สัญญารักสัญญาร้ายการหมั้นหมายกันของระหว่างสองตระกลูใหญ่ที่ เพลินตา ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เมื่อคนที่จะเข้ามาเป็นว่าที่พี่เขยนั้นทั้งแสนจะเจ้าชู้และได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ ใครมันจะไปอยากได้ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีคุณสมบัติที่คู่ควรกับพี่สาวที่แสนดีของเธอเลยสักนิด เธอต้องขัดขวางเขาให้ถึงที่สุด.. "อยากปิดปากพี่เรื่องของเรา งั้นเพลินก็ต้องยอมแลก" "ยอมแลก พี่หมายความว่ายังไงคะ" "ยอมพี่ ทุกครั้งจนกว่าพี่สาวของเพลินจะกลับมา" "พี่เต็ม! แบบนี้มันเลวมากเกินไปแล้วนะคะ" "เพลินจะไม่ทำก็ได้นะ แต่ถ้าเกิดว่าพี่ 'อยาก' ขึ้นมาแล้วพี่ไปมีผู้หญิงคนอื่น พี่สาวเพลินก็คงต้องยอมเสียชื่อเสียงหน่อย เพลินจะเอาแบบนั้นเหรอ" "เลวมาก เลิกฝันไปได้เลยค่ะ เพลินจะไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด ไม่คิดเลยนะคะว่าพี่จะมีความคิดที่มันเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ พี่มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย" "ใช่สิ ยังไงพี่มันก็เป็นแค่ผู้ชายเลวๆ ในสายตาเพลินอยู่แล้วนี่ ในเมื่อสิ่งที่พี่เสนอแล้วเพลินไม่ยอมสนอง งั้นก็อย่ามาหาว่าพี่ใจร้ายทีหลังไม่ได้นะตอนที่พี่สาวเพลินกลับมา"
ดูเพิ่มเติมAngel secret ความลับนางฟ้า...
ว่าด้วยบริษัทผลิตชุดชั้นในสตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดระดับโลก ภายใต้การบริหารและมีฐานการผลิตที่ใหญ่สุดในประเทศไทย โดย SNG group
ปฏิธาน ทรัพย์ณรงค์กุล ประธานบริหารทายาทรุ่นที่สี่ ซีอีโอหนุ่มรุ่นใหม่ที่ไม่ได้แรงแต่ไฟ หากแต่ยังมีเสน่ห์และภาพลักษณ์ที่สาวๆคนไหนเห็นก็จะต้องยอมสยบให้ ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์ใบหน้าที่หล่อเหลา ฐานะชาติตระกูล การศึกษา หรือไม่ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าอยากที่จะยอมจำนนต่อจำนวนทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาลของวงศ์ตระกูล ทรัพย์ณรงค์กุล ก็เป็นได้ จึงทำให้เหล่าบรรดาผู้หญิงมากมายเหล่านั้น ต่างเต็มอกเต็มใจพากันดาหน้าเข้ามาให้ซีอีโอหนุ่มรูปงามได้เลือกเชยชมด้วยความสมัครใจกันทั้งนั้น
Angel secret ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดยคุณปู่ทวดปัญญา ทายาทรุ่นแรกของทรัพย์ณงค์กุล ด้วยความที่ต้องการอยากจะสานฝันให้กับภรรยาสุดที่รัก ที่ได้มีการศึกษาเล่าเรียนมาในทางด้านแฟนชั่นดีไซน์ บวกกับสมัยนั้นบริษัทที่ผลิตชุดชั้นในที่วางขายอยู่กันตามท้องตลาดก็ยังไม่มีรูปแบบที่โดดเด่นมากนัก คุณปู่ทวดปัญญาจึงได้ทำการเปิดบริษัทที่ทำร่วมกันกับภรรยาขึ้นในนามของ SNG ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการผลิตและออกแบบแบรนด์ชุดชั้นในที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ร่วมสมัยหากแต่โดดเด่น โดยฝีมือการออกแบบของภรรยาตัวเอง
