“ฉันอะไร ต้องเรียกตัวเองว่าหนูไอสิ พี่ว่าเราเรียกกันแบบนี้ดูสนิทสนมกันดีนะ” ไอรักสูดหายใจเข้าปอดยาวๆก่อนจะผ่อนออกอย่างยากเย็น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์เต็มที่ เพราะคิดว่าถ้าพูดกับชายหนุ่มดีๆ เขาอาจจะเปลี่ยนใจกลับไปส่งเธอที่บ้านก็ได้
“พี่ธีร์คะ หนูไอมีสามีแล้ว พี่ธีร์ไม่อายคนอื่นเค้าเหรอที่จะถูกตราหน้าว่าไปแย่งภรรยาของคนอื่นเค้ามา” ธีร์ภาณุไม่ได้หันมามองหน้าไอรัก แต่กลับพูดขึ้นว่า
“พี่บอกหนูไอแล้วไงว่าพี่ไม่ถือ แล้วอีกอย่างหนูไอก็ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับใคร ตามกฎหมายแล้วถือว่าหนูไอยังโสด นั่นก็แปลว่าพี่ไม่ได้ไปแย่งภรรยาของใคร”
ไอรักควันออกหูกับคำตอบที่ได้
“คุณธีร์ภาณุ นี่เราพูดกันดีๆ ไม่ได้เลยใช่ไหม คุณไม่เข้าใจเลยว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วจะมาแต่งงานกันได้ยังไง ฉันชอบสีอะไร ชอบทานอะไร ชอบดูหนังประเภทไหน คุณรู้ไหม...มันเป็นสิ่งที่คนที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันต้องรู้ ถ้าเราแต่งงานกันไปชีวิตคู่ของเราต้องไปไม่รอดแน่ๆ”
“อย่างน้อยพี่ก็รู้ว่าหนูไอไซซ์สามสิบสี่คัพซี” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะปรายตามองไอรัก หญิงสาวโกรธจนหน้าแดง เริ่มคิดได้ว่าตอนที่ชายหนุ่มเอาตัวเธอขึ้นรถ เขากอดเธอทั้งตัว นั่นยิ่งทำให้ไอรักแค้นใจจนพูดไม่ออก เธอยกมือขึ้นกอดอกนั่งนิ่งไม่พูดอะไรต่อ ธีร์ภาณุชำเลืองมองหญิงสาวแล้วยิ้ม
“น่าเสียดายแทนแฟนหนูไอนะ รู้ตัวไหมว่าหนูไอน่ะเวลาอยู่ใกล้แล้วหอมกรุ่น แถมตัวก็นุ่มนิ่มน่ากอด พี่ชักอยากให้ถึงวันแต่งงานเร็วๆแล้วล่ะสิ เอ...หรือว่าเราจะซ้อมฮันนีมูนกันก่อนดีนะ”
“คุณจะบ้าเหรอ”
“ไม่บ้าหรอกน่า หนูไอก็เคยๆอยู่แล้วนี่ แบบนี้ก็ดีนะพี่ชอบ ไม่ต้องสอนอะไรมาก” ไอรักพูดไม่ออก นึกกลัวขึ้นมาอย่างประหลาด นี่แผนที่เธอคิดจะหลอกบิดากับมารดา เพื่อให้หลุดพ้นจากการคลุมถุงชนบ้าบอครั้งนี้ ทำไมมันกลับตาลปัตรไปหมด หญิงสาวสงบปากสงบคำไม่โต้ตอบ เพราะขืนพูดมากไปทุกอย่างก็ดูจะเข้าเนื้อตัวเองไปหมด
ไอรักไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้เข้าใกล้เธอมาก่อน เพราะด้วยความที่บิดาเป็นคนกำหนดทุกอย่าง ทำให้เธอแทบไม่มีเวลากระดิกตัวไปไหน เธอตั้งใจเรียนอย่างที่บิดาต้องการ ไม่ร่วมกิจกรรมใดๆของมหาวิทยาลัย มีเพื่อนสนิทซึ่งก็เป็นผู้หญิงเพียงไม่กี่คน ผู้ชายที่เธอคุยด้วยนับคนได้เลยล่ะ แล้วนี่อะไร บิดาตอบแทนการตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ ด้วยการจับเธอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รู้จักมาก่อน ก็ได้...เธออาจจะรู้จักมาก่อนตอนสมัยเป็นเด็กหญิงผมเปียตามที่บิดาบอกเล่า แต่เธอจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้เลยสักนิด นั่นก็เท่ากับว่าเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้เลย ไม่ได้ เธอไม่ยอม เพราะฉะนั้นต้องคิดหาทางเอาตัวรอดให้ได้
“ฉันปวดท้อง”
“พูดใหม่ซิ” ธีร์ภาณุตอบกลับอย่างกวนๆ ไอรักถอนหายใจพร้อมกับค้อนขวับให้ชายหนุ่ม
“พี่ธีร์คะ หนูไอปวดท้องค่ะ ช่วยแวะปั๊มข้างหน้าให้ด้วยนะคะ” ธีร์ภาณุไม่ได้เลี้ยวเข้าปั๊มอย่างที่ไอรักบอก ชายหนุ่มยังคงขับรถต่อไปเรื่อยๆ จนไอรักทนไม่ไหวจึงถามขึ้นว่า
“พี่ธีร์เมื่อไหร่จะจอดคะ”
เอี๊ยด!!! ธีร์ภาณุหยุดรถกะทันหันจนไอรักหัวคะมำ เธอหันขวับมองหน้าชายหนุ่มอย่างโกรธจัด
“ขับรถภาษาอะไรของคุณ ใบขับขี่น่ะซื้อมาหรือไง จะจอดรถก็ให้มันนิ่มนวลกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ แล้วอยู่ดีๆนึกจะจอดก็จอด”
“อ้าว...ปวดท้องไม่ใช่เหรอ ลงไปสิ” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับกดปลด ล็อกประตูรถ
“คุณจะบ้าเหรอ จะให้ฉันทำธุระส่วนตัวข้างถนนนี่นะ ประสาทหรือเปล่า”
“หนูไอ...พี่ไม่อยากให้เราเสียเวลานะ คุณพ่อกับคุณแม่รอเราอยู่ที่บ้าน ถ้าหนูไอยังพูดจากวนประสาทพี่อยู่อย่างนี้ แล้วก็งอแงเหมือนเด็กไม่รู้จักโต พี่จะจอดรถแล้วทิ้งหนูไอไว้ตรงนี้นะ” ไอรักฉีกยิ้มกว้าง ดีใจราวกับเด็กได้ขนมชิ้นโต
“งั้น...หนูไอขอตัวลงจากรถ เชิญพี่ธีร์ขับรถไปคนเดียวตามสบายเลยนะคะ” ไอรักเปิดประตูก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว แต่ช้ากว่าธีร์ภาณุที่ก้าวลงจากรถ แล้วเดินอ้อมมาประตูด้านที่เธอยืนอยู่ ก่อนที่ไอรักจะปิดประตูรถแล้วเดินหนีไป ชายหนุ่มใช้สองมือวางไว้ที่ตัวรถคร่อมร่างของไอรักไว้ กั้นไม่ให้หญิงสาวขยับตัวไปไหนได้ แล้วโน้มหน้าลงไปแทบจะชิดกับใบหน้าขาวนวลรูปไข่ แววตาจริงจังภายใต้แว่นกันแดดสีชามองสบตากับดวงตากลมโตที่ออกจะตื่นกลัวนิดๆ และได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อเมื่อถูกชายหนุ่มเข้าใกล้โดยไม่ทันตั้งตัว
