คำนำ “หนูน้อยหมวกขาว - The White Hood” -รอมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ลุยสดไปเลยดีกว่า !!! ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายวันแล้ว- และแล้วคนเถื่อนทั้งสองคนก็เริ่มลงมือ กินหนูน้อยหมวกขาว… อย่างช้าๆ “หนูน้อยหมวกขาว - The White Hood” คือเรื่องราวสมมติทั้งหมด นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นกึ่งคล้ายกับนิทานกริมม์ ซึ่งนิทานมีความโหดร้าย มากกว่าการเป็นแฟนตาซี นิยายเรื่องนี้ เขียนตามสไตล์ภูผาสีน้ำเงิน ซึ่งอาจจะเน้นไปทาง ดาร์กโรมานซ์ และอิโรติกเช่นเคย ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ อาจมีมุมสายดาร์กบ้าง หรือความแปลกใหม่ของอิโรติกแนวนี้ หากหนัก...ปิดไปได้เลยจ้า ถ้า นักอ่านชอบนิยายแนวใหม่ กดให้หัวใจเป็นกำลังใจนักเขียนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ภูผาสีน้ำเงิน ****** เวอร์ชั่นนี้ จะแตกต่างจากหนูน้อยหมวกแดง ที่คุณรู้จักมา... จากนิทานสุดคลาสสิค ตลกร้ายของพี่น้องตระกูลกริมม์ จะเปลี่ยนไปจากเดิม... !!!
View More"ปลอดภัยใช่มั๊ย? หนูน้อย…" เสียงของชายหนุ่มมากมายหลายคน ซึ่งพยายามพังบ้านไม้หลังใหญ่ ประตูไม้เก่าๆ หนาเป็นนิ้ว ถูกทุบเสียเนื้อไม้แตกกระจัดกระจายไปทั่วอาณาบริเวณทั่วบ้าน
เพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กน้อยจากภัยของคนเถื่อน พวกเขากำลังพยายามค้นหาร่างของเด็กน้อยหมวกขาว เพื่อพาเธอกลับมาบ้านกับคุณยายแคทเธอรีนอย่างปลอดภัย
ชาวบ้านในเมืองต่างได้ข่าวว่า หนูน้อยหมวกขาว ซึ่งเป็นหลานของคุณยายแคทเธอรีน เธอเป็นคุณยายประจำหมู่บ้านที่น่านับถือ เป็นหมอรักษาคนไข้ประจำหมู่บ้านที่เก่งมาก
พวกเขาเกรงว่า หนูน้อยหมวกขาวอาจจะได้รับอันตราย จากนายพราน พวกคนเถื่อนมักเลี้ยงหมาป่าเป็นสัตว์เลี้ยง นิสัยดุดัน ป่าเถื่อน โหดร้าย กักขระมาก พวกชาวบ้านต่างพาคิดกันไปต่างๆ นาๆ ว่า พวกคนเถื่อน อาจจะเข้ามาลักพาหนูน้อยหมวกขาว และอาจจะทำอันตรายเธอ
คุณยายแคทเธอรีน ขอร้องให้พวกชาวบ้านทุกๆ คนรวมตัวกัน เพื่อไปช่วยหลานสาวของคุณยายแคทเธอรีน แล้วพาเธอออกมาจากภัยอันตราย
เหตุที่พวกเขารู้ ก็เพราะ… คุณยายแคทเธอรีนเดินทางมาหาหนูน้อยหมวกขาวในเมือง เพื่อนำขนมปังอบข้าวโอ๊คมาให้เธอ แต่ว่าเด็กน้อยไม่ได้อยู่บ้าน สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณยายแคทเธอรีนพอจะเดาได้ว่า หลานสาวของเธอจะหายไปไหน
ภายในบ้านของหนูน้อยหมวกขาว อาศัยอยู่กับแม่ พบแต่เศษใบไม้และขนของสัตว์ป่า กลิ่นแรง มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ที่ตะกร้ากับเสื้อคลุมสีขาวของเด็กน้อย… หายไปด้วย…
