รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่
ร่างอรชรกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนหนานุ่มบนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์ เธอชื่นชอบยิ่งนักกับการนอนที่ปราศจากเสื้อผ้าสวมใส่ การนอนเปลือยกายทำให้ร่างกายของเธอผ่อนคลายจากการเดินทางมาตลอดทั้งวันได้เป็นอย่างดี โดยมิล่วงรู้เลยว่าบัดนี้มีบางอย่างผิดปกติปรากฏขึ้นอยู่บนร่างกายของเธอ แม่มาเฟียสาวคนสวยนอนคว่ำหน้าโดยมีเพียงผ้าห่มปิดคลุมแผ่นหลังเอาไว้เพียงเท่านั้น ศีรษะทุยสวยพาดอยู่บนขอบเตียงจนเส้นผมสีดำสนิทยาวสยายของเธอตกลงจนระไปกับพื้นห้อง แผ่นหลังที่เคยขาวนวลเนียนไม่มีแม้กระทั่งผื่นผดและเม็ดสิว บัดนี้กลับปรากฏรอยสักมังกรจำนวนสามตัวอยู่บนแผ่นหลังขาวนวลเนียนของไป๋หลันฮวา รอยสักมังกรสามตัวเลื้อยส่วนหัวขึ้นสถิตอยู่ที่หัวไหล่ซ้ายและขวาและตัวตรงกลางหัวของมังกรเลื้อยสถิตสิ้นสุดอยู่บริเวณท้ายทอย ลำคอขาวผ่องมีเชือกหนังวัวถูกถักอย่างสวยงามคล้องกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ของสามราชาในยุคอดีตกาลประดับอยู่บนคอของเธอตั้งแต่เมื่อไรแม้แต่เจ้าตัวก็มิอาจล่วงรู้ได้ ในขณะที่หนังสือเก่าแก่ที่เธออ่านเมื่อคืนจนผล็อยหลับไปเองกำลังค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ ทันทีที่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน อันเป็นสัญญาณของรุ่งอรุณของวันใหม่ที่หญิงสาวจะต้องเดินทางไปจัดการงานศพของบิดาไป๋โหย่งอี้ ณ คฤหาสน์ตระกูลไป๋ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้นั้นเอง ตู๊ด!ตู๊ด!ตู๊ด!ตู๊ด! เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางไว้อยู่บนโต๊ะข้างเตียงดังลั่น ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 6.00 นาฬิกา อันเป็นเวลาที่ไป๋หลันฮวาตั้งปลุกเพื่อให้เธอนั้นตื่นขึ้นมาเตรียมตัวไปทำพิธีศพของบิดา ร่างเปลือยภายใต้ผ้าห่มบดบังซึ่งนอนนิ่งราวคนตายเมื่อครู่ที่ผ่านมา ค่อยๆ ขยับกายเคลื่อนไหวทีละน้อย เมื่อโสตประสาทของเธอได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือแผดเสียงดังต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มือเรียวขาวนวลเนียนค่อยๆ คืบคลานออกจากผ้าห่ม คลำหาโทรศัพท์มือถือของเธอก่อนจะคว้าจากโต๊ะข้างเตียงมาจ่ออยู่ตรงหน้า “ให้ตายสิ! ปลุกอะไรแต่เช้านักหนา”หญิงสาวบ่นพึมพำพลางกดปิดเสียงนาฬิกาปลุกก่อนจะฟุบลงนอนตามเดิมด้วยความง่วงงุน ตู๊ด!ตู๊ด!ตู๊ด!ตู๊ด! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกคราหากแต่ครั้งนี้กลับเป็นสัญญาณเสียงเรียกเข้าจากเพื่อนรักร่วมแก๊งเดียวกันของเธอ “โอ๊ย! ตื่นแล้ว!ตื่นแล้ว!”เสียงบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิดที่ถูกปลุกเอ่ยออกมาทันใด พร้อมกดรับปลายสาย “ฮาล..โหล!!!”