“เอ่อ...พี่ธีร์คะหนูไอไม่กวนแล้วค่ะ เชิญขับรถกลับบ้านคนเดียวให้สบายใจไปเลยนะคะ ส่วนหนูไอขอตัวค่ะ สวัสดีค่ะ” ไอรักพูดพร้อมย่อตัวจะลอดแขนชายหนุ่มเพื่อเดินหนี แต่ธีร์ภาณุกลับใช้แขนรวบเอวบางไว้แน่นหนา ในขณะที่แขนอีกข้างยังเท้าอยู่ที่ตัวรถ ไอรักใช้สองมือยันตัวไว้ให้ห่างจากแผ่นอกของชายหนุ่ม พร้อมกับร้องเอะอะโวยวาย
“คุณภูขา น้ำทรมานจัง อย่าแกล้งกันแบบนี้สิคะ” เมื่อความเสียวแปลบปลาบก่อตัวอยู่ในความรู้สึก และยังคงวนเวียนอยู่เช่นนั้นราวกับหาทางออกไม่ได้ เพราะคนตัวใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะส่งเธอให้ถึงที่สุดของเวิ้งฟ้าเสียที ภูชิตยังคงซุกไซ้อกอวบ ทำตัวเป็นแมลงน่ารักตัวผู้ ฝากฝังรอยรักไว้บนร่างภรรยาตัวเล็ก“อ๊ะ! คุณภูขา ช่วยน้ำด้วย อื้อ...” น่านน้ำแอ่นหยัดสะโพกขึ้น มือเล็กกดลงที่สะโพกแน่นตึงของสามี บังคับให้เขาเข้ามาในร่างกายตัวเองให้ลึกล้ำกว่านี้“ก็น้ำบอกว่าเหนื่อย เร่งเร็วเดี๋ยวก็หาว่าผมแกล้งอีก”“โอย...คุณภูขา น้ำ...น้ำ...” น่านน้ำครางแผ่วขาดห้วง จังหวะรักช้าเนิบแต่หนักแน่น ทำให้ทุกครั้งที่ลำรักแกร่งแทรกลึกสุดทางในร่องรักหวานฉ่ำ กายสาวจึงต้องสั่นสะท้านทุกครั้ง ภูชิตชะโงกหน้าอยู่เหนือร่างภรรยา เขายิ้มร้ายกาจ“คุณภูแกล้งน้ำ อ๊า! เร็วกว่านี้นะคะ อื้อ...น้ำทำเองก็ได้” เมื่อรู้ว่าถูกแกล้ง และเรียกร้องเท่าไรสามีก็ไม้ยอมเร่งจังหวะรักดั่งใจเสียที ร่างเล็กจึงออกแรงทั้งหมดพลิกร่างคนขี้แกล้งให้อยู่ใต้ร่างตน สมใจคนตัวโตเขาล่ะ“เอาเลยครับที่รัก ผมยอมพลีกายให้น้ำเชย
“เรายังไม่ได้ราตรีสวัสดิ์กันเลยนะครับ”“เราราตรีสวัสดิ์กันมาทั้งวันแล้วค่ะ” ไอรักรู้ว่าสามีหมายถึงอะไร ก็มันทั้งวันจริงๆนะ เขาขยันทำเรื่องหื่นๆเกินไปแล้ว“ไม่เอาๆ ไม่นับรวมกันสิครับ มันคนละเวลา” ไอรักขยับกายพลิกร่างหันหลังให้สามี ไม่อยากคุยกับมนุษย์หื่นแล้ว“หนูไอครับ” ธีร์ภาณุกระแซะร่างเบียดภรรยา กระโปรงชุดนอนถูกรั้งขึ้นไปกองที่เอวคอด ซับในตัวจิ๋วถูกดึงออกจากร่างงามอย่างรวดเร็ว แล้วจัดการสะบัดกางเกงนอนตัวเดียวออกจากร่างใหญ่ของตน“อ๊าย! พี่ธีร์” ไอรักตีมือใหญ่ของสามีสุดแรง ธีร์ภาณุไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ไปตามลำคอระหงด้านหลัง ลำกายแกร่งเสียดสีอยู่ที่สะโพกหนั่นแน่น“ถ้าไม่ได้ราตรีสวัสดิ์ ไม่หลับแน่ๆ อืมมม”“พะ...พี่ธีร์ อ๊ะ! คะ...คนอะไร หน้ามึนที่สุด” คนถูกต่อว่าว่าหน้ามึนรุกเร็วรุกหนัก ธีร์ภาณุจับร่างภรรยาพลิกให้นอนหงายทับร่างของตนเอง สองมือใหญ่กอบกุมทรวงอกอวบได้ถนัดถนี่ เคล้นคลึงบีบเฟ้นเท่าที่พอใจ แล้วค่อยๆเลื่อนมือลงไปยังกลางกายสาว จับต้นขาขาวแยกกว้าง เสยสะโพกส่งความแข็งแกร่งเสียดสีกับกลีบดอกไม้งาม“อ๊า! พี่ธีร์” ไอร
