Share

3 คิดอะไรของนาย

Author: xichng
last update Last Updated: 2025-02-22 23:15:12

จากนั้น แม่ฉันก็ลุกขึ้นจากโซฟาห้องโถง แล้วเดินขึ้นบันไดไม้ ไปยังชั้น 2 โดยไม่ได้หันกลับมามองฉัน หรือ นายกีต้าร์เลย

“กีต้าร์ ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย?”

“ว่าไง?”

“ออกมาข้างนอก ฉันไม่อยากคุยในบ้าน”

พูดจบ ฉันก็เดินออกจากบ้าน โดยมีคนตัวใหญ่ตามหลังมาติดๆ จนกระทั่งเดินไปถึง หน้าประตูรั้วบ้าน ฉันก็รีบหันหลัง

จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้า อย่างไม่ชอบใจนัก พลางย่นคิ้วใส่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามคนตัวใหญ่ออกไป ด้วยความไม่พอใจ

“นายเล่นอะไรของนายอยู่!”

ร่างใหญ่ ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แต่กลับพุ่งตัวเข้ามา ประกบริมฝีปากจูบฉันอย่างดูดดื่ม ราวกับว่าเขาต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง กับตัวฉัน

แขนหนากอดรัดตัวฉันอย่างดุดัน ริมฝีปากเขาขบเคี้ยวบดขยี้ริมฝีปากบางไปมา จนขาของฉันถึงกับอ่อนแรงลง เพราะไม่เคยโดนทำแบบนี้มาก่อน

"อ้า"

เมื่อริมฝีปากถูกถอดออก ฉันก็รีบใช้หลังมือถูปากตัวเองไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้น

“โถ่! จูบแค่นี้ ยังแกล้งทำไม่เป็น เธอคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธอเหรอ?”

“นี่…นาย!”

“คืนนี้ฉันจะนอนบ้านเธอ”

“อะไรนะ?”

“ฉันจะนอนบ้านเธอ!”

“มะ…ไม่ได้นะ”

ฉันถลึงตาใส่เขาอย่างดุดัน คนอะไรทำไมหน้าด้านหน้าทนแบบนี้ ทำอย่างกับว่า ฉันเป็นผู้หญิงข้างทาง ที่สามารถพาใครมานอนก็ได้เสียอย่างงั้น

สายตาดุดันจ้องมองฉัน อย่างไม่หวาดหวั่น จนฉันต้องหลบสายตาคู่นั้น ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านของตัวเอง อย่างเร่งรีบ

“ออกไป!”

“เธออออ….!”

“ถ้านายไม่ออก ฉันจะแจ้งความ”

“ก็เอาสิ แจ้งเลย!”

“กีต้าร์ ทำไมนายพูดยาก พูดเย็นแบบนี้ว่ะ?”

ฉันพุ่งตัวเข้าไป ผลักอกร่างใหญ่อย่างแรง จนตัวเซ ก่อนที่เขาจะผลักตัวฉันกลับ จนก้นจ้ำเบ้า

“โอ๊ย!”

“เจ็บเป็นด้วยเหรอ ฉันก็คิดว่าเธอด้านไปทั้งตัวแล้วซะอีก”

“เลว!”

“เฮอะ!”

ใบหน้าร้ายกาจ ที่มีม่านกั้นเป็นความมืด บ่งบอกถึงความเกลียดชั่ง ที่มีต่อฉันอย่างหนักหน่วง แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเพราะอะไร เขาถึงได้เกลียดชั่งฉันขนาดนี้ ทั้งที่ตัวเขาแทบไม่รู้จักตัวฉันเสียด้วยซ้ำ

แขนใหญ่ กระชากตัวฉันลุกขึ้นอย่างแรง จนตัวฉัน ลุกขึ้นชนกับแผ่นอกกว้างตรงหน้าเพราะถูกแรงกระชาก

“พรุ่งนี้ ฉันจะให้ผู้ใหญ่มาขอเธอแต่งงาน”

“ฉันไม่แต่ง ปล่อยมือออกจากแขนฉันได้แล้ว”

มือใหญ่ บีบแขนฉันแรงขึ้น จนฉันต้องรีบสะบัดมือนั่นออกโดยเร็ว เพราะความรู้สึกเจ็บกับแรงบีบ แต่ถึงจะสะบัดแรงเพียงใด มือใหญ่ก็เกาะแขนฉันไม่ปล่อยอยู่ดี

“ถ้าเธอไม่แต่งกับฉัน ชีวิตครอบครัว เพื่อน และทุกคนที่รู้จักเธอ พังแน่ จะลองดูไหม?”

