“พี่แม็กนัสค่ะลิลลี่ง่วงแล้วนะคะ” ลิลลี่สาวรุ่นน้องเอาตัวพิงกับหัวเตียงและตึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายไว้ หลังจากที่เสร็จศึกรักอันแสนทรหดมา แม็กนัสก็ไปนั่งเหม่อลอยตรงนั้น
“ถ้าง่วงก็นอนไปฉันจะกลับห้อง”
“เราไม่นอนด้วยกันเหรอคะ”
“...”
ลิลลี่มานั่งตักของแม็กนัสทั้งตัวของเธอเปลือยเปล่า หน้าอกที่ยัดซิลิโคนขนาด 450 CC เข้าไปแทบจะหนีบใบหน้าของแม็กนัส เขาใช้ปากกัดที่หัวนมเบาๆ มือหนาเริ่มบีบเคล้นเต้าอวบ
ลิลลี่ครางออกมาอย่างถูกใจเมื่อพายุสวาทกำลังจะเริ่มขึ้นอีกรอบ แต่ต้องผิดหวังเมื่อแม็กนัสหยุดการกระทำทุกอย่างและผลักให้เธอลุกออกไปจากตัวเขา
“อะไรคะ”
“ถุงหมด” เขาพกถุงยางมาแค่หนึ่งกล่องซึ่งเขาใช้หมดแล้ว และไม่อยากเสี่ยงเพราะป้องกันตัวเองเสมอเพราะไม่ไว้ใจผู้หญิงคนไหน
“เอาสดแตกนอกก็ได้นี่คะ? พี่แม็กนัสก็รู้ว่าลิลลี่นั้นสะอาดแค่ไหน” เพราะเขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ระหว่างนั้นก็แอบไปเอากับคนอื่นเสมอ แม็กนัสเล่นหายไปเป็นเดือนใครบ้างที่ไม่เหงา
“ไม่อยากเสี่ยง”
“นะคะพี่แม็กนัสลิลลี่อยากแล้ว”
“ปล่อยพูดให้รู้เรื่อง” เขาจับต้นแขนของลิลลี่ออกจากเอวและเดินออกไปจากห้อง โดยไม่หันกลับมามองหญิงสาวเลยสักนิด
“กรี๊ดดดด อ่อยขนาดนี้ยังไม่ยอมเป็นท่อนไม้หรือไง” ถ้าเงินไม่หนักลีลาไม่ดีอย่าหวังเลยว่าเธอจะยอม แต่นี่เขาทั้งเด็ดทั้งเปย์เก่ง หากเธอจับเขาอยู่หมัดชีวิตนี้ก็ไม่ต้องไปขายตัวให้เสี่ยแก่คราวพ่อแล้ว
แม็กนัสกลับมาถึงเพ้นต์เฮาส์ในช่วงเวลาเกือบตีสามแทนที่เขาจะนอนพักผ่อน แต่เขากลับหยิบเหล้าขึ้นมานั่งดื่มคนเดียวเงียบๆ และนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสี่ปีก่อน
“อันดามันเกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ไอ้ไดชิมึงมาทำอะไรเรื่องบ้าอะไรวะ!” เด็กหนุ่มในชุดนักเรียน ม. ปลายซึ่งตั้งใจมาหาแฟนสาวที่บ้านเพราะอีกฝ่ายบอกว่าไม่สบาย แต่สิ่งที่เขาเจอคือแฟนสาวอยู่กับผู้ชายคนอื่น และผู้ชายคนนั้นยังเป็นเพื่อนรักเขาอีก
“มาทำไม?” อันดาถามด้วยเสียงเฉยชา
“เราเป็นห่วงเลยมาหา แต่..นี่”
“จะมัวอ้ำอึ้งทำไม ก็บอกไปตามตรงสิว่าเราเป็นใคร ผัวก็ไล่มันกลับไปได้แล้วด้วย อันดารู้ใช่ไหมว่าเราไม่ชอบ” ชายหนุ่มบอกกับแฟนสาวของเขา ได้ยินเพียงเท่านั้นแม็กนัสก็พอจะคาดเดาอะไรได้บ้าง
“ว่ายังไงอันดา ไอ้ไดชิมันเป็นผัวเธอใช่ไหม?“ แม็กนัสถามย้ำเมื่ออันดาไม่ยอมพูดสักที
“ก็ตามที่ไดชิพูดนั่นแหละแม็กไม่มีเวลาให้เราเลย ไดชิเขาดูแลเราดี” หัวใจของแม็กนัสเจ็บแปลบเหมือนมีเข็มมาทิ่มแทง ร่างกายมันชาเคลื่อนไหวไม่ได้ไปชั่วขณะ
“'หมายความว่าไง แล้วเราอ่ะ เราไม่ใช่แฟนอันดาเหรอ?”