“ก็บอกว่าจะนอนกอดเฉยๆไง นอนได้แล้วครับ” ปลัดเมฆาเอื้อมมือปิดสวิตซ์ไฟ กอดกระชับร่างบางแนบอก จุมพิตหนักๆที่หน้าผากมน เขาไม่ทำอะไรมากกว่านั้นตามสัญญาที่ให้กับภรรยา ความอุ่นจากเรือนร่างกำยำแผ่ซ่านมายังร่างเล็กในอ้อมกอด ความละมุนหวานอบอวลอยู่รอบกายจนพิมพ์รพีพรรู้สึกอบอุ่นถึงหัวใจ“พี่รักพิมพ์นะครับ” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเบาๆ พิมพ์รพีพรยิ้มอยู่กับอกกว้างของสามี หญิงสาวขยับตัวบดเบียดหาความอบอุ่นจากร่างใหญ่“พิมพ์ก็รักพี่เมฆค่ะ” มือซุกซนของพิมพ์รพีพรลูบไล้แผ่นอกกำยำ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นจุมพิตปลายคางสากของสามีเบาๆ“ราตรีสวัสดิ์นะคะ” เธอไม่ได้โกรธอะไรสามีมากมายนักหรอก แต่รู้สึกระอาใจกับความหื่นของสามีมากกว่า เขาทำให้เธอเสพติดความรู้สึกดีๆจากตัวเขา จนไม่เคยที่จะปฏิเสธความต้องการของเขาได้สักครั้ง แต่คืนนี้ปลัดเมฆาทำตัวเป็นสามีที่ดี ทำตามข้อตกลงไม่รบกวนเธอ คนตัวใหญ่เลยดูน่ารักในสายตาภรรยาตัวเล็กขึ้นมาทันทียุบหนอ ยุบหนอ ยุบหนอก็อะไรๆมันร่ำร้องอยากจะพองใจจะขาดอยู่แล้ว แล้วมันก็ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งของเขาเอาเสียเลย ปลัดเมฆาโก่งสะโพกออกจากร่างภรรยา ป้องกันไ
“พี่เมฆ! คอเป็นอะไรคะ ดูสิแดงเป็นจ้ำตั้งหลายจุด หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด โอ้โห! โดนอะไรกัดหรือแพ้อะไรหรือเปล่าคะ” ปลัดเมฆาแทบจะสำลักอาหารที่เพิ่งตักเข้าปาก ก็ไอ้ที่น่านน้ำกำลังสงสัยนั่นแหละคือสาเหตุการงอนของภรรยา ภูชิตมองตามนิ้วเล็กของภรรยาที่ชี้ไปยังลำคอหนาของปลัดเมฆา แล้วยิ้มอย่างรู้ทัน“เอ่อ...โดนแมลงกัดน่ะครับ” ปลัดเมฆาอ้อมแอ้มตอบ ด้วยความหวาดกลัวต่อรังสีอำมหิตของภรรยาที่นั่งเคียงข้างกัน“แมลงอะไรคะ กัดเฉพาะที่คอ” น่านน้ำเอียงคอสงสัยหนัก พิมพ์รพีพรแทบจะมุดลงใต้โต๊ะ เพราะทั้งภูชิต ธีร์ภาณุ และไอรักมองมายิ้มๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนพอจะเดาได้ว่าเกิดจากเธอแน่ๆ แต่ยายน่านน้ำ ยายเพื่อนโก๊ะ...แกจะทักทำไม“แมลงน่ารักครับคุณน้ำ” ปลัดเมฆาบอกยิ้มๆ น่านน้ำงงเข้าไปใหญ่“แมลงน่ารัก!? แมลงอะไรคะ ไม่เห็นจะเ