“นี่ กีต้าร์นายบ้าไปแล้วเหรอ นายรู้จักฉันดีขนาดไหนกัน ถึงได้มาขู่คนอื่นให้แต่งงานด้วยแบบนี้?”

“ฉันไม่สนหรอก … เธอจะรักหรือไม่รัก ฉันก็ไม่สนใจ ถ้าพรุ่งนี้ฉันมาแล้วรู้ว่าเธอหนีงานแต่ง ฉันจะเผาบ้านเธอ ทำชีวิตคู่เพื่อนเธอพัง อะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอ ฉันจะทำลายให้หมด”

“กีต้าร์!”

“จะลองกับฉันก็ได้นะ เธอเห็นแล้วหนิ ที่โรงเรียนน่ะ เป็นอย่างไง”

พูดจบ เขาก็ปล่อยมือออกจากแขนฉัน อย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้สนใจว่าฉันจะรู้สึกอย่างไรเลยแม้แต่น้อย ซ้ำร้ายเขายังฝากรอยบีบไว้บนแขนของฉันอีก เป็นรอยใหญ่ จนฉันเริ่มรู้สึกหวาดกลัวเขาขึ้นมาเสียแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

"พักพิงค์ลูกตื่นได้แล้ว กีต้าร์พาพ่อแม่มาหาน่ะลูก"

ฉันตาเบิกโพง เมื่อได้ยินเสียงแม่ที่เรียกฉัน จนฉันต้องรีบแปรงฟันล้างหน้า และผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้มาเห็นกับตาว่า ไอ้บ้านั่น มันพาพ่อแม่มันมาจริงหรือเปล่า

แต่ฉันก็ต้องผงะ เพราะสิ่งที่ฉันเห็นตรงหน้าคือ เงินสินสอด และ ผู้หญิงผู้ชายวัยกลางคนกำลังนั่งพูดคุยกับแม่ฉันอย่างรื่นเริง ส่วนคนที่ฉันไม่อยากเจอมากที่สุด

"อ้าว! ที่รัก ตื่นแล้วเหรอคับ"

อื้ม! ฉันคงไม่ต้องเอ่ยบอกนะ ว่าเขามาหรือเปล่า ในเมื่อเสียงมันชัดเจนขนาดนี้  เสียงทุ้มของร่างใหญ่ ทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนถึงกับหันมาหาฉันเป็นตาเดียว

จนฉันทำตัวแทบไม่ถูก จึงทำได้เพียงเดินลงบันไดบ้านอย่างเชื่องช้า ก่อนจะรีบยกมือไหว้พ่อแม่ของกีต้าร์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างนอบน้อม

"ซะ...ซะ...สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า"

"ตายจริง! เดี๋ยวเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เรียกพ่อกับแม่ดีกว่านะลูก"

ร่างเล็กผิวพรรณสะอาด กับอีกคนท่าทีสุขุมบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ทั้งคู่ต้องเป็นผู้ดีมากๆ เป็นแน่แท้ แต่ทำไมกีต้าร์ในเมื่อก่อน ถึงถูกปล่อยให้เดียวดายกันนะ

ทั้งที่ดูตอนนี้ ก็เหมือนกับว่า พ่อแม่ของเขาก็ดูจะรักเขามากอย่างไงอย่างงั้น หรือฉันคิดมากไปเองกันนะ 

"ยัยพักพิงค์ มานั่งนี่เร็ว"

"อ๋อ คะ...ค่ะ แม่"

ฉันรีบขยับสาวเท้า เดินไปนั่งกับผู้เป็นแม่ อย่างหวั่นเกรง เพราะทำตัวไม่ถูกกับการเจอคนมาสู่ขออะไรแบบนี้

"ว่าแต่ สินสอดที่นำมามอบให้ พอไหมคะ คุณแม่ยาย"

"อุ้ย! เรียกกันแบบนี้เลยเหรอคะ เขินจัง"

ฉันเห็นท่าทีที่แม่พูดคุยกับ พ่อแม่ของกีต้าร์ มันทำให้ฉันรู้ว่า ความสุขของแม่คงไม่จำเป็นต้องเป็นฉันก็ได้สินะ เพราะสิ่งที่แม่แสดงออกมา มันบ่งบอกฉันอย่างชัดเจน ว่าแม่พร้อมยกฉันให้กีต้าร์