“เราขอโทษนะ แต่เราเลือกไดชิ” เลือดเย็น! ใช้คำนี้กับผู้หญิงคนนี้มันไม่มากเกินไป ทั้งคำพูดตั้งสายตาที่เธอมองแม็คมัส เย็นชาไร้เยื่อใย
“พูดจบแล้วใช่ไหม เข้าบ้านเถอะขอโทษด้วยนะเพื่อนผู้หญิงเขาเลือกกูวะ” หญิงชายคู่นั้นเดินเข้าบ้านไปแล้ว แต่แม็กนัสยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม มันไม่ได้เจ็บที่แค่ใจ แต่สมองยังตื้นตันไม่ยอมสั่งงานไปที่ขาให้พาตัวเองออกไปจากที่นี่สักที
แม็กนัสหอบหัวใจที่เจ็บช้ำกลับบ้าน เขาขังตัวเองภายในห้องนอนทั้งวันทั้งคืน จนแม่เป็นห่วง มาเคาะประตูห้องถามอาการเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็เงียบไม่ตอบกลับใดๆ ฝั่งตัวเองอยู่ในความมืด…ด้วยความรักแรกจบลงแบบแหลกเหลวไม่แปลกที่แม็กจะเข็ดขยาดกับความรัก
ตั้งแต่นั้นมาเขากับไดชิก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดอันดาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและเลิกรากับไดชิไป ส่วนไดชินั้นต้องหมั้นหมายตามที่ผู้ใหญ่บังคับ มันคงจะไปกันรอดอยู่หรอกขนาดคู่หมั้นของมันยังเอามาประเคนให้เขา
“เธอจะเป็นคนแบบนั้นไหมขมิ้น”
แม็กนัสละเมอออกมาเขาค่อยๆ หลับตาลงและผล็อยหลับไปทั้งที่ยังไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
.
“วันนี้คนสวยของป้าทำอะไรให้กินน้า~”
“ของโปรดคุณป้าทั้งนั้นเลยค่ะขมิ้นช่วยป้าสายทำค่ะ” ขมิ้นนอนไม่หลับจึงตื่นมาตั้งแต่เช้าช่วยป้าทำอาหาร เพราะเขาคนเดียวที่ทำให้เธอว้าวุ่น
“แบบนี้จะอยู่คนเดียวได้ไหมเนี้ย ป้าโทรหาแม็กนัสดีกว่า”
“ไม่ต้องโทรหรอกครับ” แม็กนัสเดินเข้าในห้องอาหาร ทำให้พ่อแม่เขาตกใจเพราะลูกชายไม่น่าจะตื่นเช้าได้ขนาดนี้
“แม็กทำไมสภาพเป็นแบบนี้” เอเลนอว่าแล้วแม็กนัสคงยังไม่ได้นอนมากกว่า
“ตักข้าวสิมองหน้าฉันทำไม”
แม็กนัสทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ขมิ้นและสั่งให้หญิงสาวตักข้าว เขาหลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมงต้องสะดุ้งตื่น ไม่รู้อะไรดลใจให้เขากลับมาบ้านตอนเจ็ดโมงเช้า
“จะโหดไปไหนน้องตกใจหมดแล้ว” กฤตินส่ายหัวลูกชายคนโตของเขามันเอานิสัยห่ามๆ แบบนี้มาจากใคร
“ป้าสายไปเรียนทำอาหารมาเหรอครับอร่อยใช้ได้เลย” หรือเขาไม่ได้กลับมาทานข้าวที่บ้านนานแล้วรสชาติเลยไม่คุ้นลิ้น
“หนูขมิ้นทำจ๊ะ”
“ก็งั้นๆ แหละครับ” แม็กนัสทำเป็นไม่สนใจเขากินไปไม่นานก็ต้องขอข้าวเพิ่มอีกนาน ทำให้เอเลนอยิ้มอย่างพอใจที่เห็นลูกชายกินข้าวได้เยอะ