“อ๊าย...พี่ธีร์” ไอรักร้องเสียงหลง ความรุ่มร้อนแข็งแกร่งถูไถไปกับกลีบดอกไม้งาม และยังบดบี้เกสรกลางกายสาว ทำเอาเธอขนลุกเกรียว แขนเล็กต้องค้ำยันไปด้านหลัง ผ้าขนหนูหลุดจากมือ อกอวบแอ่นขึ้นอัตโนมัติเพราะต้องทรงตัวรับน้ำหนักสามีที่จู่โจมโดยไม่ทันระวังตัว เปิดโอกาสให้ใบหน้าหล่อเหลาของสามีซุกซบลงดูดดึงอกนุ่มหยุ่นทันที ลิ้นสากตวัดรัวเร่งบนเม็ดลูกกวาดสีสวย อีกด้านถูกบีบบี้คีบดึงด้วนสัมผัสเร้าอารมณ์“อ๊า...พี่ธีร์หยุดก่อนค่ะ อื๊อ!...พี่ธีร์” เสียงห้ามปรามของคนแรงน้อยหรือจะสู้การรุกเร้าของคนแรงเยอะกว่าได้ ที่สุดแล้วไอรักก็ยกแขนทั้งสองขึ้นมาโอบร่างสามีเพื่อทรงตัวแทน เพราะคนตัวโตเริ่มรุกแรงรุกเร็วเป็นจริงเป็นจังกลิ่นหอมอบอวลอยู่ทั่วห้อง ไม่ได้หอมเท่าร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดสักนิด ธีร์ภาณุซุกไซ้ใบหน้าไปตามร่างขาวเนียนหอมกรุ่น คนตัวโตย่อตัวลงนั่งคุกเข่า ใบหน้าหล่อเข้มอยู่ตรงกลางกายสาวพอดี สะโพกสวยนั่งอยู่ขอบเตียงหมิ่นเหม่ ขาเรียวถูกจับแยกกว้าง ธีร์ภาณุใช้สองมือประคองยกต้นขาอวบขาวทั้งสองข้างไว้ ปลายเท้าของไอรักจึงลอยสูงอยู่กลางอากาศ ส่งผลให้กลีบกุหลาบงามสีสดฉ่ำเยิ้มเบ่งบานอยู่ตรงหน้า
“อ๊ะ! พี่เมฆ!” แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปต่อต้าน ก็ในเมื่อร่างสอดติดตรึงค้างคากันอยู่ คนที่กำลังเหนือกว่าจึงเริ่มขยับโยก พร้อมกับก้มหน้าลงนัวเนียกับอกอวบอย่างเอาแต่ใจ“พิมพ์จ๋า พี่รักพิมพ์ รักๆๆ” คำบอกรักมาพร้อมกับจังหวะกระแทกรุนแรงตามอารมณ์ร้อน พิมพ์รพีพรกอดเกี่ยวร่างสามีแน่น“อื้อ...พะ...พี่เมฆ พิมพ์...มะ...ไม่ไหวแล้วนะ อื้อ” เสียงหวานครางประท้วงกระท่อนกระแท่น เพราะแรงรุกจากสามีทำให้ภรรยาตัวเล็กสั่นคลอนไปทั้งร่าง พิมพ์รพีพรถูกส่งไปยังวิมานแสงดาวพรายพร่างครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สามีจอมหื่นกลับบรรเลงเพลงรักต่อเนื่องไม่ยอมหยุด ทุกครั้งที่ถึงที่สุดของความสุขสม เธอเลือกวิธีขบเม้มลำคอหนาเพื่อเก็บเสียงกรีดร้องไว้ แต่หากหญิงสาวฉุกคิดได้สักนิด เธอจะรู้ว่าไม่น่าเลือกวิธีเก็บเสียงแบบนี้เลย เพราะมันกลายเป็นหลักฐานความภูมิใจสำหรับสามีตัวใหญ่ แต่เป็นหลักฐานที่น่าเขินอายสำหรับภรรยาตัวเล็ก“เสร็จหรือยังคะพี่ธีร์”“เสร็จแล้วครับ” คนตัวสูงเดินยิ้มกว้างออกมาจากห้องน้ำ ภรรยาสาวของเขาอยากใช้บริการสปาอบสมุนไพรของรีสอร์ต คนเป็นสามีจึงต้องตามใจ ทั้งสองเดินออกจากห้องไปยัง