หลังจากเปิดบริษัท ท่านทั้งสองคนช่วยกันบริหารและพัฒนา เรียกว่าหกล้มคลุกคลานด้วยกันมาจากหลายเหตุการณ์จนกว่าจะมีวันที่บริษัทประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ สืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น จนกระทั่งในที่สุด Angel secret มันก็ได้ตกมาอยู่ในมือของทายาทคนปัจจุบันอย่าง ปฏิธาน โดยความเห็นชอบของคุณปู่ประวิทย์ ซึ่งเป็นบิดาของคุณปฐมพงศ์ บิดาของปฏิธานอีกที
แน่นอนว่าในการนั่งแท่นผู้บริหารนั้น มีผู้คนรอบข้าง ญาติพี่น้อง ที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร หลายปีที่ผ่านมานี้ ปฏิธานก็ได้พิสูจน์ให้ทุกๆคนได้เห็นแล้วว่าเขาสามารถบริหาร Angel secret ให้เจริญเติบโตได้ดีเพียงใด ไม่ใช่แค่เพียงชื่อเสียงที่ทรัพย์ณรงค์กุลได้รับเพิ่มมา หากแต่ยังเป็นจำนวนเม็ดเงินมหาศาลจากผลกำไรในแต่ล่ะปีนั่นต่างหาก ที่ทำให้คนที่เคยไม่เห็นด้วยและไม่เชื่อมั่นในตัวเขาจำต้องเลือกที่จะหุบปากเอาไว้
การทำงานห้าวันต่อสัปดาห์ เสาร์อาทิตย์บางสัปดาห์ก็ต้องบินไปดูงานที่สาขาอื่น การทำงานที่คร่ำเครียดบ่อยๆและทุกวัน มันก็ดูจะเป็นการทรมานร่างกายตัวเองเกินไป เพราะฉะนั้นหากมีเวลาว่างพอให้สมองได้มีโอกาสผ่อนคลายได้เมื่อไหร่ สถานที่ๆจะสามารถพบเจอปฏิธานได้ก็คงจะหนีไม่พบผับบาร์
ในวงสังคมชั้นสูง ชื่อเสียงของไฮโซ เต็ม ปฏิธาน ทรัพย์ณรงค์กุล นั้น เชื่อว่าคงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเขาในมุมนี้ ผู้ชายสายเที่ยว เพลย์บอยตัวพ่อ นักท่องราตรี หรือฉายาห่าเหวอะไรก็แล้วแต่ที่เขาได้รับมา แต่ปฏิธานก็ไม่เคยเห็นว่าการใช้ชีวิตแบบนี้มันจะเป็นปัญหาในการที่เหล่าบรรดาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นไฮโซเหมือนกันนั้นจะมีท่าทีว่ารังเกียจ ตราบใดที่ตัวเขาเองยังคงครองสถานะโสด และไม่ได้ถูกจับจองเป็นเจ้าของโดยใครที่ไหน ตราบนั้นเหล่าบรรดาลูกหลานคุณหนูไฮโซคนดัง ต่างก็ยังคงพากันดาหน้าเดินกันเข้ามาให้เขาได้เชยชมกันด้วยความเต็มอกเต็มใจอย่างพร้อมหน้า
ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มกลางคลับหรูชื่อดังของเหล่าบรรดาไฮโซเมืองไทย หนึ่งในนั้นก็มี คุณหนูเพลินตา ไกรวิบลูย์ ลูกสาวคนเล็กของนายอาคม เจ้าของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ พ่วงท้ายด้วยตำแหน่งนักศึกษาฝึกงานปีสุดท้าย ที่ในคืนนี้ก็ได้นัดเพื่อนสนิทอย่าง มินตรา รุ่งเรืองบริรักษ์ ดีกรีหลานสาวเพียงคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ออกมาพบปะสังสรรค์เม้าท์มอยกันตามประสาเพื่อนสนิท
แม้ว่าคืนนี้จะดื่มกันไปพอสมควร แต่แน่นอนว่าสายตาอันแหลมเฉียบคมของเพลินตาก็ยังสามารถที่จะมองทะลุฝ่าฝูงชนไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังยืนบดเบียดนัวเนียกันอยู่ข้างล่างได้ ทำให้ไอ้อาการกรึ่มเมานั้นไม่ได้เป็นปัญหา เพราะคนที่คอยเอาแต่สร้างปัญหาก็คือคนข้างล่างที่เอาแต่ยืนนัวกอดสาวหน้าไม่เคยซ้ำนั่นต่างหาก
"เฮ้ยเพลิน นั่นมัน.."