******
พวกชาวบ้านหลายคนรีบรุดหน้า ค้นหาหนูน้อยหมวกขาวกันอย่างเร่งรีบ
"เอลีส… หลานอยู่ที่ไหน? เอ...ลีส…" คุณยายแคทเธอรีนตะโกนเรียกหลานสาวของตัวเองทั่วบ้าน แต่กลับไร้เสียงตอบกลับมา ทำให้พวกชาวบ้านหลายคน เริ่มหมดกำลังใจ ที่จะค้นหาต่อ เริ่มจะไม่มั่นใจแล้วว่า จะมาช่วยเธอทันรึเปล่า…
เสียงพังประตูชั้นบน กำลังดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านต้องรีบพากันไปขึ้นชั้นบน เพื่อช่วยกันพังประตูที่ยังปิดล็อคแน่น… ภายในไม่มีเสียงอะไรเลย ยิ่งทำให้หัวจิตหัวใจคุณยายร้อนรนเป็นห่วงหลานสาว ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง ไม่น่าเลย… หลานสาวของเธอช่างบริสุทธิ์ใสซื่อ แถมเชื่อคนง่ายอีกด้วย ไม่น่าถูกพวกคนป่าเถื่อนหลอกจนถึงขั้นเป็นอันตรายกับตัวเองขนาดนี้
"เอลีส… ตอบยายหน่อย หลานอยู่ข้างในรึเปล่า?" คุณยายแคทเธอรีนยังคงเรียกหลานสาวของตัวเองต่อไป แม้ว่าจะมีพวกชาวบ้านหลายคน ต่างพยายามงัดประตู และเปิดมันออกให้ได้
"ออกแรงผลักพร้อมๆ กันนะ พวกเรา.. หนึ่ง...สอง… สาม!!!" โทมัส เป็นเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างสนิทกับหลานสาวคุณยายแคทเธอรีน เขาร้อนรนมาก เห็นห่วงเด็กสาวแทบจะทนร้อนใจต่อไปไม่ไหว เขาคงต้องโทษตัวเองหนักหนาสาหัสแน่ๆ หากพบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เขาจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองแน่ๆ ที่ปล่อยให้เด็กน้อยมีอันตรายวันนี้
ประตูห้องนอนคุณยายแคทเธอรีนเปิดออก ปรากฏแสงสว่างภายในห้องสาดแสงออกมาจนถึงประตูหน้าที่พังทลาย ไร้ร่างของหลานสาว หลงเหลือแต่หมาป่าที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายๆ พร้อมๆ กับคราบเลือดในปากของมัน
"โอ้ว… ไม่นะ เอลีส !!! หลานยาย…!!!" คุณยายแคทเธอรีนแทบจะล้มทั้งยืน เมื่อพบภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้พวกชาวบ้านโกรธแค้นหมาป่าตัวนี้ มันอาจจะกินหนูน้อยหมวกขาวไปแล้ว ซึ่งเหลือเหลือแต่ ผ้าคลุมสีขาว กับเสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้นทั้งหมด
"ฆ่ามัน!!!" เสียงของโทมัสดังขึ้นเป็นคนแรก พร้อมๆ กับเหวี่ยงขวานในมือเพื่อปลิดชีพหมาป่าบนเตียงนี่เสีย ตามด้วยชาวบ้านอีกมากมายหลายคนที่รุมฆ่าหมาป่าอย่างรวดเร็ว มันอาจจะเป็นภาพที่โหดร้าย เมื่อผู้คนมากมายรุมฆ่าหมาป่าอย่างเลือดเย็น แต่ไม่เท่าหนูน้อยหมวกขาว อาจจะถูกหมาป่ากลืนกินทั้งตัว จนหมดลมหายใจ….
