นลิน เด็กสาวที่ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัวเลย ยิ่งไปกว่านั้นพอเรียนจบก็ถูกเจ้าหนี้ลากตัวไปทำงานใช้หนี้ก้อนโต ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ใช้สักบาท นั่นทำให้เธอเจอกับอิทธิพัทธ์ นายหัวหนุ่มผู้แยกถูกผิดชัดเจน เขากำลังโกรธจัดเมื่อรู้ว่าทรัพย์ก้อนโตหายไปในพริบตา ขณะเดียวกันก็ผิดหวังที่ช่วยและเชื่อใจคนผิด เขาเกลียดสิ่งที่ครอบครัวของเธอทำ ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาก็พอรู้เรื่อง(แย่ ๆ)เกี่ยวกับเธอ นั่นทำให้การชดใช้หนี้ของนลินมีแต่อุปสรรค ส่วนความรู้สึกของเธอนั้นก็ไม่ได้ต่างจากเขานัก อาจจะมีมากกว่าเสียด้วยซ้ำ อยากหนีก็หนีไม่ได้ อยากตุยก็ไม่ใช่นิสัยของเธอ นลินจึงทำทุกย่างเพื่อเดินไปให้ถึง คำว่าอิสระภาพ ทว่าทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด ชีวิตของนลินจะจบลงอย่างไรนั้น ผู้อ่านคงต้องติดตามนะคะ บทแซ่บ อะ! มันต้องมีให้ได้ยิ้มให้ได้ลุ้น…
View More“ไม่ต้องสะกดรอยตามเรื่องหน้าไม่อายของเธอก็เป็นที่โจษจันรู้ไปทั้งตำบล ภูมิใจมากไหมที่ผัวไปป่าวประกาศกลาง ร้านชำว่า เธอยอมอ้าขาให้มันเอาได้ง่าย ๆ”
“พี่ธีไม่มีทางพูดจาแย่ ๆ แบบนั้น เขาไม่ได้มีสันดานเหมือนคุณ โอ๊ย”
เสียงร้องเบาเมื่อข้อมือถูกบิดอย่างแรงด้วยมือข้างที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้อย่างลวก ๆ ของเขา นลินจำใจต้องพูดทั้งที่รู้สึกกลัว
“คุณเมาแล้วไปนอนเถอะค่ะ”
“นอนเหรอ”
กลิ่นไวน์ระเหยออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูปที่อยู่ห่างจากปากของนลินเพียงคืบเดียว นลินอยากแก้ต่าง อยากอธิบายว่าสถานะระหว่างเธอกับธีรุตม์นั้นไม่มีอะไรเกินเลย แต่ดูเหมือนชายตรงหน้าดื่มไปไม่น้อย ตอนยังมีสติครบถ้วนเขายังไม่เคยฟังคำแก้ต่างเลยแล้วเมามายแบบนี้อธิบายไปคงไร้ประโยชน์
“ปล่อยฉันได้แล้ว”
“ปล่อยเหรอ”
ลมหายใจร้อนพุ่งออกทางจมูกคมโด่ง การที่เธอพูดถึงชายคนนั้นอย่างยกย่อง ทำให้ความโมโหของอิทธิพัทธ์เพิ่มสูงจนอยากพิสูจน์ว่าตนเองยังจะด้อยกว่าในสายตาของแม่นี่อีกหรือไม่ หากผ่านพ้นความชิดใกล้ไปแล้ว
ระหว่างเขากับไอ้หมอนั่น ใครจะลีลาถึงใจกว่ากัน !
คิดได้ดังนั้นอิทธิพัทธ์ก็ทำตัวรุ่มร่าม สอดมือเข้าไปใต้ชายเสื้อสัมผัสผิวนุ่มลื่นของเธอ โน้มใบหน้าลงหมายจุมพิตแต่เธอเบี่ยงหน้าหลบ ดิ้นรนปัดมือของเขาออก ท่าทีขัดขืนนั้นยิ่งเพิ่มความโกรธของชายหนุ่ม เร่งการกระทำโดยใช้กำลังแบบที่เขาไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“จะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อย ช่วยด้วย ช่วยด้วย !”