มินตราชี้นิ้วไปยังข้างล่างในที่ๆเป็นมุมสลัวเด่นข้างเสาและน่าจะเป็นมุมที่ถือว่าเป็นส่วนตัวที่สุดของร้าน สองคนชายหญิงยืนกอดซบสนิทแนบชิดคล้ายกับกำลังจูบกันแบบไม่ได้สนหรือแคร์สายตาใคร อาจคงเป็นเพราะว่าผู้คนที่พบเห็นน่าจะชินชากับพฤติกรรมฉาวโฉ่ของผู้ชายคนนี้ที่มักจะมีให้ได้เห็นตามข่าวซุบซิบดาราไฮโซบ่อยแล้ว หรือไม่ ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็เมามายเกินกว่าที่จะมานั่งคอยมองสนใจใคร
"อืม ฉันเห็นละ"
"อย่าบอกนะว่า แกจะทำเหมือนทุกๆครั้งอีกอ่ะ"
"แน่นอน ต่อให้ผู้ชายคนนี้จะเป็นเพลย์บอยชั่วช้าสามานย์หรือสารเลวขนาดไหน แต่ในอนาคตแม่งก็จะต้องกลายมาเป็นว่าที่สามีพี่พราวอยู่ดี เพราะฉะนั้น ในระหว่างที่พี่พราวยังไม่กลับมา ฉันก็จะต้องคอยดูแลผลประโยชน์และพิทักษ์ศักดิ์ศรีให้กับพี่สาวของฉัน"
ในขณะที่พูดแก้วเหล้าค็อกเทลสีหวานก็ถูกกระดกเข้าปากกระจับอมชมพูมันวาวที่คืนนี้ถูกเพลินตาแต่งแต้มมาด้วยลิปกลอสแท่งโปรด ดวงตากลมโตมองจิกจ้องไปที่คู่ชายหญิงด้านล่างแบบตาไม่กระพริบเพื่อเฝ้ารอจังหวะ หากว่าสองคนนี้ก้าวเท้าออกไปจากสถานที่นี้เมื่อไหร่ นั่นแหละหน้าที่ของเพลินตาถึงจะเริ่มขึ้น
"อุ๊ย เขาพากันออกไปแล้วว่ะเพลิน"
"ไปมิ้น ถึงเวลาที่ฉันต้องไปทำหน้าที่น้องสาวผู้แสนดี คอยปกป้องว่าที่สามีในอนาคตให้พี่พราวเสียหน่อย"
"จะดีเหรอวะยายเพลิน เดี๋ยวก็ได้โดนเขาไล่ให้ไปเล่นไกลๆเหมือนครั้งที่แล้วอีกหรอก ฉันว่าครั้งนี้แกลองทำเป็นหลับหูหลับตาไม่เห็น ไม่สอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกเขาบ้างก็ได้นะ"
มินตราลองใช้มือดึงแขนเพื่อนไว้ ก่อนจะกดตัวให้เพลินตานั่งลงไปบนเก้าอี้อย่างเก่า และพยายามพูดจาหว่านล้อมเพื่อจะให้เพลินตาเปลี่ยนใจให้ได้
"นี่แกจะบ้าเหรอยายมิ้น พี่พราวเป็นพี่สาวฉัน ฉันต้องทำหน้าที่ปกป้องศักด์ศรีให้จนกว่าพี่พราวจะกลับมางั้นถ้าแกไม่อยากไป ก็นั่งรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันรีบไปรีบกลับโอเคไหม"
"แต่ว่ายายเพลิน"
มินตราไม่ทันได้อ้าปากพูดจบดี เพลินตาก็วิ่งก้าวเท้ายาวๆเดินลงบันไดจากทางด้านข้างลงไปถึงชั้นล่างตามสองคนนั้นออกไปติดๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มินตราเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองทำแบบนี้ และก็ดูเหมือนว่าไม่มีครั้งใดเลยที่เพื่อนสนิทของตัวเองจะสามารถทำลายขัดขวางความต้องการของชายผู้ที่ซึ่งได้ชื่อว่าจะมาเป็นพี่เขยของตัวเองลงสำเร็จได้เลยสักครั้ง..