******
อีกมุมหนึ่งของสวนหลังบ้าน ภายในดงมะเขือเทศแดงสด ลูกสุกปลั่งสีแดงฉาน น้ำฉ่ำ เนื้อแดง ลูกเต่งตึงอวบใหญ่ เต็มสวน และต้นก็สูงใหญ่จนปกคลุมแทบจะไม่เห็นพื้นดิน ไม่มีใครเดินเข้ามาในสวนนี้ และ มีต้นไม้ขยับไหวๆ อยู่จุดเดียว จนไม่มีใครสังเกต เพราะมันติดกับเขตป่า นอกตัวบ้านของคุณยายแคทเธอรีน…
เสียงของกล้ามเนื้อขยับเนิบนาบ ยังคงขับเคลื่อนด้วยแรงดันอัดแน่นทุกๆ อณูกล้ามเนื้ออวบอัด เสียงคับช่องแคบร่องเล็ก แทงลึกเสียงกล้ามเนื้อเล็กคับต้องหนีบรัดดูดกลืน ความใหญ่ยาวท่อนแข็งเนื้อแน่นรัศมีกว่าห้านิ้ว กำลังสอดใส่แทงร่องแคบของเอลีสอย่างเมามัน ช่างเสียวสันหลังวาบ อีกทั้งยิ่งลึกยิ่งรัด ดูดส่วนปลายหัวบากแทบไม่คลาย
เด็กสาวเสียวน้ำลายไหลอาบคาง ดวงตาเหม่อเพ้อครวญคราง หมดแรงต่อต้านต่อความต้องการของคนเถื่อน อัดความเป็นชายแทงเข้าร่องเล็กแทบฉีกขาด แต่สักพักหลังจากนั้น กลับเข้ากันได้ ยิ่งอัดแน่นก็ยิ่งลึกคับจุกใน เพลิดเพลินจนเกินจะทนต่อต้าน กับอารมณ์อัดแน่นมากมายกระหน่ำแทงท่อนเนื้อแข็งอวบอัดทั้งท่อน มุดเข้าร่างเล็กไม่ขาดสาย
เด็กสาวเจ็บปวดมากมายจนลืมส่งเสียงร้อง ได้แต่ครวญครางเพราะสุขสันต์เสียวสะท้านไปทั่วร่างจนขนลุกโชติช่วงไปทั้งตัว หมดแรงจะขยับแขนขาจนปล่อยให้ทิ้งลงมาราวกับกล้ามเนื้อไร้กระดูก เรือนหน้าเพ้อเป็นสุขราวกับกลืนกินเห็ดใหญ่อวบอัด ยิ่งน้ำขุ่นแตกทะลักคับช่องปาก
จากนั้นเห็ดโคนดำก้อนใหญ่ ยาวพิเศษ จึงเสียบแทงเข้ากล้ามเนื้อระหว่างขาให้ถ่างกว้าง แม้เด็กสาวจะกรีดร้องเสียงดังแค่ไหนก็ตาม ต้องถูกเห็ดโคนอีกอันจากคนเถื่อน ซึ่งมาถึงสองคน สอดมันเข้าปากเพื่อปิดเสียงนั้นเสียง
เด็กน้อยกลายเป็นไส้แซนวิชอยู่ตรงกลาง กำลังถูกคนเถื่อนสวาปามกลืนกินเด็กน้อย ทั้งปากเล็กๆ และลิ้นนิ่มๆ กับร่องแคบเล็กๆ ยิ่งรัดยิ่งดูดลึก คนเถื่อนทั้งสอง ขยับสะโพกซอยถี่ กระแทกกล้ามเนื้อท่อนแข็งเสียบสุดโคนให้มิดลำ พร้อมๆ กับยิงน้ำขุ่นเหนียวข้นแตกทะลัก มากมายอัดแน่นภายในช่องท้อง และอีกคนเข้าปากของเอลีสพวยพุ่งจนทะลักออกโพรงจมูก ล้นริมฝีปากเล็กๆ ออกมา
เด็กสาวแทบสำลักหายใจไม่ออก หมดแรงต่อต้านต่อความต้องการของคนเถื่อนกลัดมันทั้งสอง และพวกมันกำลังจะอุ้มเธอตามกลับไปที่บ้านของพวกเขาเช่นกัน…