“2 วันเด๊ดดี้กับหม่ามี้จะไปต่างจังหวัดลูกกลับมานอนบ้านเป็นเพื่อนหนูขมิ้นได้ไหม”
“ลูกสาวของหม่ามี้อายุ 3 ขวบเหรอครับถึงนอนคนเดียวไม่ได้” ภาระจริงๆ คนงานก็ออกจะเต็มบ้านเต็มเมือง แค่นี้ก็ดูแลตัวเองไม่ได้
“แม็กนัสนี่คือคำสั่งแม่จะไปหลายวัน”
“ผมอิ่มแล้ว”
“หนูขมิ้นดูแม็กนัสสิ”
ขมิ้นไม่กล้าออกความคิดเห็นเธอได้แต่ยิ้มรับและทานข้าวไปอย่างเงียบๆ เย็นวันนั้นเองแม็กนัสลากเธอไปที่ผับด้วย โดยบอกพ่อแม่ของเขาว่าจะพาเธอไปเปิดหูเปิดตา แต่หาเรื่องแกล้งเธอมากกว่า
แม็กนัสลากขมิ้นเข้ามาในผับของไต้ฝุ่นเขายังเคืองนิดหน่อยเรื่องที่ต้องดูแลขมิ้นตอนที่พ่อกับเขาไปต่างจังหวัด คืนนี้ก็หาเรื่องแกล้งหญิงสาวก่อน
“ซูซี่”
“ขาว่าไงคะคุณแม็กนัส”
“พอดีเด็กไม่ค่อยมีเงินนะฝากสักคืนสิ”
“พี่แม็กนัสขมิ้นไม่เล่นด้วยนะ” เธอไม่เคยมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ จึงเริ่มกลัวสายตาผู้ชายที่มองมาที่เธอ
“ฉันสั่งให้เธอไปทำงาน!”
“พี่แม็กนัส”
“ทนไม่ไหวก็รีบไปฟ้องหม่ามี้ฉันสิ” แม็กนัสหันหลังออกไปทิ้งขมิ้นไว้กับซูซี่
“คุณน้องหุ่นแบบนี้สเปกชายไทยเลยตัวเล็กๆ คืนแรกเดี๋ยวพี่ให้นั่งชงเหล้าก็พอ” ซูซี่เห็นใจและไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั้น จึงจับขมิ้นแต่งตัว ขมิ้นเป็นคนสวยพอจับแต่งหน้าแต่งตัวถึงกับต้องว้าวเพราะสวยเซ็กซี่
ขมิ้นใส่ชุดสายเดี่ยวสีดำเงาวับแถมกระโปรงยังสิ้นจนเห็นปลีน่องที่ขาวเนียนแบบไม่ต้องใส่ถุงน่อง ใบหน้าเรียวปากนิดจมูกหน่อย ทำให้คืนนี้ขมิ้นเป็นดาวเด่นขึ้นมา
.
แม็กนัสนั่งมองขมิ้นไม่วางตาเขาแค่ให้ไปล้างแก้วล้างจาน ทำไมถึงออกมาเป็นแบบนั้นขมิ้นเดินไปโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ คืนนี้เหมือนผู้ชายจะมองไปที่ขมิ้น จนเขาบีบแก้วเหล้าของเขาแน่น
“น้องขมิ้นนี่หว่าไหนมึงแกล้งอะไรน้องเขา”
“จะไปไหนวะเพิ่งมา”
แม็กนัสไม่ตอบเขาเดินตรงไปยังชั้นล่าง ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าใครสักคน ขมิ้นไปนั่งพูดคุยหัวเราะอย่างมีความสุขกับผู้ชายโต๊ะอื่น
ขมิ้นหัวเราะออกมาเมื่อรุ่นพี่สาขาของเธอมาเที่ยวแล้วเจอกันพอดี เธอจึงนั่งโต๊ะนี่นานหน่อยเพราะไม่กล้าเดินไปโต๊ะอื่นกลัวจะถูกลวนลาม
“เสื้อโป๊มากเอาเสื้อพี่ไปคลุมไว้นอน”
“ขอบคุณพี่สิงห์มากนะคะ”
“เพื่อนสิงห์กูไปตามไอ้ปอนก่อนมันหายไปนานละ”
ขมิ้นจึงนั่งอยู่โต๊ะกับสิ้งห์ตามลำพัง แต่เสียงเพลงนั้นดังมากจนเธอต้องโน้มตัวไปใกล้สิงห์ เพื่อฟังให้ชัดว่าเขาถามอะไร หากมองจากมุมไกลๆ เหมือนว่าเธอกำลังนั่งจูบกับรุ่นพี่
ตุบ! เคล้ง!