“แหกปากไปก็ไม่มีประโยชน์ นี่มันพื้นที่ของฉัน ทุกคนที่จะได้ยินเสียงของเธอเป็นลูกน้องของฉันทั้งนั้น ถ้าฉันไม่อนุญาตก็ไม่มีใครกล้าเปิดประตูเข้ามาหรอก”
“ทำแบบนี้ทำไม”
“ทำเพื่อช่วยไม่ให้เธอต้องไปขายตัวไง”
“ไอ้…อื้ม”
คำด่าถูกปิดตายด้วยริมฝีปากหยักได้รูปที่โฉบเข้ามาปิดปากอวบอิ่มสวย ในคืนนั้นอิทธิพัทธ์บังคับเธอให้ต้องจำนนอย่างไม่อาจเลี่ยง เสื้อผ้าชื้นเหงื่อจากการกรำงานหนักมาตลอดทั้งวันถูกกระชากขาด
ชั่วพริบตาเดียวเธอก็ตกอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ ร่างกายของเธอสั่นเทาตื่นกลัว นั่นไม่ได้ทำให้เขาลดราวาศอก แต่เหมือนมันจะยิ่งทำให้เขาพอใจ ทั่วทุกจุดบนร่างกายของเธอถูกเขากระทำการอย่างหยาบคายด้วยมือ บางจุดชื้นไปด้วยน้ำลายเปียกที่ควรจะรังเกียจแต่ร่างกายมันกลับทรยศ
นลินกำลังถูกอิทธิพัทธ์ย่ำยีร่างกาย ชายหนุ่มเอาแต่พร่ำบอกว่า เธอกำลังจะหนีไปกับแฟนเก่า อีกทั้งยังตอกย้ำถึงสถานะของทั้งสองที่เป็นเจ้าหนี้กับลูกหนี้นลินไม่อาจทนรับความร้อนแรงนี้ได้จึงสลบไปหลังจากถูกกระทำนานหลายชั่วโมง
******
อิทธิพัทธ์อมยิ้มเล็กน้อย โน้มตัวลงบดจูบริมฝีปากบวมแดงอย่างหลงใหลแค่นลินเผยอปากเพียงนิดเดียว ลิ้นอุ่นของอีกฝ่ายก็เข้ามากวาดความหวานอย่างตามใจ ไม่รู้ว่าจูบนั้นเพลิดเพลินและโหยหากันและกันมากแค่ไหน พอรู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของเธอก็นาบลงบนเตียงนุ่ม ส่วนผัวรักของเธอก็ยังคงรักษาคอนเซปต์ของความป่าเถือนอย่างคงเส้นคงวาแคว่ก ! เพนตี้ลูกไม้ขาดถูกโยนออกไปไกล“นี่ ! นายหัว ฉีกมันอีกแล้วนะ ไอ้โรค อื้อ…”คำว่า ‘จิต’ ค้างอยู่ในลำคอเมื่อลิ้นอุ่นเลื่อนลงไปทักทายกลีบกลางอย่างรวดเร็ว“ลิน หวานมาก” เขาหยุดแล้วส่งเสียงอู้ ๆ อี้ ๆ บอกเธอก่อนจะทำการชำแหละหาความหมอหวานต่อนลินดิ้นเร่าอ้าขาออกกว้างอย่างหน้าไม่อาย แน่นอนว่าเธอคิดถึงความสุขสุดยอดนี้แค่ไหน นึกว่าอีตาผัวกระทิงควายจะกลายเป็นโรคประสาท สมองกลับจนไม่ทำแบบนี้ให้เธออีกต่อไปแล้ว โอ้วววแม่เจ้า ขอต้อนรับกลับบ้านค่ะนายหัวผัวกระทิงควาย นลินคิดในใจขณะเคลิบเคลิ้มวิ่งเล่นอยู่บนดวงจันทร์“ฉัน อื้อ เสียว ไม่ไหวแล้วค่ะนายหัว”อิทธิพัทธ์หยุดการเคลื่อนไหว นั่นทำให้นลินยิ่งประหลาดใจ ดวงตาพร่าสวาทกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้นก็กว้างขึ้น นัยน์ตาดำขลับมีรูปเครื่องหมายคำถาม ( ?