เพราะถ้าแม่สนใจความรู้สึกของฉัน สักนิด เมื่อคืนแม่คงไม่เดินหนีฉัน ขึ้นห้องนอนแล้วเงียบไปหรอก ที่ผ่านมาแม่เหนื่อยกับฉันมามากแล้ว ถ้าแม่มีเงินขนาดนี้ แม่คงจะมีความสุข และได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการสินะ

"นี่เป็นสินสอด 9 แสนบาท แค่ค่ามาสู่ขอนะคะ ส่วน เพิ่มเติมมากกว่านี้ คุณแม่ยายเรียกมาได้เลยค่ะ ดิฉันพร้อมมาก พอดีอยากได้ลูกสะใภ้แล้วน่ะค่ะ คิคิ"

"อุ้ย! ตายจริง เรื่องสินสอดทองหมั้น ลูกๆ เขารักกันแล้ว อีกอย่างฉันก็เลี้ยงลูกสาวฉันมาเป็นอย่างดี ฉันไม่ขอมากมายหรอกค่ะ แค่ซัก 2 ล้านก็พอแล้ว"

ใบหน้าของแม่กีต้าร์ยกยิ้มขึ้น สายตาชำเลืองมองฉันอย่างเอ็นดู ก่อนจะยื่นใบเอกสารอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

"ฉันให้ 20 ล้านเลยค่ะ"

"อะไรนะคะ 20 ล้าน!"

แม่ฉันตาเบิกโพงด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่า จะได้ค่าสินสอดมากมายขนาดนี้

"แต่ ฉันมีข้อแม้ค่ะ เมื่อแต่งงานแล้ว พักพิงค์จะไม่สามารถกลับมานอนที่บ้านได้อีก และถ้ามาหาคุณแม่ ก็ต้องให้กีต้าร์มาด้วยทุกครั้ง มาได้แค่ สัปดาห์ละ 1 ครั้งต่อวันเท่านั้น และห้ามนำเรื่องที่บ้านของฝ่ายสามี ไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด อ๋อ! แล้วที่สำคัญเมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว พักพิงค์จะไม่สามารถหย่าได้อีกตลอดชีวิต"

"อะไรนะคะ"

ฉันรีบเอ่ยขึ้น ด้วยความเดือดดาล เพราะถ้ามีข้อแม้ขนาดนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับขังฉันไว้เลยสักนิด 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด   70  ตอนพิเศษ 

    #กีต้าร์"เป็นไงบ้าง พิงฟ้า""ก็เรื่อยๆ ตามประสาคนติดคุก""เราเอารูปลูกมาให้ ตอนนี้ลูกได้เรียนเต้นบรรเลย์ และ เล่นดนตรีด้วย ลูกเก่งมากเลยนะ เธอหัวดีมาก ""ขอบคุณนะ"ผมใช้มือแตะไปที่กระจกกั้นระหว่างผมกับพิงฟ้าด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ แต่ผมกลับได้เห็นสีหน้าเศร้าสลดของพิงฟ้า ที่มองมาทางผมแทนเสียอย่างนั้น"นะ....นาย""ว่าไง?""ฉันทำร้ายนาย ทำลายชีวิตนายถึงขนาดนี้ ทำไมนายถึงยังรักฉันอยู่ ทำไมถึงไม่หาแฟนใหม่ แล้วแต่งงานใหม่"ผมยกยิ้มขึ้นอย่างมีความหวัง ถึงแม้จะรู้ดีว่า พิงฟ้า ใช้ผมเป็นเครื่องมือสำหรับทุกอย่างเท่านั้น แต่ผมก็ยังรักเธอ"ก็เพราะ แม่ของน้องพราวมีแค่คนเดียวไง เราถึงไม่ให้ใครมาแทนแม่ของลูกเราได้""นะ...นายเป็นคนดีจริงๆ ดีจนฉันละอายแก่ใจ""พิงฟ้า เราจะรอเธอนะ รอวันที่เราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก"10 ปีต่อมาศาลได้ยกคดีของพิงฟ้าขึ้นมาพูด

  • ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด   69  END  

    วินาทีนั้น ใจฉันกระตุกวูบ สับสนในความรู้สึกของตัวเองราวกับว่า มันเป็นอย่างที่กีต้าร์พูดจริงๆ"เกี่ยวก้อยกันนะ!""ห๊ะ?"เขาดึงมือฉันไปเกี่ยวก้อยอย่างเดียงสา จะว่าไปแล้ว กีต้าร์ก็ดูเหมือนเด็กน้อยอยู่เลยนะ หรืออาจเป็นเพราะเขาหลับไปนาน ตื่นขึ้นมาถึงได้ดูเหมือนเด็กน้อยแบบนี้ไปได้แต่ฉันก็ยิ้มรับเขาอย่างเอ็นดูนั่น อีกอย่างความคิดของฉันมันก็เปลี่ยนไป ราวกับได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่ติดค้างในใจมาอย่างยาวนานเสียอย่างนั้น"ตอนเรียน นายมองเราอยู่ตลอดเลยเหรอ?""ก็มองนะ ก็เธอโดดเด่นหนิ มีแต่เพื่อนๆ เข้าหา""ฮ่ะ ฮ่าๆ"ฉันพูดคุยกับกีต้าร์อย่างถูกคอเสียอย่างนั้น พอได้คุยกับเขาจริงๆ มันก็กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลย นายนี่ไร้เดียงสาจริงๆ"นายไม่คิดจะหาแฟนใหม่เหรอ?""ไม่ล่ะ เราจะรอพิงฟ้าออกจากคุก อย่างไงเธอก็เป็นแม่ของลูกเรา เป็นแม่ของน้องพราว"แถมเขายังรักเดียวใจเดียวและมั่นคงในความรักอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้น ทำร้ายเขามาตั้งมากมายขนาดนั้

  • ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด   68 ซึม! 

    ห้องพักฟื้นฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยหัวใจที่แตกสลายจนละเอียดไม่มีชิ้นดีข้างตัวยังมีสายน้ำเกลือและชายร่างใหญ่ นอนอยู่ข้างเตียง"อื้มม!""อ่ะ! ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง?""นาย!"ฉันพยายามมองร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างเตียงอีกครั้งอย่างคิดพิเคราะห์ ถึงได้รู้ว่า คนที่นอนเฝ้าฉันอยู่ตรงนี้ คือ กีต้าร์ ไม่ใช่ เปียโน"เป็นไงบ้าง เวียนหัวอยู่ไหม เดี๋ยวฉันไปตามหมอมาให้ ""นาย!"ท่าทีลนลานแบบนี้ ไม่ใช่อี่ตาเปียโนอย่างแน่นอน เพราะอี่ตาเปียโนจะดูเย็นชาและใจเย็นมีสติกว่ากีต้าร์เยอะ แต่ก็ช่างเถอะ จะใครฉันก็ไม่สนใจแล้วสิ่งที่ฉันสนใจตอนนี้ คือร่างที่ไร้วิญญาณของแม็กทิวมากกว่า ถ้าฉันไม่ได้เห็นร่างของเขาอีกครั้ง ฉันคงคิดว่าตัวเองฝันไปอยู่แน่นอน"แม็กทิวอยู่ไหน?""เปียโน มันไปทำเรื่องเอาศพออกโรงพยาบาลอยู่น่ะ!"ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นออกมาด้วยแววตาที่เศร้าหมอง ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาทำเป็นอะไรท

  • ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด   67 สิ่งที่ไม่คาดฝัน! 

    เพี้ยะ!ฉันตบเข้าหน้าคมอย่างจัง จนหันไปอีกทาง ด้วยความเดือดดาลจนยากจะเอ่ย กล้าดีอย่างไงกัน ถึงได้พาลูกๆ ของฉันไปจากอกของฉัน"เธอตบฉัน ทั้งที่ฉันยังหัวแตกอยู่เนี่ยนะ?""ใช่! ฉันเกลียดนาย และฉันก็เหนื่อยมากด้วย ที่จะต้องเห็นหน้านาย"พูดจบ เขาก็ดึงตัวฉันเข้าไปประกบจูบอย่างดุดัน แถมยังกดต้นคอฉันให้แนบชิดจนถอดฝีปากออกไม่ได้ปลายนิ้วมือฉันฟาดเข้าแก้มขาวย้ำๆ อยู่แบบนั้นถี่ๆ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะยอมถอดริมฝีปากออกจากโพรงช่องปากฉันเลย มันยิ่งแนบแน่นขึ้นไปอีก จนฉันหายใจไม่ออก"อ้า!"แต่เมื่อฉันเริ่มนิ่ง เขาจึงยอมถอดริมฝีปากออก และลูบแก้มฉันอย่างอ่อนโยน พลางจูบลงบนแก้มขาว เพื่อบ่งบอกถึงการยินยอมฉันในทุกๆ อย่าง"ฉันรักเธอมากนะ ฉันยอมเธอได้ทุกอย่าง ถึงเธอจะทำร้ายฉันให้เจ็บปางตายฉันก็ยอม แต่ขอร้อง เราอย่าหย่ากันเลยนะ เพื่อลูกๆ เพื่อฉัน""..........""ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อเธอมาตลอด แต่ฉันขอร้องได้ไหม อย่าทิ้งฉันไปไหนอีกเลย ชีวิตฉันต้องการเธอ บ้านก็ต้องการเธอ

  • ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด   66 เกลียด! 

    แต่แล้ว เมื่อฉันคุยกับแม็กทิวจบ ใบหน้าของแม็กทิว ก็พยักหน้ารับราวกับส่งสารให้ใครบางคนอย่างน่าสงสัย นัยน์ตาของเขามีน้ำตาไหลออกมาก่อนที่เงาร่างกำยำ จะขยับตัวเข้าใกล้ฉันอย่างแผ่วเบา และใช้ผ้าสีขาวโปะเข้าจมูกฉันอย่างจัง มันกดจมูกฉันอย่างแรง จนร่างกายของฉันค่อยๆ อิดโรย และดับวูบไปเหลือไว้เพียงเสียงพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา ที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไม่ได้ความ เหมือนมันพูดกันว่า จะพาฉันไปที่ไหนสักแห่ง แต่ยังไม่พากลับไทย อะไรประมาณนี้ปัง!แคร่ง!!!"ล่ามดีๆ ดิว่ะ! แม่งเดียวคุณชายก็ได้กระทืบเข้าให้หรอก""ว่าแต่ ไปเอาเมียเขามาไว้แบบนี้จะดีเหรอว่ะ?""หุบปากไป!"ฉันคืนสติมาแล้ว และได้ยินในสิ่งที่มันพูดกัน ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดอยู่ที่ข้อเท้าเลยแต่ฉันก็ไม่สามารถขยับตัวได้ หากขยับตัวไปมา พวกมันอาจจะรู้ตัวว่าฉันฟื้นแล้ว และอาจจะเอาไอ้ผ้านั่น มาโปะฉันอีกก็เป็นได้ฉันเป็นห่วงเด็กๆ จัง ป่านนี้จะเป็นอย่างไงบ้างนะ ทำไมมันถึงเป็นแบบ

  • ตอนนั้นฉันแค่เข้าใจผิด   65  พิธีแต่งงาน 

    แกร๊ก!"มาแล้วเหรอคะ ที่รัก"ฉันเดินไปต้อนรับแม็กทิว และน้องฮันน่าอย่างทุกครั้ง ที่ทำเป็นประจำ ก่อนจะโผตัวเข้าไปกอดแม็กทิวอย่างปกติแต่วันนี้มันแปลกไป แม็กทิวดูผอมลง แถมสีผิวก็ยังคล้ำลงด้วยอีกต่างหาก ราวกับว่า เขาไม่ได้พักผ่อนมาอย่างไงอย่างงั้นและด้านข้างของเขา มีกระเป๋าใบใหญ่สีชมพูน่ารัก คาดว่าน่าจะเป็นของน้องฮันน่าอย่างแน่นอน"เออคือ แม็กทิว ทำไมเอากระเป๋าของน้องฮันน่ามาด้วยละคะ ปกติก็ใส่ชุดของน้องพะเพลงได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเอามาให้ยุ่งยากเลย""เออคือ!"แม็กทิวเม้มปากลงเล็กน้อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น"ไม่มีอะไรหรอกคับ ช่วงนี้ผมทำงานหนัก เลยไม่ได้พักเลย จึงอยากจะขอพักพิง ดูแลลูกสาวของผมหน่อย ในช่วงนี้ ผมอยากให้เธออยู่กับคุณตลอด เพื่อที่คุณกับเธอจะได้สนิทกันมากยิ่งขึ้น"ฉันไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่แม็กทิวพูดเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่อยากจะถามอะไรต่อให้มันเป็นประเด็น ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาคงมีเรื่องเครียดอะไรบางอย่าง ที่บอกฉันไม่ได้ แต่ในสักวัน เขาคงกล้าที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status