“เลือด! กรี๊ดดดด”
แสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้าสาดส่องกระทบกับกระจกหน้าต่างเซฟเฮาส์สุดหรูใจกลางกรุงปารีส เมืองแห่งความโรแมนติก ขมิ้นยืนอยู่ที่ระเบียงห้องชื่นชมทิวทัศน์ของหอไอเฟลที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ลมเย็นพัดผ่านผิวกายของเธอเบาๆ ทำให้เธอหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ตกหลุมรักที่นี่เลยใช่ไหม?"เสียงทุ้มคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่อ้อมแขนอบอุ่นจะโอบรัดเอวของเธอจากด้านหลัง แม็กนัสโน้มศีรษะลงมาแนบชิดกับไหล่ของเธอ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของหญิงสาวขมิ้นหัวเราะเบาๆ "ขมิ้นตกหลุมรักทุกอย่างที่นี่เลย ไม่ใช่แค่เมืองนี้นะ..."เธอเว้นจังหวะ ก่อนจะหันไปสบตากับเขา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอทอประกายอบอุ่นเมื่อพูดต่อ"แต่รวมถึงพี่แม็กด้วย" “ปากหวานคงต้องจัดอีกรอบ”แม็กนัสยิ้มออกมา ดวงตาสีน้ำตาลลึกซึ้งของเขาฉายแววแห่งความรัก ขมิ้นรู้ว่าเธอไม่ได้แค่พูดเล่น ทุกวินาทีที่ได้อยู่กับเขา เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก “อย่ามาหื่นขมิ้นขาสั่นไปหมดแล้ว” “พี่คิดถึงเมียหนิ ใครกันมาให้พี่เย็.-ด ถึงที่” “ดูพูดเข้า” “เราแต่งงานกันนะค่อยกลับไปจัดที่เมื
ขมิ้นนั่งจ้องมองเด็กทารกตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ในเปลตัวจ้ำหม่ำนอนหลับปุ๋ย ในปากยังมีขวดนมอยู่ขมิ้นเขี่ยแก้มเบาๆ ทำให้เด็กน้อยทำตัวยุกยิกไปมา “ชอบเด็กไหมขมิ้น” “น้องน่ารักมากเลยนะคะ” “ตอนนอนน่ารักพอตื่นบ้านแทบแตก” เดือนเมษาเพิ่งคลอดลูกสาวได้ไม่นาน กองทัพจะมาขอลูกที่คนสองเธอจึงบอกให้เขาพักก่อน “ขมิ้นยังไม่อยากมี” “เรียนจบแต่งงานไปแล้วก็อยากมีเอง” ดูอย่างไต้ฝุ่นสิคนเจ้าชู้แบบนั้นพอมีความรักก็อยากมีลูกขึ้นมาทันที เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน “ขนมจ้ะสาวๆ” ไลลาริณถือขนมมาวางพร้อมกับนั่งลงที่พื้น เห็นลูกสาวของกองทัพแล้วทำให้อยากมีบ้าง “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคนอย่างพี่ไต้ฝุ่นจะยอมหยุดที่พี่ไลลา” ในแก๊งนี้บอกเลยว่าไต้ฝุ่นคือคนที่ใช่ชีวิตคุ้มค่าที่สุดฟาดเรียบไม่เหลือ “คนเจ้าชู้ถ้าเขาอยากหยุดจะหยุดเองเราไม่ต้องพยายาม” กว่าจะหยุดเสียน้ำตาไปเยอะเหมือนกัน เขาทำให้ไลลาริณมั่นใจว่าเขานั้นหยุดอยู่ที่เธอคนเดียว “พี่แม็กนัสธรรมดาเสียที่ไหน” “เสือสุ่ม” “ห่างกันตั้ง 1 ปีคิดถึงเขาไหม”