พยายามจะสะกดใจ แต่…นลินถือไดร์เป่าผมสะบัดไปมาบนผมเปียกที่พึ่งสระเสร็จอยู่หน้ากระจก ท่าทางของเธอเหมือนตั้งใจจะให้ผมนั้นกลับมาแห้งสสวยโดยเร็ว ๆ ทว่าจริงแล้วดวงตากลมโตไม่ได้สนใจผมของตัวเองสักนิด แต่กำลังมองผ่านกระจก ดูเรือนร่างกำยำที่ใส่ผ้าขนหนูในลักษณะหมิ่นเหม่ กำลังเช็ดผมแบบลวก ๆ ทำท่าเหมือนจะอ่อยเธอ นลินนึกถึงเมื่อตอนบ่ายของวันนี้ที่สินประกาศดังลั่น“เอาล่ะทุกคนตอนนี้นายหญิงของไร่ร่างกายอ่อนเพลียมากต้องการพัก เชิญทุกคนไปสังสรรค์ร้องโฮ่ฮู้กันต่อได้ที่โรงอาหาร”เสียงเฮดังลั่นขณะที่เรือนร่างของเธอถูกว่าที่เจ้าบ่าวอุ้ม ตอนนั้นเธอเข้าใจว่าคงต้องปรนเปรอนายหัวกระทิงควายเป็นแน่ เธอคิดถึงเขา เขาคิดถึงเธอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากการกลับมาเจอกันอีกครั้งจะกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์แบบนันสต็อปทว่ากลับผิดคาดเมื่อเขาวางตัวเธอลงบนโซฟาห้องรับแขก ตรงหน้าคืออาหารชั้นดีบำรุงครรภ์ พยาบาลบอกด้วยหน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามมาด้วยยาสำหรับคุณแม่ท้องอ่อน แน่นอนว่าตานายหัวอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับเธอ“นายหัวกินข้าวได้เยอะแบบนี้ผมก็เบาใจ”“นายไปร่วมส
“ทำไม คุณเสียใจมากหรือไงที่ฉันท้อง หรือคุณจะหาว่าฉันท้องกับคนอื่น”“ลิน” อิทธิพัทธ์ทำหน้าตกใจ เมื่อหันกลับไปพบนลินยืนเท้าสะเอวอยู่ จึงถามเสียงสั่นว่า“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”“ไม่สำคัญหรอก” เธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกตามตรงว่าเธอมาตั้งแต่ตอนที่เขาพูดคุยกับนายหัวหนุ่ยทำให้เธอเพิ่งรู้ถึงเหตุผลอันแท้จริงของการที่เขาไล่เธอออกไปจากไร่ และเขายอมเสี่ยงแค่ไหนเพื่อจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง มันทำให้ความโกรธในใจหายไปราวกับปลิดทิ้ง แทนที่ด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง เขาเป็นคนเดียวในชีวิตที่ยืนหยัดเพื่อเธอมากขนาดนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอยอมกลืนน้ำลายตัวเอง“ฉันไม่เคยคิดว่าเธอท้องกับคนอื่นเลยนะ ฉันมั่นใจว่าลูกเป็นลูกของฉัน ฉันถึงได้ซื้อของใช้เด็กอ่อนเอาไว้มากมายรอลูกของเรา ฉันอยากให้ลูกเกิดมาบนความพร้อม และความรัก ฉันสัญญาว่าจะทำหน้าที่พ่ออย่างดีที่สุด จะไม่ทำให้ลูกขาดความอบอุ่น หรือรู้สึกต่ำต้อยกว่าคนอื่น ลูกอินทร์ชื่อลูกของเรา มาจากลินกับอิทไง ฉันตั้งเอง”นลินขมวดคิ้วให้กับชื่อนั้น“เห็นไหม บอกแล้วว่าฉันตั้งใจกับหน้าที่พ่อมากแค่ไหน และฉันสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เราคืนดีกันนะ”“ง่ายไปหรือเปล่า”“อะไรง่าย”
26 เหตุผล“มีอะไร” อิทธิพัทธ์ถามเสียงขุ่น ยกมือออกจากหน้าขาของอีกฝ่ายนลินรู้สึกขัดเขินกับความใกล้ชิดต่อหน้าคนอื่น จึงดึงผ้าห่มขึ้นห่มถึงคาง เบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างมองแปลงองุ่นที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา“นายหัวหนุ่ยโทร. มาครับ แจ้งว่าต้องการคุยกับนายหัวด่วน คงจะเป็นเรื่อง…”สินหยุดพูดไปเท่านั้น แต่ทุกคนก็รู้ได้ด้วยตัวเองว่าคงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจากเรื่องที่เขาพานลินเข้าบ้านนี่เป็นการผิดสัญญาที่เขาเคยรับปากกับนายหัวหนุ่ยไว้ ตอนที่ให้นลินย้ายออกไป