ..อื้อ..คุณเกื

  • ดวงใจจำนน   ตอนที่ 23 ฉ่ำรัก 1 NC

    หนึ่งอาทิตย์ถัดจากนั้นคุณหมอชิดชลก็ถูกเชิญให้มาทานข้าวที่บ้านประชาพิพัฒน์ด้วยคำชวนของคุณพรประภา ทันตแพทย์หนุ่มยังคงงงงวยอยู่ไม่น้อยที่หลังจากที่เขามาพบนภิศาไม่นาน เธอกับเกื้อกูลก็คืนดีกัน ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าทั้งสองคนยังรักกันอยู่ แต่คุณหมอชิดชลก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเร็วจนเขานึกไม่ถึง“ว่าไงครับเจ้าลูกหมู น้องกานต์ลูกพ่อชล มาหาพ่อหน่อยมา คิดถึงจังเลยลูก”เมื่อเห็นนภิศาอุ้มลูกชายเข้ามาหาคุณหมอหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะขออุ้มทันที เพราะตอนนี้เจ้าหนูกุลกานต์พึ่งอาบน้ำประแป้งมาซะตัวหอมเลยทีเดียวพอรับเจ้าลูกหมูมาไว้ในอ้อมแขนก็จัดการฟัดแก้มซ้ายขวาเอาซะหน้าคุณหมอหนุ่มติดแป้งขาวตามลูกชายของเขาจนนภิศาอดขำไม่ได้“อะ แฮ่ม!!”เสียงกระแอมที่ดังอยู่ไม่ไกลทำให้คุณหมอชิดชลเงยหน้าจากการฟัดแก้มยุ้ยขึ้นมามอง เห็นเกื้อกูลเดินมาหยุดซ้อนหลังแม่เจ้าอ้วนแล้วมองที่เขาตาขุ่นขวางก็เอ่ยทักทาย“เป็นไงบ้างครับคุณเกื้อกูล ดูเหมือนว่าลูกชายของเราจะโตวันโตคืนเชียวนะครับ”เอ่ยกับคนเป็นพ่อแล้วอุ้มเอาลูกเขาตรงไปที่ห้องรับแขกที่คุณพรประภาและคุณเกรียงศักดิ์นั่งรออยู่

  • ดวงใจจำนน   ตอนที่ 22 พี่เกื้อ

    เช้าวันใหม่สำหรับเกื้อกูลวันนี้เป็นเช้าที่สดใสที่สุดตั้งแต่มีชีวิตเกิดมาสามสิบกว่าปี ในอ้อมแขนของเขาคือเจ้าหนูกุลกานต์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนในวัยห้าเดือนเศษ เขาตื่นมาพาลูกออกมาเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านตั้งแต่ฟ้าเริ่มสาง ปล่อยให้นภิศาจัดการกิจวัตรของเธออยู่ในห้องเพียงลำพัง“ว่าไงครับลูกพ่อ หนูอยากไปไหนอีกมั้ย เมื่อยหรือยังลูก หืม หนูเมื่อยหรือยังครับ”“แอ้แอ้”เจ้าหนูน้อยนี่ก็ช่างเอาใจพ่อเก่ง พ่อพูดพ่อคุยอะไรมาก็ตอบรับอ้อแอ้ไปซะหมด ยิ่งทำให้เกื้อกูลได้ใจไปใหญ่ ถึงจะมีบางครั้งที่มือน้อยๆ นั้นจะยังหันมาฟาดหน้าพ่ออยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นไร เขาทนได้ถ้าลูกเขาชอบ“นั่นคุณเกื้ออุ้มน้องกานต์อยู่เหรอคะ”น้ำพลอยที่เดินผ่านมาเห็นเอ่ยถามด้วยความสงสัยท่าทางของเธอดูจะตกใจมากกว่าประหลาดใจเสียด้วยซ้ำ“ก็ใช่น่ะสิ ทำไม ก็ลูกฉัน ฉันจะอุ้มลูกตัวเองออกมาเดินเล่นบ้างไม่ได้เหรอ”“แต่คุณเกื้อถูกสั่งห้ามไม่ให้แตะต้องน้องกานต์นะคะ”“นั่นมันเป็นคำสั่งเก่า ตอนนี้นัทเขายอมให้ฉันแตะลูกได้แล้ว จริงมั้ยครับลูกพ่อ หืม น้องกานต์ชอบอยู่กับพ่อมั้ยครับลูก”ตอบก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status