เอเลนอยิ้มหน้าบ้านที่ลูกชายตามง้อขมิ้นสำเร็จคิดว่างานนี้จะได้ออกโรงเอง ความหวังที่อยากได้ขมิ้นมาเป็นลูกสะใภ้นั้นวันนี้สำเร็จลุล่วง ต้องรีบหาฤกษ์หมั้นหมายให้เร็วที่สุด “ถ้าลูกชายหม่ามี้แกล้งอะไรบอกแม่ได้เลยนะลูกหม่ามี้จะจัดการมันเอง” “หม่ามี้ผมลูกหม่ามี้นะ” รักลูกสะใภ้มากกว่ารักลูกตัวเองไม่ได้ “คงไม่กล้าทำอะไรขมิ้นแล้วค่ะ” แม็กนัสน่าจะกลัวเข็ดยาดไปอีกนาน กว่าจะผ่านด่านพ่อตาไม่ง่ายเรียกว่าแทบจะเอาชีวิตไปทิ้งหลายครั้ง “อย่าทำแบบนั้นอีกนะแม็กนัส” “ผมไม่กล้าแล้วครับ” ต่อจากนี้จะเชื่อหัวใจตัวเองไม่กล้าปากเก่งทำสิ่งตรงข้ามกับหัวใจอีกแล้ว แม็กนัสพาขมิ้นมาที่ผับของไต้ฝุ่นอีกไม่กี่วันเขาจะต้องไปฝึกงานที่บริษัทของพ่อ จึงพาหญิงสาวมาทำความรู้จักแบบเป็นทางการ วันนี้กองทัพและไต้ฝุ่นพาคนรักมาด้วยสาวๆ จะได้มีเพื่อนคุย ขมิ้นกับเดือนเมษารู้จักกันแล้วส่วนไลลาริณนั้นอยู่คนละคณะจึงไม่ค่อยเจอหน้ากัน “พี่เมษาท้องได้กี่เดือนแล้วคะ” “จะเข้าสามเดือนแล้วจ้ะ” กองทัพไม่พูดพร่ำทําเพลงเสกเด็กน้อยเข้าท้องเรียบร้อย
ส่วนพ่อขมิ้นซึ่งตอนนี้ถูกภรรยาเรียกกล่อมจนอารมณ์เย็นลงมาบ้างแล้ว เขาแก่จนอายุปูนนี้เห็นแก่ความสุขของลูกเขาจึงยอมให้โอกาสแม็กนัสอีกครั้ง “เมื่อตัดสินใจแล้วก็รับผิดชอบด้วยตัวเอง” “ขอบคุณคุณพ่อครับที่เข้าใจ” “ได้คืบจะเอาศอกใครให้เรียกพ่อ” ปทุมทำเป็นเคร่งขรึมวันก่อนยังเรียกเขาลุงอยู่เลย แต่ไม่เป็นไรเขาอารมณ์ดีเพราะขมิ้นจะอยู่ที่บ้านสวนกับเขาอีกสี่ปี ก่อนจะไปอยู่กับแม็กนัสสมน้ำหน้าให้อยู่ห่างกันแบบนั้นแหละถึงจะถูก ตกดึกแม็กนัสหมุดออกจากมุ้งตัวเองคิดถึงขมิ้นอยากกอดอยากหอมแต่เกรงใจพ่อกับแม่ คืนนี้จะไปฟัดให้หายคิดถึง “จะไปไหนครับพี่ชาย” “เบาๆ ดิวะกูจะไปนอนกับขมิ้น” “กินลูกตะกั่วตัวใครตัวมันนะ” เรียวตะหันหลังนอนเล่นโทรศัพท์ต่อ เขามาอยู่ที่บ้านสวนเกือบสองสัปดาห์ แทนที่เขาจะได้ใช่ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ปิดเทอมนี้จึงไม่ได้ไปเที่ยวไหน แกร็ก “พี่มาแล้วจ้ะ ขมิ้นของพี่” ตอนเย็นเขาบอกขมิ้นว่าห้ามล้อกประตูจะแอบเข้ามานอนด้วย เขาย่องขึ้นเตียงขมิ้นเหมือนฟ้าฝนจะเป็นใจเพราะฝนตกลงมากลบเสียงจนม