"นังหนูนี่มันน่ากินบ่อยๆ เอากลับไปกินที่หมู่บ้านเราดีกว่า พวกพ้องเราจะได้กินมันได้ครบทุกคน…" เสียงของคนเถื่อน รูปลักษณ์สูงใหญ่ มือใหญ่ ปากหนา ตัวขาวบอกด้วยความหิวกระหาย แม้เขาจะอิ่มไปสองคราแล้ว ก็อยากจะฟัดเด็กน้อยให้อิ่มอีกครั้งต่อไป
"เราเอานังเด็กนี่ ไปเสียบกันในบ้านให้หน่ำใจก่อนสิ แล้วค่อยแบ่งกับคนในหมู่บ้านทีหลังก็ได้นะ แกเห็นด้วยมั๊ยล่ะ" คนเถื่อนอีกคนออกความเห็น เขาตัวคล้ำสูงใหญ่ ร่างกะทัดรัด รูปร่างดี หน้าตาดี ทำให้หนูน้อยหมวกขาวหลงเชื่อเขาง่าย เพราะหน้าตาดีนี่แหละ
เขาเป็นคนเถื่อนที่มีความต้องการมากกว่าคนปกติ แม้จะนอนกับหญิงสาวบริการด้านนี้โดยเฉพาะ ก็ไม่เคยพอต่อความต้องการของเขา จนกระทั่งเขาได้มาพบกับเด็กน้อยในชุดคลุมสีขาว เขาคิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องพาเธอมาเสียบให้ฟินจนได้
เด็กน้อยสติเลอะเลือน ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย แถมอิ่มปากอิ่มท้อง จุกแน่นคับพุงไปหมด แม้ว่าคนเถื่อนทั้งสองจะอัดฉีดน้ำขุ่นขาวเหนียวข้นร้อน แตกในกายเด็กน้อยก็ตาม พวกเขายังคงกระชากลากเอื้อย ซอยเบาๆ ในร่องแคบของเอลีส และในปากของเธอยังไม่ได้คายมันออกมา พวกเขายังคงซอยเบาๆ จนกระทั่งเห็ดโคนอวบอัดยาวใหญ่ กลับมาแข็งตัวเต็มที่
เห็ดโคนทั้งสองอัน ยังคงเคลื่อนไหวในปากและร่องเล็กจนลื่นไหลต่อเนื่อง จนเธอไม่อาจส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือกับชาวบ้าน พวกเขาอยู่ภายในบ้านกันหมด ชาวบ้านหลายคนไม่ได้ยินเสียงเธอ ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ ว่าเธอถูกลักพาออกมา ซ่อนอยู่ในสวนมะเขือเทศที่สูงมาก จนรกไปหมด
"ช่วย… หนู… ด้วย…" น้ำตาใสๆ เริ่มไหลอาบแก้ม เด็กน้อย อยากร้องขอความช่วยเหลือ แต่เธอพูดไม่ได้ เพราะกำลังสำลักเห็ดโคนดำกล้ามใหญ่ในปาก กำลังซอยถี่ๆ อัดหัวบากแทบชนลิ้นไก่ กระเฉาะน้ำขุ่นในคอสำรอกออกมา เด็กน้อยกำลังหมดสติ..
แต่... เห็ดโคนสองแท่ง ยังคงเริงร่ากับปากของเด็กน้อย และร่องแคบใต้ระหว่างขาเล็กๆ กำลังถ่างกว้างมาก อยู่ในมือหนาใหญ่ของคนเถื่อนอย่างต่อเนื่อง...