ช่วงเวลาตลอดทั้งบ่ายเพลินตายังคงต้องทำงานที่ที่ค้างเอาไว้อยู่ในแผนกต่อโดยการไหว้วานนิธิพลและพี่ๆ คนอื่นที่ต้องรีบไปเข้าประชุมภาคบ่าย จนกระทั่งได้เวลาเลิกงาน กระเป๋าสะพายใบโปรดก็ถูกรีบคว้าขึ้นมาบนบ่าและตัวเธอเองก็กะว่าจะรีบจ้ำอ้าวออกจากบริษัทไปก่อนที่ใครจะมาเห็นแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าโดดงาน ก็ในเมื่ออยู่จนถึงเวลาเลิกงานแล้ว เธอจะรีบออกเร็วหรือช้าก็เป็นสิทธิ์ของเธออยู่ดี กะว่าอยากจะรีบไปเดินผักผ่อนหย่อนกายเสียหน่อย เอาเป็นห้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณทางผ่านตอนจะกลับคอนโดมิเนียมนี่ก็แล้วกันสะดวกดี กะว่าแวะหาอะไรทาน เดินเลือกซื้อของ แล้วก็จะกลับ จนกระทั่งตอนที่เธอเปิดประตูลิฟท์ออกมาแล้วเจอเข้ากับผู้ชายคนนี้ หนึ่งในลูกหลานของตระกูลทรัพย์ณรงค์กุล"เลิกงานแล้ว เพลินช่วยไปดูหนังกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนหน่อยครับ""พี่ปรานต์"เพลินตายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนตรงหน้าคือใคร ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาฝึกงานที่นี่เรียกว่าแทบจะนับครั้งได้ที่เธอเจอเขา หนึ่งในผู้บริหารหนุ่มของ SNG ดีกรีความหล่อสูสีกับปฏิธานก็จริง แต่ปรานต์ออกจะดูเป็นผู้ชายอบอุ่นมากกว่า"ไปยังไงมายังไงคะ ถึงได้มาดักรอเพลินอยู่ที่ลิฟท์หน้าบริ
เพลินตาเดินกลับออกมาด้วยความรู้สึกที่แสนจะหลากหลาย สมองอื้ออึงและมึนตึงไปพร้อมๆ กันเมื่อคำพูดของปฏิธานเอาแต่รบกวนระบบประสาทของเธออยู่เรื่อย ปฏิธานจะให้เธอยอมไปเป็นผู้หญิงลับๆ ของเขาจนกว่าพี่สาวของเธอจะกลับมา เธอขอสัญญากับตัวเองไว้ตรงนี้เลยว่ายังไงเสียก็จะไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด ผู้ชายคนนั้นจะไม่มีทางได้ในสิ่งที่เขาอยากได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนดีเลิศเลอ แต่เธอก็จะไม่ยอมต่ำตมจนต้องยอมทำอะไรผิดพลาดอีก"อ้าวเพลินกลับมาแล้วเหรอ เห็นคุณต้นอ้อแจ้งมาว่าให้เพลินช่วยไปถ่ายเอกสารให้ที่ข้างบนมาเพราะว่าเตรียมเอาไว้ใช้ในห้องประชุมบ่ายนี้ไม่ทัน เป็นไง เสร็จเรียบร้อยดีแล้วใช่ไหมจ๊ะ"หลังจากเดินกลับมาถึงยังชั้นที่ตัวเองทำงานอยู่เพลินตาก็เดินเข้าแผนกมาแบบเครียดๆ ในหัวตอนนี้ไหนจะมีเรื่องที่ปฏิธานพึ่งจะพูดกับเธอมา ไหนจะเป็นเรื่องที่ว่าตอนนี้พี่ๆ ในแผนกต่างมากันครบหมดแล้วอีก แล้วเธอควรต้องแก้ตัวว่าอะไร จนกระทั่งเดินเข้ามาเจอกับหัวหน้าแผนกอย่างคุณนิธิพล ที่แจ้งเหตุผลทันทีที่เห็นหน้าเธอว่าคุณต้นอ้อนั้นโทรมาบอกเหตุผลที่เรียกตัวเธอไปใช้งานเรียบร้อยแล้วเพลินตาอ้าปากแบบงงๆ คุณต้นอ้อคือใครแน่นอนว่า