ตอนบ่ายอาการป่วยของเขาดีขึ้นมากวันนี้จึงสั่งให้เรียวตะไปหาซื้อพวงมาลัยที่ตลาด ที่แรกน้องชายบอกให้เขาร้อยเองในสวนมีดอกไม้หลายพันธุ์ อย่าหวังว่าคนแบบเขาจะยอมทำ แม็กนัสเดินขึ้นเรือนพร้อมกับพวงมาลัยสองพวงพ่อกับแม่ของขมิ้นมองแม็กด้วยความสงสัยว่าแม็กนัสเป็นอะไรหรือจะกินยาไม่ได้เขย่าขวด “แม็กนัสมีอะไรเปล่าลูก” แม่ของขมิ้นเอ่ยถามเมื่อเห็นเขานั่งลงที่พื้นพร้อมกับพวงมาลัยสองพวง “ผมจะมาขอขมาคุณน้าทั้งสองครับ” พ่อกับแม่ของขมิ้นยิ่งงงไปกันใหญ่ แม็กนัสก้มลงกราบเท้าพ่อกับแม่ของขมิ้น แล้วสารภาพความจริงทุกอย่างเป็นเพราะเขาขมิ้นถึงหนีกลับมาที่เขามาตามเพราะรักขมิ้นจึงมาขอโทษ ขมิ้นเดินมาได้ยินเธอก็ตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าแม็กนัสจะกล้าสารภาพกับพ่อแม่ หญิงสาวยืนหลบมุมเพื่อรอดูสถานการณ์ “มึงออกจากบ้านกูไปเลย!” “พี่ทุมใจเย็นก่อนสิ” “เราจะฝากลูกสาวไว้กับมันได้ยังไงดีนะที่วันนั้นยังไม่รับหมั้น ออกไปจากบ้านกู!” ปทุมโกรธจนโยนพวงมาลัยทิ้ง ทำลูกเขาเจ็บคนเป็นพ่อแม่นั้นเจ็บยิ่งกว่า “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” “มึงอยาก
ขมิ้นพาแม็กนัสเข้าสวนทุกวัน ดายหญ้า รดน้ำ พรวนดิน เก็บผลผลิตแม็กนัสต้องทำทุกอย่าง โดยมีเรียวตะเป็นผู้ช่วยงานมันหนักเสียจนเรียวตะอยากกลับกรุงเทพ“กูไม่น่ามากับพี่เลยไอ้ห่าแม็ก” จากที่คิดว่าแม็กนัสอาจจะทนได้ไม่นานแต่มันไม่ใช่ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว คนที่จะตายคือเขาเอง“มึงจะเรียกกูว่าพี่ทำไมถ้าจะด่าขนาดนั้น”“พี่ทำคนเดียวเลย”แม็กนัสมองมังคุดที่กองอยู่ตรงหน้าวันนี้ขมิ้นให้เขาแยกผลไม้ใส่ลังเพื่อจะนำไปส่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาด หลายวันก่อนต้องไปเก็บทุเรียนจนใบหน้าได้แผลมาหนึ่ง“หน้ายังไม่หายดีเลยแผลมาอีกละกว่าจะได้กลับกรุงเทพผมเตรียมโลงไว้ให้พี่ดีกว่า”“เงียบเลยนะมึงไม่ช่วยยังปากดีอีก” เขาบอกขมิ้นไว้แล้วว่ายังไงเขาจะไม่ยอมแพ้คนอื่นเขาทำงานหนักได้ เขาก็ต้องทำได้เหมือนกัน.“ลูกคุณหนูสำอางมากคิดว่าจะหนีกลับกรุงเทพตั้งแต่วันแรกแล้ว” ปทุมยอมในความอดทนของแม็กนัสขนาดถูกเขาแกล้งให้ทำงานหนักก็ไม่หวั่นไม่บ่น แต่ชอบมาแตะตัวลูกสาวเขาตลอด“จะไปไหนขมิ้นแดดร้อนอยู่”“ไปเอาน้ำจ๊ะพ่อ”เห็นเขาทำงานหนักจึงสงสารตอนนี้บ่ายโมงแดดแรงมาก ขมิ้นถือน้ำและผลไม้แช่แข็งไปให้เขาเธออยากพูดกับเขาตรงๆ“น้ำกับผลไม้”“