******
เอลีสหมดสติมาตลอดทาง เธอไม่รู้ว่ามาจากทางไหน มาไกลแค่ไหนจากหมู่บ้านที่เป็นบ้านของเธอเด็กน้อยฟื้นมาก็พบว่า ตัวเองอยู่มัดเป็นหนอน ห้อยพาดไหล่ของคนเถื่อนคนหนึ่งเอาไว้ เด็กน้อยหวาดกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ หลังจากคนเถื่อนแปลกหน้าพวกนี้ ล่อลวงเธอไปข่มขืนแล้ว ยังจะพาไปไหนอีกก็ไม่รู้…"ปล่อยหนูไปเถอะนะจ๊ะ หนูกลัวแล้ว หนูสัญญาจะไม่บอกใคร ได้โปรดเถอะ… ปล่อยหนูไปเถอะ…" เอลีสค่อยๆ อ้าปากพูด เพราะรู้สึกขากรรไกรกรามค้างไปหน่อย มันตึงๆ หนืดๆ จนพูดได้ไม่ถนัดนัก"เราต้องสูญเสียหมาดีๆ ไปตัวนึง ดังนั้นเด็กน้อย… เราจะพาหนูไปบ้านใหม่นะ" เจเดนบอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาคงจะต้องไปหาลูกหมาป่าตัวใหม่มาเลี้ยงให้เชื่อง แทนที่เมอร์เรสที่ต้องถูกฆ่าตาย เพราะพวกเขาแค่อยากได้เด็กมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์แทน"ไม่เอานะ หนูจะกลับบ้าน!!!" เอลีสอยากจะดิ้นรนหาทางหนี แต่เธอไม่อาจทำได้เพราะว่า ตอนนี้ได้มาถึงสถานที่ใหม่ คือหมู่บ้านของพวกคนเถื่อน…******เจเดนกับเวอร์ดัล กำลังคุยกับผู้คนในหมู่บ้าน ถึงการนำเด็กมนุษย์ผู้หญิงเข้ามาในเผ่า ทำให้สีหน้าของหัวหน้าเผ่าที่น่าเกรงขาม ต้องหันมองเธอครั้งแล้วครั้งเล่า กับอีกสา
เอลีสต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเธอเดินทางมาถึงบ้านคุณยาย ประตูบ้านปิดสนิท แต่ไม่มีทีท่าว่า คุณยายจะเปิดประตูบ้านเลย เด็กน้อยหันไปถามพลางๆ"ทำไมคุณยายไม่เปิดบ้านคะ?""ยายว่าจะเข้าหลังบ้านน่ะ ยายลืมกุญแจ" เจเดนบอก มันเป็นทางเดียวที่พวกเขาจะเข้าบ้านยายได้ เพราะกลอนมันเสียหนูน้อยหมวกขาวจึงเดินไปกับคุณยายในชุดสีน้ำตาล เพื่อเข้าบ้านด้านหลัง แต่เมื่อเธอไม่ทันระวัง ก็ต้องตกใจเมื่อมีหมาป่าตัวนึง กระโดดออกมา กัดเข้าที่เสื้อคลุมของเธอ จนหลุดออกจากตัว"หมาป่า!!! คุณยายคะ ระวังหมาป่าด้วยนะคะ" เอลีสตกใจมาก ร้องตะโกนลั่นบ้าน หวังว่าคุณยายจะช่วยเหลือเธอทัน"หมาของยายเองจ้า… หนูน้อยหมวกขาว…" เจเดนเผยตัวออกมา ถอดชุดคลุมสีน้ำตาลออก ปรากฏร่างของคนเถื่อนสองคนออกมาตรงหน้าเเธอ"พวกท่านสองคน… ที่เราเคยเจอกันระหว่างหลายวันก่อน…" เอลีสเริ่มมือสั่น หวั่นกลัว ตอนนี้มีแค่เธอเพียงลำพังกับชายแปลกหน้าสองคนหมาป่าซึ่งกระโจนออกมากัดเสื้อคลุมสีขาวเธอหลุดไป มันคาบราวกับเป็นของโปรดอันโอชะ พลางวิ่งเข้าบ้านทางประตูหลัง ลับหายภายในบ้านคนเถื่อนสองคนเริ่มเดินเข้าไปหาหนูน้อยตัวเล็ก เพื่อหวังจะได้กินอะไรบ้าง ให้ตกถึงท้อง หลัง