หญิงสาวกรอกเสียงที่เต็มไปด้วยความงัวเงียมิรู้วาย “ตื่นได้แล้วหลันฮวา อย่าลืมสิว่าเช้านี้ต้องรีบไปจัดการงานศพพ่อของเธอ แล้วนี่เมื่อคืนมัวทำอะไรอยู่ ไม่ได้พักผ่อนทันทีที่มาถึงโรงแรมอย่างนั้นหรอกเหรอ”หวังเหล่ยบ่นมาตามสายพร้อมถามกลับไป “ฉันไม่ลืมหรอกนะว่าจะต้องไปหาพ่อ! เพียงแต่นอนดึกเพราะมัวแต่อ่านตำนานโบราณ พงศาวดารจีนอะไรนั้นแหละเพลินไปหน่อย ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรแต่ก็ดึกเอาการ”หญิงสาวตอบปลายสายกลับไป “นี่แม่คุณเป็นงานเป็นการหน่อยสิ อีกหน่อยต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าใหญ่สามพยัคฆ์ยังทำตัวไม่รู้จักโตแบบนี้ไม่ได้นะหลันฮวา”หวังเหล่ยบ่นไม่รู้วาย “อัยยะ!ใครบอกว่าฉันจะเป็นหัวหน้าใหญ่แทนพ่อ ก็บอกตั้งแต่เมื่อวานแล้วไงว่าเสร็จเรื่องงานศพของพ่อแล้ว ก็จะประกาศต่อหน้าสมาชิกร่วมแก๊งว่าฉันขอสละสิทธิ์เว้ย!!!”หญิงสาวตอบปลายสายกลับไป “ไม่ทันแล้วละหลันฮวา พ่อของแกทำพินัยกรรมระบุให้ขึ้นเป็นหัวหน้าใหญ่ของแก๊งสามพยัคฆ์แทนแล้ว ฉันเพิ่งได้รับสายจากทนายความที่จัดการทรัพย์มรดกทั้งหมดของตระกูลไป๋เมื่อกี้นี้เอง” “อะไรนะ!!!”หญิงสาวเอ่ยเสียงหลงออกมาโดยพลันครั้นได้ยินเช่นนั้น “นี่พ่อทำพินัยกรรมระบุเจาะจงฉันลงไปให้สืบทอดตำแหน่งเลยอย่างนั้นหรอกเหรอ”ไป๋หลันฮวากรอกเสียงถามกลับไปเพื่อให้แน่ใจ “ก็ใช่นะสิ! แล้วรู้อะไรไหมพ่อของแกกำชับทนายความประจำตระกูลให้เปิดพินัยกรรมทันทีที่เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อส่งมอบอำนาจและตำแหน่งหัวหน้าใหญ่แก๊งสามพยัคฆ์สืบทอดโดยยึดหลักสายเลือด นั้นก็เท่ากับว่าพ่อแกประกาศให้สมาชิกแก๊งล่วงรู้ว่า เริ่นเจินไม่ใช่ลูกแท้ๆ”หวังเหล่ยรายงานมาตามสายเป็นชุดๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจแทนเพื่อนอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่อีกฝ่ายอยู่ในภาวะชะงักงันครั้นได้ยินเช่นนั้น เธอนั่งนิ่งอยู่บนฟูกนอนโดยไม่เอื้อนเอ่ยถ้อยเจรจาแต่อย่างใดออกมาแม้แต่น้อย และไม่ได้ยินอีกฝ่ายที่กำลังพูดออกมาอย่างไม่ขาดสาย จวบจนกระทั่งเสียงเพื่อนร่วมแก๊งดังเอ็ดอึงมาตามสายปลายทาง “หลันฮวา!หลันฮวา! ได้ยินหรือเปล่า! นี่แกได้ยินที่ฉันพูดไหม”หวังเหล่ยถามกลับมาแทบจะตะโกนเลยทีเดียว และนั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวขึ้นมาทันใด “เออ..ฉันได้ยินนายพูด! ไม่ต้องตะโกนดังเสียขนาดนั้นก็ได้หูไม่ได้ตึงนะเว้ย!”หญิงสาวตอบปลายสายกลับไป “ถ้าเช่นนั้นก็ดีแล้ว รีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเร็วเข้าจะได้รีบไปจัดการงานศพของพ่อแก ทนายความประจำตระกูลกำลังเดินทางไปพบพวกเราภายในงาน”หวังเหล่ยบอกกลับมา “เริ่นเจินรู้หรือยังว่าพ่อทำพินัยกรรมระบุไว้ว่าให้ฉันสืบทอดตำแหน่งต่อไป”ไป๋หลันฮวาถามกลับไปด้วยความอยากรู้เพื่อวิเคราะห์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเบื้องหน้า “จะไปเหลือเหรอรายนั้นรู้ก่อนคนแรกเลย เพราะแม่เลี้ยงแกอยากรู้ว่าจะได้ครอบครองสมบัติอะไรบ้างหลังจากที่พ่อแกตาย ป่านนี้สองแม่ลูกคู่นั้นคงคลั่งตายไปแล้วกระมัง” และนั่นทำให้คิ้วเรียวสวยของหญิงสาวขมวดเข้าหากันทันใดครั้นได้ยินคำตอบกลับมาเช่นนั้น “เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ”เธอถามกลับไปด้วยความอยากรู้ทันใด “เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นนะเหรอ...ก็แค่สองแม่ลูกคู่นั้นพ่อแกไม่ยกอสังหาริมทรัพย์อะไรให้เลย ได้รับแค่เงินคนละหนึ่งล้านหยวนเท่านั้น”หวังเหล่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความสะใจ และนั่นทำให้ไป๋หลันฮวาย้อนนึกถึงความฝันของเธอตอนนั่งอยู่บนเครื่องบินได้ขึ้นมาทันที “โทษแกนั่นแหละจะไปโทษใคร! นายใหญ่ยกตำแหน่งหัวหน้าแก๊งให้แกสืบทอดพร้อมทรัพย์สมบัติทั้งหมด ในขณะที่เริ่นเจินของฉันและคุณนายรองได้เงินแค่คนละหนึ่งล้านเท่านั้น ตราบใดที่แกยังคงมีชีวิตอยู่เริ่นเจินของฉันก็ไม่ได้ครอบครองทุกอย่างของสกุลไป๋และไม่ได้เป็นหัวหน้าใหญ่สามพยัคฆ์ก็เพราะแก!!!” ถ้อยคำของนักฆ่าสาวที่เธอได้ยินในความฝัน ตรงกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ทุกประการ “เฮ้ย! เป็นไปได้เหรอเนี่ย”ไป๋หลันฮวาเอ่ยออกมาด้วยไม่อยากจะเชื่อว่าความฝันดังกล่าวกลับกลายเป็นเรื่องจริง พร้อมเสียงของหวังเหล่ยส่งเสียงมาตามสายโทรศัพท์ “มันเป็นไปแล้วหลันฮวาและคือเรื่องจริงที่แกจะต้องยอมรับและปฏิเสธไม่ได้แม้แต่น้อย ว่าตอนนี้แกคือหัวใหญ่รุ่นต่อไปของแก๊งสามพยัคฆ์ สืบทอดตามสายเลือดอันชอบธรรมทุกอย่าง นายใหญ่ทำเอาไว้อย่างถูกต้องและมีกฎหมายรองรับด้วยนะเว้ย” หญิงสาวนิ่งฟังไม่เอ่ยถ้อยเจรจาใดๆ ออกมาทั้งสิ้น ความรู้สึกของเธอในขณะนี้มีลางสังหรณ์บางอย่างบอกกับเธอว่าสิ่งที่เห็นในความฝันกำลังปรากฏขึ้นเป็นความจริง “ฉันจะรีบจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย นายสั่งระดมกำลังคนของเราทั้งหมดดูแลความปลอดภัยของเราสองคนตลอดเส้นทางที่จะไปงานศพพ่อของฉัน แล้วก็ส่งคนมาอารักขาตรงหน้าประตูห้องพัก ห้ามมิให้ใครเข้าใกล้หน้าห้องอย่างเด็ดขาด เข้าใจนะเว้ย!”หญิงสาวสั่งสหายร่วมแก๊งเดียวกันไปตามสาย และคำสั่งดังกล่าวทำให้หวังเหล่ยแปลกใจอยู่มิใช่น้อยเมื่อได้ยินแผนการกำชับออกมาเช่นนั้น “ระดมกำลังมาอารักขามากมายเสียขนาดนั้น ทำราวกับว่าจะมีคนลอบฆ่าแกอย่างไงก็อย่างนั้นเลยนะ..