ในที่สุดก็ถึงเช้าวันจันทร์ เพลินตายังคงต้องไปทำงานตามปกติ หลังจากที่นั่งกลั้นใจอยู่ในรถตั้งนานกว่าที่จะทำใจให้ยอมลงจากรถไปได้ เธอไม่พร้อมเจอหน้าปฏิธาน ไม่พร้อมหรืออาจจะถึงขั้นไม่อยากเจอ ยิ่งพอได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวันศุกร์แล้วก็ได้แต่อยากร้องไห้เมื่อความจริงที่ว่าเธอมีอะไรกับปฏิธานไปแล้วนั้นมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่ดีกับตัวเองที่ตอนนี้เธอกลายเป็นคนทรยศหักหลังพี่สาวแต่ถ้าให้เลือก..ว่าระหว่างคนที่มาช่วยเธอคือ ปฏิธาน หรือจะให้เป็นใครคนอื่น บอกตามตรงว่ามันช่างเป็นคำตอบที่ยากแสนยาก เพลินตาไม่อยากให้เป็นคนอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธออยากให้มันป็น เขา ผู้ที่ได้ชื่อว่ากำลังจะมีสถานะมาเป็นว่าที่สามีของพี่สาวตัวเองในอนาคต"สวัสดีตอนเช้าครับน้องเพลิน"ทันทีที่ประตูรถเปิดออกสีหน้าที่ดูเครียดอยู่ก็เปลี่ยนไปในทางแปลกใจเมื่อเห็นว่าใครคือคนที่ยืนตรงหน้าคือกันตธีร์ ผู้ชายที่เธอพึ่งเจอที่ผับเมื่อคืนวันนั้น หลังจากที่เกิดเรื่องไปเธอก็ไม่ได้ติดต่อเขาอีก ส่วนมินตราพอโทรไปหาก็ดูเงียบไปแปลกๆ ก็เลยยังไม่กล้าถามหรือแม้แต่เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟัง เช้านี้กันตธีร์
หลายชั่วโมงผ่านไป แต่ก็ดูเหมือนว่าฤทธิ์ยาน่าจะยังคงไม่ยอมจางหายไปได้ง่ายๆ ในขณะที่ล้มตัวนอนลงไปข้างๆ กันด้วยความเหนื่อยหอบ ปฏิธานก็ดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้แล้วเริ่มบีบคลึงที่สองเต้าอวบอีก ช่วงจังหวะนี้เพลินตาเริ่มจะรับรู้ได้แล้วว่า สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นมาระหว่างเธอและปฏิธานนั้นคืออะไร หากแต่ความต้องการภายในที่ยากต่อการควบคุมนั้นกลับทำให้เธอยังคงเรียกร้องให้เขาทำมันอีกซ้ำๆ"ดูดนมให้เพลินอีกสิพี่เต็ม""ดูดแค่นมมันจะไปพออะไร เพลินอ้าขาสิ พี่อยากลงไปเลียข้างล่าง"ค่ำคืนนี้คุณหนูเพลินตาจอมเซี้ยวช่างว่าง่ายนัก ไม่ว่าปฏิธานจะเอ่ยปสกบอกให้ทำอะไรเธอก็คล้อยตามเขาไปเสียหมด ทันทีที่ลิ้นร้อนๆของปฏิธานจ่อเลียเข้ามา สองเรียวขาก็รีบกระหวัดเอี่ยวขึ้นไปบนบ่า ก่อนจะแอ่นเด้งกายสาวเข้าหาให้เข้าได้กินใกล้ๆ"อ๊า พี่เต็มขา เพลินรู้สึกดีจังเลย""อื้มเพลิน พี่ชอบมัน"ปฏิธานยกสองเรียวขาพาดบ่าให้แน่น ก่อนจะขยี้ปลายลิ้นบี้ลงไปกับเม็ดเสียว เพลินตาดิ้นเร่า พยายามแอ่นเนินเนื้ออวบของเธอเข้าหาใบหน้าเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บทรักที่แสนเร่าร้อนของปฏิธานนั้นแสนร้อนแรง แถมยังช่วยเปิดประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆให้กับเธอได