หลังจากเวอร์ดัลกับเจเดน ได้อาหารจากคุณยาย ด้วยน้ำเห็ดโคนแลกอาหารมา พวกเขาได้อาหารจำนวนมาก เพื่อนำกลับไปยังหมู่บ้านคนเถื่อน ในเวลานั้นเองที่คนเถื่อนสองคนกับหมาป่าอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เข้ามาในเขตมนุษย์เป็นเวลาอาทิตย์หนึ่งเนื่องจากหัวหน้าเผ่าเห็นว่า เวอร์ดัลกับเจเดนได้อาหารของพวกมนุษย์มา เขาจึงไม่อนุญาตให้เวอร์ดัลกับเจเดนออกไปหาอาหารอีกนานพอสมควร ทำให้พวกเขาทั้งสองคน ห่างหายจากคุณยาย และเริ่มมีความคิดถึงเด็กน้อยในชุดคลุมสีขาวแทนสายตาของเวอร์ดัลมองดูสาวคนเถื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน พวกเธอเป็นเครื่องระบายของผู้คนในบ้านเดียวกันอย่างเริงร่า อีกทั้งเจเดนยังได้ยินเสียงครวญครางของ หญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน กำลังสุขสมกับชายเถื่อนอีกหลายคน หลายคู่แต่สำหรับพวกเขาสองคน ไม่มีอะไรจะไปแลกกับพวกนางเหล่านั้น จึงทำได้เพียงแค่นั่งกลัดมันเกิดอารมณ์ ใช้มือหนากอบกำรูดคลึงเห็ดโคนใหญ่ของตนประคับประคองอารมณ์ไป"เราจะแอบออกไปบ้านหญิงคนนั้น เพื่อไปแลกอาหารอีกดีมั๊ย?ข้าหิวมาก…" เวอร์ดัลแอบปรึกษากับเจเดน เพราะตอนนี้เขาหิวอาหารจนกลัดมัน แทบหน้าดำหน้าแดงมาก มือหนารูดชักว่าวเห็ดโคนตนเองจนมันยืดยาว ใหญ่ยกลำ แข็งจนเส้นเลือ
เวอร์ดัลรีบสาวเท้าไปกับเจเดน พร้อมด้วยเมอร์เรส หมาป่าที่เลี้ยงไว้ มุ่งหน้าไปยังบ้านของคุณยายอย่างไม่รีรอคนเถื่อนสองคน ออกจากหมู่บ้านเหมือนกับทุกๆ วัน เพื่อไปหาอาหาร พวกเขาสองคนตั้งใจมาหาอาหารที่บ้านคุณยายแคทเธอรีนเช่นเดิม เพราะพืชผักผลไม้ที่นางปลูกเอาไว้ เป็นผลผลิตที่ดีมาก"ครั้งนี้เราจะเอาผู้หญิงกลับไปให้หัวหน้าเผ่าดูมั๊ย แล้วบอกว่า พวกเราเอาไปเป็นทาสของเราเองล่ะ?" เวอร์ดัลคุยปรึกษากับเจเดน ระหว่างเดินทางไปด้วยกัน และก็ใกล้จะถึงบ้านคุณยายแล้ว"หัวหน้าเผ่าต้องกินนางแน่ๆ ท่าทางจะหิวมากกว่าอยากได้ทาสนะ" เจเดนเดาว่า เขาน่าจะเก็บเธอไว้ที่บ้านเดิมแหละ แล้วพวกเขามาเอาอาหาร และเอาเธอมันๆ แบบนี้น่าจะเก็บไว้กินได้นานกว่า เอาไปที่หมู่บ้าน"แล้วเด็กที่พวกเราเจอล่ะ?" เวอร์ดัลถามถึงหนูน้อยหมวกขาว ซึ่งทำให้พวกเขาติดตามไปถึงบ้านผู้หญิง มีสวนผัก เด็กคนนั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับผู้หญิงที่พวกเขาลากมาข่มขืนในป่าก็ได้"ถ้าเราเอาเด็กกลับหมู่บ้านไป หัวหน้าเผ่าจะต้องจัดนางแน่นอน และอาจจะยอมให้อยู่ในหมู่บ้านเราก็ได้นะ ยังไงเสีย หัวหน้าเผ่าก็ต้องเอากับเด็กผู้หญิงทุกๆ คนอยู่แล้ว เพื่อให้อยู่ในหมู่บ้านได้