เริ่นเจินมันไม่มีปัญญาทำอะไรแกได้อีกแล้ว ในเมื่อตอนนี้ตำแหน่งผู้สืบทอดตกเป็นของไป๋หลันฮวาไม่ใช่ไป๋เริ่นเจินหรือแม้กระทั่งฉันนะเว้ย”หวังเหล่ยปลอบเพื่อนสาวมาตามสาย “ทำตามที่ฉันบอกเถอะอาเหล่ย นายกับฉันยังไม่รู้หรอกว่าจะต้องพบกับอะไรบ้างนับต่อจากนี้ ยิ่งเริ่นเจินมันไม่ได้อะไรเลยจากพ่อ คนประเภทนั้นจะต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครองในสิ่งที่มันต้องการ ยิ่งพินัยกรรมของพ่อถูกเปิดออกหลังจากที่ตายครบ 24 ชั่วโมงแบบนั้น แน่นอนว่าชีวิตของฉันอยู่ได้ไม่นานแน่ๆ”หญิงสาวกรอกเสียงกลับไป “อีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวเจอกันเตรียมคนให้พร้อมด้วยนะ”เธอกำชับเพื่อนร่วมแก๊งไปตามสาย “ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวหวังเหล่ยจัดให้นายใหญ่ขอรับ!”หวังเหล่ยส่งเสียงล้อเลียนไปตามสายอย่างอารมณ์ดี ไป๋หลันฮวาตัดสายสนทนาพลางนั่งครุ่นคิดอยู่ภายในใจ “นี่เรามันกระต่ายตูมไปหรือเปล่าวะที่สั่งระดมคนมากมายเสียขนาดนั้น กะอีแค่ความฝันทำไมถึงมีความรู้สึกว่าฝันนั้นมันกำลังเป็นความจริงด้วยว้า..แต่จะว่าไปป้องกันเอาไว้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่หว่า ฉันไม่ใช่คนกระต่ายตื่นตูมเสียหน่อย”หญิงสาวบ่นพึมพำให้กับตัวเองก่อนจะสลัดผ้าห่มออกจากกายณ.ชายแดนเมืองลู่มาน ต้นสนพันปีรายล้อมไปทั่วบริเวณของชายป่าก่อนจะถึงเขตเมืองหลวงตันหยางของแคว้นฉู่ บริเวณนอกกำแพงเมืองของแคว้นเต็มไปด้วยผืนป่าขึ้นรกครึ้มปกคลุมจนวังเวงจนทำให้ขนทั่วกายลุกตั้งชัน สนพันปีเติบโตจนมีขนาดใหญ่รายล้อมจนน่าหวั่นเกรง และจุดนี้เองเป็นที่อาศัยชุกชุมของพวกโจรป่ารวมไปถึงปีศาจที่แฝงกายในร่างของมนุษย์ และบริเวณลานกว้างซึ่งรายล้อมไปด้วยสนพันปี เต็มไปด้วยของเซ่นไหว้ที่นำมาวางกองไว้ดาษดื่นจนเต็มไปหมด ชาวเมืองแคว้นฉู่กำลังมีพิธีบูชายัญโดยใช้ชีวิตมนุษย์เป็นเครื่องสังเวยให้แก่เทพเจ้าต้นไม้เมืองลู่มานเป็นชายแดนหน้าด่านของแคว้นฉู่ ชาวเมืองต่างมีความเชื่อในเทพเจ้า ปีศาจและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างที่จะให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แคว้นฉู่ในเวลานี้ปกครองโดยจีปาอ๋อง ซึ่งเป็นระดับเชื้อพระวงศ์จากราชวงศ์โจวตะวันตกที่เข้าร่วมก่อกบฏกับไค๋หยวนฮ่องเต้ ช่วงชิงราชบัลลังก์มาจากไท่เจิ้งอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระเชษฐาเมื่อแผนการก่อกบฏสำเร็จสิ
พร้อมหันกลับไปจ้องเด็กหญิงตัวน้อยเขม็ง เมื่อกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ทำให้หญิงสาวล่วงรู้ว่าเด็กๆ ตัวเล็กที่มีใบหน้าน่ารักน่าชังมิใช่มนุษย์แต่เป็นปีศาจนั่นเอง“เจ้าเด็กน้อยธิดาเทพ อายุยังน้อยอยู่แท้ๆ แต่จิตใจกลับเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและอำมหิตแบบนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดของเด็กในวัยเช่นนี้ของเจ้าหรอกนะ”หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปพร้อมเห็นความเปลี่ยนแปลงของธิดาเทพกำลังคืนร่างอย่างช้าๆในขณะที่สมุนของปีศาจต้นไม้แสยะยิ้มเหยียดเมื่อได้ยินถ้อยเจรจาของสตรีสาวนิรนามตรงหน้า โดยมิล่วงรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเห็นร่างอันแท้จริงของตนซึ่งกำลังคืนร่างกลายเป็นปีศาจตัวชะมดหาใช่มนุษย์“จะตายอยู่แล้วยังหาญกล้ามาเจรจาตีฝีปากกล้ากับข้าผู้ซึ่งเป็นธิดาเทพ คิดหรือว่าชาวเมืองจะไม่กล้าทำอะไรเจ้าในเมื่อข้าสั่งผู้คนเหล่านั้นก็ต้องทำ!”