เขาถูกนายหัวหนุ่ยเรียกพบเพื่อพูดคุยกันเรื่องนี้ ความจริงแล้วนายหัวหนุ่ยไม่ได้สนใจว่าเขาจะนอนกับใครหรือไล่ใครออกจากงาน ที่เขาสนใจเรื่องนี้เพราะมันกระทบกับลูกสาวของเขา นั่นย่อมหมายถึงกระทบกับตัวเขาเช่นเดียวกันการที่อิทธิพัทธ์ยอมหักหน้าภาพิมลเพื่อแม่บ้านคนเดียว เป็นเรื่องที่รู้ถึงไหนอายเขาไปถึงนั่น ลูกสาวของเขาถึงจะผิดจะถูกอย่างไรก็เป็นคุณหนูชาติตระกูลดี จะปล่อยให้ถูกคนงาน เยาะเย้ยว่าแพ้แม่บ้านก็เหลือทนนายหัวหนุ่ยบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าเรื่องนี้ตนรับไม่ได้ ในเมื่ออิท
แน่นอนว่าลูกค้าคนสำคัญทำให้เธอมีเงินเหลือเก็บ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเป็นเพียงระยะเวลาอันสั้น เด็กสมัยนี้โตไวซื้อของไปก็ใช้ได้แค่แป๊บเดียวเอง เธอจึงอยากหาลูกค้าแบบนี้เพิ่มหลังจากปล่อยให้ความคิดของตัวเองล่องลอยไปได้เพียงไม่นาน นลินก็กลับมาสนใจออเดอร์ของลูกค้าอีกครั้ง จัดแจงกดเบอร์ในมือถือโทรไปยังร้าน ‘โลกของเด็ก’ เป็นร้านขายของใช้เด็กของป้าสวย เพื่อสอบถามสต๊อกและยืมรถสำหรับนำส่งลูกค้าประจำคนนี้เมื่อถึงเวลานัดส่งมอบสินค้า นลินกับเบิ้ม เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี เป็นหลานชายป้าสวย ได้ไปตามสถานที่นัดก่อนเวลานัดหมายสิบนาที และพบว่าพี่ลูกอินทร์ก็มาก่อนเวลาเช่นเดียวกันแต่ผิดคาดเล็กน้อยเมื่อพบว่าลูกค้าดีเด่นคนนี้เป็นผู้ชาย แล้วยังเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่เธอคิดจะขายของใช้เด็กอ่อนให้ !“นายหัว !”“เธอจะตะโกนทำไม” อิทธิพัทธ์สวมแว่นตาดำ ทำให้มองไม่เห็นแววตาของเขา แต่จากสีหน้าสามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกพอใจ“ฉันเอาของมาแล้ว ฉันไม่ได้เอามาให้นายหัวเล่นสนุกนะ”“ใครบอกเธอว่าฉันเล่นสนุก ฉันจะซื้อทุกอย่างจริง ๆ”“นี่มันของใช้เด็กอ่อน”“แล้วไง”“ถามมาได้ว่าแล้วไง นายหัวไม่มีลูกจะซื้อของพวกนี้ไปทำไม อ๋อ แล้วที
“ฉันนึกว่าเมื่อรู้แล้วว่าฉันปลดหนี้ได้ แม่จะกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเมื่อก่อนก็ได้น่ะ” ต่อให้รู้สึกห่างเหินกับมารดา ที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นป้า แต่นลินก็คือนลินเด็กกตัญญูอย่างไรเล่า จึงไม่อาจละเลยที่จะไม่เลี้ยงดู“แกปลดหนี้ได้แล้วเหรอ หนี้ที่พวกฉัน…” หญิงวัยกลางคนละอายใจเกินกว่าจะพูดต่อ“ฉันนึกว่าแม่รู้”“ไม่รู้ ดูเหมือนว่านายหัวจะไม่ไว้ใจ กลัวว่าฉันจะมาเกาะแกกินเลยไม่ยอมบอกเรื่องนี้”“ถ้าแม่กับมินตราสัญญาว่าจะปรับตัวใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน จะกลับมาอยู่ด้วยกันฉันก็ไม่ว่า”“แกเป็นคนดีจริง ๆ ลิน น่าเสียดายที่แกต้องอยู่ในการเลี้ยงดูของฉัน ถ้าแกได้อยู่กับแม่แท้ ๆ หรือตายายของแก ชีวิตของแกคงจะมีแต่ความสุข”“พวกเขาไม่ได้เป็นคนเลี้ยงฉัน แต่แม่เป็นคนที่เลี้ยงฉันมา ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง และสำหรับกำไลทองนี่ ทั้งที่แม่จะขายทิ้ง เอาเงินมาใช้จ่ายเหมือนสมบัติชิ้นอื่น ๆ ของแม่ฉันก็ได้”วิภาวีพยักหน้าเล็กน้อย แววตายังคงเศร้าปนระอายใจ“ถือว่ามันเป็นสิ่งดีสิ่งเดียวที่ฉันมอบให้ก่อนจากกันก็แล้วกัน เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ฉันจะกลับก่อน”“แม่จะกลับยังไง”“อ๋อ มีพลเมืองดีไปรับไปส่งน่ะ ไม่ต้องงง คนพวกนี้เป็นลูกน้องของ
Comments