คุณยายแคทเธอรีนเริ่มตั้งตัวใหม่ เธอคิดว่าที่มีคนป่าเข้ามาในเขตบ้านเธอได้ คงเป็นเพราะพืชผักผลไม้ในบ้านแน่ๆ ที่มันกำลังสุกงม และกลิ่นของมันคงไปเตะจมูกคนเถื่อนเข้าพวกมันจึงเข้ามาลักเล็กขโมยอาหารในบ้านเธอยังไม่พอ ยังจะขโมยความสงบสุขของเธออีกต่างหาก แถมยังจะ… แคทเธอรีนกัดฟันขบเคี้ยวแน่น ว่าโดนพวกมันรุมข่มขืนทั้งปากและสังวาสหนักแค่ไหนในใจแอบยอมรับความสุขที่พวกมันประเคนมาให้ ทั้งอัดแน่นเพลิดเพลิน เสียววูบวาบมาก อย่างที่ไม่ได้เป็นแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สามีของคุณยายเสียชีวิตไปนาน เธอก็ไม่มีชายอื่นมาเป็นคนคู่ใจเคียงข้างอีกเลย…ครานี้… คุณยายคิดว่าจะต้องเตรียมรับมือพวกมันอีก เพราะหากพวกมันมาถึงบ้านคุณยายได้ครั้งแรก ครั้งต่อไปพวกมันอาจจะมาอีกแน่ๆ และเธอไม่แน่ใจว่า พวกมันจะมาแค่สองคน หรือมากกว่านั้นคุณยายยังไม่อยากให้หลานสาว ซึ่งกำลังเดินทางมาหา ได้รับอันตรายไปด้วย แต่คุณยายก็ไม่กล้าบอกอยู่ดี เกรงว่าจะกลัวจนทำอะไรไม่ถูก คุณยายแคทเธอรีนคิดว่า เธอควรจะจัดการกับพวกมันเองจะดีกว่า… ลึกๆ ในใจคุณยายก็อยากจะโดนพวกมันจัดการแบบเมื่อวาน อย่างเร้าใจอีกเหมือนกัน******วันนี้คุณยายจัดการเก็บผักผลไม้ภายในบ้
ร่างบางยังคงสั่นเสียว ไปกับการเคลื่อนไหวของโทมัสอยู่เนืองๆ ความอึดอัดคับในช่องท้อง ยังคงกระตุ้นอัดแน่นจุกใน ทุกๆ แรงสวมกอดจากคนที่สนิทกัน เวลานี้เขาสู่ขอเธอกับพ่อแม่ของเอลีสไปแล้ว ทำให้เขาสามารถครอบครองเธอได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะถึงวัยดรุณีแรกแย้มจะแตกสาวมือบางกอบกำผ้าห่มแน่นพลางบิดกายเล็กบาง สั่นไหวไปมาในความฝัน มันช่างแสนหอมหวานล้ำ เกินกว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมา แต่แล้ว… ความฝันของเธอระหว่างสวมกอดกับโทมัส กำลังจะจางลง เมื่อกลิ่นหอมของอาหารเช้า กำลังปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์หลับใหลนิทราอันแสนหวาน…"เอลีส… ตื่นมาทานข้าวเช้าเถอะจ้า…!!!" ลีแอนตะโกนเรียกลูกสาวให้ลงมาเหมือนกับทุกๆ วัน เพียงแต่วันนี้เอลีสลงมาช้ากว่าปกติ เพราะเธอรู้เรื่องเมื่อวานอยู่แล้ว เธอกับพาร์เซลจงใจให้โทมัสอยู่กับเอลีส เพื่อสานสัมพันธ์ครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น"ค่าาาาา" เอลีสค่อยๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง เธอยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดระบมหน้าท้อง และเรือนขาทั้งสองข้าง ปวดเมื่อยไปหมด การมีความสัมพันธ์ความรักครั้งแรกมันเป็นแบบนี้เองรึ******เอลีสลงจากบนห้องนอนตามปกติ เพื่อมาพบลีแอนยามเช้า พาร์เซลออกไปตัดฟืนกับพรรคพวกเช่นเดิม หา
Comments