ปีศาจชะมดในร่างเด็กน้อยหันกลับไปจ้องเขม็งชายฉกรรจ์สามคนพร้อมดวงตาสีเขียวลุกวาววับขึ้นมาทันใดพร้อมยกมือที่บัดนี้มีไอสีดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากร่างก่อนจะเข้าทาบทับ หากแต่ยังมิทันที่ไอดำจะเข้าทาบทับกลุ่มชายฉกรรจ
“เจ้านะรึคือไป๋หลันฮวา ธิดาคนโตของแม่ทัพไป๋อี้”รับสั่งถามย้ำกลับไปด้วยความแปลกพระทัย“เป็นข้าเองมิผิด”หญิงสาวกล่าวพลางพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันครั้นองค์ชายเนี่ยนเจินได้ยินเช่นนั้น ทรงยืนทอดพระเนตรสตรีสาวตรงพระพักตร์ให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อความแน่พระทัย ก่อนจะมีสุรเสียงรับสั่งออกมา“เท่าที่ข้าล่วงรู้มา แม่ทัพไป๋อวี้ผู้กล้ามีธิดาสองนางคือแม่นางไป๋หลันฮวาและแม่นางไป๋จู ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าธิดาคนโตของแม่ทัพไป๋ เกิดมาพร้อมกับความอัปลักษณ์มีใบหน้าเต็มไปด้วยปานแดงเต็มไปทั่วผิวหน้า แทบจะไม่เห็นผิวเนื้อเดิม”รับสั่งพร้อมเพ่งพิศสตรีตรงพระพักตร์อีกครั้งพลางครุ่นคิดตาม“ในขณะที่ธิดาคนรองงดงามเย้ายวนใจ จนทำให้บุรุษทั่วหล้าเดินทางเพื่อมายลโฉมของนาง ข่าวการชนะศึกในครั้งนี้จะดึงดูดบุรุษทั่วทุกสารทิศมาเยือนจวนของแม่ทัพไป๋กันอย่างเนืองแน่นเลยทีเดียว ดังนั้นหากเจ้าบอกว่าแท้จริงแล้วคือไป๋หลันฮวา ถ้าเช่นนั้นสิ่งที่ข้าล่วงรู้มาก็มิใช่เรื่องจริงกระนั้นสิ” “เออ...”แม่มาเฟียคนงามส่งเสียงต่ำๆ
มือเรียวรีบคว้าม้วนไม่ไผ่ขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว พลางรีบคลี่ออกเพื่อดูตัวหนังสือด้านในซึ่งแลดูคล้ายจดหมายเขียนข้อความทิ้งไว้ถึงใครบางคน ดวงตาคู่สวยกวาดสายตาไปตามตัวอักษรแต่ละตัวพร้อมเริ่มอ่านอักษรจีนโบราณออกมา ถึงตัวข้า!ไป๋หลันฮวา ในขณะที่เจ้ากำลังอ่านจดหมายอยู่ในขณะนี้ ข้าซึ่งเป็นตัวของเจ้าในเวลานี้ได้สิ้นลมหายใจไปแล้ว เจ้าอ่านต้องงุนงงเป็นแน่แท้ว่าเพราะเหตุใด ดังนั้นข้าจะอธิบายเพื่อให้เจ้าเข้าใจง่ายๆ นั่นก็คือ ข้าคือชีวิตในชาตินี้ของเจ้า ส่วนตัวเจ้าที่กำลังอ่านจดหมายอยู่ในเวลานี้คือชีวิตใหม่ของข้าในชาติหน้า พรึ่บ! ม้วนไม้ไผ่ถูกปิดเข้าหากันทันใดด้วยความตกใจอย่างยิ่งยวด ครั้นได้อ่านประโยคดังกล่าว “เป็นไปไม่ได้! นี่ฉันกำลังอ่านจดหมายของตัวเองในชาติอดีตอย่างนั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าเราย้อนเวลากลับมาในอดีตชาติของตัวเอง!เฮ้ย!เป็นไปไม่ได้!เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”มาเฟียสาวคนงามกล่าวพร้อมส่ายหน้าไปมาด้วยไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ แต่แล้วเพียงครู่ ภาพความทรงจำกับเหตุการณ์นับตั้งแต่ได้พานพบซากโครงกระดูกกลางทะเลทรายผุดพรายขึ้นมาทันใด เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปจนถึงปาฏิหาร
ทางด้านไป๋หลันฮวาบริเวณชายป่าเขตชายแดนแคว้นฉู่ พรึ่บ!!!! แสงสว่างเจิดจ้าปรากฏขึ้นแถบบริเวณชายป่า ซึ่งเต็มไปด้วยทิวเขาและป่าดงดิบตลอดจนเหวลึก ท้องฟ้าเบื้องบนเต็มไปด้วยแสงสว่างมิสามารถมองด้วยตาเปล่าได้ ก่อนจะปรากฏร่างหญิงสาวนางหนึ่งลอยละลิ่วตกลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบนร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าเขียวขจี พลั่ก!!! แรงกระแทกที่ตกกระทบลงพื้นเล่นเอาสตรีสาวนางนั่นเกิดอาการจุกเข้าให้อย่างจัง ร่างอรชรเอวบางร่างน้อยถึงกับบิดไปมาด้วยความเจ็บและจุกจนพูดไม่ออก โอ้ยยย!!! หญิงสาวส่งเสียงโอดครวญพลางส่ายกายไปมาพยายามที่จะลุกจากพื้น แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อดวงตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพบว่า มีดวงดาวมากมายส่องประกายระยิบระยับสวยงามตื่นตะลึงอย่างยิ่งยวด และท่ามกลางดวงดาวมากมายปรากฏดวงจันทร์สีเหลืองนวลกลมโต มีขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนลอยเด่นอยู่ตรงหน้าไป๋หลันฮวาอยู่ในขณะนี้ “โอโห่!สวยจัง”หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นพระจันทร์เต็มดวงท่ามกลางดวงดาวนับหมื่นล้านดวง ในขณะเดียวกัน หญิงสาวมิล่วงรู้เลยว่าในยามนี้ร่างของเธอกำลังนอนอยู่ปากเหวหากพลิกกายกลับไปเพียงเสี้ยว ร่างร่วงหล่นล
ฉาด!!! จิ๋นฟานยกฝ่ามือใหญ่ตีเข้าที่หน้าขาของตนทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น“กระหม่อมคาดเอาไว้ไม่มีผิด นึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นการกระทำของปีศาจและจื่อโหย่วก็คือปีศาจตนนั้น หากแม้นคนผู้นี้ได้ขึ้นครองแผ่นดินแล้วไซร้ ภัยพิบัติจะยิ่งทวีมากขึ้นไปอีกทุกวันนี้ชีวิตของผู้คนต่างสูญหายอย่างไร้ร่องรอยไปนับไม่ถ้วนเลยพ่ะย่ะค่ะ”จิ๋นฟานกราบทูลกลับไปเต็มไปด้วยน้ำเสียงแฝงเร้นความกังวลได้อย่างชัดเจน“สิ่งที่เจ้ากล่าวมามันก็ถูกแต่จะพลีพลามอีกไม่ได้ เพราะสาเหตุที่ข้าต้องจบชีวิตลงเมื่อคราก่อนก็เพราะว่าชะล่าใจจนเกินไปจะต้องวางแผนให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องค้นหาผู้ครอบครองเจี่ยกู่เหวินอีกครึ่งซีกให้พบและนำมาอยู่รวมด้วยกันกับข้าในสถานที่อันปลอดภัยที่สุด”“เรื่องนั้นพระองค์มิต้องเป็นห่วง เผ่าจินเจียงมิได้มีกระหม่อมและบุตรชายเพียงสองชีวิตเสียที่ไหนกันเล่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระองค์มีชนเผ่าของกระหม่อมอยู่เคียงข้างมาโดยตลอดทรงมิล่วงรู้เท่านั้น และคาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้พานพบผู้ครอบครองเจี่ยกู่เหวินในเร็ววันนี้ บันทึกของจอมเวทย์มิเคยผิดพลาดแม้แต่ครั้ง