หลังจากถูกจับลอกคราบออกเสียจนสิ้น เรือนร่างที่แสนงดงามสมส่วนของเพลินตาก็นอนบิดเร่าอยู่บนเตียงใหญ่ ใบหน้างดงามเหยแกเพราะผลจากฤทธิ์ของยาจนไม่สามารถต้านทานต่อความต้องการที่เกิดขึ้นภายในกายได้ จึงได้เอื้อมมือเล็กของตัวเองบี้คลึงลงไปที่ใจกลางเกสรของดอกไม้งาม ก่อนจะแยกเรียวขาออกอย่างไม่นึกอาย"อ๊า พี่เต็มขาได้โปรดช่วยเพลินด้วย อื้อ เพลินทรมานเหลือเกิน"ปฏิธานจ้องมองภาพนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ภาพของเพลินตาที่นอนแหวกอ้าขาออก แล้วใช้มือตัวเองบีบขยี้บี้คลึงปุ่มเกสรกลางกาย ทำเอาต่อมความยับยั้งช่างใจของเขายิ่งตะเลิด ทั้งๆที่ใจจริงไม่เคยได้คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะกล้าถึงขั้นเลยเถิดลามปามเด็กผู้หญิงตัวน้อย หากแต่เป็นตอนนี้ ปฏิธานตัดสินใจแล้วว่าเขาจะต้องช่วยเธอ หากว่าไม่ มีหวังเพลินตาคงต้องช็อกตายเพราะความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองเป็นแน่ราวกับสุนัขจิ้งจอกเตรียมพร้อมที่จะกลืนกินลูกแกะตัวน้อย ปฏิธานจ้องมองเรือนร่างงดงามที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเขาด้วยความหื่นกระหาย สายตากวาดไล่มองสำรวจตั้งแต่ใบหน้าสวยลากเลื้อยลงมาจนไปหยุดที่กึ่งกลางกาย เพลินตางดงามไปเสียทุกส่วน จนเขาไม่สามารถที่จะทนย
เพลินตาไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับเธอนั้นคืออะไร ความรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัวจนคอแห้งปากแห้งและยังใจสั่น อาการเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวแล้วเปลี่ยนเป็นการคลั่นเนื้อคลั่นตัวแทน มือไม้สั่นระริกระคนจนแทบจะไม่สามารถควบคุมได้ หากแต่เวลาที่สัมผัสโดนผิวกายของปฏิธานแม้เพียงเล็กน้อย กลับทำให้เธอนั้นอยากทำเรื่องบ้าๆ ด้วยการกระโจนเข้าหาและดึงเขาเข้ามากอดจูบเสียอย่างนั้น "พี่เต็ม เพลินเป็นอะไรก็ไม่รู้"เพลินตาตัดสินใจหันไปพูดบอกกับปฏิธานตามตรง หากแต่จุดโฟกัสสายตากลับกลายเป็นเป็นสันจมูกโด่งและริมฝีปากของเขาที่เธอเคยได้สัมผัส จากนั้นดูเหมือนว่ามันจะยังคงไม่พอ เพลินตายังคงแอบละสายตาจากริมฝีปากของคนข้างๆ ไต่ไล่ลงมายังลูกกระเดือก ช่วงจังหวะที่มันขยับกลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอยู่ภายในใจจนตามร่างกายยิ่งร้อนวูบวาบ"เป็นอะไรเพลิน""มัน มันรู้สึกร้อนๆ แปลกๆ"ปฏิธานหันกลับมามองเธอเพียงแค่แวบหนึ่ง สภาพของเพลินตาที่เห็นในตอนนี้ก็คืออีกฝ่ายกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่สุดแสนจะหวานเชื่อม มือไม้ก็อยู่ไม่สุก ไล่เเกะปัดป่ายไปตามเนื้อตัวตัวเอง มองจากสภาพของเพลินตา ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะรู้อยู่หรอก
ความคิดเห็น